กว้างขวาง | ก. แผ่ออกไปมาก, ใหญ่โต, เช่น มีเนื้อที่กว้างขวาง |
กว้างขวาง | เผื่อแผ่ เช่น มีนํ้าใจกว้างขวาง, รู้จักคนมากและมีคนรู้จักมาก เช่น กว้างขวางในสังคม. |
ผู้กว้างขวาง | น. นักเลงใหญ่, ผู้มีอิทธิพล. |
กิ่งอำเภอ | น. ท้องที่ที่มีความจำเป็นในการปกครอง แยกมาจากอำเภอที่มีเขตท้องที่กว้างขวางแต่จำนวนประชากรไม่มาก หรือที่ที่มีชุมชนมากแต่ท้องที่ไม่กว้างขวางพอที่จะตั้งขึ้นเป็นอำเภอ มีปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอเป็นหัวหน้าปกครอง. |
ขวาง | ใช้เข้าคู่กับ กว้าง เป็น กว้างขวาง หมายความอย่างเดียวกับคำว่า กว้าง. |
คับแคบ | ว. ไม่กว้างขวางพอ เช่น บ้านคับแคบ, ไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เช่น ใจคอคับแคบ. |
คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก | น. ที่อยู่แม้จะคับแคบก็อยู่ได้ถ้าสบายใจ แต่ถ้าอึดอัดใจ ที่อยู่จะกว้างขวางใหญ่โตอย่างไรก็อยู่ไม่ได้. |
แคบ ๑ | ว. มีส่วนกว้างน้อย, ไม่กว้างขวาง เช่น บ้านแคบ ความรู้แคบ. |
ใจเติบ | ว. มีใจกว้างขวางเกินสมควร |
ใจนักเลง | มีใจกว้างขวางกล้าได้กล้าเสีย. |
ชื่อเสียง | ความเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เช่น เขาเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียง. |
ทวีป | (ทะวีบ) น. เปลือกโลกส่วนที่เป็นพื้นดินซึ่งมีขนาดใหญ่โตกว้างขวาง มี ๗ ทวีป คือ เอเชีย ยุโรป ออสเตรเลีย แอฟริกา อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และแอนตาร์กติกา บางทวีปกำหนดนํ้าล้อมรอบเป็นขอบเขต เช่น ทวีปออสเตรเลีย ทวีปแอนตาร์กติกา บางทวีปกำหนดภูเขา ทะเล แหล่งอารยธรรมเป็นต้น เป็นแนวแบ่งเขต เช่น ทวีปเอเชีย ทวีปยุโรป |
ผิตะ, ผีตะ | ว. มั่งคั่ง, ผึ่งผาย, กว้างขวาง. |
ผีตะ | ว. มั่งคั่ง, ผึ่งผาย, กว้างขวาง. |
พิบุล, พิบูล | ว. กว้างขวาง, มาก. |
พิสดาร | (พิดสะดาน) ว. กว้างขวาง, ละเอียดลออ (ใช้แก่เนื้อความ) เช่น ประวัติศาสตร์ฉบับพิสดาร มีความพิสดารดังนี้ |
ภาพพจน์ | (พาบพด) น. ถ้อยคำที่เป็นสำนวนโวหารทำให้นึกเห็นเป็นภาพ, ถ้อยคำที่เรียบเรียงอย่างมีชั้นเชิงเป็นโวหาร มีเจตนาให้มีประสิทธิผลต่อความคิด ความเข้าใจ ให้จินตนาการและถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างกว้างขวางลึกซึ้งกว่าการบอกเล่าที่ตรงไปตรงมา. |
รอบรู้ | ก. รู้หลายอย่าง, รู้กว้างขวาง, เช่น เขารอบรู้ในเรื่องกฎหมาย. |
ระบาด | ว. แพร่ไปอย่างรวดเร็ว, แพร่ไปอย่างกว้างขวาง, แพร่ไปทั่ว, เช่น ข่าวลือระบาด, ลักษณะของโรคติดต่อที่แพร่ไปอย่างรวดเร็วและกว้างขวางเป็นคราว ๆ ไป, เรียกโรคที่มีลักษณะเช่นนั้น ว่า โรคระบาด เช่น อหิวาตกโรคเป็นโรคระบาดชนิดหนึ่ง. |
โลกาภิวัตน์ | การที่ประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใด สามารถรับรู้ สัมพันธ์ หรือรับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว้างขวาง ซึ่งเนื่องมาจากการพัฒนาระบบสารสนเทศเป็นต้น. |
ว้างเวิ้ง | ว. เป็นช่องว่างและโล่งออกไปกว้างขวาง. |
วิตถาร | (วิดถาน) ว. กว้างขวาง, มากเกินไป, พิสดาร. (ป.; ส. วิสฺตาร) |
วิบุล, วิบูล | ว. เต็ม, กว้างขวาง, มาก, ใช้ว่า วิบุลย์ หรือ วิบูลย์ ก็มี. |
วิศาล | ว. ไพศาล, กว้างขวาง. |
วิสาล | ว. ไพศาล, กว้างขวาง. |
เวสสันดร | น. พระนามพระโพธิสัตว์ชาติที่ ๑๐ ในทศชาติ, โดยปริยายหมายถึงผู้ที่มีใจกว้างขวางชอบให้ของแก่ผู้อื่นอย่างไม่มีขอบเขตจำกัด เช่น ใจกว้างเหมือนพระเวสสันดร มีอะไรให้เขาหมด. |
สมัครพรรคพวก | น. ผู้เข้าร่วมเป็นพวกด้วย เช่น เขาเป็นคนกว้างขวาง มีสมัครพรรคพวกมาก. |
