แก้วเสียง | น. คุณลักษณะพิเศษของเสียงผู้ขับร้องบางคน ที่เมื่อเสียงขับร้องสูงถึงระดับหนึ่งจะมีเสียงที่ไพเราะกังวานใส เรียกว่า มีแก้วเสียงดี. |
เขม้น | (ขะเม่น) ก. เพ่ง, จ้องดู, มุ่งโดยเฉพาะ เช่น ฝ่ายผู้ได้พิจารณาว่ากล่าวบางคนก็ลำเอียงไปว่าทรัพจะได้เปนหลวง เขม้นว่ากล่าวกันโชกข่มขี่จเอาแต่ทรัพเปนหลวงจงได้ (สามดวง), มักใช้เข้าคู่กับคำ มอง เป็น เขม้นมอง หรือ มองเขม้น, (โบ) เขียนเป็น ขเม่น ก็มี เช่น ขเม่น, คือ คนฤๅสัตวแลดูสิ่งของใด ๆ เพ่งตาดูไม่ใคร่จะกพริบ (ปรัดเล). |
ชะตาชีวิต | น. ความเป็นไปในชีวิตที่เชื่อว่าถูกกำหนดไว้แล้ว เช่น ชะตาชีวิตเขาลุ่ม ๆ ดอน ๆ มาตลอด, ความเป็นไปในชีวิต เช่น พ่อแม่บางคนชอบกำหนดชะตาชีวิตลูก. |
ชักดิ้นชักงอ | ก. อาการที่นอนดิ้นบนพื้น แขนขาสะบัดไปมาอย่างแรง เช่น เด็กบางคนพอไม่ซื้อของเล่นให้ ก็ร้องไห้ชักดิ้นชักงอ. |
เถน | น. ชายที่มีอายุ อาศัยอยู่กินที่วัด อาจถือศีลหรือไม่ก็ได้ นุ่งห่มผ้าเหลืองตามแต่จะหาได้ บางคนมีความประพฤติดี บางคนมีความประพฤติไม่เหมาะสม. |
บาง ๓ | ว. ใช้ประกอบหน้านามหมายความว่า ไม่ใช่ทั้งหมด คือ เป็นส่วนย่อยหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของส่วนรวม เช่น บางคน บางพวก บางถิ่น บางสิ่ง, ลาง ก็ใช้. |
ภูมิแพ้ | (พูม-) น. สภาพที่ร่างกายมีปฏิกิริยาผิดปรกติต่อสิ่งที่ตามธรรมดาเมื่อเข้าสู่ร่างกายคนทั่ว ๆ ไปแล้วจะไม่มีอันตรายใด ๆ จะมีอันตรายก็เฉพาะในคนบางคนที่แพ้สิ่งนั้นเท่านั้น. |
รู้คิด, รู้คิดรู้อ่าน | ก. เข้าใจคิดตริตรอง เช่น เด็กบางคนรู้คิดรู้อ่านดีกว่าผู้ใหญ่. |
ละเอียดอ่อน | อ่อนไหวง่าย, สะเทือนใจง่าย, เช่น บางคนถือเรื่องส่วนตัว เรื่องการเงินเป็นเรื่องละเอียดอ่อน. |
ลูกเมียน้อย | น. ลูกของเมียน้อยซึ่งมีสิทธิ์ด้อยกว่าลูกของเมียหลวง, โดยปริยายหมายถึงผู้มีฐานะไม่เทียมหน้าเทียมตาผู้อื่นหรือสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น บางคนบ่นว่าสถาบันของตนเป็นลูกเมียน้อย. |
เล่นการเมือง | ก. ฝักใฝ่หรือปฏิบัติการเกี่ยวกับงานบริหารบ้านเมือง, โดยปริยายหมายความว่า ใช้เล่ห์เหลี่ยมพลิกแพลงไม่ตรงไปตรงมา เพื่อผลประโยชน์ของตน เช่น ในวงการกีฬาก็มีการเล่นการเมือง นักกีฬาเก่ง ๆ บางคนถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมทีม. |
เลี้ยงไม่ขึ้น | ก. อบรมเลี้ยงดูคนบางคนอย่างดีแต่ก็มิได้ทำให้คนผู้นั้นเจริญรุ่งเรืองขึ้นเลย |
เลี้ยงไม่ขึ้น | เลี้ยงคนบางคนแล้วผู้นั้นยังไม่กตัญญูรู้คุณ. |
สิ้นคิด | ก. หมดปัญญาจะแก้ปัญหา, หมดหนทางคิดอ่าน, เช่น บางคนพอสิ้นคิดเข้าจริง ๆ ก็ฆ่าตัวตาย. |
สุพรรณบัฏ | แผ่นทองคำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่จารึกราชทินนามของสมเด็จพระราชาคณะ ขุนนางชั้นสมเด็จเจ้าพระยา และขุนนางชั้นเจ้าพระยาบางคน ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นพิเศษ |
หนอก ๑ | (หฺนอก) น. ก้อนเนื้อที่ต้นคอของสัตว์บางชนิดเช่นวัว, ก้อนเนื้อที่นูนขึ้นมาที่ต้นคอของคนบางคน เช่น เธออ้วนจนคอเป็นหนอก, เนื้อใต้ท้องน้อย เช่น นุ่งผ้าขัดหนอก. |
หน้าขึ้นนวล | น. หน้าของคนใกล้จะตาย มักจะดูนวลกว่าปรกติ ซึ่งคนโบราณเชื่อกันว่าคนบางคนที่ทำบุญกุศลไว้มากเมื่อใกล้จะตายหน้ามักจะขึ้นนวล. |
หัวดื้อ | ว. ว่ายากสอนยาก เช่น เด็กคนนี้หัวดื้อจริง, ไม่ยอมเชื่อฟังหรือทำตามใครง่าย ๆ เช่น ผู้ใหญ่บางคนก็หัวดื้อ. |
หายตัว | ก. ทำให้ไม่เห็นตัว เช่น บางคนเชื่อว่ามีเวทมนตร์ทำให้หายตัวได้, มักใช้คู่กับ ล่องหน เป็น ล่องหนหายตัว หมายความว่า ไม่ปรากฏตัวให้เห็น |
อ่าง ๒ | ว. อาการที่พูดไม่ใคร่ออกทันใจ คือกว่าจะพูดได้แต่ละคำต้องยํ้าคำต้นอยู่นานจึงพูดต่อไปได้ เป็นอาการประจำบางคน เรียกว่า เป็นอ่าง หรือ พูดติดอ่าง. |
X-rays | รังสีเอกซ์, รังสีในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีอำนาจทะลุทะลวงสูงไม่ได้มีต้นกำเนิดจากนิวเคลียสของอะตอม แต่เกิดขึ้นเมื่ออะตอมถูกกระตุ้น ทำให้อิเล็กตรอนวงในหลุดออกไป และอิเล็กตรอนวงถัดไปเข้ามาแทนที่ แล้วให้พลังงานส่วนเกินออกมาในรูปของรังสีเอกซ์ หรือเกิดจากการระดมยิงเป้าโลหะหนักบางชนิด เช่น ทังสเตน ด้วยอิเล็กตรอนความเร็วสูง ซึ่งอิเล็กตรอนจะถูกหน่วงให้ช้าลงอย่างทันทีทันใดและปล่อยรังสีเอกซ์ออกมา บางคน เรียกรังสีเอกซ์ว่า รังสีเรินต์เก็น ตามชื่อของ วิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เก็น นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันผู้ค้นพบรังสีนี้เมื่อ ปี พ.ศ. 2438 [นิวเคลียร์] |
Roentgen rays | รังสีเรินต์เก็น, รังสีในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีอำนาจทะลุทะลวงสูงไม่ได้มีต้นกำเนิดจากนิวเคลียสของอะตอม แต่เกิดขึ้นเมื่ออะตอมถูกกระตุ้น ทำให้อิเล็กตรอนวงในหลุดออกไป และอิเล็กตรอนวงถัดไปเข้ามาแทนที่ แล้วให้พลังงานส่วนเกินออกมาในรูปของรังสีเอกซ์ หรือเกิดจากการระดมยิงเป้าโลหะหนักบางชนิด เช่น ทังสเตน ด้วยอิเล็กตรอนความเร็วสูง ซึ่งอิเล็กตรอนจะถูกหน่วงให้ช้าลงอย่างทันทีทันใดและปล่อยรังสีเอกซ์ออกมา บางคน เรียกรังสีเอกซ์ว่า รังสีเรินต์เก็น ตามชื่อของ วิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เก็น นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันผู้ค้นพบรังสีนี้เมื่อ ปี พ.ศ. 2438 [นิวเคลียร์] |
Neutralization, Neutrality หรือ Neutralism | คำว่า Neutraliza-tion หมายถึง กระบวนการซึ่งรัฐได้รับการค้ำประกันความเป็นเอกราชและบูรณภาพอย่างถาวรภาย ใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ รัฐที่ได้รับการประกันรับรองให้เป็นกลาง (Neutralized State) เช่นนี้จะผูกมัดตนว่า จะละเว้นจาการใช้อาวุธโจมตีไม่ว่าประเทศใดทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าจะถูกโจมตีก่อน ตัวอย่างอันเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความ เป็นกลางอย่างถาวร คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามปฏิญญา (Declaration) ซึ่งมีการลงนามกัน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1815 ประเทศใหญ่ ๆ ในสมัยนั้น คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษ ปรัสเซีย และรัสเซีย ได้รับรองว่า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม จึงเป็นการจำเป็นที่จะให้รัฐเฮลเวติก(Helvetic Swiss States) ได้รับการประกันความเป็นกลางตลอดไป ทั้งยังประกาศด้วยว่า รัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์ตกลงรับปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้ระบุไว้เมื่อไร ความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์ก็จะได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางในทันที และแล้วสมาพันธ์สวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประกาศยอมรับปฏิบัติตาม หรือให้ภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1815 บรรดาประเทศที่รับรองค้ำประกันความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์จึงประกาศ รับรองดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1815 อนึ่ง การค้ำประกันความเป็นกลางในลักษณะที่ครอบคลุมทั้งประเทศของรัฐใดรัฐหนึ่ง นั้น มีความแตกต่างกับการค้ำประกันเพียงดินแดนส่วนใดส่วนหนึ่งของรัฐหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าดินแดนส่วนหนึ่งของรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางจะ ไม่ยอมให้ฝ่ายใดใช้ดินแดนส่วนที่ค้ำประกันนั้นเป็นเวทีสงครามเป็นอันขาด การค้ำประกันความเป็นกลางยังมีอีกแบบหนึ่งคือ รัฐหนึ่งจะประกาศตนแต่ฝ่ายเดียวว่าจะรักษาความเป็นกลางของตนตลอดไปโดยถาวร แต่ในกรณีเช่นนี้ ความเป็นเอกราชและบูรณภาพของรัฐที่ประกาศตนเป็นกลางเพียงฝ่ายเดียว จะไม่ได้รับการค้ำประกันร่วมกันจากรัฐอื่น ๆ แต่อย่างใดส่วนคติหรือลัทธิความเป็นกลาง (Neutralism) เป็นศัพท์ที่หมายถึงสถานภาพของรัฐต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการน้ำประเทศของตนเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสงครามเย็น ( Cold War) ที่กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ระหว่างกลุ่มประเทศภาคตะวันออกกับกลุ่มประเทศภาค ตะวันตก นอกจากนี้ ผู้นำบางคนในกลุ่มของรัฐที่เป็นกลาง ไม่เห็นด้วยกีบการที่ใช้คำว่า ?Neutralism? เขาเหล่านี้เห็นว่าควรจะใช้คำว่า ?ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด? ( Uncommitted ) มากกว่าจะเห็นได้ว่า คำว่า ?ความเป็นกลาง? ( Neutrality ) นั้น หมายถึงความเป็นกลางโดยถาวร ซึ่งได้รับการค้ำประกันจากกลุ่มประเทศกลุ่มหนึ่ง เช่นในกรณีประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้หรือหมายถึงความเป็นกลางเฉพาะในดินแดน ส่วนหนึ่งของรัฐที่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปทำสงครามกันในดินแดนที่เป็นกลางส่วน นั้นเป็นอันขาดก็ได้ ดังนั้น พอจะเห็นได้ว่า แก่นแท้ในความหมายของความเป็นกลาง ( Neutrality) จึงอยู่ที่ท่าที หรือ ทัศนคติของประเทศที่ดำรงตนเป็นกลาง ไม่ต้องการเข้าข้างประเทศคู่สงครามใด ๆ ในสงคราม ในสมัยก่อนผู้คนยังไม่รู้จักความคิดเรื่องความเป็นกลางดังที่รู้จักเข้าใจ กันในปัจจุบัน ความเป็นกลางเป็นผลมาจากการทยอยวางหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของความเป็นกลาง นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน [การทูต] |
Personal Diplomacy | คือการเจรจากันโดยตรงระหว่างรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงต่างประเทศด้วยกัน ส่วนการเจรจากันโดยตรงระหว่างประมุขของรัฐ หรือหัวหน้าของรัฐบาล แต่เดิมก็จัดอยู่ในประเภทการมทูตส่วนบุคคล แต่มาในปัจจุบันนี้ มักนิยมเรียกกันว่าเป็นทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) แยกออกต่างหากจากการทูตส่วนบุคคลมีผู้สังเกตการณ์หลายคนเตือนว่า ในกรณีที่เกิดเรื่องหรือปัญหาที่ยังคาราคาซังอยู่นั้น ไม่ควรหันเข้าใช้วิธีส่งผู้แทนพิเศษจากนครหลวงไปแก้ปัญหา ควรให้เอกอัครราชทูตเป็นผู้ดำเนินการมากกว่า เพราะประการแรก การกระทำเช่นนั้นยังผลเสียหายต่อศักดิ์ศรีของตัวเอกอัครราชทูตเอง ทั้งยังกระทบกระเทือนต่อการที่เขาจะปฏิบัติงานให้ประสบผลอย่างเต็มที่ ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้นในภายหน้าด้วย อีกประการหนึ่ง จะพึงคาดหมายได้อย่างไรว่า ตัวผู้แทนพิเศษที่ส่งไปนั้นจะมีความรอบรู้เกี่ยวกับภูมิหลังของปัญหา รวมทั้งตัวบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเท่ากับตัวเอกอัครราชทูตเอง ซึ่งได้ประจำทำงานอยู่ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ณ ที่นั่น แม้แต่ แฮโรลด์ นิโคลสัน ก็ไม่เห็นด้วย และได้เตือนว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศหนึ่งไปเยือนและพบปะกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอีกประเทศหนึ่งบ่อย ๆ นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำและไม่ควรสนับสนุน เพราะการกระทำเช่นนี้ นอกจากจะทำให้ประชาชนคาดหมายไปต่าง ๆ นานาแล้ว ยังจะทำให้เกิดเข้าใจผิด และเกิดความสับสนขึ้นมาได้แม้แต่ผู้รอบรู้ในเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติทางการ ทูตบางคนก็ยังแคลงใจว่า การทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) จะได้ประโยชน์และให้ผลจริง ๆ หรือไม่ นอกจากเฉพาะในกรณียกเว้นจริง ๆ เท่านั้น บ้างเห็นว่า การพบปะเจรจาแบบสุดยอดมักจะกลายสภาพเป็นการโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์มากกว่า ที่จะเป็นการเจรจากันอย่างแท้จริง เพราะมีอันตรายอยู่ว่า ผู้ร่วมเจรจามักจะแสดงความคิดเห็นตามความรู้สึกมากกว่าตามข้อเท็จจริง เพราะมัวแต่เป็นห่วงและคำนึงถึงประชามติในประเทศของตนมากเกินไปนอกจากนี้ ผู้เจรจาไม่อยู่ในฐานะที่จะให้ข้อลดหย่อนหรือทำการประนีประนอม ( ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งหากจะให้เจรจาบังเกิดผล) เพราะกลัวเสียหน้าหากกระทำเช่นนั้น ตามปกติ ถ้าให้นักการทูตเป็นผู้เจรจา เขาจะมีโอกาสมากกว่าที่จะใช้วิธีหลบหลีกอันชาญฉลาดในการเจรจาต่อรอง เพื่อให้เป็นผลตามที่มุ่งประสงค์ [การทูต] |
above one's station | (idm) มีฐานะหรือตำแหน่งทางสังคมสูงกว่า (บางคน) |
above someone's head | (idm) ยากเกินกว่าจะเข้าใจ, See also: ฉลาดเกินกว่า บางคน จะเข้าถึง |
absolve from | (phrv) ยกโทษให้, See also: ประกาศว่า บางคน ไม่มีความผิด |
absolve of | (phrv) ยกโทษให้, See also: ประกาศว่า บางคน ไม่มีความผิด |
adopt as | (phrv) เลือก (บางคน) เป็นตัวแทน |
advise about | (phrv) แนะนำ (บางคน) ให้ทำบางสิ่ง, See also: แนะให้ปฏิบัติ, Syn. advise on |
advise on | (phrv) แนะนำ (บางคน) ให้ทำบางสิ่ง, See also: แนะให้ปฏิบัติ, ให้ความเห็น, Syn. advise about |
all right with someone | (idm) (บางคน) ยอมรับได้, See also: ไม่ว่าอะไร |
apologize to | (phrv) ขอโทษต่อ, See also: ขอโทษ บางคน ที่ |
apple of someone's eye | (idm) คนพิเศษของบางคน, See also: คนโปรดของบางคน |
at the expense of | (idm) ด้วยการทำลายบางสิ่งหรือบางคน, See also: ด้วยการสูญเสียบางอย่าง |
bankable | (adj) ซึ่งเก็บเงินไว้ให้บางคน |
be beyond | (phrv) ยากเกินไปสำหรับ(บางคน)เข้าใจหรือทำได้, See also: ยากที่จะทำได้ |
be hard on | (phrv) ปฏิบัติกับ (บางคน) อย่างหยาบคายมาก, See also: กระทำรุนแรงกับ, เลวร้ายกับ |
be within earshot of | (idm) ได้ยิน (โดยบางคนหรือจากสถานที่), Syn. come within |
beat into | (phrv) สอน (บางสิ่ง) ให้กับ (บางคน) โดยบีบบังคับ, See also: สอนด้วยการบังคับ, Syn. hammer into |
billet on | (phrv) ตั้งค่ายทหารในพื้นที่ของ (บางคน), See also: เตรียมที่พักให้ทหาร |
bleed for | (phrv) เสียใจมากกับ (บางคน) (คำไม่เป็นทางการ ใช้เมื่อเสแสร้งเสียใจ) |
bridge over | (phrv) หาทางจัดการกับ, See also: หาทางช่วยบางคน, Syn. tide over |
bring something to bear on | (idm) ทำให้มีอิทธิพลต่อ, See also: ทำให้ บางคน ทำบางสิ่ง |
bring under | (phrv) เข้ากุมอำนาจและทำให้ (บางคน) พ่ายแพ้, See also: บังคับให้ยอมจำนน, Syn. keep down |
build on | (phrv) มั่นใจในการทำบางสิ่ง, See also: อาศัย, พึ่งพา บางสิ่งหรือบางคน, Syn. depend on |
bunk up | (phrv) ช่วย(บางคน)ให้ขึ้นไปถึงที่สูง (คำไม่เป็นทางการ), Syn. ช่วยดันขึ้นไป |
chop off | (phrv) หยุด (บางคน) ไม่ให้พูด, See also: ทำให้เลิกพูด |
count out | (phrv) ตระหนักดีว่า (บางคน) ไม่มีคุณค่า (คำไม่เป็นทางการ) |
cover in | (phrv) ทำให้มี (บางสิ่งหรือบางคน) จำนวนมากที่ส่วนบนสุด |
cupboard love | (idm) ความรักที่มีให้กับบางคนเพื่อหวังจะได้บางสิ่งเช่น อาหาร, เสื้อผ้า ฯลฯ |
curse with | (phrv) โชคร้ายที่มี (บางสิ่งหรือบางคน), Ant. bless with |
despair of | (phrv) รู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับ (พฤติกรรมของบางคน), See also: หนักใจในเรื่อง |
differentiate between | (phrv) ปฏิบัติต่อ (บางคน) อย่างไม่ยุติธรรม, Syn. discriminate between |
do somehow by someone | (idm) ปฏิบัติบางอย่างต่อบางคน |
do someone a good run | (idm) ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบางคน |
do someone's heart good | (idm) ทำให้บางคนอารมณ์ดี (คำไม่เป็นทางการ) |
fall to | (phrv) เป็นหน้าที่ของบางคนเพื่อทำบางสิ่ง, See also: ตกเป็นหน้าที่ของ, Syn. fall on |
fall to | (phrv) เป็นสิทธิของ (หลังจากการตายของบางคน), See also: เป็นอำนาจของ, ตกเป็นสมบัติของ |
feel for | (phrv) รู้สึก (บางอย่าง) กับ (บางคน), Syn. feel towards |
fill in | (phrv) ให้ข้อมูลกับ (บางคน) |
find oneself | (phrv) พบ (บางคน) ไม่อยู่บ้านหรือที่ทำงาน, See also: เจอ บางคน ไม่อยู่บ้านหรือที่ทำงาน, Syn. find in |
fit up | (phrv) ทำให้(บางคน)มีความผิด(ทั้งที่ไม่ได้ทำ)(คำสแลง), See also: จัดฉากให้มีความผิด ทั้งที่ไม่ได้ทำ คำสแลง, Syn. frame up |
follow about | (phrv) ตาม (บางคน) ไปทุกที่ |
elitism | (n) ความเชื่อที่ว่าคนบางคนสูงส่งกว่าคนอื่นและสมควรจะได้รับสิทธิพิเศษต่างจากคนอื่น |
eventful | (adj) ซึ่งมีความหมาย (ต่อชีวิตของบางคน), See also: ซึ่งมีความสำคัญ ต่อชีวิตของบางคน, Syn. important, meaningful |
exert | (vt) ใช้อำนาจ (ไปกระทบบางคนหรือบางสิ่ง), See also: ใช้อิทธิพล ไปกระทบบางคนหรือบางสิ่ง, Syn. bring to bear, put forth |
get for | (phrv) หา (บางสิ่ง) เพื่อ (บางคน / บางอย่าง), Syn. obtain for, procure for |
get wise to | (phrv) เรียนรู้ (คำไม่เป็นทางการ), See also: รู้จักบางคนหรือบางสิ่งดีขึ้น |
give best | (phrv) ยอมรับว่า (บางคน) เป็นผู้ชนะ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ยอมรับว่ายอดเยี่ยม |
give to | (phrv) ถูก (โชคชะตา) กำหนดให้กับ (บางคน) |
glance off | (phrv) ไม่มีผลกับ (บางคน) |
go out with | (phrv) คบหากับ, See also: เห็นว่าอยู่กับบางคนในที่สาธารณะ, Syn. go out |
go through | (phrv) เตรียมทำ (บางสิ่ง) เพื่อแสดงว่าจงรักภักดีหรือมีความรักต่อ (บางคน) |
Arousable | : ตื่นจากการนอนหลับ : เพื่อปลุกระดมหรือกระตุ้นให้เกิดการกระทํา : เพื่อกระตุ้น (ใครบางคน) ทางเพศ : เพื่อทําให้เกิดความเร้าอารมณ์ทางเพศใน (ใครบางคน) : เพื่อก่อให้เกิด การตอบสนองที่กระตุ้นโดยสิ่งเร้า |
connotation | (n) ความหมายพิเศษของคำซึ่งมีอยู่กับผู้ใช้ภาษาแต่ละคน เช่น "แมว" บางคนอาจนึกถึงความสะอาดน่ารัก ขณะที่บางคนอาจนึกถึงการกินหนูซึ่งสกปรกน่ารังเกียจ |
To add fuel to the fire | (slang) ทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น โดยทำให้ใครบางคนโกรธหรือเสียใจมากกว่าเดิม ex. Martha's still mad at you, so don't go adding fuel to the fire by arguing with her right now. Let her calm down, first. |
To add fuel to the fire or to add fuel to the flames | (slang) ทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น โดยทำให้ใครบางคนโกรธหรือโศกเศร้ามากกว่าแต่ก่อน ex. He not only ignored to call but he also added fuel to the flames by coming to the meeting 1 hour late. |
To add insult to injury | (slang) ทำให้บางคนรู้สึกแย่กว่าเดิมหลังจากที่คุณได้ทำให้เขาเจ็บใจหรือเสียใจไปแล้ว ex. After Adam broke up with me, he added insult to injury by telling me that his new girlfriend is my best friend. |
touch base | [ทัชเบส] (with something)การติดต่อหรือพูดคุยกับบางคนเพื่อข้อมูลบางอย่างแบบคร่าวๆ เช่น Let's touch base before the meeting. I have some important information for you. |
up to snuff | [อัพ ทู สนัพ] บางคนหรือบางสิ่งที่อยู่ในเกณฑ์หรือคุณภาพที่ยอมรับได้ (โดยมากใช้ความหมายเชิงลบ) |