ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: พูดจา, -พูดจา- |
grean | [เกรียน] (n, adj, adv) 1. หมายถึงนิสัย หรือพฤติกรรมของบุคคลที่ไม่เคารพผู้อื่น หรือ ทำตัวไม่ดี เช่น พูดจาไม่ดี(ปากเสีย) 2. ผมสั้นติดหนังหัว เช่น ผมเกรียน หรือหัวเกรียน(คำไม่สุภาพ) |
|
| พูดจา | (v) speak, See also: confer, Syn. เจรจา, พูด, พูดคุย, Example: ฉันว่าเรามาพูดจากันให้รู้เรื่องไปเลย ดีกว่าปล่อยคาไว้แบบนี้, Thai Definition: พูดคุยหรือปรึกษาหารือกัน |
| พูดจา | ก. พูด. | กระอักกระไอ | ว. อิดเอื้อน, ไม่กล้าพูด, ทำเสียงไออุบอับอยู่ในคอ, เช่น พูดจากุกกักกระอักกระไอ (ไกรทอง). | กร่าง ๑ | ว. อาการที่ทำท่าทางหรือพูดจาวางโต เช่น เขาชอบทำกร่างอยู่เรื่อย. | กลอกกลับ | ก. เปลี่ยนไปมาเชื่อถือไม่ได้ เช่น พูดจากลอกกลับ, กลับกลอก ก็ว่า. | กลับกลอก | ก. เปลี่ยนไปมาเชื่อถือไม่ได้ เช่น พูดจากลับกลอก, กลอกกลับ ก็ว่า. | กลับกลอก | ว. ที่พูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย เช่น คนกลับกลอก. | กะหลีกะหลอ | ก. แสดงกิริยาท่าทางหรือพูดจาประจบประแจงเกินงาม. | เกลี่ยไกล่ | ก. พูดจาให้ตกลงกัน, พูดจาให้ปรองดองกัน | ไกล่เกลี่ย | ก. พูดจาให้ตกลงกัน, พูดจาให้ปรองดองกัน | คมคาย | ว. ฉลาด, ไหวพริบดี, ทันคน, เช่น วาจาคมคาย พูดจาคมคาย สำนวนภาษาคมคาย, มีแววฉลาด เช่น หน้าตาคมคาย. | คุย ๑ | ก. พูดจาสนทนากัน | คุยเขื่อง, คุยโต | ก. พูดจาแสดงความใหญ่โต. | เงียบ ๆ | นิ่งไม่พูดจา, ไม่ทำเสียงเอะอะโวยวายหรืออื้ออึง, เช่น เขาเป็นคนเงียบ ๆ. | เจรจา | (เจนระจา, เจระจา) ก. พูด, พูดจากัน, พูดจากันเป็นทางการ. | โฉ่งฉ่าง | ว. เสียงอย่างเสียงโลหะกระทบกัน, มีท่าทางเก้งก้างไม่รัดกุม เช่น กิริยาโฉ่งฉ่าง ชกโฉ่งฉ่าง, ส่งเสียงดังอย่างไม่เกรงใจใคร เช่น เขาพูดจาโฉ่งฉ่าง. | โฉงเฉง | ว. เอะอะเอ็ดอึงเป็นทำนองเกะกะเกเร เช่น พูดจาโฉงเฉง. | ชักแม่น้ำทั้งห้า | ก. พูดจาหว่านล้อมยกเหตุผลต่าง ๆ เพื่อโน้มน้าวให้ได้สิ่งที่ประสงค์ เช่น เถ้าก็พูดจาหว่านล้อมด้วยคำยอ ชักเอาแม่นํ้าทั้งห้าเข้ามาล่อ (ม. ร่ายยาว กุมาร). | เชือนแช | ว. ไถล, เถลไถลไม่ตรงไปตรงมา, เช่น อย่ามัวแต่เชือนแชอยู่เดี๋ยวจะไม่ทันรถไฟ ความจริงมีอย่างไรก็พูดมา อย่าพูดจาเชือนแช, แชเชือน ก็ว่า, (โบ) อาการที่เดินไม่ตรงทางอย่างคนเมา. | ซับซี่ | ก. ซุบซิบพูดจากัน, กระซิบกัน, เช่น ความขำเขาซับซี่ในวัดที่ดรธานปล่ยวน้นน (ม. คำหลวง ชูชก). | ซ้ำซาก | ว. ทำแล้วทำอีกหรือเป็นแล้วเป็นอีกอย่างเดียวกันรํ่าไป, จำเจ, เช่น เขาชอบพูดจาซ้ำซาก บางจังหวัดทางภาคอีสานเกิดภัยแล้งซ้ำซาก. | ซึม ๒ | ว. เหงาหงอยไม่ค่อยพูดจา, ไม่เบิกบาน, เช่น นั่งซึม. | ดูดู๋, ดูหรู | อ. เสียงที่เปล่งออกมาแสดงความโกรธ เช่น อีรจนาดูดู๋มึงช่างมักง่าย ทรลักษณ์อัปรีย์ไม่มีอาย หน่อกษัตริย์ทั้งหลายไม่เอื้อเฟื้อ (สังข์ทอง), ดูหรูอ้ายเจ้าเล่ห์ทำเสแสร้งพูดจานี่แอบแฝงเป็นแยบคาย (ม. ร่ายยาว ชูชก). | ติดต่อ | ก. ไปมาหาสู่กัน, พูดจาเพื่อทำความตกลง, สื่อสาร. | ติดสำนวน | ก. พูดใช้สำนวนมาก ๆ, พูดจาเล่นสำนวน. | นิ่ง, นิ่ง ๆ | ก. เฉย, ไม่กระดุกกระดิก, ไม่เคลื่อนไหว, เช่น นอนนิ่ง นํ้านิ่ง นั่งนิ่ง ๆ, เงียบ, ไม่ส่งเสียง, เช่น นิ่งเสีย อย่าร้อง, ไม่พูดจา เช่น ถามแล้วนิ่ง, ไม่แพร่งพราย เช่น รู้แล้วนิ่งเสีย. | นุ่มนวล | ว. อ่อนหวาน, อ่อนโยน, ละมุนละไม, เพราะพริ้ง, เช่น พูดจานุ่มนวล กิริยาท่าทางนุ่มนวล. | เนิบนาบ | ว. ช้า ๆ เช่น พูดจาเนิบนาบ จังหวะเนิบนาบ. | บ้าลำโพง | ว. บ้าเพราะกินเมล็ดลำโพง มีอาการซึมหรือพูดพล่าม, โดยปริยายหมายความว่า พูดโผงผาง ตึงตัง หรือแสดงกิริยาโมโหโกรธา เช่น พูดจาบ้าลำโพงโป้งไป (คาวี), ทำโมโหโกรธาบ้าลำโพง เที่ยวโป้งโหยงหยาบช้าสาธารณ์ (พิเภกสอนบุตร). | ประจิ้มประเจ๋อ | ว. พูดจาและแสดงกิริยาเสนอหน้าอย่างเด็ก. | ปะเหลาะ, ปะเหลาะปะแหละ | (-แหฺละ) ก. พูดจาหว่านล้อมเอาอกเอาใจ เช่น ผู้ใหญ่ปะเหลาะเด็ก, พูดหรือทำสนิทชิดชอบให้เขาพึงใจเพื่อหวังประโยชน์ตน. | ปั้นปึ่ง | ว. ทำท่าเย่อหยิ่งไม่พูดจากับใคร. | ปากคม | ว. พูดจาเหน็บแนมด้วยคารมคมคาย. | ปากคอเราะราย | ว. ชอบพูดจาชวนหาเรื่องไม่เลือกหน้า, ปากเปราะเราะราย ก็ว่า. | ปากจัด | ว. ชอบพูดจาหรือโต้เถียงด้วยถ้อยคำแข็งกร้าวไม่สุภาพ, ด่าเก่ง, ชอบพูดจาหยาบคาย. | ปากตะไกร | ว. ปากจัด, ชอบพูดจาเหน็บแนม. | ปากเปราะ | ก. พูดจาทักทายเก่ง, พูดจาว่าคนง่าย ๆ | ปากเปราะเราะราย | ว. ชอบพูดจาชวนหาเรื่องไม่เลือกหน้า, ปากคอเราะราย ก็ว่า. | ปากร้ายใจดี | ก. พูดจาดุด่าแต่น้ำใจดี. | ปากหมา | ว. ชอบพูดจาว่าร้ายคนอื่น. | ปากหวาน | ว. พูดจาไพเราะ (มักใช้ในทางที่ล่อใจหรือไม่จริงใจ) | ปากหวานก้นเปรี้ยว | ก. พูดจาอ่อนหวานแต่ไม่จริงใจ. | ปึ่ง ๑ | ว. ทำท่าไว้ยศไม่อยากพูดจาด้วย | ผมสองสี | น. คนมีอายุแล้ว (มักใช้พูดในเชิงกระทบกระเทียบ) เช่น ผมสองสีแล้วยังทำเป็นเด็ก ผมสองสีแล้วยังพูดจาเชื่อถือไม่ได้, สองผม ก็ว่า. | พกลม | ว. มีแต่ลม คือ เหลวไหล, พูดจาไม่จริง, ใช้เข้าคู่กับคำ โกหก เป็น โกหกพกลม. | พลอดรัก | ก. พูดจาอ่อนหวานต่อกันในเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ. | พูด | ก. เปล่งเสียงออกเป็นถ้อยคำ, พูดจา ก็ว่า. | มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก | ก. พูดจาตลบตะแลงพลิกแพลงไปมาจนจับคำพูดไม่ทัน. | มิ ๒ | ก. เฉย, ไม่ค่อยพูดจา, เช่น รามสูรได้ยินสิ้นสติลงนั่งมิจะทำกระไรได้ (บทระบำตลก พระราชนิพนธ์ ร. ๕). | มึงวาพาโวย | ก. พูดจาเอะอะโวยวาย. | ยอกย้อน | ว. ย้อนให้เจ็บอกเจ็บใจ เช่น พูดจายอกย้อน, ย้อนยอก ก็ว่า. |
| Diplomatist หรือ Diplomat | ใช้กับราชการทุกคนที่ประจำทำงานในด้านทางการทูต ไม่ว่าจะประจำอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศ หรือในราชการต่างประเทศ คือ ในสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือในสำนักงานทางทูตอื่นๆในทรรศนะของ เซอร์แฮโรลด์ นิโคลสัน นักการทูตยอดเยี่ยมคนหนึ่งของอังกฤษ ได้ระบุไว้ว่า นักการทูตหรือ Diplomat จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ ยึดถือความเป็นจริง มีความแม่นยำ สงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น อารมณ์ดี