เกสร | (-สอน) น. ส่วนในของดอกไม้โดยมากเป็นเส้น ๆ เช่น เกสรบัว, เรณูหรือผงเหลืองที่มีอยู่ในดอกไม้ ติดอยู่กับก้านเกสรก็มี ติดกับเมล็ดเกาะอยู่กับดอกก็มี, ส่วนสืบพันธุ์ของดอกไม้ |
เกสร | ขนสร้อยคอสิงโต เช่น เกสรสร้อยศอดังผ้ารัตกัมพล (ม. ร่ายยาว มหาพน). |
เกสรทั้งห้า | น. เกสรดอกไม้ ๕ ชนิด มี เกสรดอกพิกุล เกสรดอกบุนนาค เกสรดอกสารภี เกสรดอกบัวหลวง เกสรดอกมะลิ. |
เกสรี | (เกสะรี, เกดสะรี) น. สิงโต, สิงห์, ราชสีห์. |
ตรีเกสรมาศ | น. พิกัดตัวยาประเภทหนึ่งในตำรายาไทย จำกัดจำนวนตัวยารสเสมอเกสร ๓ อย่าง คือ ผลมะตูมอ่อน เปลือกฝิ่น เกสรบัวหลวง. |
ก้นปล่อง | น. ชื่อยุงในสกุล Anopheles วงศ์ Culicidae ที่พบทั่วไป เช่น ชนิด A. dirus Peyton & Harrison, A. minimusTheobald, A. maculatus Theobald ยุงเหล่านี้เวลาเกาะหรือดูดเลือดคนหรือสัตว์ หัวจะปักลง ก้นชี้ขึ้น ผนังด้านล่างของส่วนท้องไม่มีเกล็ด ทั้งเพศผู้และเพศเมียมีรยางค์ปากยื่นยาวออกมา ๑ คู่ ทำให้เหมือนกับมีปากเป็นสามแฉก เพศเมียดูดเลือดและบางชนิดเป็นพาหะในการนำโรคมาสู่คนและสัตว์ เช่น ไข้มาลาเรีย เพศผู้กินนํ้าหรือนํ้าหวานจากเกสรดอกไม้. |
กระโดน | น. ชื่อไม้ต้นชนิด Careya sphaerica Roxb. ในวงศ์ Lecythidaceae ชอบขึ้นในป่าเบญจพรรณที่ชุ่มชื้น ดอกมีเกสรเพศผู้จำนวนมากเป็นพู่คล้ายดอกชมพู่ ขาว หอม ดอกบานเต็มที่กว้าง ๕-๘ เซนติเมตร ผลค่อนข้างกลม ใบอ่อนใช้เป็นผัก เปลือกใช้เบื่อปลาหรือทุบเป็นแผ่นปูหลังช้าง, โดน จิก ปุย ปุยกระโดน ปุยขาว หรือ ผ้าฮาด ก็เรียก. |
กระเป๋า ๑ | กลีบดอกกล้วยไม้คล้ายรูปกรวยหรือหลอดที่อยู่ตรงกลางเป็นที่อยู่ของเกสร, ปาก ก็เรียก |
กระพุ่ม | น. ลักษณะของสิ่งที่เป็นพุ่มยอดแหลมอย่างดอกบัวตูม, (กลอน) พุ่ม เช่น ดอกพวงเผล็ดช่อ กระพุ่มห่อเกสร สลอนบุษบาบาน (ลอ), สองถันกระพุ่มกาญ- จนแมนมาเลขา (อนิรุทธ์). |
เคล้า | คลอเคลีย เช่น เคล้าแข้งเคล้าขา, เกลือก เช่น แมลงภู่เคล้าเกสรดอกไม้ |
จงกลนี | (-กนละนี) น. บัว, บัวดอกคล้ายบัวขม มีเกสรซ้อนหลายชั้น แตกก้านต่อดอกแล้วมีดอกต่อกัน ๓ ดอกบ้าง ๔ ดอกบ้าง. (ทมิฬ เจ็ง ว่า แดง กาฬนีร ว่า บัว หมายความว่า บัวแดง). |
จามจุรี ๒ | น. ชื่อไม้ต้นชนิด Albizia lebbeck (L.) Benth. ในวงศ์ Leguminosae ดอก (เกสร) อ่อนมีสีเขียวและขาว เมื่อดอก (เกสร) แก่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ใกล้โรยเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมแสด ฝักแบนยาวกว้าง ฝักอ่อนสีเขียว เมื่อแก่สีนํ้าตาลอ่อน ไม่มีรส, พฤกษ์ ซึก หรือ ซิก ก็เรียก, มักเรียกต้นก้ามปูหรือต้นจามจุรีแดง [ Samanea saman (Jacq.) Merr. ] ซึ่งเป็นไม้ต่างชนิดกันว่า ต้นจามจุรี. |
จิก ๒ | น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางหลายชนิดในสกุล Barringtonia วงศ์ Lecythidaceae ขึ้นในที่ชุ่มชื้นและที่นํ้าท่วมถึง ดอกสีขาว เกสรเพศผู้สีแดงมักออกเป็นช่อยาวห้อยเป็นระย้า เช่น จิกนา [ B. acutangula (L.) Gaertn. ] จิกบ้านหรือจิกสวน [ B. racemosa (L.) Spreng. ] จิกเล [ B. asiatica (L.) Kurz ]. |
