มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: N | [มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: N] (n, vi, vt, modal, verb, aux, verb, adj, adv, prep, conj, pron, phrase, jargon, slang, colloq, vulgar, abbrev, name, o) มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: Norma Jeane Mortenson) เกิดวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1926 – 5 สิงหาคม ค.ศ. 1962) เป็นอดีตนักแสดง นักร้อง นางแบบชาวอเมริกัน มีชื่อเสียงจากบทบาท "dumb blonde" เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ทางเพศที่ได้รับความนิยมในคริสต์ทศวรรษ 1950 เป็นสัญลักษณ์ของทัศนคติที่มีต่อเพศแห่งยุค แม้ว่าเธอได้เป็นนักแสดงระดับต้น ๆ เพียงแค่หนึ่งทศวรรษ ภาพยนตร์ของเธอทำรายได้ได้ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐก่อนที่เธอจะเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดใน ค.ศ. 1962[ 1 ] เธอยังถือว่าเป็นสัญรูปของวัฒนธรรมสมัยนิยมหลัก ๆ นับแต่นั้นมา[ 2 ] มอนโรเกิดและเติบโตในลอสแอนเจลิส วัยเด็กเธออาศัยอยู่ในบ้านรับเลี้ยงเด็ก และสถานเด็กกำพร้า และสมรสครั้งแรกเมื่ออายุ 16 ปี ขณะทำงานในโรงงานเป็นส่วนหนึ่งของกำลังสงคราม ใน ค.ศ. 1944 เธอพบกับช่างภาพคนหนึ่ง และเริ่มทำอาชีพนางแบบ งานของเธอทำให้เธอได้เซ็นสัญญากับภาพยนตร์ขนาดสั้น 2 เรื่องกับค่ายทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ (1946-1947) และโคลัมเบียพิกเจอส์ (1948) หลังจากรับบทย่อยในภาพยนตร์จำนวนหนึ่ง เธอเซ็นสัญญาใหม่กับฟอกซ์ใน ค.ศ. 1951 เธอกลายเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วด้วยบทบาทตลกขบขันหลายบทบาท เช่นในเรื่อง แอสยังแอสยูฟีล (1951) และมังกีบิสเนส (1952) และในภาพยนตร์ดรามาเรื่อง แคลชบายไนต์ (1952) และ โดนต์บาเดอร์ทูน็อก (1952) มอนโรเผชิญหน้ากับข่าวลือหลังจากมีการเปิดเผยว่าเธอเคยถ่ายแบบเปลือยก่อนมาเป็นนักแสดง แต่แทนที่จะทำลายอาชีพเธอ มันกลับทำรายได้ให้กับบอกซ์ออฟฟิศ ก่อน ค.ศ. 1953 มอนโรเป็นหนึ่งในดาราฮอลลิวูดที่มีบทบาทนำในภาพยนตร์ 3 เรื่อง ได้แก่ ฟิล์มนัวร์ เรื่อง ไนแอการา (ภาพยนตร์ ค.ศ. 1953)|ไนแอการา ซึ่งมุ่งจุดสนใจที่เสน่ห์ทางเพศของเธอ และภาพยนตร์ตลกเรื่อง เจนเทิลเม็นพรีเฟอร์บลอนส์ และ ฮาวทูแมร์รีอะมิลเลียนแนร์ ซึ่งสร้างภาพลักษณ์ให้เธอเป็น "dumb blonde" แม้ว่าเธอจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างและจัดการภาพลักษณ์สาธารณะของเธอตลอดอาชีพการทำงาน เธอรู้สึกผิดหวังต่อสตูดิโอที่ไทป์แคสต์ และการให้ค่าตัวเธอต่ำไป เธอถูกพักงานเป็นช่วงสั้น ๆ ในต้นปี ค.ศ. 1954 เนื่องจากเธอปฏิเสธโครงการทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง แต่กลับมาเป็นดาราในภาพยนตร์เรื่องที่ประสบความสำเร็จที่สุดเรื่องหนึ่งคือ เดอะเซเวนเยียร์อิตช์ (1955) เมื่อสตูดิโอยังลังเลที่จะเปลี่ยนแปลงสัญญาของเธอ มอนโรก่อตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ใน ค.ศ. 1954 ชื่อ มาริลิน มอนโร โพรดักชันส์ (MMP) ขณะก่อสร้างบริษัท เธอเริ่มศึกษาการแสดงที่แอกเตอส์สตูดิโอ ในปลายปี ค.ศ. 1955 ฟอกซ์มอบฉันทะให้เธอควบคุมและให้เงินเดือนสูงขึ้น หลังจากได้รับคำสรรเสริญจากการแสดงในเรื่อง บัสสต็อป (1956) และการแสดงในภาพยนตร์อิสระเรื่องแรกของบริษัท MMP เรื่อง เดอะพรินซ์แอนด์เดอะโชว์เกิร์ล (1957) เธอได้รับรางวัลลูกโลกทองคำจากเรื่อง ซัมไลก์อิตฮอต (1959) ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของเธอที่ถ่ายทำจนเสร็จคือเรื่อง เดอะมิสฟิตส์ (1961) |
โอที | (n) over time, See also: O.T., Syn. ล่วงเวลา |
ทีโอที | (n) Telephone Organization of Thailand, See also: TOT, Syn. องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย |
overall thermal transfer value (OTTV) | ค่าการถ่ายโอนความร้อนรวบยอด (โอทีทีวี) [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕] |
OTTV (overall termal transfer value) | โอทีทีวี (ค่าการถ่ายโอนความร้อนรวบยอด) [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕] |
voice-onset time (V.O.T.) | ช่วงเวลาเริ่มเสียงก้อง (วีโอที) [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕] |
V.O.T. (voice-onset time) | วีโอที (ช่วงเวลาเริ่มเสียงก้อง) [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕] |
wide-open throttle (WOT) | ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดสุด (ดับเบิลยูโอที) [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
WOT (wide-open throttle) | ดับเบิลยูโอที (ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดสุด) [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
Bionic Eye | ตาเทียม, เทคโนโลยีเพื่อช่วยผู้ที่ตาบอดมองเห็นได้อีก โดยการผ่าตัดฝังไมโครชิป (retinal implant) ไว้ที่เรตินาในลูกตา ใช้กล้องวิดีโอที่ติดไว้กับแว่นตา ส่งสัญญาณภาพไปยังไมโครชิป ที่เชื่อมกับเรตินาที่เสื่อม ทำหน้าที่แปลงแสงให้เป็นสารเคมีที่ไปกระตุ้นเซลประสาทในการเห็นภายในสมองส่วนกลาง, Example: ความหมายเดียวกับ Retinal Prosthesis หรือ Retinal Implant [Assistive Technology] |
Retinal Prosthesis | ตาเทียม, เทคโนโลยีเพื่อช่วยผู้ที่ตาบอดมองเห็นได้อีก โดยการผ่าตัดฝังไมโครชิป (retinal implant) ไว้ที่เรตินาในลูกตา ใช้กล้องวิดีโอที่ติดไว้กับแว่นตา ส่งสัญญาณภาพไปยังไมโครชิป ที่เชื่อมกับเรตินาที่เสื่อม ทำหน้าที่แปลงแสงให้เป็นสารเคมีที่ไปกระตุ้นเซลประสาทในการเห็นภายในสมองส่วนกลาง, Example: ความหมายเดียวกับ Bionic Eye หรือ Retinal Implant [Assistive Technology] |
Retinal Implant | ตาเทียม, เทคโนโลยีเพื่อช่วยผู้ที่ตาบอดมองเห็นได้อีก โดยการผ่าตัดฝังไมโครชิป (retinal implant) ไว้ที่เรตินาในลูกตา ใช้กล้องวิดีโอที่ติดไว้กับแว่นตา ส่งสัญญาณภาพไปยังไมโครชิป ที่เชื่อมกับเรตินาที่เสื่อม ทำหน้าที่แปลงแสงให้เป็นสารเคมีที่ไปกระตุ้นเซลประสาทในการเห็นภายในสมองส่วนกลาง, Example: ความหมายเดียวกับ Bionic Eye หรือ Retinal Prosthesis [Assistive Technology] |
Over-the-counter markets | ตลาดโอทีซี [TU Subject Heading] |
Radiotheodolite | เรดิโอทีออโดไลต์ หรือกล้องทีออโดไลต์วิทยุ [อุตุนิยมวิทยา] |
Meiosis | ไมโอซิส, ระยะติคไทโอทีนของไมโอสิส, ม่านตาแคบ [การแพทย์] |
ค่าโอที | [khā Ō.Thī.] (n, exp) EN: overtime premium |
ทำงานโอที | [thamngān Ō.Thī.] (v, exp) EN: work overtime |
ทำโอที | [tham Ō.Thī.] (v, exp) EN: work overtime ; do overtime |
camcorder | (n) กล้องถ่ายวีดีโอที่สามารถพกพาไปได้ |
bot | 1. (บอท) n. ด้วยอ่อนของแมลงbotfly 2. (บีโอที) ย่อมาจาก begin of tape (จุดเริ่มต้นเทป) หมายถึง จุดเริ่มต้นที่จะให้มีการบันทึกลงแถบบันทึกหรือเทป (tape) ได้ ปกติจะทำเป็นจุดสะท้อนแสง ซึ่งจะทำให้เกิดสัญญาณบังคับให้เริ่มมีการอ่านข้อมูลจากจุดนั้นเป็นต้นไป |
eot | (อีโอที) 1. ย่อมาจาก end of tape marker (เครื่องหมายสิ้นสุดแถบบันทึก) หมายถึง จุดสิ้นสุดไว้ที่ปลายแถบบันทึกหรือเทป (tape) เพื่อบอกว่าไม่สามารถบันทึกต่อจากจุดนี้ได้ เมื่ออ่านหรือบันทึกลงถึงจุดนี้แล้วเทปจะหยุดทันทีไม่อ่านหรือบันทึกต่อ ส่วนมากจะทำเป็นช่วงสะท้อนแสงยาวประมาณ 1 นิ้ว ซึ่งหัวอ่านและบันทึกของเทปจะสัมผัสได้ด้วยไฟฟ้ามีความหมายเหมือน end of reel หรือ EOR2. ย่อมาจาก end of text ในรหัสแอสกี (ASCII) ที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูล มีความหมายว่า จบข้อความแล้ว ไม่มีอีกต่อไป |