มีความสงบเสงี่ยมและมีความจงรักภักดี ทั้งยังจะต้องเป็นผู้ที่มีสติปัญญา มีความรู้ มองเห็นการณ์ไกล มีความสุขุมรอบคอบ ใจดีกับแขกและผู้แปลกหน้า มีเสน่ห์ มีความอุตสาหะวิริยะ มีความกล้า และมีปฏิภาณในทำนองเดียวกัน Francoise de Callieres (1645-1717) นักการทูตชั้นเยี่ยมของฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นเอกอัครราชทูตประจำโปแลนด์ ซาวอย ฮอลแลนด์ บาวาเรีย และลอเรน ได้เขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่งชื่อว่า De la miniere avec les souverains เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการเจรจาทางการทูต ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังเป็นที่รับรองกันทั่วไปว่าเป็นหนังสือที่ดีเยี่ยมเล่ม หนึ่ง หรือเป็นจินตกวีนิพนธ์เรื่องการดำเนินการทูตกับเจ้าผู้ครองนคร (Princes) สมัยนั้นCallieres ได้วางมาตรฐานของนักการทูตไว้สูงมากเพราะเขาเห็นว่า ไม่มีงานราชการใด ๆ ที่จะยากยิ่งไปกว่าการเจรจา ในการเจรจานั้น ผู้เจรจาจะต้องสามารถมองเห็นเหตุการณ์ทะลุปรุโปร่ง หรือมีสติปัญญาเฉียบแหลม มีความคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง มีความละมุนละไม มีความรอบรู้และความเข้าใจอย่างกว้างขวาง ตลอดจนข้อสำคัญที่สุด ต้องเป็นผู้มีความสุขุมคัมภีรภาพ สามารถมองเห็นการณ์ไกลชนิดเจาะลึกทีเดียว นอกจากนี้ จะต้องเป็นผู้มีอารมณ์ขันอย่างสม่ำเสมอ ไม่โกรธง่าย มีจิตใจสงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น พร้อมเสมอที่จะรับฟังทุกคนที่เขาพบด้วยความตั้งอกตั้งใจ พูดจาอย่างเปิดเผย และมีอารมณ์ร่าเริงไม่หน้าเง้าหน้างอ มีอัธยาศัยไมตรี รวมทั้งมีกิริยาท่าทางเป็นที่ต้องตาต้องใจกับทุกคน ในฐานะนักเจรจา (Negotiator) นักการทูตจะต้องมีคุณลักษณะและคุณสมบัติตามที่กล่าวมานี้เป็นอย่างน้อย เนื่องจากมีการเจรจาเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของนักการทูตนั่นเอง [การทูต] | Normal Diplomacy | การติดต่อทางการทูตโดยวิถีทางทูตตามปกติ มักจะกระทำกันดังนี้ เมื่อรัฐบาลต้องการจะหยิบยกปัญหาขึ้นกับอีกรัฐบาลหนึ่ง ตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะส่งคำสั่งไปยังเอกอัครราชทูตของ ประเทศตนที่ประจำอยู่ในประเทศผู้รับส่งให้ยกเรื่องนั้นขึ้นเจรจากับรัฐบาล ของประเทศผู้รับ โดยปกติเอกอัครราชทูตจะมีหนังสือทางการทูต (Diplomatic Note) เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไปยังรัฐมนตรีวาการกระทรวงการต่างประเทศ ของประเทศผู้รับนั้นก่อน หรือไม่ก็ไปพบกับรัฐมนตรีด้วยตนเอง ณ กระทรวงการต่างประเทศ การเจรจากันอาจทำให้จำเป็นต้องมีการบันทึกของทูตแลกเปลี่ยนกันขึ้น ในรูปบันทึกช่วยจำ (Aide-Memoire ) ในบางกรณี เอกอัครราชทูตจำเป็นต้องไปพูดจา ณ กระทรวงการต่างประเทศ อีกหลายครั้งกว่าจะเสร็จเรื่อง ในระหว่างนั้น เอกอัครราชทูตมีหน้าที่จะต้องรายงานผลการเจรจาแต่ะครั้งไปยังกระทรวงการต่าง ประเทศของตน และบางคราวอาจจะต้องขอคำสั่งเพิ่มเติมอีกเมื่อเกิดกรณีใหม่โดยมิได้คาดหมาย มาก่อนเป็นต้น ในขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศของประเทศผู้รับก็จะส่งคำสั่งไปยังเอก