อายตะ | (-ยะตะ) ว. ยืด, แผ่ออกไป, กว้างขวาง, ยาว. |
อุฬาร | (-ลาน) ว. ใหญ่โต, โอ่โถง, กว้างขวาง |
เอาฬาร | (-ลาน) ว. ใหญ่โต, โอ่โถง, กว้างขวาง |
โอฬาร | (-ลาน) ว. ใหญ่โต, โอ่โถง, กว้างขวาง |
Educational Technology | เทคโนโลยีการศึกษา, การประยุกต์เอาระเบียบวิธีการ แนวความคิดต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนผลิตผลอันเกิดจากผลของวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการศึกษาให้กว้างขวางยิ่งขึ้น [เทคโนโลยีการศึกษา] |
globalization | โลกาภิวัตน์, การแพร่กระจายไปทั่วโลก; การที่ประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใด สามารถรับรู้ สัมพันธ์ หรือรับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว้างขวาง ซึ่งเนื่องมาจากการพัฒนาระบบสารสนเทศ เป็นต้น [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
globalisation | โลกาภิวัตน์, การแพร่กระจายไปทั่วโลก; การที่ประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใด สามารถรับรู้ สัมพันธ์ หรือรับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว้างขวาง ซึ่งเนื่องมาจากการพัฒนาระบบสารสนเทศ เป็นต้น [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Mutant variety | พืชพันธุ์กลาย, พืชพันธุ์ใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากการใช้รังสีหรือสารเคมีเหนี่ยวนำให้เกิดการกลายพันธุ์ เป็นที่ยอมรับและมีการปลูกอย่างกว้างขวาง, Example: [นิวเคลียร์] |
Mutant cultivar | พืชพันธุ์กลาย, พืชพันธุ์ใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากการใช้รังสีหรือสารเคมีเหนี่ยวนำให้เกิดการกลายพันธุ์ เป็นที่ยอมรับและมีการปลูกอย่างกว้างขวาง [นิวเคลียร์] |
Gamma field | ไร่รังสีแกมมา, พื้นที่ที่มีอาณาบริเวณกว้างขวาง และติดตั้งเครื่องฉายรังสีแกมมาอยู่ตรงกลาง ใช้สำหรับปลูกพืชไร่ พืชสวน ไม้ดอก และไม้ประดับ เพื่อศึกษาผลของรังสีแกมมาปริมาณต่ำที่พืชได้รับอย่างสม่ำเสมอ [นิวเคลียร์] |
โลกาภิวัตน์ | การแพร่กระจายไปทั่วโลก การที่ประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใด สามารถรับรู้ สัมพันธ์ หรือรับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว้างขวาง ซึ่งเนื่องมาจากการพัฒนาระบบสารสนเทศ เป็นต้น, Example: คำที่มักเขียนผิด คือ โลกาภิวัฒน์ [คำที่มักเขียนผิด] |
Commission on Human Rights | คณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น [การทูต] |
Diplomatist หรือ Diplomat | ใช้กับราชการทุกคนที่ประจำทำงานในด้านทางการทูต ไม่ว่าจะประจำอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศ หรือในราชการต่างประเทศ คือ ในสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือในสำนักงานทางทูตอื่นๆในทรรศนะของ เซอร์แฮโรลด์ นิโคลสัน นักการทูตยอดเยี่ยมคนหนึ่งของอังกฤษ ได้ระบุไว้ว่า นักการทูตหรือ Diplomat จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ ยึดถือความเป็นจริง มีความแม่นยำ สงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น อารมณ์ดี มีความสงบเสงี่ยมและมีความจงรักภักดี ทั้งยังจะต้องเป็นผู้ที่มีสติปัญญา มีความรู้ มองเห็นการณ์ไกล มีความสุขุมรอบคอบ ใจดีกับแขกและผู้แปลกหน้า มีเสน่ห์ มีความอุตสาหะวิริยะ มีความกล้า และมีปฏิภาณในทำนองเดียวกัน Francoise de Callieres (1645-1717) นักการทูตชั้นเยี่ยมของฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นเอกอัครราชทูตประจำโปแลนด์ ซาวอย ฮอลแลนด์ บาวาเรีย และลอเรน ได้เขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่งชื่อว่า