ดอก ๑ | น. ส่วนหนึ่งของต้นไม้ที่ผลิออกจากต้นหรือกิ่ง มีหน้าที่ทำให้เกิดผลและเมล็ดเพื่อสืบพันธุ์ มีเกสรและเรณูเป็นเครื่องสืบพันธุ์ |
นากบุด | น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Mesua nervosa Planch. et Triana ในวงศ์ Guttiferae กลีบดอกสีขาว มีเกสรเพศผู้สีเหลืองจำนวนมาก. |
นารีบูร | น. เกสรเพศเมีย. |
น้ำผึ้ง ๑ | น. นํ้าหวานมีลักษณะข้นที่แมลงผึ้งเก็บสะสมเอามาจากเกสรดอกไม้ต่าง ๆ. |
ปาก | กลีบดอกกล้วยไม้คล้ายรูปกรวยหรือหลอดที่อยู่ตรงกลางเป็นที่อยู่ของเกสร, กระเป๋า ก็เรียก |
แป้งสารภี | (-สาระพี) น. แป้งที่เอาเกสรสารภีตำปนกับแป้งสำหรับทาตัว. |
ผึ้ง ๑ | น. ชื่อแมลงหลายชนิดในวงศ์ Apidae มีปีกบางใส ๒ คู่ ปีกคู่หลังเล็กกว่าปีกคู่หน้า ปากใช้ทั้งกัดอาหารและดูดกินของเหลวได้ ปล้องท้องที่อยู่ติดกับส่วนอกเล็กมาก มีขนปกคลุมตามลำตัว เป็นแมลงสังคม อยู่รวมกันเป็นฝูง แบ่งชั้นวรรณะเป็นผึ้งนางพญา ผึ้งผู้ และผึ้งงาน ผึ้งงานมีถุงสำหรับเก็บเกสรดอกไม้ที่ขาหลัง และมีเหล็กในสำหรับต่อยปล่อยน้ำพิษ ทำให้เจ็บปวด ชนิดที่รู้จักกันแพร่หลายในประเทศไทย มี ๕ ชนิด เป็นผึ้งพื้นเมืองของประเทศไทย ๔ ชนิด คือ ผึ้งหลวง ( Apis dorsataFabricius) ผึ้งโพรง ( A. cerana Fabricius) ผึ้งมิ้ม ( A. florea Fabricius) และผึ้งม้าน ( A. andrenitormis Smith) ส่วนผึ้งที่เลี้ยงกันทั่วไปนำมาจากต่างประเทศ คือผึ้งพันธุ์ (A. mellifera Linn. ), เผิ้ง ก็เรียก. |
พยับเมฆ ๒ | น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Orthosiphon aristatus (Blume) Miq. ในวงศ์ Labiatae ดอกเล็กสีขาวอมม่วงอ่อน ออกเป็นช่อยาว เกสรเพศผู้ยาว ใบใช้ทำยาได้, หญ้าหนวดแมว ก็เรียก. |
พู่ระหง | น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Hibiscus schizopetalus (Dyer) Hook.f. ในวงศ์ Malvaceae ดอกสีแดงห้อยลง กลางดอกมีเกสรเป็นพู่ยาว, หางหงส์ ก็เรียก. |
เพชรลูก | น. เพชรที่เจียระไนให้มีเหลี่ยมมุมลักษณะต่าง ๆ เช่น เหลี่ยมเกสร เหลี่ยมกุหลาบ. |
แมลงภู่ ๓ | ชื่อแมลงหลายชนิด รูปร่างคล้ายผึ้ง ต่างกันที่ขนปกคลุมลำตัวมีลักษณะเป็นแฉก ไม่เป็นขนเดี่ยว ๆ อวัยวะของปากคู่หนึ่งยื่นยาวออกมาคล้ายหนวด ขาหลัง (ขาคู่ที่ ๓) บริเวณส้นมีหนามแหลมข้างละ ๑ อัน ไม่มีถุงเก็บเกสรเหมือนผึ้ง มีเหล็กในสำหรับต่อยปล่อยน้ำพิษได้หลายครั้งทำให้เจ็บปวด มักอาศัยอยู่เดี่ยว ๆ เป็นคู่ หรือรวม ๒-๓ คู่ แต่ไม่เป็นกลุ่มใหญ่เหมือนผึ้ง ที่พบบ่อยอยู่ในสกุล Xylocopa วงศ์ Xylocopidae เช่น ชนิด X. latipes Drury และ ชนิด X. caeruleus Fabricius. |
