Peat Swamp Forest | ป่าพรุ, Example: สังคมพืชป่าไม้ประเภทไม่ผลัดใบ (evergreen) แบบหนึ่ง หรือป่าดงดิบ เกิดในภูมิประเทศที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำหรือเป็นแอ่งรูปกระทะ ได้รับน้ำจาก น้ำฝนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้มีน้ำจืดแช่ขังอยู่ตลอดทั้งปี เมื่อมีซากพืช และอินทรีย์วัตถุต่างๆ ทับถมกันเป็นเวลาช้านาน จึงไม่ค่อนผุสลาย ทำให้เกิดเป็น "พรุ" (peat bog) ขึ้น ดังนั้นจึงมีการสะสมของชั้นอินทรียวัตถุหรือดินอินทรีย์หนามากหรือน้อยอยู่ เหนือชั้นดินแท้ๆ มีพืชพันธุ์ไม้ป่าหลากหลายชนิดขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นบนพื้นที่ชุ่มน้ำ ดังนั้นป่าพรุจึงเป็นพื้ที่ชุ่มน้ำธรรมดาทีมีความสำคัญทางด้านพฤกษศาสตร์ และการอนุรักษ์สัตว์ป่า เนื่องจากมีสัตว์ที่หายากหรือใกล้จะสูญพันธุ์หลายชนิด ซึ่งปัจจุบันพบเฉพาะในบริเวณป่าพรุ และพื้นที่ใกล้เคียง [สิ่งแวดล้อม] |
Swamp Forest | ป่าพรุ หรือ ป่าบึง, Example: ป่าไม้ผลัดใบประเภทหนึ่งที่อยู่ตามที่ราบลุ่ม มีน้ำขังอยู่เสมอ และตามริมฝั่งทะเลที่มีโคลนเลนทั่วๆ ไป ปริมาณน้ำฝนไม่น้อยกว่า 2, 000 มิลลิเมตรต่อปี แบ่งเป็นชนิดย่อยๆ ได้ 2 ชนิด คือ Fresh Water Swamp Forest และ Mangrove Swamp Forest [สิ่งแวดล้อม] |
Fresh Water Swamp Forest | ป่าพรุหรือป่าบึงน้ำจืด, Example: ป่าไม้ผลัดใบประเภทป่าพรุชนิดหนึ่ง ซึ่งอยู่ถัดจากชายฝั่งทะเลเข้ามา หรือบริเวณที่ลุ่ม ที่มีการทับถมของซากพืชและอินทรียวัตถุที่ไม่สลายตัว จะมีน้ำท่วมหรือชื้นแฉะตลอดปี ดินเป็นดินตะกอนหรือโคลนตม ป่าพรุที่ใหญ่ที่สุดพบในจังหวัดนราธิวาส พันธุ์ไม้ที่พบ ได้แก่ สำโรง จิกนม จิกนาหรือกระโดนน้ำ กะเบาน้ำ กันเกรา และหลาวชะดอน เป็นต้น [สิ่งแวดล้อม] |
Coniferous Forest | ป่าพรุหรือป่าบึงน้ำจืด , ป่าสน, Example: ป่าไม้ผลัดใบประเภทหนึ่ง ซึ่งพบกระจายเป็นหย่อมๆ ตามภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอยู่ตามเขาและที่ราบบางแห่งที่สูงจากระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ 200 เมตร ขึ้นไป บางครั้งพบปะปนอยู่กับป่าแดงและป่าดิบเขา ป่าสนโดยทั่วไปมีลักษณะเป็นป่าโปร่ง ไม่แน่นทึบเท่ากับป่าไม้ผลัดใบอื่นๆ มักจะขึ้นได้ดีในดินที่ไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์ มีความเป็นกรดสูง เมื่อใบสนร่วงลงมาทับถมกันที่พื้นดิน ลูกไม้อื่นที่ร่วงลงมาไม่สามารถงอกได้ แต่ลูกสนจะสามารถแทรกลงสู่ดินจนงอกรากได้ ป่าสนจึงมักจะมีแต่ไม้สนล้วนๆ ในประเทสไทยมีสนเขาเพียง 2 ชนิดเท่านั้น คือ สนสองใบ และสนสามใบ สำหรับไม้พื้นล่างที่พบจะเป็นพวกหญ้าต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้อยู่เสมอ แลพน้ำมันจากเนื้อไม้สนก็เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ดังนั้นป่าชนิดนี้จึงต้องมีการป้องกันไฟอย่างรัดกุมและเข้มงวด [สิ่งแวดล้อม] |