De la miniere avec les souverains เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการเจรจาทางการทูต ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังเป็นที่รับรองกันทั่วไปว่าเป็นหนังสือที่ดีเยี่ยมเล่ม หนึ่ง หรือเป็นจินตกวีนิพนธ์เรื่องการดำเนินการทูตกับเจ้าผู้ครองนคร (Princes) สมัยนั้นCallieres ได้วางมาตรฐานของนักการทูตไว้สูงมากเพราะเขาเห็นว่า ไม่มีงานราชการใด ๆ ที่จะยากยิ่งไปกว่าการเจรจา ในการเจรจานั้น ผู้เจรจาจะต้องสามารถมองเห็นเหตุการณ์ทะลุปรุโปร่ง หรือมีสติปัญญาเฉียบแหลม มีความคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง มีความละมุนละไม มีความรอบรู้และความเข้าใจอย่างกว้างขวาง ตลอดจนข้อสำคัญที่สุด ต้องเป็นผู้มีความสุขุมคัมภีรภาพ สามารถมองเห็นการณ์ไกลชนิดเจาะลึกทีเดียว นอกจากนี้ จะต้องเป็นผู้มีอารมณ์ขันอย่างสม่ำเสมอ ไม่โกรธง่าย มีจิตใจสงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น พร้อมเสมอที่จะรับฟังทุกคนที่เขาพบด้วยความตั้งอกตั้งใจ พูดจาอย่างเปิดเผย และมีอารมณ์ร่าเริงไม่หน้าเง้าหน้างอ มีอัธยาศัยไมตรี รวมทั้งมีกิริยาท่าทางเป็นที่ต้องตาต้องใจกับทุกคน ในฐานะนักเจรจา (Negotiator) นักการทูตจะต้องมีคุณลักษณะและคุณสมบัติตามที่กล่าวมานี้เป็นอย่างน้อย เนื่องจากมีการเจรจาเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของนักการทูตนั่นเอง [การทูต] |
International Labor Organization | คือองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 11 เมษายน ปีค.ศ.1919 วัตถุประสงค์สำคัญขององค์การคือ การมีส่วนเกื้อกูลให้มีสันติภาพอันถาวร ด้วยการส่งเสริมให้มีความยุติธรรมในสังคม โดยต้องการให้ทุกประเทศปฏิบัติการปรับปรุงสภาวะแรงงาน ส่งเสริมมาตรฐานการครองชีพ พร้อมทั้งส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมให้ดีขึ้นการที่จะให้บรรลุ ตามวัตถุประสงค์เหล่านี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศจะจัดให้มีการประชุมเป็นประจำ ระหว่างฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายแรงงาน และฝ่ายจัดการ เพื่อเสนอแนะและจัดให้มีมาตรฐานระหว่างประเทศ ร่วมกันจัดร่างสัญญาแรงงานระหว่างประเทศเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ เช่น ค่าแรง ชั่วโมงทำงาน อายุการทำงาน เงื่อนไขการทำงานสำหรับคนงานในระดับต่าง ๆ ค่าชดเชยสำหรับคนงาน การประกันสังคม การหยุดพักร้อนโดยให้รับเงินเดือน ความปลอดภัยในงานอุตสาหกรรม บริการต่าง ๆ ในหน้าที่การงาน การตรวจแรงงาน เสรีภาพในการคบหาสมาคมกัน และอื่น ๆ นอกจากนั้น องค์การยังได้ให้ความช่วยเหลือทางวิชาการอย่างกว้างขวางแก่รัฐบาลของประเทศ สมาชิก รวมทั้งจัดพิมพ์เผยแพร่สิ่งพิมพ์หรือเอกสารรายคาบ เรื่องค้นคว้าและรายงานต่าง ๆ เกี่ยวกับปัญหาสังคม อุตสาหกรรม และแรงงานILO ปฏิบัติงานผ่านองค์กรต่าง ๆ โดยองค์กรสำคัญที่สุดภายในองค์การแรงงานระหว่างประเทศได้แก่ ที่ประชุมใหญ่ (General Conference) ซึ่งประชุมกันเป็นประจำทุกปี ประกอบด้วยคณะผู้แทนแห่งชาติ ในจำนวนนี้มีผู้แทนจากฝ่ายรัฐบาล 2 คน ผู้แทนฝ่ายจัดการ 1 คน และผู้แทนฝ่ายแรงงานอีก 1 คน หน้าที่สำคัญคือจัดวางมาตรฐานทางสังคมระหว่างประเทศขึ้นในรูปของอนุสัญญา องค์กรภายในองค์การอีกส่วนหนึ่งคือคณะผู้ว่าการ (Governing Body) จะประกอบด้วย สมาชิก 40 คน ในจำนวนนี้ 20 คน จะเป็นตัวแทนของฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 10 คน จากจำนวนนี้จะได้แก่ ตัวแทนจากประเทศอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ ส่วนตัวแทนของฝ่ายจัดการ (หรือนายจ้าง) จะมีจำนวน 10 คน และอีก 10 คนเป็นตัวแทนของฝ่ายแรงงาน คณะผู้ว่าการนี้จะทำหน้าที่ควบคุมดูแลงานของคณะกรรมาธิการ และคณะกรรมการขององค์การ คือสำนักแรงงานระหว่างประเทศจะมีหน้าที่รวบรวมเผยแพร่ข้อสนเทศ ช่วยเหลือรัฐบาลของประเทศสมาชิกที่ขอร้องให้ช่วยร่างกฎหมายตามที่ได้มีมติ ตกลงในที่ประชุมใหญ่ นอกจากนี้ ยังรับดำเนินการสอบสวนเรื่องต่าง ๆ เป็นพิเศษ รวมทั้งออกสิ่งพิมพ์เผยแพร่องค์การแรงงานระหว่างประเทศมีสำนักงานใหญ่ตั้ง อยู่ ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ [การทูต] |
International Telecommunica-tion Union | สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1865 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในตอนนั้นมีชื่อว่าสหภาพโทรเลขระหว่างประเทศ ต่อมาในปี ค.ศ.1932 จึงมีการรับรองอนุสัญญาโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปน และหลังจากนั้นอีก 2 ปี คือ ค.ศ.1934 ก็ได้มีการเปลี่ยนชื่ออนุสัญญาโทรเลขและวิทยุโทรเลข เป็นอนุสัญญาโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ต่อมาในปี ค.ศ. 1947 ได้มีการปรับปรุงใหม่ ณ เมืองแอตแลนติกซิตี้ สหรัฐอเมริกา แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ.1954 เป็นต้นมา สหภาพดังกล่าวหรือที่เรียกโดยย่อว่า ITU อยู่ภายใต้การบริหารปกครองตามอนุสัญญา ซึ่งได้รับการรับรองจากการประชุมเต็มคณะ ณ กรุงบุเอนอสไอเรส เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 1952วัตถุประสงค์สำคัญขององค์การไอทียูคือ ต้องการวางระเบียบข้อบังคับระหว่างประเทศสำหรับโทรเลข โทรศัพท์และบริการทางวิทยุ เพื่อที่จะส่งเสริมและขยับขยายให้ประชาชนได้มีโอกาสใช้บริการเหล่านี้ให้ กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยต้องการให้อัตราค่าบริการต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ กล่าวโดยทั่วไปองค์การไอทียูนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะส่งเสริมความร่วมมือ ระหว่างประเทศ เพื่อปรับปรุงการใช้โทรคมนาคมทุกชนิดให้เป็นประโยชน์ก้าวหน้าขึ้น พัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือทางเทคนิคให้นำออกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้และพยายามประสานการปฏิบัติของชาติต่าง ๆ ให้กลมกลืนกันเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกัน หัวหน้าของสหโทรคมนาคมระหว่างประเทศมีตำแหน่งเรียกว่า เลขาธิการ องค์การนี้ตั้งอยู่ในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ [การทูต] |
International Trade Organization | องค์การการค้าระหว่างประเทศ มีหน้าที่ดำเนินงานเกี่ยวกับความตกลงทั้วไปว่าด้วยภาษี ศุลกากรและการค้าระหว่างประเทศ วัตถุประสงค์สำคัญขององค์การคือ ต้องการขยายการค้าของโลกให้กว้างขวางขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยให้มีมาตรฐานการครองชีพสูงขึ้น ขจัดการกีดกันการค้า หรือพยายามลดให้เหลือน้อยที่สุด เช่น การตั้งข้อจำกัดโควต้า เป็นต้น ตัดทอนภาษีศุลกากรทั่วโลกให้ต่ำลง ดูแลตลาดวัตถุดิบให้เป็นไปอย่างยุติธรรม และพยายามควบคุมด้านการค้าของการร่วมมือกันทางธุรกิจ (Cartels) จุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดคือ ป้องกันมิให้กลับไปสู่การดำเนินการทางการค้าที่ตัดราคากันอย่างหั่นแหลก เหมือนเมื่อระยะปี ค.ศ. 1930 ถึง 1939 นั่นเองอย่างไรก็ดี ตั้งแต่มีการปฏิบัติใช้ความตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้ามาจนบัด นี้ ก็ได้รับผลสำเร็จตามแนววัตถุประสงค์อย่างมากมาย เช่น มีประเทศสมาชิกหลายสิบประเทศลดภาษีศุลกากรและรักษาระดับภาษีอย่างมีเสรีภาพ แต่ละปี ประเทศสมาชิกจะได้ยินได้ฟังเสียงร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติทางการค้า ละเมิดกฎเกณฑ์ของความตกลงทั่วไป แล้วเสียงร้องเรียนดังกล่าวก็ได้รับการแก้ไขจนเป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่าย เป็นต้น นอกจากนี้ ได้มีการปรับปรุงและดัดแปลงข้อกำหนดของความตกลงทั่วไป ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา [การทูต] |