ยุง | น. ชื่อแมลงขนาดเล็กหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Culicidae โดยทั่วไปลำตัวยาว ๓-๖ มิลลิเมตร มีปีก ๑ คู่ ปีกมีส่วนคล้ายเกล็ดปกคลุมอยู่ตามเส้นปีกและอาจคลุมไปถึงหัวและลำตัวด้วย หนวดยาวลักษณะเป็นพู่ พู่ขนของเพศเมียสั้น ของเพศผู้ยาว ปากเป็นชนิดเจาะดูด เฉพาะตัวเมียดูดกินเลือดและเป็นพาหะนำโรคสู่คนและสัตว์ เพศผู้ดูดกินน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ เช่น ยุงรำคาญ ในสกุล Culex ยุงลาย ในสกุล Aedesยุงก้นปล่อง ในสกุล Anopheles. |
เรณุ, เรณู | น. ละออง, ละอองเกสร, นวลละอองเกสรดอกไม้. |
โรย | ก. อาการที่ดอกไม้ค่อย ๆ เหี่ยวแห้งและเริ่มหลุดร่วงไป เช่น ดอกไม้โรย ดอกจำปาโรย, อาการที่กลีบหรือเกสรดอกไม้ค่อย ๆ หลุดร่วงไป เช่น กลีบกุหลาบโรย เกสรบัวโรย |
หญ้าฝรั่น | (-ฝะหฺรั่น) น. ชื่อเรียกยอดเกสรเพศเมียแห้งของไม้ล้มลุกมีหัวชนิด Crocus sativusL. ในวงศ์ Iridaceae ใช้ทำยา เครื่องหอม และแต่งสีอาหารได้. |
เหลือบ ๑ | (เหฺลือบ) น. ชื่อแมลงหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Tabanidae รูปร่างคล้ายแมลงวันแต่ตัวโตกว่า มีปีกคู่เดียวซึ่งมักใส แต่บางชนิดเป็นลายสีต่าง ๆ เช่น นํ้าตาล นํ้าเงิน รวมทั้งสีเลื่อมพราย จึงเรียกว่า ตัวเหลือบ หนวดปล้องปลายมีลักษณะเรียวโค้งงอคล้ายเคียว ปากมีอวัยวะเป็นแผ่นคมคล้ายใบมีด และมีอวัยวะเป็นท่อใช้ดูดของเหลวกิน เพศเมียดูดกินเลือดคนและสัตว์ เพศผู้ดูดกินน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ บางชนิดเป็นพาหะนำโรคโดยเฉพาะในสัตว์ใหญ่ ส่วนใหญ่อยู่ในสกุล Tabanus และ Chrysops. |
Pollen | ละอองเกสร [TU Subject Heading] |
petal | กลีบดอก, โครงสร้างของดอกชั้นถัดจากกลีบเลี้ยงเข้าไป ทำหน้าที่ป้องกันเกสรขณะที่ดอกยังอ่อนและล่อแมลงให้มาช่วยในการถ่ายละอองเรณู มักจะมีสีต่าง ๆ สวยงาม [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
style | ก้านเกสรเพศเมีย, ส่วนของเกสรตัวเมียช่วงระหว่างยอดเกสรตัวเมียกับรังไข่ เป็นทางผ่านของหลอดละอองเรณูที่จะนำสเปิร์มนิวเคลียส เข้าผสมกับไข่ในรังไข่ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
pollination | การถ่ายเรณู, การที่ละอองเรณูพืชชนิดใดชนิดหนึ่งไปตกอยู่บนยอดเกสรตัวเมียของพืชชนิดเดียวกัน แล้วงอกหลอดละอองเรณูนำสเปิร์มนิวเคลียสเข้าไปผสมกับไข่ในออวุล การถ่ายละอองเรณูอาจเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติหรือโดยการกระทำของมนุษย์ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
stamen | เกสรเพศผู้, อวัยวะสืบพันธุ์เพศผู้ของพืชดอก ประกอบด้วยอับละอองเรณู และก้านชูอับละอองเรณู [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
imperfect flower | ดอกไม่สมบูรณ์เพศ, ดอกที่มีแต่เกสรเพศผู้หรือเกสรเพศเมียแต่เพียงอย่างเดียว เช่น ดอกข้าวโพด ดอกตำลึง ดอกฟักทอง เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
perfect flower | ดอกสมบูรณ์เพศ, ดอกไม้ที่มีทั้งเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียอยู่ในดอกเดียวกัน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