อัครราชทูตของตน แนะว่าควรดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับปัญหาที่กำลังเจรจากันกับรัฐบาลของ ประเทศที่ตนประจำอยู่ผลการเจรจาอาจเป็นที่ตกลงกันได้ระหว่างรัฐบาลทั้งสอง ฝ่าย หรืออาจจะจบลงด้วยภาวะชะงักงัน ( Stalemate ) หรือรัฐบาลทั้งสองอาจจะตกลงกันว่าไม่สามารถตกลงกันได้ และปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังไปก่อน จนกว่าจะมีการรื้อฟื้นเจรจากันใหม่ บางคราวปัญหาที่ยังตกลงกันไม่ได้นั้น อาจกลายเป็นปัญหาขัดแย้งกันอย่างรุนแรงต่อไปก็ได้ [การทูต] | Anarthria | พูดไม่ออก, พูดจาไม่ชัดและช้า [การแพทย์] | Confabulation | การสร้างเรื่องขึ้นมาใหม่, พูดจาเชื่อถือไม่ได้, พูดตอแหล, อาการคล้ายการตอแหล, การเสื่อมทางจิตและความจำ, พูดจากลบเกลื่อนแต่งเรื่อง [การแพทย์] |
| "For speaking, wind number two under right arm." | "พูดจา ให้หมุนขวา" Return to Oz (1985) | That may be the first time in my life a man has dared insult me. | นั่นเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่มีคนกล้าพูดจาหยาบคายแบบนั้นกับข้า The Princess Bride (1987) | Kaneda, you've always been a pain in the ass. | คาเนดะ แกชอบพูดจาถากถางแบบนี้เสมอเลย Akira (1988) | Don't rant. Sit down. | อย่าพูดจาโผงผาง นั่งลง The Russia House (1990) | You know, if you're gonna jerk off, why don't you just do it at home with a moist towel? | นี่ ถ้าพูดจาเพ้อเจ้อกลับไปบ้านซะเถอะไป๊ Good Will Hunting (1997) | - I speak from my heart. | -ผมพูดจากใจจริง ๆนะ The Red Violin (1998) | Every word out of your mouth is a lie. | ทุกคำพูดจากปากเธอคือคำปด Brokedown Palace (1999) | Oh, I don't know, apart from the fact that he's sweet and modern and sensitive. | ไม่รู้นะ นอกจากคลิฟจะ... พูดจาอ่อนหวาน ทันสมัย อ่อนไหวแล้ว Woman on Top (2000) | - You have pockets of intelligence, so why do you walk and talk and act the way you do? | - สติปัญญาดีชัด ๆ ทำไมต้องเดินเหินพูดจา ทำท่าแบบที่เป็นอยู่นี่ด้วย Bringing Down the House (2003) | - Cut that sensitive shit, nancy boy. - What? | พูดจาหน่อมแน้มแบบนี้ได้ไง Bringing Down the House (2003) | To start talking with them now build that relationship when they're younger... | การเริ่มพูดจากับเด็ก ๆ ตั้งแต่ตอนนี้ สร้างความสัมพันธ์ตั้งแต่เขายังเล็ก ๆ... The Corporation (2003) | Understand? Yes | อีกอย่างห้ามเอ่ยปากพูดจากันใคร เข้าใจมั้ยลูก The Great Jang-Geum (2003) | Always with the big words. | พูดจาหนักแน่นเสมอเลยนะ The Girl Next Door (2004) | But one word from you will silence me on this subject forever. | แต่แค่คำพูดจากคุณเพียงคำเดียว จะทำให้ผมไม่พูดถึงเรื่องนี้ไปตลอดกาล Episode #1.6 (1995) | Put 'em up! | พูดจาแบบนี้! James and the Giant Peach (1996) | Why do you say mean things like that and why is your foot on my