New World Order | ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต] |
Applicability, Broader | การใช้ประโยชน์ได้กว้างขวางกว่า [การแพทย์] |
Astrocytoma, Infiltrative | แทรกแซงเข้าไปในเนื้อสมองข้างเดียวอย่างกว้างขวาง [การแพทย์] |
Broad Spectrum | ขอบเขตในการออกฤทธิ์กว้าง, การทำลายเชื้อจุลินทรีย์ได้กว้างขวาง, ในขอบเขตกว้าง, กว้างขวาง [การแพทย์] |
Burns, Extensive | ไฟลวกเป็นบริเวณกว้าง, ความร้อนลวกอย่างกว้างขวาง [การแพทย์] |
antibiotic | ยาปฏิชีวนะ, สารที่สกัดได้จากเชื้อราหรือแบคทีเรียบางชนิด ในปัจจุบันนี้สามารถสังเคราะห์ได้จากสารเคมีหลายชนิด สามารถยับยั้งการเติบโตหรือฆ่าเชื้อได้อย่างกว้างขวาง ก่อให้เกิดประโยชน์ในวงการแพทย์ย่างมาก เช่น เพนิซิลลิน สเตร็ปโตไมซิน เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
Infarction, Hemorrhagic, Massive | อินฟาร์คชนิดมีเลือดออกอย่างกว้างขวาง [การแพทย์] |
abroad | (adv) แพร่หลาย, See also: แพร่, แพร่กระจาย, กว้างขวาง, Syn. extensively, broadly, far and wide |
America Online | (n) ศูนย์บริการออนไลน์ผ่านทางโมเด็มที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในอเมริกา มีขอบเขตการให้บริการที่กกว้างขวางมีการให้บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ปริการเชื่อมต่ออินเตอร์เนตขั้นพื้นฐาน มีข่าวสารการพยากรณ์อากาศจากสำนักข่าวรอยเตอร์และยูพีไอ |
ample | (adj) ใหญ่, See also: กว้างขวาง, ขนาดใหญ่ |
amplitude | (n) ความกว้างขวาง, Syn. largeness |
broad | (adj) กว้างขวาง, See also: กว้าง, ครอบคลุม |
broadly | (adv) อย่างกว้างขวาง, See also: อย่างแพร่หลาย, Syn. extensively, largely, widely |
catholic | (adj) ที่กว้างขวางทั่วไป, Syn. universal, worldwide |
comfortable | (adj) เพียงพอ (กว้างขวางเพียงพอ), See also: พอเพียง, กว้างขวาง, กว้างใหญ่, กว้างพอ, Syn. commodious, roomy, spacious, sufficient, suitable, ample, enough |
comfortably | (adv) อย่างเพียงพอ (กว้างขวางเพียงพอ), See also: อย่างพอเพียง, อย่างกว้างขวาง, อย่างกว้างใหญ่, Syn. adequately, amply, sufficiently, Ant. inadequately, insufficiently |
commodious | (adj) กว้างขวาง, Syn. roomy, spacious |
elbow-room | (n) เนื้อที่กว้างขวางทำให้เคลื่อนที่ได้สะดวก, See also: เนื้อที่กว้างขวางทำให้ทำงานได้สะดวก, Syn. ample, room |
expanse | (n) พื้นที่กว้างขวาง (โดยเฉพาะทะเล แผ่นดิน ท้องฟ้า), See also: ขอบเขตกว้างใหญ่, สถานที่กว้างใหญ่ไพศาล |
extensive | (adj) กว้างขวาง, See also: ครอบคลุมเป็นบริเวณกว้าง, Syn. expanded, vast, wide |
extensively | (adv) อย่างกว้างขวาง, See also: อย่างครอบคลุม, Syn. vastly, widely |
hall | (n) บ้านหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ในที่ดินที่กว้างขวางมาก |
large | (adj) ใหญ่, See also: ใหญ่โต, กว้างขวาง, กว้าง, Syn. huge, enormous, immense, gigantic, colossal, massive, Ant. small |
repository | (n) ผู้มีความรู้กว้างขวาง |