stigma | ยอดเกสรเพศเมีย, ส่วนบนสุดของเกสรเพศเมีย เป็นที่รองรับละอองเรณูทำให้เกิดการผสมพันธุ์ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
pollen grain | ละอองเรณู, เซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ของพืชดอก อยู่ภายในอับละอองเรณูของเกสรตัวผู้ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
pollen tube | หลอดละอองเรณู, หลอดที่งอกยื่นออกจากละอองเรณูไปตามคอเกสรตัวเมียเข้าไปยังรังไข่ เพื่อนำสเปิร์มนิวเคลียสเข้าไปผสมกับไข่ในออวุลได้ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
anther | อับเรณู, ส่วนหนึ่งของเกสรเพศผู้มีลักษณะเป็นกระเปาะ เป็นแหล่งสร้างและเก็บละอองเรณู [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
pistil | เกสรเพศเมีย, อวัยวะสืบพันธุ์เพศเมียของพืชดอก ประกอบด้วยยอดเกสรตัวเมีย คอเกสรตัวเมียและรังไข่ ซึ่งมีความสำคัญต่อการสืบพันธุ์ของพืชดอก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
filament | ก้านชูอับเรณู, ส่วนหนึ่งของเกสรตัวผู้ของพืชดอก ลักษณะเป็นก้านยาว มีอับละอองเรณูติดอยู่ตรงส่วนปลาย [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
Grass Pollen | เกสรหญ้า [การแพทย์] |
androecium | (n) เกสรตัวผู้ |
anther | (n) เกสรตัวผู้ของดอกไม้ |
corolla | (n) กลีบใน, See also: กลีบชั้นที่อยู่รอบเกสรดอกไม้, Syn. calyx |
cross-pollination | (n) การถ่ายเกสรดอกไม้จากดอกหนึ่งไปยังอีกดอกหนึ่ง |
daisy | (n) ดอกเดซี่, See also: มีดอกสีขาวและเกสรสีเหลือง |
males | (n) เพศผู้, See also: ต้นไม้ที่มีแต่เกสรตัวผู้, เพศชาย |
nectar | (n) น้ำหวานของเกสรดอกไม้, Syn. honey, juice |
pastil | (n) เกสรตัวเมีย (ทางพฤกษศาสตร์) |
pistil | (n) เกสรตัวเมีย |
pistillate | (adj) ซึ่งมีเกสรตัวเมีย, See also: ซึ่งมีเกสรตัวเมียแต่ไม่มีเกสรตัวผู้ |
pollen | (n) ละอองเกสรดอกไม้, See also: เรณู |
pollen count | (n) การตรวจนับจำนวนละอองเกสรในช่วง 24 ชั่วโมง |
pollen grain | (n) ละอองเกสรดอกไม้, See also: เรณู |
pollinate | (vt) นำละอองไปสู่เกสรตัวเมีย |
ragweed | (n) หญ้าตระกูล Ambrosia มีละอองเกสรทำให้เป็นหืดหอบได้ |
stamen | (n) เกสรตัวผู้, Syn. anther |
acarpelous | (เอคาร์' เพลลัส) adj. ซึ่งไร้โพรงเกสรตัวเมีย (acar, pellous) |
anandrous | (แอแนน' ดรัส) adj. ไร้เกสรตัวผ |
androecium | (แอนดรี' เซียม) n., (pl. -cia) เกสรตัวผู้. -androecial adj. |
androgynous | (แอนดรอจ' จินัส) adj. ซึ่งมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเม่ยในดอกเดียวกัน, กะเทย |
anemophilous | (แอนนิมอฟ' ฟะลัส) adj. ซึ่งได้รับเกสรดอกไม้ที่ลมพัดมา. -anemophily n. |
anther | (แอน' เธอะ) n. เกสรตัวผู้ของดอกไม้. |
