160 ผลลัพธ์ สำหรับ *ใฝ่*
หรือค้นหา: ใฝ่, -ใฝ่-

NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
ใฝ่(v) aim, See also: expect, hope for, desire, Syn. มุ่ง, ใคร่, หวัง, ใฝ่หา, Example: เขามักใฝ่ชีวิตง่ายๆ ไม่พิสดาร ไม่ต้องหรูหราเหมือนคนอื่น, Thai Definition: คิดมุ่งหรือคิดหวังถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ใฝ่ใจ(v) pay attention to, See also: keen on, be fond of, take an interest in, Syn. สนใจ, ใจจดใจจ่อ, จดจ่อ, ตั้งใจ, มุ่งมั่น, Example: นักเขียนคนนี้ควรจะใฝ่ใจศึกษาเรียนรู้ในเรื่องภาษาอยู่เสมอ, Thai Definition: เอาใจผูกพันอยู่
ฝักใฝ่(v) concentrate on, See also: pay attention to, be interested in, Syn. สนใจ, ใฝ่ใจ, เอาใจใส่, ผูกพัน, Example: สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง, Thai Definition: สนใจเข้าด้วย
ฝันใฝ่(v) dream, See also: hope for, desire, Syn. ใฝ่ฝัน, Example: เด็กจรจัดเหล่านี้ฝันใฝ่อยากได้ของเล่นสวยๆ และอยากได้ความสุขสนุกสนานที่ตนไม่เคยได้รับมาก่อน, Thai Definition: อยากมีหรืออยากเป็นอย่างยิ่ง
ใฝ่ต่ำ(v) behave badly, See also: be in low taste, Ant. ใฝ่สูง, ใฝ่ดี, Example: เขาไม่น่าใฝ่ต่ำแบบนี้ ทั้งที่การศึกษาก็ดี, Thai Definition: ประพฤติตัวในทางเลวทราม, นิยมไปในทางเลว
ใฝ่ต่ำ(v) behave badly, See also: be in bad taste, Ant. ใฝ่สูง, ใฝ่ดี, Example: พระธรรมปิฎกได้กล่าวถึงสภาพของสังคมไทยในปัจจุบันว่า คนในสังคมไทย มีลักษณะ 3 อย่างคือ มองแคบ คิดใกล้และ ใฝ่ต่ำ, Thai Definition: ประพฤติตัวในทางเลวทราม, นิยมไปในทางเลว
ใฝ่รู้(v) seek knowledge, See also: yearn to know, long for knowledge, want to know, Syn. ใคร่รู้, Example: บัณฑิตที่มีคุณภาพควรใฝ่รู้ในสาขาวิชาการและวิชาชีพที่ตนสนใจ, Thai Definition: แสวงหาความรู้
ใฝ่สูง(v) be ambitious for great achievement, See also: aim high, fly high, crave for greatness and success, Syn. ทะเยอทะยาน, ทะเยอทะยานเกินตัว, Ant. ใฝ่ต่ำ, Example: โบราณสอนว่าอย่าใฝ่สูงจนเกินไป ถ้าไม่เป็นไปตามที่หวังแล้วจะผิดหวังรุนแรง, Thai Definition: ทะเยอทะยานเกินตัว
การใฝ่หา(n) seeking, See also: searching, examination, investigation, looking for, pursuing, Syn. การแสวงหา, การค้นหา, Example: การใฝ่หาความรู้เพิ่มเติมนอกตำราเรียนเป็นหน้าที่ของนักเรียนทุกคน
ความใฝ่ใจ(n) taking interest, Syn. ความใส่ใจ, ความเอาใจใส่, Thai Definition: การเอาใจผูกพันอยู่
ใฝ่ฝันถึง(v) dream of, Syn. ฝันถึง, ฝันใฝ่ถึง, Example: วัยรุ่นเป็นวัยที่ชอบใฝ่ฝันถึงสิ่งสวยงาม และอยากมีหน้ามีตาทัดเทียมเพื่อนฝูงในทุกๆ ด้าน, Thai Definition: อยากได้หรืออยากเป็นอย่างที่นึกถึง
ความใฝ่ฝัน(n) ambition, See also: aspiration, Syn. ความปรารถนา, ความฝัน, Example: ความใฝ่ฝันของเขาก็ได้กลายมาเป็นความจริงในวันนี้, Thai Definition: ความปรารถนาอย่างยิ่ง
มักใหญ่ใฝ่สูง(adj) ambitious, See also: aspiring, Syn. ทะเยอทะยาย, ใฝ่สูง, Example: เขามีนิสัยมักใหญ่ใฝ่สูงมาตั้งแต่เล็กแล้ว, Thai Definition: ที่อยากเป็นใหญ่เป็นโตและมียศศักดิ์สูง
มักใหญ่ใฝ่สูง(v) be over ambitious, See also: aspire, be wild with ambition, Syn. ทะเยอทะยาย, ใฝ่สูง, Example: เด็กบางคนมักใหญ่ใฝ่สูงอย่างแก้ไม่ได้พอโตขึ้นก็จะมีปัญหาในการดำเนินชีวิต, Thai Definition: อยากเป็นใหญ่เป็นโตและมียศศักดิ์สูง
ความมักใหญ่ใฝ่สูง(n) ambition, See also: over-ambition, aspiration, Syn. ความทะเยอทะยาน, ความใฝ่สูง, Thai Definition: ความอยากมีฐานะหรือยศศักดิ์สูงกว่าที่เป็นอยู่

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ฝักใฝ่ก. เอาใจใส่, ผูกพัน.
ใฝ่ก. มุ่ง, หวัง, ใคร่, ผูกพัน.
ใฝ่ใจก. เอาใจผูกพันอยู่.
ใฝ่ต่ำก. นิยมไปในทางเลว.
ใฝ่ฝันก. คิดอยากได้, มุ่งหวัง, เช่น ใฝ่ฝันอยากไปเมืองนอก.
ใฝ่ร้อนจะนอนเย็น ใฝ่เย็นจะดิ้นตายก. มุ่งหวังจะสบายต้องทำงาน ถ้าเกียจคร้านจะลำบากยากจน.
ใฝ่สูงก. ทะเยอทะยานเกินตัว.
ใฝ่สูงจนเกินศักดิ์, ใฝ่สูงให้เกินศักดิ์ก. หวังสิ่งที่เกินฐานะของตน (มักใช้ในความปฏิเสธ) เช่น อย่าใฝ่สูงจนเกินศักดิ์ อย่าใฝ่สูงให้เกินศักดิ์.
กระตือรือร้นก. รีบร้อน, เร่งรีบ, ขมีขมัน, มีใจฝักใฝ่มาก, ใส่ใจอยากจะทำ.
กำเลาว. โง่, อ่อน, ไม่รู้เท่าทัน, ไม่มีไหวพริบ, เช่น ดุจตักแตนเต้นเห็นไฟ บมิใฝ่หนีไกล กำเลากำเลาะหวังเขญ (อนิรุทธ์).
ไกพัล(ไกพัน) น. ไกวัล, ชั้นสวรรค์, เช่น ขอพรพระบาทเจ้า ไกพัล ตรีเนตรสังหารสวรรค์ ใฝ่ให้ (เฉลิมพระเกียรติพระนารายณ์).
ขวน(ขฺวน) ก. ขวนขวาย, ใฝ่, เช่น ขวนทรรป ว่า ใฝ่จองหอง (ม. คำหลวง สักบรรพ).
ใคร่(ไคฺร่) ก. อยาก, ต้องการ, ปรารถนา, ใฝ่
จดจ่อก. มีใจฝักใฝ่ผูกพันอยู่.
เจ้าชู้ ๑น. ผู้ใฝ่ในการชู้สาว.
ใจต่ำว. มีใจใฝ่ในทางเสีย.
ใจบาป, ใจบาปหยาบช้าว. มีใจฝักใฝ่ในทางชั่วร้าย.
ใจบุญว. มีใจฝักใฝ่ในการบุญ.
ใจสูงว. มีใจที่อบรมมาดี, มีใจใฝ่ในทางดี.
ชู้ชายที่ร่วมประเวณีกับภรรยาคนอื่น, หญิงที่ยังมีสามีอยู่แล้วร่วมประเวณีกับชายอื่น เรียกว่า หญิงมีชู้, เรียกชายหรือหญิงที่ใฝ่ในทางชู้สาว ว่า เจ้าชู้.
แดนน. เขต, พื้นที่ที่กำหนดไว้โดยตรงหรือโดยหมายรู้กัน, เช่น ชายแดน ลํ้าแดน, ถิ่นที่มีคน สัตว์ หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งประเภทเดียวกันอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น แดนผู้ร้าย แดนเสือโคร่ง แดนกล้วยไข่ แดนโลกีย์, โลก เช่น สตรีใดในพิภพจบแดน ไม่มีใครได้แค้นเหมือนอกข้า ด้วยใฝ่รักให้เกินพักตรา จะมีแต่เวทนาเป็นเนืองนิตย์ (อิเหนา).
นกสองหัวน. คนที่ทำตัวฝักใฝ่เข้าด้วยทั้ง ๒ ฝ่ายที่ไม่เป็นมิตรกันโดยหวังประโยชน์เพื่อตน.
นักการเมืองน. ผู้ฝักใฝ่ในทางการเมือง, ผู้ที่ทำหน้าที่ทางการเมือง เช่นรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา.
นักเลงน. ผู้ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น ๆ เช่น นักเลงหนังสือ นักเลงการพนัน
แนวที่ห้าน. ผู้เอาใจฝักใฝ่และช่วยเหลือศัตรู.
ฝ่ายเป็นกลางน. กลุ่มที่มีอุดมคติทางการเมืองการเศรษฐกิจเป็นต้นไม่ฝักใฝ่หนักไปทางฝ่ายซ้ายหรือฝ่ายขวา.
มโนรถน. ความหวัง, ความประสงค์, ความใฝ่ฝัน.
มักใหญ่ก. ใฝ่สูง อยากเป็นใหญ่เป็นโต, มักใช้เข้าคู่กับคำ ใฝ่สูง เป็น มักใหญ่ใฝ่สูง.
เยียใหญ่ก. ทำเป็นคนใหญ่โต, มักใหญ่ใฝ่สูง.
รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสาก. ใฝ่ดีจะมีความสุขความเจริญ ใฝ่ชั่วจะได้รับความลำบาก.
เล่นการเมืองก. ฝักใฝ่หรือปฏิบัติการเกี่ยวกับงานบริหารบ้านเมือง, โดยปริยายหมายความว่า ใช้เล่ห์เหลี่ยมพลิกแพลงไม่ตรงไปตรงมา เพื่อผลประโยชน์ของตน เช่น ในวงการกีฬาก็มีการเล่นการเมือง นักกีฬาเก่ง ๆ บางคนถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมทีม.
สนใจก. ตั้งใจจดจ่ออยู่กับสิ่งใดเรื่องใดเป็นพิเศษ เช่น เขาสนใจวิชาคณิตศาสตร์มาก, ใฝ่ใจใคร่รู้ใคร่เห็นเป็นต้น เช่น เขาสนใจการเมืองมาตั้งแต่เด็ก.
สร้างวิมานในอากาศก. ใฝ่ฝันถึงความมั่งมี, คิดคาดหรือหวังจะมีหรือเป็นอะไรอย่างเลิศลอย.
เอาใจดูหูใส่ก. ใฝ่ใจ, ตั้งใจ.
เอาใจใส่ก. ใฝ่ใจ, ตั้งใจ.
เอื้อมโดยปริยายหมายความว่า ใฝ่สูง.

ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
pacifistผู้ใฝ่สันติ, นักสันตินิยม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
jingoismคติรักชาติแบบใฝ่สงคราม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
homosexual๑. -ใฝ่เพศเดียวกัน, -รักร่วมเพศ๒. ผู้ใฝ่เพศเดียวกัน, ผู้รักร่วมเพศ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
heterosexual๑. -ใฝ่ต่างเพศ, -รักต่างเพศ๒. ผู้ใฝ่ต่างเพศ, ผู้รักต่างเพศ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
nation, uncommittedชาติที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
non-alignmentการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
uncommitted nationชาติที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]

คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
Nonalignmentการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด [TU Subject Heading]
Hugo Grotius (1583-1645)บรมครูทางกฎหมายของเนเธอร์แลนด์ เป็นบุคคลแรกที่ได้ประกาศเสรีภาพของทะเล (Freedom of the Seas) ในตำราของท่านชื่อ Mare Liberumนักกฎหมาย รัฐบุรุษ และปรัชญาเมธีด้านมนุษยธรรมของเนเธอร์แลนด์ผู้นี้ ภายหลังเกิดมาได้ไม่กี่ปีก็ส่อให้เห็นว่าเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดอย่างน่า มหัศจรรย์ เขาเริ่มศึกษาวิชากฎหมายตั้งแต่มีอายุได้ 11 ขวบ ณ สถาบันศึกษาชั้นสูงแห่งเลย์เด็นในเนเธอร์แลนด์ และได้รับปริญญาเอกทางกฎหมายจากมหาวิทยาลัย ณ เมืองออร์ลีนส์ ในประเทศฝรั่งเศสเมื่อมีอายุได้เพียง 15 ปี โดยที่เป็นผู้ฝักใฝ่ในการเมือง เขาได้ถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1618 ด้วยข้อหาทางการเมือง แต่ต่อมาใน ค.ศ. 1621 ได้หลบหนีไปยังประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ 1625 เขาได้แต่งตำรากฎหมายซึ่งถือกันว่าเป็นตำราอมตะชื่อว่า Jure Belli ac Pacis (แปลว่า เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยสงครามและสันติภาพ) เป็นงานเขียนที่เหมาะกับสมัย และเขียนอย่างนักวิชาการอันเยี่ยมยอดที่สุดไม่มีใครเหมือนในสมัยนั้น และด้วยความรู้สึกที่รักความยุติธรรมอย่างแรงกล้าด้วยเหตุนี้ ทั่วโลกจึงขนานนาม Hugo Grotius ว่าเป็นบิดาแห่งกฎหมายระหว่างประเทศหรือกฎหมายนานาชาติ (Father of the Law of Nations) [การทูต]
Non-Aligned Movementกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2504 มีสมาชิกจำนวน 114 ประเทศ (ตุลาคม 2547) ไทยเป็นสมาชิกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 [การทูต]
Neutralization, Neutrality หรือ Neutralismคำว่า Neutraliza-tion หมายถึง กระบวนการซึ่งรัฐได้รับการค้ำประกันความเป็นเอกราชและบูรณภาพอย่างถาวรภาย ใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ รัฐที่ได้รับการประกันรับรองให้เป็นกลาง (Neutralized State) เช่นนี้จะผูกมัดตนว่า จะละเว้นจาการใช้อาวุธโจมตีไม่ว่าประเทศใดทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าจะถูกโจมตีก่อน ตัวอย่างอันเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความ เป็นกลางอย่างถาวร คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามปฏิญญา (Declaration) ซึ่งมีการลงนามกัน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1815 ประเทศใหญ่ ๆ ในสมัยนั้น คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษ ปรัสเซีย และรัสเซีย ได้รับรองว่า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม จึงเป็นการจำเป็นที่จะให้รัฐเฮลเวติก(Helvetic Swiss States) ได้รับการประกันความเป็นกลางตลอดไป ทั้งยังประกาศด้วยว่า รัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์ตกลงรับปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้ระบุไว้เมื่อไร ความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์ก็จะได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางในทันที และแล้วสมาพันธ์สวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประกาศยอมรับปฏิบัติตาม หรือให้ภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1815 บรรดาประเทศที่รับรองค้ำประกันความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์จึงประกาศ รับรองดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1815 อนึ่ง การค้ำประกันความเป็นกลางในลักษณะที่ครอบคลุมทั้งประเทศของรัฐใดรัฐหนึ่ง นั้น มีความแตกต่างกับการค้ำประกันเพียงดินแดนส่วนใดส่วนหนึ่งของรัฐหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าดินแดนส่วนหนึ่งของรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางจะ ไม่ยอมให้ฝ่ายใดใช้ดินแดนส่วนที่ค้ำประกันนั้นเป็นเวทีสงครามเป็นอันขาด การค้ำประกันความเป็นกลางยังมีอีกแบบหนึ่งคือ รัฐหนึ่งจะประกาศตนแต่ฝ่ายเดียวว่าจะรักษาความเป็นกลางของตนตลอดไปโดยถาวร แต่ในกรณีเช่นนี้ ความเป็นเอกราชและบูรณภาพของรัฐที่ประกาศตนเป็นกลางเพียงฝ่ายเดียว จะไม่ได้รับการค้ำประกันร่วมกันจากรัฐอื่น ๆ แต่อย่างใดส่วนคติหรือลัทธิความเป็นกลาง (Neutralism) เป็นศัพท์ที่หมายถึงสถานภาพของรัฐต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการน้ำประเทศของตนเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสงครามเย็น ( Cold War) ที่กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ระหว่างกลุ่มประเทศภาคตะวันออกกับกลุ่มประเทศภาค ตะวันตก นอกจากนี้ ผู้นำบางคนในกลุ่มของรัฐที่เป็นกลาง ไม่เห็นด้วยกีบการที่ใช้คำว่า ?Neutralism? เขาเหล่านี้เห็นว่าควรจะใช้คำว่า ?ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด? ( Uncommitted ) มากกว่าจะเห็นได้ว่า คำว่า ?ความเป็นกลาง? ( Neutrality ) นั้น หมายถึงความเป็นกลางโดยถาวร ซึ่งได้รับการค้ำประกันจากกลุ่มประเทศกลุ่มหนึ่ง เช่นในกรณีประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้หรือหมายถึงความเป็นกลางเฉพาะในดินแดน ส่วนหนึ่งของรัฐที่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปทำสงครามกันในดินแดนที่เป็นกลางส่วน นั้นเป็นอันขาดก็ได้ ดังนั้น พอจะเห็นได้ว่า แก่นแท้ในความหมายของความเป็นกลาง ( Neutrality) จึงอยู่ที่ท่าที หรือ ทัศนคติของประเทศที่ดำรงตนเป็นกลาง ไม่ต้องการเข้าข้างประเทศคู่สงครามใด ๆ ในสงคราม ในสมัยก่อนผู้คนยังไม่รู้จักความคิดเรื่องความเป็นกลางดังที่รู้จักเข้าใจ กันในปัจจุบัน ความเป็นกลางเป็นผลมาจากการทยอยวางหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของความเป็นกลาง นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน [การทูต]
Parliamentary Diplomacyการทูตแบบรัฐสภา หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ [การทูต]
Motivation for Achievementความจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ [การแพทย์]
Motive, Dependencyแรงจูงใจใฝ่พึ่งพา [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
As you know, we're non-political these days. Hey. เดี๋ยวนี้เราฝักใฝ่พรรคใดไม่ได้ The Bodyguard (1992)
Hunt had always been a loner and his thoughts and dreams were not those of other men. ฮันท์ อยู่โดดเดี่ยวเสมอ สิ่งที่เขาใฝ่ฝันมักจะแตกต่างจากคนอื่น The Cement Garden (1993)
You're a witch's fondest dream. - You made walls fall, Jack. คุณเป็นที่ใฝ่ฝันของสาวๆ / คุณทำให้กำแพงพังลงมา แจ๊ค The Nightmare Before Christmas (1993)
See some action. - My sole ambition, sir. ความใฝ่ฝันของฉัน แต่เพียงผู้ เดียวครับ ฉันรู้ว่าฉันรู้ว่า. How I Won the War (1967)
I mean, he must have had dreams, but he never did anything about them. เขาคงมีความใฝ่ฝันอะไรบ้างล่ะ แต่เขาไม่เคยทำให้มันเป็นจริง Field of Dreams (1989)
Maybe it was the love of the planets may be it was just my growing dislike for this one but for as long as I can remember I've dreamed of going into space. บางทีอาจเป็นเพราะความรักในดวงดาว, อาจเพราะผมเกิดมาไม่เหมือนใคร แต่เมื่อผมเริ่มจำความได้, ผมก็ใฝ่ฝันถึงการท่องอวกาศ Gattaca (1997)
Life's work, political aspirations. Him and the pope. ชีวิตการทำงาน ความมักใหญ่ใฝ่สูง กับสันตะปาปา Good Will Hunting (1997)
What are you passionate about? What do you want? เธอใฝ่ฝันอะไร ต้องการอะไร Good Will Hunting (1997)
Oh, it is a little slut, isn't it? ใฝ่ต่ำเสียเหลือเกินนะเธอนี่ Titanic (1997)
But we all had a common dream-- that one day we would finally be able to serve a king worthy of the throne. แต่เราก็มีความใฝ่ฝันเหมือนกัน ว่าจะได้รับใช้กษัตริย์สักองค์ The Man in the Iron Mask (1998)
And he's staying at our boarding house, because he's nobody's man. มาเช่าบ้านเราอยู่ เพราะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด The Legend of Bagger Vance (2000)
And nine nine rings were gifted to the race of Men who, above all else, desire power. และเก้าวง 9 วงเป็นกำนัลแด่เผ่าพันธุ์มนุษย์ ผู้ซึ่งใฝ่อำนาจ ยิ่งกว่าสิ่งใด The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001)