sweeping | (adj) กว้างใหญ่ไพศาล, See also: กว้างขวาง, Syn. wide-ranging, broad, wide, all-embracing |
universalist | (n) ผู้มีความรู้กว้างขวาง, See also: ผู้มีความรู้ทุกแขนงวิชา |
vantage point | (n) ฐานะหรือตำแหน่งซึ่งได้เปรียบ, See also: จุดได้เปรียบ, จุดที่มองเห็นได้กว้างขวาง, Syn. vantage position, viewpoint |
vastitude | (n) ความใหญ่โตมาก, See also: ความกว้างขวางมาก, ความมากมาย, ความมหึมา, ความกว้างใหญ่ไพศาล |
vastity | (n) ความใหญ่โตมาก, See also: ความกว้างขวางมาก, ความมากมาย, ความมหึมา, ความไพศาล, Syn. gigantism |
vastly | (adv) อย่างกว้างขวางมาก, See also: อย่างใหญ่โต |
well-informed | (adj) ซึ่งมีความรู้กว้างขวาง, See also: ไม่ใส่เครื่องหมาย - เมื่อใช้ตามหลังคำกริยา, Syn. knowledgeable |
wide | (adj) กว้าง, See also: กว้างขวาง, Syn. broad, extensive, vast, Ant. narrow |
wide | (adv) กว้าง, See also: กว้างขวาง |
widely | (adv) อย่างกว้างขวาง, Syn. broad, extensively, vastly, Ant. narrowly |
air mass | กลุ่มก้อนอากาศที่กินบริเวณเนื้อที่กว้างขวาง |
all-around | (ออล' อะราวน์ดฺ) adj. ได้ทุกอย่าง, คล่องตัว, กว้างขวาง, หยั่งรู้, เข้าใจ, Syn. versatile |
ample | (แอม' เพิล) adj. พอเพียง, เหลือพอเพียง, อุดมสมบูรณ์, กว้างขวาง, ถึงขนาด, Syn. roomy, abundant, Ant. cramped, sparse |
broad | (บรอด) n. กว้าง, กว้างขวาง, เวิ้งว้าง, โจ่งแจ้ง, ไม่เกลี้ยงเกลา, หยาบ, แสก, ไม่ถูกจำกัด, อิสระ adj. เต็ม, เต็มที่ n. ส่วนกว้าง, ผู้หญิง, หญิงสำส่อน, See also: broadish adj. -Conf. wide |
capacious | (คะเพ'เ?ียส) adj. จุมาก, ใหญ่มาก, กว้างขวาง, มีเนื้อที่มาก, See also: capaciousness n. ดู capacious |
catholic | (แคธ'ธอลิค) adj. กว้างขวาง, โดยทั่วไป, โอบอ้อมอารี, ใจกว้าง, Syn. general |
commodius | (คะโม'เดียส) adj. กว้าง, กว้างขวาง, มากพอเพียง, See also: commodiousness n., Syn. roomy, ample |
comprehensive | (คอมพริเฮน'ซิฟว) adj. กว้างขวาง, ครอบคลุม, เข้าใจได้กว้าง, ซึ่งหยั่งรู้, ซึ่งประกันความเสียหายอย่างกว้างขวาง n. การทดสอบความรู้อย่างกว้างขวาง, See also: comprehensiveness n. ดูcomprehensive, Syn. far-reaching, wide |
expansive | (อิคซฺแพน'ซิฟว) adj. ซึ่งขยายตัวหรือเพิ่ม, ไพศาล, กว้างขวาง, ละเอียด, กินความมาก, เปิดเผย, Syn. broad |
fuzzy logic | ตรรกศาสตร์คลุมเคลือหมายถึง แบบหนึ่งของตรรกะ ซึ่งใช้ในระบบผู้เชี่ยวชาญ (expert system) ตรรกะ ประเภทนี้ไม่ใช่มีแต่ ผิด-ถูก (กล่าวคือ ถ้าไม่ถูก ก็ต้องผิด หรือถ้าไม่ผิด ก็ต้องถูก) แต่ตรรกะแบบนี้ มีขอบเขตกว้างขวาง |
helvetica | (เฮลเวติกา) เป็นชื่อแบบตัวอักษร (font) ภาษาอังกฤษแบบหนึ่ง มีลักษณะเป็นตัวตรง ๆ ไม่เล่นหาง ประเภทที่เรียกว่า sans serif แบบอักษรรูปนี้ได้รับความนิยมใช้กันอย่างกว้างขวางไม่แพ้แบบ Times มีใช้ทั้งในเครื่องแมคอินทอช และพีซี |
immense | (อิเมนซฺ') adj. ใหญ่มาก, มหึมา, มโหฬาร, มากมาย, กว้างขวาง, ไม่มีขอบเขต, เหลือคณานับ, ดีมาก, เลิศ, ยอดเยี่ยม., See also: immensely adv. immenseness n., Syn. huge, vast, Ant. small, little |
immensity | (อิเมน'ซิที) n. ความกว้างขวาง, ความใหญ่โต, ความมโหฬาร, ความไม่มีขอบเขต, Syn. hugeness |