apocarp | (แอพ'พะคาร์พ) n. ดอกไม้ที่มีก้านเกสรตัวเมียแยกกัน (having separate carpels) |
apocarpous | (แอพพะคาร์'พัส) adj. มีก้านเกสรตัวเมียแยกกัน. -apocarpy n. |
autogamy | (ออทอก'กะมี) n. การปฎิสนธิภายในตัวเอง, การที่ดอกไม้ได้รับเกสรของตัวเอง. -autogamous, autogamic adj. |
carpel | (คาร์'เพล) n. โพรงเกสรตัวเมีย |
dichogamy | (ไดคอก'กะมี) n. ภาวะที่มีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียสุกในเวลาต่างกัน, See also: dichotomous adj. |
gynaeceum | n. ที่อยู่อาศัยของผู้หญิง, เกสรตัวเมียของดอกไม้ -pl. gynaecea |
gynecium | (จินี'เศียม) n. เกสรตัวเมียของดอกไม้ -pl. gynecia |
gynoecium | เกสรตัวเมีย, Syn. gynaeceum, gynecium |
gynophore | n. ก้านเกสรตัวเมีย., See also: gynophoric adj. |
homogamous | adj. ซึ่งมีเพศเดียวกัน, ซึ่งมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียเจริญ เติบโตพร้อมกัน |
male | (เมล) adj., n. ชาย, ผู้ชาย, ตัวผู้, พืชตัวผู้, ผู้, ผู้ชาย, เพศชาย, เกสรตัวผู้., See also: maleness n., Syn. masculine |
monadelphous | (มอนนะเดล'ฟัส) adj. (เกสรตัวผู้) ซึ่งรวมเข้าเป็นอันเดียว |
monandrous | (มะแนน'ดรัส) n. เกี่ยวกับการมีสามีคนเดียว, (ดอก) ซึ่งมีเกสรตัวผู้เดียว, (ต้น) ซึ่งมีดอกดังกล่าว |
monoecious | (มะนี'เชิส) adj. ซึ่งมีอวัยวะเพศชายและหญิงในคน ๆ เดียว, กระเทย, ซึ่งมีเกสรตัวผู้และตัว เมียในต่างดอกกันแต่ต้นเดียวกัน., Syn. monecious, monoicous |
neuter | (นู'เทอะ) adj. (ไวยากรณ์) ไร้เพศ, ไร้อวัยวะสืบพันธุ์หรือมีอวัยวะสืบพันธุ์ที่ไม่สมบูรณ์, เป็นกลาง. n. นามที่ไร้เพศ, สัตว์ที่ถูกตอน, แมลงที่มีอวัยวะเพศไม่สมบูรณ์, ผู้ทำตัวเป็นกลาง, พืชที่ไม่มีทั้งเกสรตัวผู้และตัวเมีย. vt. ตอน |
phalanx | (เพ'แลคซฺ) n. แนวทหารที่จัดเรียงกันอย่างประชิดกระดูกมื (เท้า) , กลุ่มเกสรตัวผู้ pl. phalanxes, phalanges |
pistil | (พิส'ทิล) n. เกสรตัวเมีย, Syn. gynoecium |
pollen | (พอล'เลิน) n. ละอองเกสรดอกไม้, เรณู |
pollenation | (พอลละเน'เชิน) n. การผสมเกสรดอกไม้ |
polyandrous | (พอลลิแอน'เดริส) adj. เกี่ยวกับการที่หญิงมีหลายสามี, มีเกสรตัวผู้มากเหลือเฟือ |
polyandry | (พอลลิแอน'ดรี) n. การมีหลายสามี, การมีสามีมากกว่าหนึ่ง, การมีเกสรตัวผู้มากเหลือเฟือ |
self-pollination | (เซลฟฺ'พอลละเน'เชิน) n. การผสมเกสรดอกไม้ในดอกเดียวกัน หรือต้นเดียวกัน หรือจำพวกเดียวกัน. |
stamen | (สเท'เมน) n. เกสรตัวผู้, See also: stamened adj. pl. stamens, stamina |
stigma | (สทิก'มะ) n.ความอัปยศอดสู, มลทิน, รอยด่างพร้อย, ตราพิมพ์, ตราหน้า, ตรานาบ, แผลเป็น, แต้ม, จุด, ตาของสัตว์เซลล์เดียวจำพวกโปรโตซัว, ทางเข้าระบบหายใจของแมลง, ส่วนของเกสรตัวเมียที่รับละอองเกสร pl. stigmata, stigmas |
zoophilous | (โซออฟ'ฟะเลิส) adj. ซึ่งรักสัตว์, (พืช) ผสมเกสรโดยอาศัยสัตว์เป็นสื่อ |