Dream big. งานของนายคือ สิ่งมหัศจรรย์ ที่คนอื่นใฝ่ฝัน Rock Star (2001)
Since you like learning more than the scholars you can take it with you anywhere พ่อเห็นเจ้าใฝ่รู้ยิ่งกว่าพวกเขา ไม่ว่าไปไหนจะได้ติดตัวไว้ The Great Jang-Geum (2003)
There's a city that I dreamed of นี่เป็นเมืองที่ผมใฝ่ฝัน James and the Giant Peach (1996)
And that place you're dreamin' of, it's not as far away as you think. และสถานที่นั้นที่เธอใฝ่ฝัน ไม่ไกลอย่างที่คิด James and the Giant Peach (1996)
I'm not going to have nice things, fancy things. ฉันไม่ได้อยากจะไปเพื่อพบกับสิ่งที่ดีกว่า หรือสิ่งที่ฉันใฝ่ฝัน The Notebook (2004)
Half the night I waste in sighs. ครึ่งค่อนคืน ผมเสียเวลาไปกับการใฝ่ฝัน A Cinderella Story (2004)
Wait here for a while. ความใฝ่ฝันของเธอคือ นักกฎหมายระหว่างประเทศ The Worst First Kiss! (2005)
And you. Why don't you keep your feet on the ground instead of your head in the sky? แกด้วย หัดเจียมตัว อย่าใฝ่สูง Goal! The Dream Begins (2005)
After he died, my parents became political. หลังจากเขาตาย, พ่อแม่ฉันก็ฝักใฝ่การเมือง. V for Vendetta (2005)
The dark side of ambition. เกิดหน้ามืด มักใหญ่ใฝ่สูง ขึ้นมาล่ะสิ Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest (2006)
-Yeah, Visionary Vanguard. ใช่ . ความใฝ่ฝัน The Lake House (2006)
This isn't their army. หากท่านใฝ่หาโลหิต ท่านจงเข้าร่วม 300 (2006)
Are you a German sympathizer? คุณเป็นพวกฝักใฝ่เยอรมันหรือเปล่า Flyboys (2006)
You fantasize those accountable will pay. ความใฝ่ฝันที่จะได้แก้แค้น Saw III (2006)
Women's college student, aspiring writer. นักเรียนโรงเรียนหญิงล้วน, ใฝ่ฝันจะเป็นนักเขียน Episode #1.1 (2006)
Aspiring actress and a freeter. ใฝ่ฝันจะเป็นนักแสดง และงานอาชีพอิสระ และฉัน มุโรอิ ชิโฮ Episode #1.1 (2006)
Hippocrates (460BC-? Those aspiring to the medical profession have to read it. สำหรับคนใฝ่ฝันที่จะเป็นเภสัชกรเก่งๆละก็ต้องอ่านนี่เลย Episode #1.1 (2006)
(woman) FOR THOSE OF YOU WHO DREAM (ผู้หญิง) สำหรับทุกคนที่ใฝ่ฝัน Poison Ivy (2007)
Attempting to better your social status at school Is very American dream of you. ที่อยากจะยกระดับสังคมในโรงเรียนนี้ เป็นความใฝ่ฝันของเธอ Chapter Six 'The Line' (2007)
...resulted in a maverick enzyme... of the kind which induces... defective biochemical reaction and causes brain damage. ส่งผลให้เอนไซม์ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ชนิดที่ก่อให้เกิดการ ปฏิกิริยาทางชีวเคมีข้อบกพร่อง และทำให้เกิดความเสียหายสมอง Sex Trek: Charly XXX (2007)
Well, over here, every piece of car a man might want or need. ที่เห็นเนี่ย คือสุดยอดยนตรกรรมที่ทุกคนฝันใฝ่ หรืออยากจะได้มี Transformers (2007)
Everybodyneeds ทุกๆคนล้วนใฝ่หา Enchanted (2007)
These children are the future that we strive for. เด็กๆเหล่านี้คืออนาคต ที่พวกเราดิ้นรนใฝ่หา There Will Be Blood (2007)
This is how I always dreamed it'd be. นี่แหละที่ฉันใฝ่ฝันมาตลอด Teeth (2007)
I always dreamt about, I don't know, melting bodies. ผมใฝ่ฝันมาโดยตลอด ฉันไม่รู้สิNสัปเหร่อกำจัดศพ Cat's in the Bag... (2008)
I, as your lieutenant, will institute policies that we've have always wanted. ฉัน, ในฐานะผู้แทน, จะตั้งกฏที่พวกเราใฝ่ฝัน Chuck Versus the First Date (2008)
But you, I can give you what all boys crave from their mothers. แต่เธอ ฉันสามารถให้เธอ ในสิ่งที่ทุกคนใฝ่หาจากแม่ Chapter Two 'The Butterfly Effect' (2008)
It's what we all dream about. มันเป็นสิ่งที่เราทุกคนใฝ่ฝัน All by Myself (2008)
Loners, mavericks... สันโดษ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด There's No 'I' in Team (2008)
Just like it was for you. เหมือนกับที่แม่ใฝ่ฝัน New Haven Can Wait (2008)
Brown's always been my plan,  มหาลัยบราวน์ เป็นสิ่งที่หนูใฝ่ฝันมาตลอด New Haven Can Wait (2008)
Ever since I was a child I... I've dreamed of coming here. ผมใฝ่ฝันว่าจะมาที่นี่ตั้งแต่ผมเป็นเด็กแล้ว Lancelot (2008)
- You've reached too high, as always. - เจ้าใฝ่สูงอยู่ตลอดเวลา The Other Boleyn Girl (2008)
You know, it was her dream to go to prom, and I said, "Of course I'll make your dream come true." รู้อะไรไหม เธอใฝ่ฝันที่จะมางานเลี้ยงจบการศึกษามากเลยน่ะ ผมก็เลยพูดว่า "ได้สิ ผมจะทำให้ฝันคุณเป็นจริง" New York, I Love You (2008)
I made mistakes, horrendous ones, ones that were not worthy of a president, ones that did not meet the standards of excellence that I always dreamed of as a young boy. เป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีไม่สมควรทำ เป็นสิ่งที่ไม่ได้มาตรฐานของความเป็นเลิศ ที่ผมใฝ่ฝันถึงตั้งแต่ยังเป็นเด็ก Frost/Nixon (2008)
And as you create this show, you must dig deep and think about your aspirations and dreams for the future. และเธอต้องส้รางโชว์ครั้งนี้ให้ออกมาอย่างดี มาคิดเรื่องความใฝ่ฝันของพวกเธอกัน ความฝันในอนาคต High School Musical 3: Senior Year (2008)
I was gonna be a doctor. That was my dream. ผมกำลังจะได้เป็นหมอ นั่นเป็นความใฝ่ฝันของผม The Ruins (2008)
An elite education is something most people only dream about. การศึกษาชั้นยอด สิ่งที่คนทั้งหลายล้วนใฝ่ฝันถึง Chapter One 'A Clear and Present Danger' (2009)

Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
ใฝ่[fai] (v) EN: aim ; expect ; seek ; pursue  FR: être déterminé (à) ; être résolu (à)
ใฝ่[fai] (v) EN: pay attention to ; have an interest ; hope for ; desire ; long for ; yearn for ; be attracted toward ; cherish
ใฝ่ฝัน[faifan] (v) EN: dream ; fancy  FR: rêver de ; brûler de
ใฝ่ฝันถึง[faifan theung] (v, exp) EN: dream of
ใฝ่สูง[faisūng] (v) EN: be ambitious ; be ambitious for great achievement ; aim high ; fly high ; crave for greatness and success  FR: être ambitieux
ใฝ่สูง[faisūng] (adj) FR: ambitieux
ฝักใฝ่[fakfai] (v) EN: concentrate on ; pay attention to ; be interested in
ฝันใฝ่[fanfai] (v) EN: dream ; hope for ; desire
ความมักใหญ่ใฝ่สูง[khwām makyaifaisūng] (n, exp) EN: ambition  FR: ambition [ f ]
มักใหญ่ใฝ่สูง[makyaifaisūng] (v) EN: be over ambitious
มักใหญ่ใฝ่สูง[makyaifaisūng] (adj) EN: ambitious
ผู้ฝักใฝ่[phūfakfai] (n) EN: adherent ; partisan ; sympathizer  FR: partisan [ m ] ; sympathisant [ m ]
อย่างใฝ่สูง[yāng faisūng] (adv) FR: ambitieusement

NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
ambition(n) ความทะเยอทะยาน, See also: ความปรารถนาอันแรงกล้า, ความมักใหญ่ใฝ่สูง, Syn. aspiration
aspiration(n) ความทะเยอทะยาน, See also: ความมักใหญ่ใฝ่สูง, ความมุ่งมาดปรารถนา, ความทะยานอยาก, Syn. eagerness, yearning, ambition
devotion(n) การอุทิศตัว, See also: การฝักใฝ่, การยึดมั่น, การศรัทธา, Syn. enthusiasm, fondness, Ant. hate, dislike
dream(n) ความฝัน, See also: จิตนาการ, ความคิดฝัน, ความใฝ่ฝัน, ความทะเยอทะยาน, Syn. fantasy
hawk(n) ผู้สนับสนุนนโยบายทางการทหารเพื่อแก้ปัญหาระหว่างประเทศมากกว่านโยบายทางการทูต, See also: ผู้ใฝ่สงคราม
maverick(n) ผู้เป็นอิสระ, See also: ผู้ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด, ผู้แยกตัว, Syn. nonconformist, loner
neutralist(n) ผู้เป็นกลาง, See also: ผู้ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง, Syn. isolationist
nonaligned(adj) ที่ไม่เข้าข้างใดข้างหนึ่ง, See also: ซึ่งไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง, ซึ่งเป็นกลาง, Syn. neutral, nonpartisan, Ant. aligned, partisan
on the make(sl) ทะเยอทะยาน, See also: เหิมเกริม, มักใหญ่ใฝ่สูง
world-beater(sl) ผู้มักใหญ่ใฝ่สูง
sectarian(n) สมาชิกของนิกาย, See also: สมาชิกของกลุ่มผู้ที่มีความเห็นทางศาสนาแตกต่างออกไป, ผู้ฝักใฝ่, Syn. nonconformist, dissenter, zealot
unworldly(adj) ซึ่งไม่หมกมุ่นในทางโลกีย์, See also: ซึ่งไม่ฝักใฝ่ทางโลกีย์, เกี่ยวกับทางธรรม, Syn. holy, religious, Ant. worldly

Hope Dictionary
ambition(แอมบิช' เชิน) n. ความทะเยอทะยาน, ความมักใหญ่ใฝ่สูง, ความปรารถนาอันแรงกล้า, เป้าหมายของความปรารถนาดังกล่าว . -vt. ปรารถนา อย่างแรงกล้า. -ambitionless adj., Syn. longing, goal, Ant. aimlessness
ambitious(แอมบิช' เชิส) adj. ทะเยอทะยาน, ปรารถนาอย่างแรงกล้า, มักใหญ่ใฝ่สูง. -ambitiousness n., Syn. aspiring, purposeful
climber(ไคล'เบอะ) n. คนปีน, คนไต่, ไม้เลื้อย, คนใฝ่สูง, อุปกรณ์ที่ช่วยในการปีนป่าย
fain(เฟน) adv., adj. เต็มใจ, ยินดี, ปรารถนา, ใฝ่ฝัน, จำต้อง
sectary(เซค'ทะรี) n. สมาชิกนิกาย, ผู้ฝักใฝ่ในนิกายหนึ่ง, สมาชิกนิกายโปรเตสแตนต์
sigh(ไซ) vi., vt., n. (การ) ถอนหายใจ, ถอนใจ, ใฝ่ฝัน, ละ-ห้อยหา, เพรียกร้อง, เสียงถอนหายใจ, See also: sigher n., Syn. murmur
yearn(เยิร์น) vi. อยาก, ต้องการมาก, คิดถึงอย่างรักใคร่, ใฝ่ฝัน, See also: yearner n., Syn. crave, desire, after
yearning(เยิร์น'นิง) n. ความอยาก, ความต้องการมาก, ความคิดถึงอย่างรักใคร่, ความใฝ่ฝัน, ความใฝ่หา, See also: yearningly adv., Syn. desire, craving

Nontri Dictionary
absorbed(adj) ที่หมกมุ่น, ที่ใฝ่ใจ, ที่สนใจมาก, อย่างตั้งอกตั้งใจ
ambition(n) ความทะเยอทะยาน, ความมักใหญ่ใฝ่สูง
ambitious(adj) ทะเยอทะยาน, มักใหญ่ใฝ่สูง
aspirant(n) ผู้ออกเสียง, ผู้ใฝ่สูง, ผู้ปรารถนา, ผู้แสวงหา
fain(adj) ใฝ่ฝัน, ปรารถนา, ยินดี, เต็มใจ, ชอบ
independence(n) เอกราช, ผู้ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด, อิสรภาพ, พรรคการเมืองอิสระ
obsess(vt) หลงใหล, ใฝ่ฝัน, สิงสู่, หลอกหลอน
obsession(n) ความพะวงถึง, ความหลงใหล, ความใฝ่ฝันถึง, ความหลอกหลอน
prefer(vt) ชอบมากกว่า, สมัครใจ, เลื่อนตำแหน่ง, ฝักใฝ่ในทาง, ยื่น, เสนอ
voluptuous(adj) ชอบฟุ้งเฟ้อ, ยั่วยวน, ใฝ่ในทางกาม
yearn(vi) อยากได้, รำพึงถึง, ปรารถนา, ต้องการ, ใฝ่ฝัน

Saikam JP-TH-EN Dictionary
希望[きぼう, kibou] TH: ความใฝ่ฝัน

Time: 0.041 seconds, cache age: 8.264 (clear)Longdo Dict -- https://dict.longdo.com/