information technology | เทคโนโลยีสารสนเทศใช้ตัวย่อว่า IT หมายถึงเทคโนโลยีในการรวบรวมข้อมูล การจัดเก็บอย่างมีระบบ การเรียกหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว การประมวลผล การวิเคราะห์ผลที่ได้จากการประมวลนั้น รวมไปถึงการเน้นในเรื่องการแสดงผล และประชาสัมพันธ์สารสนเทศนั้นอย่างมีประสิทธิภาพ ในรูปแบบที่เหมาะสมกับผู้ที่จะนำไปใช้ต่อไป ตลอดไปจนถึงการสื่อสารข้อมูลนั้นไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ว่ากันว่า IT กำลังจะก้าวเข้ามาแทนวิชา MIS (management information system) เพราะมีขอบเขตกว้างขวางกว่ามาก สรุปสั้น ๆ ได้ว่า เป็นเหมือนการนำวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ (computer science) รวมกับนิเทศศาสตร์ (mass communications) |
it | (อิท) pron. มัน, นั่น, ตัว, คน, บุคคล, ตัวมาร, ตัวการ, คนสำคัญ, คนโง่. n. คนเล่น, สถานการณ์โดยทั่วไป ไอทีย่อมาจาก information technology แปลว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึงเทคโนโลยีในการรวบรวมข้อมูล การจัดเก็บอย่างมีระบบ การเรียกหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว การประมวลผล การวิเคราะห์ผลที่ได้จากการประมวลนั้น รวมไปถึงการเน้นในเรื่องการแสดงผล และประชาสัมพันธ์สารสนเทศนั้นอย่างมีประสิทธิภาพ ในรูปแบบที่เหมาะสมกับผู้ที่จะนำไปใช้ต่อไป ตลอดไปจนถึงการสื่อสารข้อมูลนั้นไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ว่ากันว่า IT กำลังจะก้าวเข้ามาแทนวิชา MIS (management information system) เพราะมีขอบเขตกว้างขวางกว่ามาก สรุปสั้น ๆ ได้ว่า เป็นเหมือนการนำวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ (computer science) รวมกับนิเทศศาสตร์ (mass communications) |
large | (ลาร์จฺ) adj. ใหญ่, ใหญ่โตมหึมา, ส่วนมาก, กว้าง, กว้างขวาง, (ลม) ดี. adv. อย่างใหญ่โต, อย่างมากมาย, อย่างคุยโว, ตามลม. n. -Phr. (at large อย่างอิสระ, เต็มที่, หลบหนี, มากมาย) -Phr. (in large มากมาย), See also: largeness n. ดูlarge คำที่มีความหมายเหมือนกั |
local area network | (LAN) โครงข่ายคอมพิวเตอร์เฉพาะบริเวณ, การเชื่อมโยงเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันเป็นข่ายงานเฉพาะบริเวณที่ไม่กว้างขวางนัก : ย่อว่า LAN, ข่ายงานบริเวณเฉพาะที่ ใช้ตัวย่อว่า LAN หมายถึง คอมพิวเตอร์หลาย ๆ ระบบ หรือหลาย ๆ เครื่องที่มีการทำงานเชื่อมกันเป็นเครือข่าย แต่ละเครื่องอยู่ในบริเวรใกล้ ๆ กัน เช่นในอาคารเดียวกันเป็นต้น คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงกันเหล่านี้จะทำงานร่วมกันได้ ดึงโปรแกรมหรือข้อมูลจากกันและกันได้ แต่การทำเช่นนี้จะต้องใช้ซอฟทืแวรืช่วยด้วย หากเป็นเครือข่ายเครื่องอยู่ห่างกัน เรียกว่า wan (wide area network ดู wan) |
mass | (แมส) n. มวล, ก้อน, กอง, ปึก, จำนวนมาก, ปริมาณมาก, ภาพหรือขนาดสามมิติ, ส่วนใหญ่, ส่วนสำคัญ, ขนาด, ความใหญ่โต, ทั้งมวล, ความเทอะทะ, ความหนาแน่น adj. กว้างขวาง, ครอบคลุม, จำนวนมาก, มากมาย.vi. รวมกันเป็นก้อน vt. ทำให้รวมกันเป็นก้อนหรือกอง, วาดภาพหรือให้สีในลักษณะทั่วไป. -Phr |
renaissance man | n. ผู้มีความรู้กว้างขวาง |
sheet | (ชีท) n. ผ้าปูที่นอน, ผ้าสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่, ผ้าคลุมศพ, แผ่นกระดาษ, หน้าหนังสือ, ยกหนังสือ, แผ่น, แผ่นบันทึก, แผ่นใหญ่, ผืน, ผืนใหญ่, หนังสือพิมพ์, สิ่งตีพิมพ์, วารสาร, ระวาง, ขนาด, ความกว้างขวาง, แผ่นหินผา. vt. คลุม, ปกคลุม, ปูผ้า, กางออก, ขยายออก, ห่อด้วยแผ่นหรือผืนใหญ่ |
spacious | (สเพ'เชิส) adj. มีเนื้อที่มาก, กว้างขวาง, กว้างใหญ่ไพศาล, See also: spaciousness n., Syn. capacious |
sweeping | (สวี'พิง) adj. กว้างใหญ่ไพศาล, กว้างขวาง, กินเนื้อที่อันกว้างขวาง, ครอบคลุม, ท่วมท้น, เด็ดขาด. n. การกวาด, การปัดกวาด, การขจัด, การมีชัยชนะเด็ดขาด, See also: sweepings n. สิ่งที่ถูกกวาดทิ้ง. sweepingness n., Syn. extensive |
universality | (ยูนิเวอแซล'ลิที) n. ลักษณะแพร่หลาย, ลักษณะที่มีอยู่อยู่ทั่วไป, การใช้ได้ทั่วไป, การมีความรู้กว้างขวาง, การมีความสนใจทั่วไป, Syn. all-inclusiveness, comprehension |
vantage point | n. ฐานะหรือตำแหน่งที่ได้เปรียบ, จุดที่สามารถมองเห็นได้กว้างขวาง |
vastitude | (แวส'ทิทิวดฺ) n. ความใหญ่โตมาก, ความกว้างขวางมาก, ความมากมาย, ความมหึมา, ความไพศาล, Syn. vastness, immensity |
well-informed | (เวล'อินฟอร์มดฺ') adj. รู้ข่าวดี, มีความรู้กว้างขวาง, พหูสูตร |
wholesale | (โฮล'เซล) n. การขายส่ง adj. เกี่ยวกับการส่ง, กว้างขวาง, เป็นจำนวนมาก, ไม่มีการเลือก adv. แบบขายส่ง vt. vi. ขายส่ง, See also: wholesaler n., Syn. far-reaching |
wide | (ไวดฺ) adj., adv. กว้าง, กว้างขวาง, หลวม, ใจกว้าง, ไพศาล, ขยาย, แพร่หลาย, ห่าง, ไกล, n. ลูกคริกเก็ตที่ถูกตีห่างจากประตู, See also: wideness n., Syn. broad, far, inclusive |
widely | (ไวดฺ'ลี) adv. กว้างขวาง, กว้าง, กินเนื้อที่มาก, แพร่หลาย, หลากหลาย, หลายกรณี, มากมาย, Syn. broadly, amply |
widespread | (ไวดฺ'สเพรด) adj. กว้างขวาง, แพร่หลาย, กระจาย, กางออก, ขยายออก |
ample | (n) มากมาย, กว้างขวาง, เหลือเฟือ |
boundless | (adj) ไม่มีขอบเขต, กว้างขวาง, ไม่มีที่สิ้นสุด, ไม่จำกัด |
broad | (adj) กว้าง, กว้างขวาง, โจ่งแจ้ง, ไม่ถูกจำกัด |
capacious | (adj) กว้างขวาง, จุ, ใหญ่, มีเนื้อที่มาก |
catholic | (adj) กว้าง, ไม่จำกัด, แพร่หลาย, แผ่ไปทั่ว, โอบอ้อมอารี, ใจคอกว้างขวาง |
catholicity | (n) ความกว้างขวาง, ความใจกว้าง, ความแพร่หลาย |
commodious | (adj) จุ, มีเนื้อที่กว้าง, กว้างขวาง, มีบริเวณกว้าง |
comprehensive | (adj) เกี่ยวกับความเข้าใจ, กินวงกว้าง, กว้างขวาง, ครอบคลุม |
enlarge | (vt) ขยายส่วน, ขยายตัว, ทำให้กว้างขวาง, เพิ่ม, เสริม |
expansive | (adj) ขยายตัวได้, กว้างขวาง, ไพศาล, กินความมาก |
extensive | (adj) กว้างใหญ่, แพร่หลาย, ครอบคลุม, กว้างขวาง |
FAR-far-fetched | (adj) กว้างขวาง, ลึกซึ้ง, ไกลจากความจริง |
FAR-far-flung | (adj) แผ่กว้าง, กว้าง, แผ่ไพศาล, กว้างขวาง |
FAR-far-reaching | (adj) แผ่ไปไกล, มีอิทธิพลมาก, กว้างขวาง |
immense | (adj) มหึมา, ใหญ่โตมโหฬาร, กว้างขวาง, ยอดเยี่ยม, ดีเลิศ |
immensity | (n) ความมหึมา, ความใหญ่โตมโหฬาร, ความกว้างขวาง |
incomprehensive | (adj) ไม่ลึกซึ้ง, ไม่กว้างขวาง, ไม่ครอบคลุม |
liberal | (adj) อารี, กรุณา, เผื่อแผ่, มากมาย, กว้างขวาง, ไม่อั้น, ใจกว้าง |
popular | (adj) เกี่ยวกับราษฎร, กว้างขวาง, เป็นที่นิยม, แพร่หลาย |
roomy | (adj) ใหญ่, กว้างขวาง, มีเนื้อที่มาก |
spacious | (adj) กว้างใหญ่, กว้างขวาง, มีเนื้อที่มาก |
titan | (n) ยักษ์, ผู้มีสติปัญญากว้างขวาง, ผู้มีอิทธิพล |
universal | (adj) สากล, ทั่วไป, ดกดื่น, กว้างขวาง |
universally | (adv) โดยทั่วไป, อย่างกว้างขวาง, เป็นที่แพร่หลาย |
unpopular | (adj) ไม่กว้างขวาง, ไม่เป็นที่นิยม, ไม่แพร่หลาย |
vast | (adj) กว้างใหญ่, ไพศาล, มากมาย, กว้างขวาง, มหึมา |
vastness | (n) ความกว้างใหญ่, ความไพศาล, ความมากมาย, ความกว้างขวาง |
wide | (adj) กว้างขวาง, ใจกว้าง, แพร่หลาย, ห่าง, ไกล |
wide | (adv) อย่างกว้างขวาง, กว้าง, แพร่หลาย, ไพศาล |
widely | (adv) อย่างกว้างขวาง, แพร่หลาย, มากมาย, หลากหลาย |