pillow? | ทำไมแกพูดจาอย่างงั้นว้า และทำไมต้องวางเท้าบนหมอนชั้นฮะ 50 First Dates (2004) | - I apologize for nasty talk. | - ชั้นขอโทษที่พูดจาสกปรก 50 First Dates (2004) | Now why is he so confusing... | ทำไมตานั่นพูดจาน่างงงวยอย่างนี้นะ... Full House (2004) | Uh, she had alcohol on her breath, she was rude to somebody... | เอ่อ ลมหายใจของเธอมีกลิ่นแอลกอฮอล์ เธอพูดจาหยาบคายกับลูกค้าบางคน... Mr. Monk and the Employee of the Month (2004) | Umm, I don't think she came out. | ไม่ควรพูดจาต่ำช้าแบบนั้น A Love Triangle of a Roller-coaster Ride Hair-trigger Crisis (2005) | Anyway, why do you know that I was with Makino? Tsukasa.. | วันนี้ นากาซึกะคุงพูดจาไม่ดีตลอดทั้งวันเลย A Love Triangle of a Roller-coaster Ride Hair-trigger Crisis (2005) | I'm afraid it's the other way around, focus on your studies Chiyo, music, the art of conversation, | ฉันเกรงว่ายังไม่ถึงเวลาต้องบอก สนใจอยู่กับ การเรียนก่อน ชิโยะ ดนตรี ศิลปะของการพูดจา Memoirs of a Geisha (2005) | 'Course I'm just speaking from memory. | แม่ก็พูดจากความทรงจำน่ะนะ Imagine Me & You (2005) | Hm, he doesn't seem to be the negotiating type. | ฮืม ท่าทางคงพูดจากันดี ๆ ไม่ได้แล้ว Seinto Seiya: Meiou Hades Meikai Hen (2005) | Stop talking nonsense. | หยุดพูดจาเหลวไหลซะทีน่า Episode #1.1 (2006) | Is there some special school where you people... learn to talk that bollocks? | นี่พวกคุณ... ไปหัดพูดจาไร้สาระมาจากไหนกัน? The Last King of Scotland (2006) | I'm sorry for my profanity. I wasn't expecting you. | ขอโทษที่พูดจาไม่สุภาพ ผมไม่คิดว่าจะเจอคุณ The Holiday (2006) | Now you're talking in circles. | คุณนี่พูดจาวกวนนะ The Host (2006) | They used to be shitty, like this nail. | พูดจาไร้สาระ เหมือนตะปูว่ะ Art of Fighting (2006) | What are you saying to a husband you only see every few months? | ทำไมถึงพูดจาแบบนี้กับสามีที่เจอกันนานๆครั้งล่ะ? Bomui walcheu (2006) | No matter how bad he is, he's still your father. How can you talk like that? | ไม่ว่าเขาจะเลวยังไงก็ตาม เขาก็ยังเป็นพ่อเจ้า ทำไมพูดจาแบบนั้น Bomui walcheu (2006) | Don't say strange things during breakfast. | อย่ามาพูดจาน่าเกลียดตอนเขากินอาหารเช้ากัน Bomui walcheu (2006) | You speak your mind. | นายพูดจากใจจริงเสมอ Chapter Seven 'Nothing to Hide' (2006) | I fear he may speak sweetly to other women. | ฉันกลัวว่าเค้าอาจจะพูดจาหวานหูกับผู้หญิงอื่น Art of Seduction (2005) | you're abrasive, sarcastic. you never shut up. | เธอหยาบ ชอบพูดจาประชดประชัน ไม่เคยหุบปากเลย Aqua (2005) | This man speaking nonsense! | ผู้ชายคนนี้พูดจาไร้สาระ! Sweet Spy (2005) | Didn't you said that you'll be speaking in the respective form? | ผมไม่ได้บอกคุณเหรอ? ว่าคุณควรจะพูดจายังไง? Sweet Spy (2005) | Hey, you rascal. Don't say such things. | นี่ เจ้าบ้า อย่าพูดจาเหลวไหล Episode #1.42 (2006) | Don't say such defeatist things. | อย่าพูดจาขี้แพ้แบบนี้นะ Episode #1.42 (2006) | Where does this prick Adams get off taking such cheap shots at Lundy? | นายอดัมส์อะไรนั่นมาจากไหน พูดจาข่มลันดี้อย่างนั้น Left Turn Ahead (2007) | I am talking to no one with language like that! | ฉันไม่คุยกับใคร ที่พูดจาแบบนั้น Waiting to Exhale (2007) | That kind of talk is just gonna bring you closer to your victims. | พูดจาแบบนั้นมีแต่จะพาตัวเองลงหลุมเร็วขึ้น Waiting to Exhale (2007) | Advice from a guy who couldn't conquer it. | คำพูดจากคนที่คุมมันไม่ได้ Crows Zero (2007) | I'm speaking from experience here. | ฉันพูดจากประสบการณ์จริง Crows Zero (2007) | Is this a dialogue from a film? | นี่เป็นบทพูดจากหนังหรอ? Om Shanti Om (2007) | He didn't say please. | เขาพูดจาไม่เพราะ Chuck Versus the Wookiee (2007) | Well, as long as you've done serious research on the subject. | เลิกพูดจามากความได้แล้ว Chuck Versus the Sizzling Shrimp (2007) | -I LOVE IT WHEN YOU TALK DIRTY. | -ฉันชอบมากเลยเวลาเธอพูดจาหยาบๆเนี่ย Pilot (2007) | What're you talking about! | เฮ้ย พูดจาดีๆ! Secret (2007) | They come in and out screaming in Chinese all the time, in Japanese, I don't know. | พวกเขาเข้าๆออกๆ พูดจาล้งเล้งเสียงดัง [ Rec ] (2007) |
| พูดจา | [phūtjā] (v) EN: converse ; speak ; confer FR: converser | พูดจาทิ่มแทง | [phūtjā thimthaēng] (v, exp) EN: take a verbal poke at s.o. FR: envoyer des piques à qqn. ; lancer des piques à qqn. | พูดจาหยาบ | [phūtjā yāp] (v, exp) EN: use vulgar language ; use coarse language | พูดจาหยาบโลน | [phūtjā yāp lōn] (v, exp) EN: use coarse language ; use vulgar language ; have a rough tongue FR: parler vulgairement ; s'exprimer platement ; parler de façon grossière |
| go for the jugular | (phrase) กะจะเอาให้ถึงตาย สู้ยิบตา, วิจารณ์หรือพูดจาทิ่มแทงใจ เช่น Hannity did not go for the jugular with this opening, but rather he explained the issue fairly objectively and pressed for an opinion. |
| dalliance | (n) การเกี้ยวพาราสี, See also: การพูดจาเกี้ยว, การพูดแทะโลม | drool | (vi) พูดโง่ๆ, See also: พูดจาเหลวไหล, พูดสิ่งไร้สาระ, Syn. babble, chatter | honey-tongued | (adj) ที่ปากหวาน, See also: ที่พูดจาดี, ที่พูดเอาใจเก่ง, Syn. flattering | walls have eares | (idm) หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง, See also: ความลับไม่มีในโลก, พูดจาต้องระมัดระวัง | impression | (n) การล้อเลียนท่าทางหรือการพูดจาของบุคคลที่มีชื่อเสียง | insult | (vt) พูดแดกดัน, See also: พูดจาบจ้วง, พูดหยาบคาย, กระทำหยาบคาย, Syn. abase, affront, offend, Ant. please | insult | (vi) พูดแดกดัน, See also: พูดจาบจ้วง, พูดหยาบคาย, กระทำหยาบคาย, Syn. abase, affront, offend, Ant. please | mellifluous | (adj) ปากหวาน, See also: พูดจาไพเราะ, พูดจาน่าฟัง, Syn. sweet, dulcet, velvet | mellifluously | (adv) อย่างปากหวาน, See also: อย่างพูดจาไพเราะ | mellifluousness | (n) การพูดจาไพเราะ, Syn. eloquence, euphony | outspoken | (adj) พูดจาเปิดเผย, See also: พูดจาขวานผ่าซาก, โผงผาง, Syn. direct, frank, candid, Ant. insincere, cautious | palaver | (vi) พูดจาไร้สาระ, Syn. flatter | pass | (vt) พูด, See also: กล่าว, ออกเสียง, พูดจา, Syn. communicate | pontificate | (vi) พูดจาหยิ่งยโส, See also: พูดจาแบบชอบวางท่า | quote from | (phrv) อ้างจาก, See also: อ้างอิงคำพูดของ, อ้างคำพูดจาก | sass | (n) การพูดจาโอหัง (คำไม่เป็นทางการ), Syn. rudeness, talk back | speak from | (phrv) พูดจาก | virago | (n) หญิงอารมณ์ร้าย, See also: หญิงที่มีอารมณ์ร้ายพูดจาด่าทอเสียงดัง, Syn. vixen | waggishness | (n) การพูดจาตลกขบขันและมีไหวพริบ, See also: คำล้าสมัย | yack | (vi) พูดจาเรื่อยเปื่อยและไร้สาระ (คำไม่เป็นทางการ), See also: พูดยืดยาวและไร้สาระ | yak | (vi) พูดจาเรื่อยเปื่อยและไร้สาระ | yak | (n) การพูดจาเรื่อยเปื่อยและไร้สาระ | yawp | (vi) พูดจาหยาบคายและเสียงดัง | yawp | (n) การพูดจาหยาบคายและเสียงดัง |
| address | (n. อะเดรส' , แอด' เดรส; -vi. อะเดรส') n., vi. (การ) ปราศรัยกับ, (การ) พูดกับ, (การ) เตรียม, คำปราศรัย, คำถวายพระพรชัยมงคล, คำจ่าหน้าซอง, กิริยาวาจา, บุคลิกลักษณะ, (การ) พูดจา, ความแคล่วคล่อง. -addresser n.ผู้ส่งจดหมาย, | ambages | (แอมเบ' เจซ) n. ทางวกวน, การพูดจาอ้อมค้อม (roundabout ways) | amphibolic | (แอมฟิบอล' ลิค) adj. ไม่แน่นอน, มีความหมายสองนัย, การพูดจาคลุมเคลือ (uncertain) | amphibology | (แอมฟิบอล' โลจี) n. การที่มีความหมายสองนัย, ความหมายที่คลุมเคลือ, ประโยคที่มีความหมายสองนัยฐ การพูดจาเหลวไหล. -amphibolical, amphibolous adj. | boost | (บูสทฺ) { boosted, boosting, boosts } vt., n. (การ) ยกขึ้น, เลื่อนขึ้น, ส่งเสริม, พูดจาสนับสนุน, เผยแพร่, เลื่อนตำแหน่ง, เพิ่มขึ้น, Syn. lift, raise | bushwa | (บูช'วา) n. พูดจาไร้สาระ, พูดจาเหลวไหล | bushwah | (บูช'วา) n. พูดจาไร้สาระ, พูดจาเหลวไหล | by-talk | n. การพูดจาเล็กน้อยหรือไม่เกี่ยวข้อง | chatter | (แชท'เทอะ) { chattered, chattering, chatters } v., n. (การ) พูดจาปากจัด, พูดฉอด ๆ, See also: chattery adj., Syn. prattle | conversable | (คันเวอ'ซะเบิล) adj. น่าพูดจาได้, ซึ่งรวมกันที่จุดหรือเส้นเดียวกันได้, เกี่ยวกับการสนทนาที่เหมาะสม., See also: conversableness n. ดูconversable | coquet | (โคเควท') vi. =coquette n. = coquette. adj. ยั่วสวาท, ยั่ว, พูดจาเกี้ยว, มีเสน่ห์ยั่วยวน, Syn. philander, flirt, dally | coquetry | (โค'คิทรี) n. นิสัยยั่วสวาท, การพูดจาเกี้ยว, การเกี้ยว, Syn. flirtation, dalliance | dalliance | (แดล'ลิเอินซฺ) n. ความอืดอาด, การปล่อยเวลาให้หมดเปลืองไปเปล่า ๆ , การพูดจาเกี้ยว, Syn. amour | flirt | (เฟลิร์ท) vi. จีบ, พูดจาเกี้ยว, เล่นรัก, ทำเล่น ๆ , เคลื่อนอย่างกระตุกหรือสั่น สะบัด, โบก vt. โยนทิ้ง, สะบัด, ทิ้ง, ดีดทิ้ง, แกว่ง, โบก, กระดิก n. การขว้างทิ้ง, การกระตุก, การโถม, การพุ่ง., See also: flirtingly adv., Syn. toy, trifle | flirtatious | (เฟลอเท'เชิส) adj. เจ้าชู้, ชอบพูดจาเกี้ยวพาราสี, เกี่ยวกับการเคลื่อนอย่างกระตุกหรือสั่น., See also: flirty adj. flirtatiousness n. coy, wanton | free-spoken | adj. ซึ่งพูดแสดงความคิดเห็นได้โดยอิสระ, ขวานผ่าซาก, พูดจาโผงผาง, See also: free-spokenly adv. free-spokenness n. | gammon | (แกม'มัน) n., vt. (การ) ชนะโดยเด็ดขาด, (การ) ชนะเกมหมาก backgammon, ขาหมูอบควัน, ขาหมูหลัง vi., n. (การ) พูดจาเหลวไหลและหลวงลวง, แสร้ง. vt. โกง, หลอกลวง, ตบตา, See also: gammoner n. | incommunicable | (อินคะมิว' นะคะเบิล) adj. ติดต่อกันไม่ได้, ถ่ายทอดออกเป็นคำพูดไม่ได้, ไม่ชอบพูดจา., See also: incommunicability, incommunicableness n. incommunicably adv. | laugh | (ลาฟ) { laughed, laughing, laughs } vi. หัวเราะ, ยิ้ม vt. หัวเราะเยาะ, เยาะเย้ย. n. การหัวเราะ -Phr. (laugh off พูดจาเยาะเย้ยเยาะ) ., See also: laughter n., Syn. chuckle, snicker | outspoken | (เอาทฺ'สโพคเคิน) adj. พูดโผงผาง, พูดตรงไปตรงมา, พูดจาเปิดเผย, กิริยาช่อง 3 ของ outspeak., See also: outspokenly adv. outspokenness n., Syn. frank | pontificate | (พอนทิฟ'ฟะคิท) n. ตำแหน่งสังฆราช. vi. พูดจาหยิ่งยโส, พูดแบบวางท่าวางทาง, ทำหน้าที่สังฆราช | smooth-tongued | (สมูธ'ทังดฺ) adj. พูดคล่องแคล่ว, มีคารมดี, พูดจานิ่มนวลน่าฟัง | voluble | (วอล'ลิวเบิล) adj. พูดจาคล่องแคล่ว, พูดมาก., See also: volubility n. volubly adv. |
| delivery | (n) การพูดจา, การกล่าวสุนทรพจน์, การส่งมอบ, การคลอดลูก | parlance | (n) วิธีการพูด, ภาษาเฉพาะ, การพูดจา, สำนวน | rant | (vi) พูดจาโผงผาง, พูดรุนแรง, คุยโว | volubility | (n) ความพูดมาก, ความพูดจาคล่องแคล่ว |
| insinuate | said in an indirect way, especially something unpleasant การพูดจาเสียดสี |
| 黙る | [だまる, damaru] TH: นิ่งเงียบไม่พูดจา EN: to be silent |
| überreden | (vt) |überredete, hat überredet| พูดจาหว่านล้อม เช่น Mein Kind hat mich dazu überredet, ihm ein Spielzeug zu kaufen. ลูกของผมหว่านล้อมให้ผมซื้อของเล่นให้เขา, See also: die Überedung | ansprechen | (vt) |sprach an, hat angesprochen| ทัก, เอ่ย, พูดจาทักทาย เช่น Er hat als erstes mich auf der Party angesprochen. เขาเป็นคนแรกที่ทักฉันในงานเลี้ยง | ausfällig werden | (adj) เริ่มก้าวร้าว เริ่มพูดจาไม่ดีหรือดูถูกคู่สนทนา เช่น Zu diesem linken Ding von seiner Beurlaubung spare ich mir jeden Kommentar, sonst würde ich noch ausfällig werden. |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |