วว | (n) Ministry of Science, Technology and Environment, Syn. กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม |
แวว | (n) promising, See also: foreshadowing, Syn. เค้า, Example: ว่างเว้นจากงานในสภาเมื่อไรก็ต้องเห็นนักการเมืองผู้มีแววว่าจะดังคนนี้เยือนบ้านเกิดทุกครั้ง, Thai Definition: ลักษณะที่ส่อให้เห็นว่าจะเป็นคนชนิดไร |
แวว | (n) glitter, See also: light, sparkle, glint, twinkling, Example: แม้เขาจะเป็นดาราตลกแต่ก็มีสง่าราศี ดวงตามีแววสุกใสแฝงด้วยรอยยิ้มอย่างมีเมตตา, Thai Definition: แสงที่สุกใสวูบวาบ |
แวว | (n) promising, See also: foreshowing, foreshadowing, Syn. เค้า, Example: ว่างเว้นจากงานในสภาเมื่อไรก็ต้องเห็นนักการเมืองผู้มีแววว่าจะดังคนนี้เยือนบ้านเกิดทุกครั้ง, Thai Definition: ลักษณะที่ส่อให้เห็นว่าจะเป็นคนชนิดไร |
แวว | (n) glitter, See also: light, sparkle, glint, twinkling, Example: แม้เขาจะเป็นดาราตลกแต่ก็มีสง่าราศี ดวงตามีแววสุกใสแฝงด้วยรอยยิ้มอย่างมีเมตตา, Thai Definition: แสงที่สุกใสวูบวาบ |
แววตา | (n) expression of eye |
แววตา | (n) light in one's eyes, See also: eyes expression, Example: ใบหน้าของแม่ปรากฏรอยยิ้มที่มุมปากตลอดเวลา และแววตานั้นเล่าก็มีประกายแห่งความสุขยิ่งนัก, Count Unit: คู่ |
ฉายแวว | (v) shine, See also: glitter, Example: ดวงตาของหญิงคนนั้นฉายแววปริวิตกเล็กน้อย |
ชาววัง | (n) palace people, See also: palace women, court attendant, Example: ชาววังมักมีฝีมือในการประดิดประดอยอาหารให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น, Count Unit: คน, Thai Definition: พวกผู้หญิงที่อยู่ในวัง |
วาววับ | (adj) glittering, See also: shinning, sparkling, glistening, twinkling, Syn. วาบวับ, แวววาว, แวววับ, Example: เจ้าหมาร้ายกาจตัวนั้นมีคมเขี้ยวที่วาววับ และยังมีแววตาดุร้าย, Thai Definition: ที่มีประกายแวววาว |
ส่อแวว | (v) show (one's talent), See also: show one's gift, Example: เด็กชายธัญญาเริ่มส่อแววว่าจะเป็นนักอ่านตัวยงตั้งแต่เยาว์วัย, Thai Definition: แสดงให้รู้เป็นนัยๆ ว่าจะเป็นเช่นไร |
แวววับ | (v) sparkle, See also: twinkle, glitter, glisten, flash, gleam, Syn. แวววาว, แวววาม, ระยิบระยับ, Example: แหวนของคุณแม่แวววับทุกวง เพราะเวลาว่างคุณแม่ก็จะเอามาขัดอยู่เรื่อยๆ, Thai Definition: มีแสงสุกใสวูบวาบเป็นประกายระยิบระยับ |
แวววับ | (adv) glisteningly, Syn. วับๆ, แวววาว, แวววาม, ระยิบระยับ, วิบวับ, Example: ทะเลสาบอันกว้างใหญ่ส่องแสงแวววับอยู่กลางแดด, Thai Definition: มีแสงสุกใสวูบวาบเป็นประกายระยิบระยับ |
แวววาม | (v) sparkle, See also: twinkle, glitter, glisten, flash, gleam, Syn. วับๆ, แวววาว, แวบวับ, ระยิบระยับ, Example: ตุ้มหูเพชรรูปหยดน้ำมีน้ำแวววามชวนมอง, Thai Definition: มีแสงกลอกกลิ้งอยู่ข้างใน |
แวววาม | (adv) glisteningly, Syn. วับๆ, แวววาว, แวบวับ, ระยิบระยับ, Thai Definition: มีแสงกลอกกลิ้งอยู่ข้างใน |
แวววาว | (adj) glittering, See also: glistening, sparkling, twinkling, shining, Syn. วับๆ, แวววับ, แวววาม, ระยิบระยับ, Example: ดาวหลายดวงมีประกายแวววาวบนท้องฟ้า, Thai Definition: ที่เปล่งแสงเป็นประกาย |
แวววาว | (v) glitter, See also: glint, glisten, shine, sparkle, Syn. แวววับ, แวววาม, Example: ดวงตาของเขาแวววาว แข็งกร้าวเหมือนแววตาของงูจงอาง, Thai Definition: มีแสงกลอกกลิ้งเป็นประกายอยู่ข้างใน |
แวววาว | (adv) glisteningly, Syn. วับๆ, แวววับ, แวววาม, ระยิบระยับ |
ชั่ววูบ | (adv) for a short while, See also: for a short time, Example: เขาทำลงไปด้วยลืมตัวชั่ววูบ ไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ, Thai Definition: ี่มีลักษณะไปเร็ว มาเร็ว เกิดขึ้นเร็วแล้วหายไปเร็ว |
ชีววิทยา | (n) biology, Example: เขาสนใจในวิชาชีพสองแขนงคือชีววิทยาและวิชาการแพทย์, Thai Definition: วิชาว่าด้วยสิ่งที่มีชีวิต |
เสียววาบ | (v) shudder with fear, See also: be thrilled, feel a sudden pang of fear, be in fear/suspense, Syn. เสียว, Example: เมื่อนึกถึงเหตุการณ์สยองเมื่อคืนแล้ว เขาก็เสียววาบขึ้นมาทันที, Thai Definition: รู้สึกวาบในหัวใจด้วยความกลัว, ความกำหนัด หรือความเจ็บ |
แจ๋วแหวว | (adj) bright and clear, See also: sparkling, shinning, crystal clear, crystalline, Example: ลูกกวางน้อยตัวนี้น่ารักมาก มันมีตาโตแจ๋วแหววมาก, Thai Definition: มีประกายตาสดใส |
สัตววิทยา | (n) zoology, Syn. สัตวศาสตร์, Example: ตามหลักของสัตววิทยา จัดพวกมนุษย์เข้าอยู่ในหมู่ (Group) สัตว์มีกระดูกสันหลัง, Thai Definition: วิทยาศาสตร์ชีวภาพสาขาหนึ่ง ว่าด้วยเรื่องของสัตว์ |
แวววิเชียร | (n) Angelonia goyazensis Benth (species of flowering plant), Syn. ต้นแวววิเชียร, Count Unit: ต้น, Thai Definition: ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Angelonia goyazensis Benth. ในวงศ์ Scrophulariaceae ใบเรียวยาว ดอกออกตามง่ามใบ มีสีต่างๆ เช่น ม่วงแก่ ม่วงอ่อน ขาว ใบและดอกมีกลิ่น |
จุลชีววิทยา | (n) microbiology, Example: วิชาจุลชีววิทยาเป็นวิชาที่เป็นประโยชน์แก่วงการอุตสาหรรมเป็นอันมาก, Thai Definition: วิชาที่ว่าด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก |
ทางชีววิทยา | (adj) biological, Example: ความก้าวหน้าทางชีววิทยาทำให้เกิดการขยายตัวของวิธีการทางการแพทย์, Thai Definition: ี่เกี่ยวกับศาสตร์ที่ว่าด้วยสิ่งมีชีวิต |
นักชีววิทยา | (n) biologist, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านวิชาชีววิทยา |
วันแล้ววันเล่า | (adv) day after day, Example: เธอพูดอยู่เช่นนี้วันแล้ววันเล่า จนฉันรู้สึกน่าเบื่อหน่าย, Thai Definition: เป็นอยู่เช่นนั้นทุกวันไม่เปลี่ยนแปลง |
กาววาว | ว. แวววาว, ฉูดฉาด, บาดตา, (ใช้แก่สี). |
แก้ววิเชียร | น. ชื่อโรคซางละอองเป็นฝ้าบาง ๆ ที่ขึ้นตามลิ้นหรือเพดานหรือกระพุ้งแก้ม สีขาวดั่งเนื้อในมะพร้าว มีอาการท้องอืด ลงท้องนับหนไม่ถ้วน. |
คอรูปตัววี | น. คอเสื้อที่ตัดแหลมตรงกลางคล้ายรูปตัว V, คอวี หรือ คอแหลม ก็เรียก. |
จับตัววางตาย | ก. กำหนดลงไปแน่นอนไม่เปลี่ยนแปลง, กำหนดตัวบุคคลให้ประจำหน้าที่โดยเฉพาะ. |
แจ๋วแหวว | ว. มีประกายสดใส. |
ชั่ววูบ | น. ระยะเวลาที่รวดเร็ว เกิดขึ้นทันทีทันใด เช่น อารมณ์ชั่ววูบ. |
ชาวรั้วชาววัง | ดู ชาววัง. |
ชาววัง | น. ผู้หญิงที่รับราชการอยู่ในวัง เช่น ข้าหลวง ชาวที่ โขลน, ภาษาปากว่า ชาวรั้วชาววัง |
ชาววัง | เรียกสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับฝีมือหรือแบบอย่างของชาววัง มักมีลักษณะพิเศษ ประณีต และสวยงาม เช่น อาหารตำรับชาววัง ตุ๊กตาชาววัง. |
ชาววัด | น. คฤหัสถ์ที่ไปทำบุญฟังเทศน์ฟังธรรมที่วัดเป็นประจำ. |
ชีววิทยา | น. วิชาว่าด้วยสิ่งที่มีชีวิต. |
ชีววาร | น. วันพฤหัสบดี, คุรุวาร หรือ พฤหัสปติวาร ก็ว่า. |
ตาไม่มีแวว | ว. ไม่รู้จักของดี เช่น เขาเป็นคนตาไม่มีแวว มีของดีมาให้เลือกแต่กลับไปเลือกของเลว. |
ตาแวว | ว. ลักษณะของตาที่มีความไวในการเห็นภัยอันตราย, หวาดระแวง, เช่น กาตาแววเห็นธนู. |
แต่วัน, แต่หัววัน | ว. ก่อนเวลากำหนดมาก เช่น งานเริ่มทุ่มหนึ่ง มาแต่วันเชียว, ก่อนเวลาที่ควรเป็น (มักใช้เฉพาะเวลาช่วงบ่ายค่อนไปทางเย็น) เช่น วันนี้กลับบ้านแต่วัน กินข้าวแต่วัน กินเหล้าแต่หัววัน. |
เทววิทยา | น. วิชาว่าด้วยพระเป็นเจ้าและความสัมพันธ์ระหว่างพระเป็นเจ้ากับโลก. |
เทววาจิกสรณคมน์ | (ทะเววาจิกะสะระนะคม) น. การเปล่งวาจาถึงรัตนะ ๒ คือ พระพุทธเจ้าและพระธรรมว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก เพราะเวลานั้นยังไม่มีพระสงฆ์ เป็นสรณคมน์ที่ตปุสสะและภัลลิกะกล่าวหลังจากที่ได้ถวายข้าวสัตตุก้อนสัตตุผงแด่พระพุทธเจ้าในสัปดาห์ที่ ๔ หลังจากตรัสรู้. |
นววิธ | (-วิด) ว. ๙ ประการ, ๙ อย่าง. |
พระแวว | ว. แพรว, แวววาว, มีแสงวับ ๆ. |
มีตาแต่หามีแววไม่ | ก. ดูแต่ไม่ลึกซึ้ง, เซ่อ. |
วันแล้ววันเล่า | ว. เป็นเช่นนั้นติดต่อกันยาวนานไม่เปลี่ยนแปลง เช่น ทำงานวันแล้ววันเล่าไม่รู้จักเสร็จ คอยวันแล้ววันเล่าก็ไม่มาสักที. |
ว่าแล้วว่าอีก | ก. พูดหรือตำหนิติเตียนซ้ำซาก. |
วาววับ | ว. มีประกายแวววาว เช่น เสื้อปักดิ้นเดินทองวาววับ. |
วาววาม | ว. เป็นแสงวูบวาบ เช่น แสงเพชรวาววาม. |
วาวแวว | ว. มีแสงกลอกกลิ้งอยู่ข้างใน เช่น แหวนเพชรวงนี้มีน้ำวาวแวว, แวววาม หรือ แวววาว ก็ว่า. |
วี่แวว | น. เค้าเงื่อนตามที่แว่วมา, ร่องรอย, เช่น ของหายไปไม่มีวี่แวว. |
เววัณ | ว. ต่างวรรณะกัน. |
เววัณณิยะ | น. ความเป็นผู้มีวรรณะต่างกันหรือต่างเพศกัน เช่นเพศบรรพชิตต่างกับเพศคฤหัสถ์. |
แวว | ว. สุกใส, วูบวาบ, เช่น ดวงตาฉายแววแห่งความสุข ขัดหัวเข็มขัดเสียแวว เพชรซีกมีแววน้อยกว่าเพชรลูก. |
แวว | น. ลักษณะที่แสดงให้เห็นว่าจะเป็นคนชนิดไร, เค้า, ร่องรอย, เช่น เด็กคนนี้มีแววจะเป็นนักปราชญ์ต่อไป เขาไม่มีแววว่าจะสอบได้ |
แวว | กระจกเงาที่ตัดเป็นวงกลม ๆ เล็ก ๆ ใช้ติดตกแต่งเป็นไส้ลวดลายปูนปั้นหรืองานไม้แกะสลักปิดทอง. |
แววตา | น. สิ่งเป็นเยื่อบาง มีลักษณะใสเป็นแสงวาวดั่งแก้ว หุ้มด้านนอกของดวงตา, ความรู้สึกที่ปรากฏออกทางตาทำให้รู้ว่ารักหรือเกลียดเป็นต้น เช่น ดูแววตาก็รู้ว่ารักหรือชัง ใบหน้าและแววตาปรากฏความเบื่อหน่าย |
แววตา | โดยปริยายหมายความว่า เป็นยอดรักประดุจดวงตา เช่น โอ้พ่อพลายแก้วแววตา มรณาแน่แล้วฤๅอย่างไร (ขุนช้างขุนแผน). |
แวววาม, แวววาว | ก. มีแสงกลอกกลิ้งอยู่ข้างใน เช่น เพชรเม็ดนี้มีน้ำงาม มีแสงแวววาว, วาวแวว ก็ว่า. |
แววหัวตัวหนังสือ | น. หัวของพยัญชนะไทยบางตัวที่มีลักษณะเป็นวงกลม เช่นหัวตัว ค ด ง ถ. |
แววหางนกยูง | น. ตอนปลายของหางนกยูงที่เป็นวงกลม ๆ มีลักษณะเป็นแสงสีสันเลื่อมเป็นมัน. |
แวววิเชียร | น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Angelonia goyazensis Benth. ในวงศ์ Scrophulariaceae ใบเรียวยาว ดอกออกตามง่ามใบ มีสีต่าง ๆ เช่น ม่วงแก่ ม่วงสลับขาว ชมพู ขาว ใบและดอกมีกลิ่น. |
ไววรรณ | น. สีจาง, สีซีด. |
สัตววิทยา | น. วิทยาศาสตร์ชีวภาพสาขาหนึ่ง ว่าด้วยเรื่องของสัตว์. |
หัวว่าว | ดู กระแตไต่ไม้ ๒. |
กรมธรรม์ | (กฺรมมะทัน) น. เอกสารสัญญาซึ่งทำขึ้นตามที่กฎหมายกำหนด เช่น เอกสารที่ทาสลูกหนี้ยินยอมให้กรมการอำเภอทำให้ไว้แก่เจ้าหนี้นายเงิน สัญญาขายฝากที่ไร่ที่สวน, คำนี้เรียกเต็มว่า สารกรมธรรม์ หรือย่อว่า สารกรม, บางทีเรียกเพียงคำเดียวว่า กรม ก็มี เช่น กู้หนี้ถือสีนกันเข้าชื่อในกรมหลายคน (สามดวง). |
กรรกศ | (กันกด) ว. หยาบช้า, เขียนเป็น กรรกษ ก็มี เช่น อันว่าพระญาติท่ววไท้ บมิหวังไหว้พระตถาคต ใจแลไปกรรกษ บารนีฯ (ม. คำหลวง ทศพร). |
กระเจิดกระเจิง | ก. แตกหนีไปคนละทิศละทาง เช่น กองทัพข้าศึกถูกตีแตกกระเจิดกระเจิงไป, แตกหมู่เพ่นพ่านไป เช่น ฝูงวัววิ่งหนีกระเจิดกระเจิงไป, บางทีใช้ว่า กระเจอะกระเจิง. |
กระดก ๒ | ก. ตระหนก, กลัว, เช่น ก็กระดกตกใจกลววแก่มรณภยานตราย (ม. คำหลวง ชูชก). |
กระแตไต่ไม้ ๒ | น. ชื่อเฟินอิงอาศัยชนิด Drynaria quercifolia (L.) J. Sm. ในวงศ์ Polypodiaceae ขึ้นเกาะตามต้นไม้ใหญ่ในป่าที่ชุ่มชื้น เหง้ามีขนเป็นปุยสีนํ้าตาลแก่คล้ายกระแต ใบมี ๒ ชนิด คือ ใบสร้างอับสปอร์ ยาวประมาณ ๑ เมตร เว้าเป็นแฉกลึกเกือบถึงเส้นกลางใบ และมีอับสปอร์เป็นจุด ๆ สีนํ้าตาลเข้มใต้ใบ ใบไม่สร้างอับสปอร์ ขนาดประมาณฝ่ามือ ขอบจักหยาบ ๆ สีนํ้าตาล แข็งติดอยู่กับเหง้าจนผุ ไม่หล่นเหมือนใบสร้างอับสปอร์ ทำหน้าที่กักปุ๋ย, กระปรอกว่าว ใบหูช้าง สไบนาง สะโมง หรือ หัวว่าว ก็เรียก. |
กระบอกหัว | น. กะโหลกหัว เช่น อีกกระบอกหววมึงกูจะผ่า (ม. คำหลวง ชูชก), ปักษ์ใต้ว่า บอกหัว. |
กระยาง ๑ | น. ขาหยั่ง เช่น อ้ายเหล่าเที่ยววิด พบหนองป้องปิด ทำเปนเชิงราง เอาไม้สามอัน ปักไว้เปนกระยาง แขวนโพงตรงกลาง สาดนํ้าเอาปลา (คำพากย์เรื่องสุบิน), เขียนเป็น กระหยาง ก็มี เช่น ปักไว้เปนกระหยาง (สุบินคำพากย์). |
กระเห็น | น. อีเห็น เช่น กระเห็นเห็นกันแล้ววิ่งมา (รามเกียรติ์ ร. ๑). |
กรุ้งกริ่ง | (กฺรุ้งกฺริ่ง) ก. แสดงสีหน้า แววตา และท่าทางเจ้าชู้, กรุ้มกริ่ม ก็ว่า. |
กรุ้มกริ่ม | (กฺรุ้มกฺริ่ม) ก. แสดงสีหน้า แววตา และท่าทางเจ้าชู้ เช่น เห็นผู้หญิงเดินผ่านมาก็ทำกรุ้มกริ่มขึ้นมาทันที, กรุ้งกริ่ง ก็ว่า. |
proof, ontological | การให้เหตุผลทางภววิทยา, ข้อพิสูจน์ทางภววิทยา [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
phthisiophobia | อาการกลัววัณโรค [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
psychobiology | จิตชีววิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
pathobiology | ๑. พยาธิชีววิทยา๒. พยาธิวิทยา [ มีความหมายเหมือนกับ pathology ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
liberation theology | เทววิทยาแบบอิสระ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
radiobiology | รังสีชีววิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
splanchnography | อวัยววรรณนา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
single-V butt weld | รอยเชื่อมชนรูปตัววีเดี่ยว [การเชื่อม ๒๐ ก.ย. ๒๕๔๔] |
science fiction | บันเทิงคดีแนววิทยาศาสตร์ [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] |
organology | อวัยววิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
ontological argument; ontological proof | การให้เหตุผลทางภววิทยา, ข้อพิสูจน์ทางภววิทยา [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
ontological proof; ontological argument | การให้เหตุผลทางภววิทยา, ข้อพิสูจน์ทางภววิทยา [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
ontology | ภววิทยา [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
argument, ontological | การให้เหตุผลทางภววิทยา, ข้อพิสูจน์ทางภววิทยา [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
architrave | ๑. หน้ากระดานทับหลัง๒. บัวปิดแนววงกบ [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
analyser; analyzer | ๑. ตัววิเคราะห์, เครื่องวิเคราะห์๒. โปรแกรมวิเคราะห์ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] |
quit, notice to | ๑. หนังสือบอกกล่าวให้ออกจากสถานที่๒. หนังสือบอกกล่าวว่าจะออกจากสถานที่ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
blank | ๑. หน้าว่าง๒. ตัวว่าง๓. พื้นที่ว่าง๔. ว่าง [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] |
blank | ๑. หน้าว่าง๒. ตัวว่าง๓. พื้นที่ว่าง๔. ว่าง [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
biologist | นักชีววิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
biology | ชีววิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
biological control | การควบคุมโดยชีววิธี [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] |
bioassay | การสอบปริมาณโดยชีววิธี [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
bioassay | การหาปริมาณโดยชีววิธี [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] |
biocycle | ชีววัฏจักร [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] |
metric | ตัววัด [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] |
microbiologist | นักจุลชีววิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
microbiology | จุลชีววิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
microbiology, clinical | จุลชีววิทยาคลินิก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
y network | ข่ายสายรูปตัววาย [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
circum-Pacific belt | แนววงรอบแปซิฟิก [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] |
clinical microbiology | จุลชีววิทยาคลินิก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
critical velocity | ความเร็ววิกฤต [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕] |
double-V butt weld | รอยเชื่อมชนรูปตัววีคู่ [การเชื่อม ๒๐ ก.ย. ๒๕๔๔] |
guilty knowledge | การรู้ตัวว่าเป็นความผิด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
flashing speed | อัตราเร็ววาบ [การเชื่อม ๒๐ ก.ย. ๒๕๔๔] |
zoography | สัตววรรณนา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
V-engine; V-type engine | เครื่องยนต์แบบรูปตัววี [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕] |
V-engine; V-type engine | เครื่องยนต์แบบรูปตัววี [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
V-gouge | สิ่วร่องรูปตัววี (V) [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
V-shaped valley | หุบเขารูปตัววี [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] |
V-trough collector | ตัวเก็บรังสีแบบรางตัววี [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕] |
V-trough concentrator | ตัวรวมรังสีแบบรางตัววี [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕] |
V-type engine; V-engine | เครื่องยนต์แบบรูปตัววี [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕] |
V-type engine; V-engine | เครื่องยนต์แบบรูปตัววี [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
trajectory | แนววิถี [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
trachelology | คีววิทยา, วิทยาคอ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
theology | เทววิทยา [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
notice of dishonour | คำบอกกล่าวว่าตั๋วเงินขาดความเชื่อถือ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
notice of intended prosecution | คำบอกกล่าวว่าจะฟ้องคดี [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
Innovation | นวัตกรรม, นวัตกรรม หรือนวกรรม หมายถึง วิธีการปฏิบัติใหม่ๆ ที่แปลกไปจากเดิม โดยอาจจะได้มาจากการคิดค้นพบวิธีการใหม่ๆ ขึ้นมา หรือการปรุงแต่งของเก่าให้ใหม่และเหมาะสม และสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ได้รับการทดลองพัฒนาจนเป็นที่เชื่อถือได้แล้วว่าได้ผลดีในทางปฏิบัติ ทำให้ระบบก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น โดย มีหลักการที่สำคัญอยู่ 3 ประการ ที่จัดเป็นหลักพิจารณาว่าสิ่งใดเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาหรือไม่ คือ <ul><li>สิ่งนั้นควรเป็นสิ่งที่ค้นพบ หรือประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ หรือการปรับปรุงแต่งของเก่าให้ใหม่เหมาะสมกับกาลสมัยมาใช้ในวงการศึกษา เพื่อให้ระบบการศึกษาก้าวหน้าไปอย่างมีประสิทธิภาพ</li><li>ได้ผ่านการทดลอง การปรับปรุงพัฒนา จนเป็นที่ยอมรับกับอย่างแพร่หลาย</li><li>ได้มีการนำมาปฏิบัติจริงในวงการนั้น</li></ul> [เทคโนโลยีการศึกษา] |
Fertilization (Biology) | ปฏิสนธิ (ชีววิทยา) [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Biology | ชีววิทยา [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Bioaccumulation | การสะสมทางชีววิทยา [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Agricultural microbiology | จุลชีววิทยาทางการเกษตร [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Marine microbiology | จุลชีววิทยาทางทะเล [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Soil biology | ชีววิทยาของดิน [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Population biology | ชีววิทยาประชากร [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Protozoology | โปรโตซัววิทยา [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Veterinary protozoology | โปรโตซัววิทยาทางสัตวแพทยศาสตร์ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Surface (Technology) | พื้นผิววัสดุ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Ontology | ภววิทยา [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Evolution (Biology) | วิวัฒนาการ (ชีววิทยา) [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Cultures (Biology)) | การเพาะเลี้ยง (ชีววิทยา) [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Clearance | การปล่อยผ่าน, 1. การให้สารกัมมันตรังสีหรือวัสดุกัมมันตรังสีพ้นจากการดำเนินการภายใต้การควบคุมทางด้านการป้องกันอันตรายจากรังสี โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย 2. กระบวนการทางชีววิทยาในการขจัดสารกัมมันตรังสีออกจากอวัยวะหรือร่างกาย [นิวเคลียร์] |
Contamination | การเปื้อนสารกัมมันตรังสี, สารกัมมันตรังสีทั้งในรูปของแข็ง ของเหลว และแก๊ส ที่ปนเปื้อนในอาหาร น้ำ อากาศ หรือเปรอะเปื้อนที่พื้นผิววัสดุ อุปกรณ์ ร่างกาย และหรือบริเวณที่ต้องการใช้งาน ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่เจตนา เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ [นิวเคลียร์] |
Electron linear accelerator | เครื่องเร่งอิเล็กตรอนเชิงเส้น, เครื่องเร่งอิเล็กตรอน ที่อิเล็กตรอนถูกเร่งให้วิ่งเป็นเส้นตรงด้วยสนามไฟฟ้า มีสองแบบคือ แบบที่อิเล็กตรอนถูกควบคุมด้วยสนามไฟฟ้าสถิต และแบบที่ควบคุมด้วยสนามไฟฟ้าย่านความถี่คลื่นวิทยุ สามารถเร่งลำอิเล็กตรอนให้มีพลังงานระหว่าง 0.1-10 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ แบบแรกให้พลังงานของอิเล็กตรอนต่ำกว่าแบบหลัง เครื่องเร่งชนิดนี้เหมาะสำหรับงานวิจัยทางฟิสิกส์ และการปรับปรุงคุณภาพวัสดุหรือผลิตภัณฑ์ เช่น งานเคลือบผิววัตถุและงานผลิตเวชภัณฑ์ปลอดเชื้อ, Example: [นิวเคลียร์] |
Science news | ข่าววิทยาศาสตร์ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Variation (Biology) | ความผันแปร (ชีววิทยา) [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Radioecology | นิเวศวิทยารังสี, การศึกษาผลกระทบของสารกัมมันตรังสีที่มีในธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้นต่อระบบนิเวศ สารกัมมันตรังสีอาจมีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบและสมบัติทางเคมีของตัวมันเอง และมีวัฏจักรการเคลื่อนย้ายในระบบนิเวศภายในกลุ่มหรือระหว่างกลุ่มของสิ่งมีชีวิตกับสิ่งไม่มีชีวิต (หิน ดิน น้ำ และอากาศ) ในสภาวะแวดล้อมต่างๆ กัน เข้าสู่ห่วงโซ่อาหารของสิ่งมีชีวิต ส่งผลกระทบทางชีววิทยาและการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ [นิวเคลียร์] |
Radiobiology | ชีววิทยารังสี, วิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งที่ศึกษาผลของรังสีชนิดก่อไอออนต่อสิ่งมีชีวิต ตั้งแต่การดูดกลืนรังสีจนถึงผลที่แสดงออกมาทั้งในระยะสั้น และระยะยาว รวมถึงศึกษาปฏิกิริยาและความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับรังสี [นิวเคลียร์] |
Radioactive contamination | การเปื้อนสารกัมมันตรังสี, สารกัมมันตรังสีทั้งในรูปของแข็ง ของเหลว และแก๊ส ที่ปนเปื้อนในอาหาร น้ำ อากาศ หรือเปรอะเปื้อนที่พื้นผิววัสดุ อุปกรณ์ ร่างกาย และหรือบริเวณที่ต้องการใช้งาน ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่เจตนา เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายได้, Example: [นิวเคลียร์] |
Radiation biology | ชีววิทยารังสี, วิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งที่ศึกษาผลของรังสีชนิดก่อไอออนต่อสิ่งมีชีวิต ตั้งแต่การดูดกลืนรังสีจนถึงผลที่แสดงออกมาทั้งในระยะสั้น และระยะยาว รวมถึงศึกษาปฏิกิริยาและความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับรังสี [นิวเคลียร์] |
Microbiology | จุลชีววิทยา [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Proportional counter | เครื่องนับรังสีแบบสัดส่วน, เครื่องวัดรังสีที่ใช้หลักการนับจำนวนสัญญาณไฟฟ้า ซึ่งเป็นสัดส่วนโดยตรงกับจำนวนของไอออนที่เกิดขึ้นเมื่อมีรังสีชนิดก่อไอออนผ่านเข้าไปในหัววัดชนิดบรรจุแก๊ส [นิวเคลียร์] |
Oxygen enhancement ratio | อัตราส่วนการเสริมผลของออกซิเจน, โออีอาร์, อัตราส่วนเปรียบเทียบปริมาณรังสีที่มีผลต่อเซลล์หรือสิ่งมีชีวิตเมื่อไม่มีและมีออกซิเจน ที่ก่อให้เกิดผลทางชีววิทยาเหมือนกัน ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน <br> OER = ปริมาณรังสีเมื่อไม่มีออกซิเจน / ปริมาณรังสีเมื่อมีออกซิเจน </br> <br>(ดู radiosensitizer ประกอบ)</br>, Example: [นิวเคลียร์] |
Nuclear gauge | เครื่องวัดเชิงนิวเคลียร์, นิวเคลียร์เกจ, เครื่องวัดและควบคุมการผลิตในอุตสาหกรรม ทำงานโดยการให้รังสีจากต้นกำเนิดรังสีชนิดปิดผนึกผ่านออกมาทางช่องผ่านไปยังวัสดุที่ต้องการวัด และมีหัววัดรังสีทำหน้าที่ตรวจวัดความเข้มของรังสี หรือจำแนกชนิดและขนาดพลังงานของรังสีซึ่งเป็นผลจากอันตรกิริยาระหว่างรังสีกับวัสดุนั้น ค่าที่วัดได้จะถูกใช้เป็นตัวแปรในอุปกรณ์ควบคุมกระบวนการผลิต เช่น ใช้ควบคุมความหนาแน่นของวัสดุในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เหล็ก ซีเมนต์ ควบคุมความหนาของแผ่นวัสดุในอุตสาหกรรมกระดาษ พลาสติก ควบคุมความชื้นของวัสดุในอุตสาหกรรมถ่านหิน เหล็ก แก้ว และควบคุมระดับของเหลวในอุตสาหกรรมเคมี ปิโตรเคมี, Example: [นิวเคลียร์] |
Neutron Activation Analysis | การวิเคราะห์เชิงก่อกัมมันตภาพรังสีด้วยนิวตรอน, เอ็นเอเอ, การจำแนกชนิดและปริมาณของธาตุในสารตัวอย่างโดยใช้อนุภาคนิวตรอนเป็นตัวกระทำให้เกิดกัมมันตภาพรังสีแก่สารตัวอย่างที่ต้องการวิเคราะห์ แล้ววัดรังสีแกมมาเฉพาะตัวที่ปลดปล่อยจากนิวไคลด์รังสีที่เกิดขึ้น <br>(ดู activation ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์] |
Microbiology | จุลชีววิทยา [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Medical microbiology | จุลชีววิทยาทางการแพทย์ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Soil microbiology | จุลชีววิทยาทางดิน [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Industrial microbiology | จุลชีววิทยาอุตสาหการ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Marine biology | ชีววิทยาทางทะเล [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Freshwater biology | ชีววิทยาน้ำจืด [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Space biology | ชีววิทยาอวกาศ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Biologist | นักชีววิทยา [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Zoologist | นักสัตววิทยา [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Stream ecology | นิเววิทยาลำน้ำ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Passive Artificial Leg | ขาเทียมแบบไม่ใช้อุปกรณ์เพิ่มกำลัง, ขาเทียมที่มีการปรับอัตราความหน่วงในการเดิน โดยใช้ประโยชน์จาก สปริง และแดมเปอร์ (damper) ไม่มีตัววัดค่าและและคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน [Assistive Technology] |
Zoological specimens | ตัวอย่างทางสัตววิทยา [TU Subject Heading] |
Zoologists | นักสัตววิทยา [TU Subject Heading] |
Zoology | สัตววิทยา [TU Subject Heading] |
Zoology, Economic | สัตววิทยาเชิงเศรษฐกิจ [TU Subject Heading] |
Activated sludge process | กระบวนการบำบัดน้ำเสียทางชีววิทยา, Example: กระบวนการบำบัดน้ำเสียที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ประกอบด้วยถังเติมอากาศเพื่อให้จุลินทรีย์ใช้ออกซิเจนในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำจนเกิดเป็นตะกอนและถังตกตะกอนเป็นหลัก เรียกในชื่อต่างๆ กัน เช่น กระบวนการแอกทิเวเต็ดสลัดจ์, , กระบวนการสลัดจ์ไวงาน กระบวนการเอเอส [สิ่งแวดล้อม] |
Adaptation (Biology) | การปรับตัว (ชีววิทยา) [TU Subject Heading] |
Agricultural microbiology | จุลชีววิทยาการเกษตร [TU Subject Heading] |
Aquatic biology | ชีววิทยาทางน้ำ [TU Subject Heading] |
Biological assay | ชีววิเคราะห์ [TU Subject Heading] |
Biological control | การควบคุมโดยชีววิธี [TU Subject Heading] |
Biological laboratories | ห้องปฏิบัติการชีววิทยา [TU Subject Heading] |
อารมณ์ชั่ววูบ | [ārom chūa wūp] (x) EN: impulse |
บัววิคตอเรีย | [būa Wiktørīa] (n, exp) EN: Giant water lily ; Victoria water lily ; Amazon water lily ; Royal water lily ; Water Maize |
ชีววิทยา | [chīwawitthayā] (n) EN: biology FR: biologie [ f ] |
ชีววิทยาเชิงคำนวณ | [chīwawitthayā choēng khamnūan] (n, exp) EN: computational biology |
ชีววิทยาของเซลล์ | [chīwawitthayā khøng sel] (n, exp) EN: cell biology FR: biologie cellulaire [ f ] |
ชีววิทยาของเซลล์ทางการแพทย์ | [chīwawitthayā khøng sel thāng kān phaēt] (n, exp) EN: medical cell biology |
ดาวว่าว | [dāo Wao] (n, prop) EN: Southern Cross FR: Croix du Sud [ f[ |
โดยกลัวว่า | [dōi klūa wā] (x) FR: de peur que ; par crainte de |
หัววาซาบิ | [hūa wāsābi] (n, exp) EN: Wasabi FR: raifort japonais [ m ] |
จุลชีววิทยา | [junchīwawitthayā] (n) EN: microbiology FR: microbiologie [ f ] |
การรู้ตัวว่าเป็นความผิด | [kān rūtūa wā pen khwāmphit] (n, exp) EN: knowledge of wrongdoing |
ข่าววิทยุ | [khāo witthayu] (n, exp) FR: journal parlé [ m ] |
ความคล่องแคล่วว่องไว | [khwām khløngkhlaēo wongwai] (n, exp) EN: deftness |
กล่าวว่า | [klāo wā] (v, exp) FR: déclarer que |
แมววิเชียรมาศ | [maēo wichīen māt] (n, exp) EN: Siamese cat ; Moon Diamond FR: siamois [ m ] ; chat siamois [ m ] |
นักชีววิทยา | [nakchīwawitthayā] (n) EN: biologist FR: biologiste [ m ] |
นักสัตววิทยา | [nak sattawawitthayā] (n) EN: zoologist FR: zoologiste [ m, f ] |
ผีเสื้อหางติ่งแววมยุรา | [phīseūa hāng ting waēo mayurā] (n, exp) EN: Common Peacock |
ผีเสื้อแวววาวเทา | [phīseūa waēowāo thao] (n, exp) EN: Grey Tinsel |
สัตววิทยา | [sattawawitthayā] (n) EN: zoology FR: zoologie [ f ] |
ถือตัวว่าเป็น | [theūtūa wā pen] (v, exp) EN: regard oneself as |
เทววิทยา | [thēwawitthayā] (n) EN: theology FR: théologie [ f ] |
แวว | [waēo] (n) EN: glitter ; light ; sparkle ; glint ; twinkling ; gleam FR: lueur [ f ] ; étincelle [ f ] ; éclat [ m ] |
แวว | [waēo] (n) EN: talent ; gift ; genius ; endowment FR: talent [ m ] |
แววมยุรา | [waēo mayurā] (n, exp) EN: Wishbone flower ; Bluewings, Torenia |
แววตา | [waēotā] (n) EN: light in one's eyes ; eyes expression |
แวววาม | [waēowām] (n) EN: brilliance, promise |
แวววาม | [waēowām] (v) EN: sparkle ; twinkle ; glitter ; glisten ; flash ; gleam |
แวววาม | [waēowām] (adv) EN: glisteningly |
แวววาว | [waēowāo] (n) EN: brilliance ; promise |
แวววาว | [waēowāo] (v) EN: glitter ; glint ; glisten ; shine ; sparkle |
แวววาว | [waēowāo] (adj) EN: glittering ; glistening ; sparkling ; twinkling ; shining |
แวววับ | [waēowap] (n) EN: brilliance ; promise |
แวววับ | [waēowap] (v) EN: sparkle ; twinkle ; glitter ; glisten ; flash ; gleam |
แวววับ | [waēowap] (adv) EN: glisteningly |
แวววิเชียร | [waēowichīen] (n) EN: Angelonia goyazensis Benth |
วันแล้ววันเล่า | [wanlaēwanlao] (x) EN: day after day FR: jour après jour |
agile | (adj) กระฉับกระเฉง, See also: ว่องไว, คล่องแคล่วว่องไว, Syn. quick, nimble, spry |
biological | (adj) ทางชีววิทยา, Syn. biotic, organic, natural, Ant. artificial, inorganic, unnatural. |
biologist | (n) นักชีววิทยา |
biology | (n) ชีววิทยา, Syn. naturalist |
biophysics | (n) ศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับการใช้วิธีการทางฟิสิกส์ศึกษาชีววิทยา |
caret | (n) สัญลักษณ์รูปตัววีคว่ำที่ใช้ในการตรวจพิสูจน์อักษร (เพื่อแสดงว่ามีส่วนที่ต้องเติมเข้าไป) |
catapult | (n) หนังสติ๊กรูปตัววี, See also: ไม้หนังสติ๊กรูปตัววาย Y, Syn. slingshot, sling |
chevron | (n) เครื่องหมายรูปตัววี (V) |
childproof | (adj) ที่พิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก |
daily | (adv) แต่ละวัน, See also: ทุกวัน, วันแล้ววันเล่า, Syn. every day |
day after day | (adv) วันแล้ววันเล่า, See also: หลายวันติดต่อกัน |
dazzling | (adj) สว่างสุกใส, See also: พร่างพราย, แพรวพราว, สุกใส, เป็นประกาย, แวววาว, Syn. brilliant, bright, shiny |
decompose | (vt) ทำให้เน่าเปื่อย (ทางชีววิทยา), See also: ทำให้ผุพัง, ทำให้เน่าสลาย, Syn. decay, molder, putrefy, rot, spoil |
ensiform | (adj) ซึ่งเรียวยาวและปลายแหลมคล้ายดาบ (ทางชีววิทยา), Syn. swordlike |
entomology | (n) สาขาวิชาหนึ่งทางสัตววิทยาที่ศึกษาเกี่ยวกับแมลง, See also: กีฏวิทยา |
epergne | (n) ภาชนะที่สวยงามและมีขนาดใหญ่ที่ใช้ใส่ผลไม้หรือดอกไม้แล้ววางไว้กลางโต๊ะ |
fission | (n) การแบ่งเซลล์ (ทางชีววิทยา), See also: การแตกตัวของเซลล์, การแบ่งตัวของเซลล |
give out | (phrv) ประกาศ, See also: อ้างตัวว่าเป็น, Syn. make out |
glisten with | (phrv) เป็นมันวาวด้วย, See also: เป็นเงามันด้วย, ส่องแสงเป็นประกาย, ส่องแสงแวววาว, Syn. gleam with, glitter with |
glitter with | (phrv) ระยิบระยับด้วย, See also: แวววาวด้วย, ส่องประกายแวววาวด้วย, Syn. gleam with, glisten with |
glitter with | (phrv) ฉายแวว, See also: แวววาวด้วย ความรู้สึกไม่ดีกบาลอย่าง, Syn. gleam with, glib |
Gemini | (n) ดาววัวคู่, See also: ราศีเมถุน |
germ cell | (n) เซลล์สืบพันธุ์ (ทางชีววิทยา) |
gig | (n) อาชีพชั่วครวว, See also: งานชั่วคราว, Syn. temporary job |
glint | (n) แสงวาบ, See also: แสงแวววาว, แสงสะท้อนกลับ, Syn. flash, dazzle |
glint | (vi) สะท้อนแสง, See also: ส่องแสงแวววาว, ระยิบระยับ, Syn. glitter |
glitter | (vi) ส่องแสงสุกใส, See also: ระยิบระยับ, ระยับ, พร่างพราง, แพรวพราว, ทอประกาย, เป็นประกาย, สุกใส, แวววาว, Syn. glisten, glimmer |
glitter | (n) แสงแวววาว, See also: แสงระยิบระยับ |
gloss | (n) ความแวววาว, See also: ผิวเป็นมันเงา, Syn. glow, glaze |
glow | (n) แสงแวววาว, See also: ความเป็นประกาย, ความแวววาว, Syn. brightness, radiance |
glowing | (adj) ซึ่งส่องแสงเรืองรอง, See also: ซึ่งเปล่งปลั่ง, ซึ่งมีแสงแวววาว, Syn. gleaming, lustrous |
herpetology | (n) สัตววิทยาแขนงหนึ่งที่ศึกษาเกี่ยวกับสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ |
neither hide nor hair | (idm) ไม่มีวี่แวว (ของบางคนหรือบางสิ่ง), See also: ไม่เห็นเลย |
index | (n) ตัวชี้, See also: ตัววัด, ตัวบ่งชี้, Syn. indicator, pointer |
intercellular | (adj) ซึ่งอยู่ระหว่างเซลล์ (ทางชีววิทยา), See also: ซึ่งเกิดระหว่างเซลล์ |
keep company with | (idm) เห็นกันทั่วว่าอยู่กับ |
leave well alone | (idm) พึงพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่(เพราะกลัวว่าจะเลวร้ายลงไปอีก), Syn. leave well enough alone, let alone |
leave well enough alone | (idm) พึงพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่(เพราะกลัวว่าจะเลวร้ายลงไปอีก) |
let well alone | (idm) พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่เพราะกลัวว่าจะแย่ลงไปกว่าเดิม, See also: พอใจกับสิ่งที่มีอยู่, Syn. leave alone |
kindle | (vi) ให้กำเนิด (ทางสัตววิทยา), See also: ให้ผลผลิต |
kindle | (vt) ให้กำเนิด (ทางสัตววิทยา), See also: ให้ผลผลิต |
labyrinth | (n) เขาวงกต, See also: สิ่งที่มีทางเดินคดเคี้ยววกวน, Syn. maze |
lackluster | (adj) ไม่แวววาว, See also: ไม่สด, ใส, มัว, Syn. dull, lacklustre, Ant. bright |
lacklustre | (adj) ไม่แวววาว, See also: ไม่สด, ใส, มัว, Syn. dull, lackluster, Ant. bright |
lest | (conj) ด้วยเกรงว่า, See also: เพราะกลัวว่า, Syn. for fear that |
lustrous | (adj) เป็นมันเงา, See also: เป็นมันระยับ, แวววาว, เหลือบวาว, Syn. gleaming, radiant, shimmering |
lustrously | (adv) อย่างเป็นมันเงา, See also: อย่างเป็นแวววาว, Syn. radiantly |
mammology | (n) การศึกษาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (ทางสัตววิทยา) |
microbiologically | (adv) ทางจุลชีววิทยา |
microbiologist | (n) นักจุลชีววิทยา |
acarology | (แอคคาร็อล' โลจี) n. ชีววิทยาที่เกี่ยวกับตัวเห็บหรือหมัด -acarologist n. |
aglitter | (อะกลิท' เทอะ) adj. ส่องแสงวูบวาบ, วาววับ, Syn. glittering, sparking |
aglow | (อะโกล') adj. สว่าง, วาววับ, เปล่งปลั่ง |
agueweed | (เอ' กิววีด) n. พืชจำพวก Eupatorium ในอเมริกา gentian (Gentiana quinquefolia) |
allen's law | เป็นภาวะที่เกิดในผู้ป่วยโรคเบาหวานซึ่งมีทฤษฎีนี้กล่าวว่า มีการรับคาร์โบไฮเดรตมากแต่มีการใช้ยิ่งน้อยลง |
anovulant | (แอนนอพ' ววลันท) n, ยาต้านการตกไข่ |
autogravure | (ออโทกระววว'เออะ) n. วิธีการแกะสลักบล๊อกภาพถ่าย |
biologic | (ไบโอลอจ'จิค, -เคิล) adj. เกี่ยวกับชีววิทยา n. ผลิตผลทางชีวภาพ (เช่น วัคซีน เซรุ่ม) |
biological | (ไบโอลอจ'จิค, -เคิล) adj. เกี่ยวกับชีววิทยา n. ผลิตผลทางชีวภาพ (เช่น วัคซีน เซรุ่ม) |
biologist | (ไบออล'ละจิสทฺ) n. นักชีววิทยา |
biology | (ไบออล'โลจี) n. ชีววิทยา |
blaze | (เบลซ) { blazed, blazing, blazes } n. ไฟที่ลุกโชติช่วง, ความสว่างโชติช่วง, เปลวไฟ, ลำแสงเจิดจ้า, ความแวววาว, การระเบิดออก, จุดขาวด่างบนใบหน้าสัตว์, ร่องรอยตามต้นไม้ vi. สว่างช่วงโชติ, ลุกโพลง, ลุกไหม้เป็นเปลวไฟ, เปล่งแสงเจิดจ้า, ประทุ, ระเบิด, มีอารมณ์รุนแรง, ยิงอย่างไม่หย |
brilliance | (บริล'เยินซฺ) n. ความสุกใสมาก, ความฉลาดมาก, ความหลักแหลมมาก, ความโชติช่วง, ความแวววาว, Syn. luster, radiance, genius, Ant. dullness |
brilliant | (บริล'เยินทฺ) adj. สุกใส, โชติช่วง, ฉลาดมาก, หลักแหลมมาก, แวววาว n. เพชรนิลจินดา, See also: brilliantness n. ดูbrilliant, Syn. glittering |
burnish | (เบอร์'นิ?) { burnished, burnishing, burnishes } vt. ขัดเงา, ขัดให้วาว vi. เป็นวาว. n. ความเป็นวาว, ความแวววาว., See also: burnisher n. ดูburnish burnishment n. ดูburnish |
chatoyant | adj. แวววับ |
coherer | (โคเฮีย'เรอะ) n. เครื่องมือวัดคลื่น, ตัววัดคลื่น |
convict | (คอน'วิคทฺ) { convicted, convicting, convicts } n. ผู้ที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิด, นักโทษ vt. (คัน วิคทฺ') พิสูจน์แล้วว่ากระทำผิด, ตัดสินว่าได้กระทำผิด, ทำให้รู้ว่ามีความผิดหรือมีโทษ, See also: convictable adj. ดู convictible adj. convictive adj. ดูconv |
coruscant | (คะรัส'คันท) adj. แวววับ, เป็นประกายแวววับ, สุกใส |
coruscate | (คอ'รัสเคท) vi. แวววับ, เป็นประกายแวววับ, Syn. sparkle |
day-to-day | adj. วันแล้ววันเล่า, ประจำวัน |
diurnal | (ไดเออร์'เนิล) adj. เกี่ยวกับกลางวัน, แต่ละวัน, ประจำวัน, ซึ่งออกหากินในเวลากลางวัน, ชั่ววันหนึ่ง. n. หนังสือรายวัน, อนุทินรายวัน, หนังสือพิมพ์รายวัน., See also: diurnalness n., Syn. daily |
divine | (ดิไววนฺ') adj. เกี่ยวกับพระเจ้า, ศักดิ์สิทธิ์, เคร่งศาสนา, เกี่ยวกับเทววิทยาดีเลิศ, ยอดเยี่ยม, เหนือมนุษย์, เป็นพรสวรรค์n. นักศาสนศาสตร์, ผู้ศึกษาเกี่ยวกับศาสนา, พระ, See also: the Divine พระเจ้า, เทพเจ้า, จิตวิญญาณ vi., vt. ทำนาย, คาดการณ์, พยากรณ์. divin |
equinox | (อี'ควะนอคซฺ) n. เวลาที่ดวงอาทิตย์โคจรรอบเส้นศูนย์สูตรทำให้มีกลางวันเท่ากับกลางคืน/เกิดขึ้นในราววันที่ 21 มีนาคม (vernal equinox) กับวันที่22กันยายน (autumnal equinox) |
flare | (แฟลร์) { flared, flaring, flares } vi., vt. (การ) ลุกไหม้เป็นเพลิงโชติช่วงอย่างกระทันหัน, ส่องแสงสว่างแวววับ, เดือดดาล, เกิดอารมณ์ขึ้นอย่างกะทันหัน, กางออก, บานออก, แผ่ออก, ผายออก, แสดงออกอย่างโอ้อวด, ให้สัญญาณด้วยแสงสว่างที่วอบแวบ., Syn. burn |
flaring | (แฟล'ริง) adj. ซึ่งลุกโชติช่วง, สว่างแวววับ, หรูหรา, ซึ่งค่อย ๆ บานออก., Syn. blazing |
flatbed plotter | พล็อตเตอร์แบบระนาบหมายถึงเครื่องวาดที่สามารถวาดบนแผ่นกระดาษที่วางแบน ๆ เรียบ ๆ ได้ ประกอบด้วยก้านซึ่งเคลื่อนที่ไปมาได้ มีหัววาดซึ่งอาจเป็นปากกา ดินสอ หรืออุปกรณืพิเศษอื่น ๆ ติดอยู่ ขนาดของกระดาษที่ใช้มีต่างกันตั้งแต่ 28x43 ซม. จนถึง 2.44x3.66 เมตร อัตราความเร็วของการวาดมีตั้งแต่ 15 ถึง 100 ซม. ต่อวินาที นิยมนำมาใช้วาดแผนที่ กราฟ หรือการแสดงภูมิอากาศ |
glaring | (แกล'ริง) adj. เจิดจ้า, บาดตา, แสงวาววับ, ซึ่งจ้องเขม็ง, ครึกโครม, ชัด ๆ , โต้ง ๆ, See also: glaringness n. |
glist | (กลิสท') n. แสงแวววัย, แสงระยิบระยับ, การสะท้อนแสง. |
glisten | (กลิส'เซิน) vi. ระยิบระยับ, ส่องแสงแวววับ, สะท้อนแสง., See also: glistenly adv. |
glister | (กลิส'เทอะ) vi. ส่องแสงแวววับ, ระยิบระยับ., See also: glisteringly adv., Syn. glitter |
glitter | (กลิท'เทอะ) n., vi. (สะท้อน, ส่อง) แสงแวววับ, แสงระยิบระยับ, สิ่งที่เปล่งแสงแวววับ., See also: glitteringly adv. glittery adj., Syn. gleam, glint |
gloss | (กลอส) n. ความแวววาว, ความเป็นเงามัน, ภาพลวงตา vt. เคลือบเงา, ขัดเกลา, See also: glosser n., Syn. sheen, shine |
hydraulics | (ไฮดรอ'ลิคช) n. ธาราศาสตร์, วิชาที่เกี่ยวกับกฎของของเหลวว่าด้วยกำลัง และการเคลื่อนไหว |
khz | (กิโลเฮิร์ทซ์) ย่อมาจาก Kilohertz มีค่าเท่ากับ 1, 000 เฮิร์ทซ์ เป็นหน่วยวัดจำนวนรอบต่อวินาที 1 กิโลเฮิร์ทซ์ จึงเท่ากับหนึ่งพันรอบต่อวินาที ใช้กับสัญญาณนาฬิกา ตัววัดความเร็วในการทำงานของคอมพิวเตอร์ |
lambency | (แลม'เบินซี) n. ความแวววาบของแสงหรือเปลวไฟหรือดวงตา, สิ่งที่แวววับ, ความระยิบระยับ, สิ่งที่ระยิบระยับ |
lambent | (แลม'เบินทฺ) adj. แวววาบ, ระยิบระยับ, หลักแหลม, เปล่งแสงสว่างอย่างนิ่มนวล, Syn. brilliant, radiant |
laminar flow | กระแสชั้น (อนุภาคของของเหลววิ่งเป็นชั้นที่แยกจากกัน) |
lighten | (ไล'เทิน) vi., vt. (ทำให้) เบาขึ้น, จางขึ้น, สว่างขึ้น, โล่งอก, เบิกบาน, ลดลง, ลดหย่อน, เบาขึ้น, ง่ายขึ้น, แวววับ, สว่าง, รู้, แวววับ, See also: lightener n. ดูlighten, Syn. brighten |
lustrous | (ลัส'ทรัส) adj. เป็นมันเงา, เป็นมันระยับ, แวววาว, รุ่งโรจน์, ดีเลิศ, วิเศษ., See also: lustrousness n. ดูlustrous, Syn. luminous |
microbiology | (ไมโครไบออล'โลจี) n. จุลชีววิทยา, , See also: microbiological adj. microbiologic adj. microbiologist n. |
offer | (ออฟ'เฟอะ) v., n. (การ) เสนอ, กล่าวว่าจะยกให้, มอบ, ถวาย, ให้, เสนอราคา, บอกราคา, บอกขาย, ขอแต่งงาน, แสดง, ทำให้ปรากฎ, ประมูล, บูชา, See also: offerer n. offeror n. |
oriental | (โอริเอน'เทิล, ออ'-) adj. เกี่ยวกับประเทศในบูรพาทิศ, (ไข่มุก) แวววาว, ชั้นดีมาก n. ชาวตะวันออก, (โดยเฉพาะคนจีน และญี่ปุ่น) . |
outshine | (เอาทฺไชน') v. (ทำให้) วาวกว่า, แวววาวกว่า, สว่างไสวกว่า, ดีกว่า, เด่นกว่า, เลิศกว่า., Syn. surpass |
paeleobiology | (เพลีโอไบออล'โลจี) n. ชีววิทยาที่เกี่ยวกับชีวิตของพืชและสัตว์โบราณ จากซากหินที่เหลืออยู่, See also: paleobilogic adj. paleobiological adj. |
paleobiology | (เพลีโอไบออล'โลจี) n. ชีววิทยาที่เกี่ยวกับชีวิตของพืชและสัตว์โบราณ จากซากหินที่เหลืออยู่, See also: paleobilogic adj. paleobiological adj. |
paleontography | (เพลีอันทอก'กระฟี) n. ชีววิทยาเชิงพรรณาที่เกี่ยวกับชีวิตของพืชและสัตว์โบราณ, See also: paleontographic adj. paleontographical adj. |
paleontology | (เพลีออนทอล'โลจี) n. ชีววิทยาที่เกี่ยวกับชีวิตของพืชและสัตว์โบราณ, See also: paleontologic al adj. paleontologist n., Syn. palaeontology |
parallel port | ช่องขนานหมายถึง ช่องที่ใช้เสียบสายไฟต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นตัวว่าเครื่องพิมพ์ การถ่ายโอนข้อมูลผ่านทางช่องขนานนี้ ข้อมูลจะเดินทางไปตามวงจรขนานภายในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะทำให้ไปได้เร็วกว่าช่องอนุกรมที่เรียกว่า serial port ดู serial port เปรียบเทียบ |
pasteur | (แพส'เทอ) n. Louis (ค.ศ.1822-73) นักเคมีและจุลชีววิทยาของฝรั่งเศส |
biological | (adj) เกี่ยวกับชีววิทยา, ทางชีววิทยา |
biologist | (n) นักชีววิทยา |
biology | (n) ชีววิทยา |
divinity | (n) ศาสนศาสตร์, พระเจ้า, เทพเจ้า, เทววิทยา, ความศักดิ์สิทธิ์ |
early | (adv) แต่เช้าตรู่, แต่หัวค่ำ, แต่หัววัน |
flare | (n) เปลวไฟ, แสงแวววาว, การแผ่ออก |
flare | (vi) ลุกเป็นไฟ, แผ่ออกไป, ส่องแสงแวววาว, กางออก, บานออก, เดือดดาล |
glisten | (n) แสงระยิบ, แสงวับ, แสงแวววาว, แสงระยิบระยับ |
glisten | (vi) ส่องแสงระยิบ, ส่องแสงแวววับ, ส่องแสงแวววาว |
glitter | (n) แสงประกาย, แสงแวววาว, แสงระยิบระยับ |
glitter | (vi) ส่องแสงเป็นประกาย, ส่องแสงระยิบ, ส่องแสงแวววาว |
gloss | (n) ความเป็นเงา, ความเป็นมัน, ความแวววาว |
gloss | (vt) ขัดมัน, เคลือบเงา, ทำให้ขึ้นเงา, ทำให้แวววาว |
JACK-O'-jack-o'-lantern | (n) ผีกระสือ, แสงแวววาว |
lambent | (adj) ผ่านๆไป, แลบ, เรืองแสง, แวววาว, ระยิบระยับ |
lustrous | (adj) เป็นเงา, มัน, รุ่งโรจน์, แวววาว |
orient | (adj) เกี่ยวกับตะวันออก, ซึ่งกำลังขึ้น, แวววาว |
oriental | (adj) มาจากตะวันออก, แวววาว, ชั้นดี |
outshine | (vi) เด่นกว่า, แวววาวกว่า, มีแสงมากกว่า, สว่างไสวกว่า |
phosphorescent | (adj) เรืองแสง, วาวแสง, แวววาว |
scintillate | (vi) ส่องแสงระยิบระยับ, เป็นประกาย, ส่องแสงแวววาว |
scintillation | (n) แสงแวววาว, ประกาย, แสงระยิบระยับ |
sheen | (n) ความสว่างไสว, ความแวววาว, ความเปล่งปลั่ง, ความรุ่งโรจน์ |
shimmer | (n) แสงระยิบระยับ, แสงแวววาว |
shimmer | (vi) ส่งแสงระยิบระยับ, ส่องแสงแวววาว |
shine | (n) ความสุกใส, แสงสว่าง, ความเปล่งปลั่ง, ความแวววาว |
shining | (adj) แวววาว, ส่องแสง, โชติช่วง, เปล่งเปลั่ง, ระยิบระยับ |
spark | (vi) ปล่อยไฟพะเนียง, เป็นประกาย, ส่งแสงแวววับ, เกี้ยว |
sparkle | (vi) ส่องแสงแวววับ, เป็นประกาย, เดือดเป็นฟอง |
theology | (n) ศาสนศาสตร์, วิชาเปรียญ, เทววิทยา |
zoological | (adj) เกี่ยวกับสัตววิทยา |
zoologist | (n) นักสัตววิทยา |
zoology | (n) สัตววิทยา |