ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: จม, -จม- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ คำต้องห้าม | คำด่าเหล่านี้ผู้ใช้อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393 ฐานดูุหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า: อีดอก, อีเหี้ย, อีสัตว์, อีควาย, อีตอแหล, ไอ้ระยำ, ไอ้เบื๊อก, ไอ้ตัวแสบ, เฮงซวย, ผู้หญิงต่ำๆ, พระหน้าผี, พระหน้าเปรต, มารศาสนา, ไอ้หน้าโง่, อีร้อย...(ตามด้วยคำลามก), อีดอกทอง ที่มา: http://www.komchadluek.net/news/scoop/287099 | ผู้หญิงต่ำๆ, พระหน้าผี, พระหน้าเปรต, มารศาสนา, ไอ้หน้าโง่, อีร้อย..., อีดอกทอง | (colloq, vulgar) คำด่าเหล่านี้ผู้ใช้อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393 ฐานดูุหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า ที่มา: http://www.komchadluek.net/news/scoop/287099 | อีดอก, อีเหี้ย, อีสัตว์, อีควาย, อีตอแหล, ไอ้ระยำ, ไอ้เบื๊อก, ไอ้ตัวแสบ, เฮงซวย | (colloq, vulgar) คำด่าเหล่านี้ผู้ใช้อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393 ฐานดูุหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า ที่มา: http://www.komchadluek.net/news/scoop/287099 |
|
| PET Scan | (n, vt) PET Scan ย่อมาจาก Positron Emmision Tomography เป็นเครื่องมือใหม่ที่ใช้เพื่อ ตรวจหาการกระจายและปริมาณความผิดปกติของสารเภสัชรังสีโพสิตรอน ทำให้ข้อมูลที่ได้จาก PET มีความแตกต่างจากเครื่องมืออื่นๆ ซึ่งเรารู้จักกันดี เช่น การตรวจด้วย ultrasound, CT และ MRI ที่ส่วนใหญ่จะแสดงเพียงลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางกายวิภาค การตรวจด้วย PET เป็นการถ่ายภาพการกระจายตัวของสารเภสัชรังสีที่สลายตัวให้โพสิตรอน (positron) สารเภสัชรังสีเหล่านี้จะสัมพันธ์และแสดงถึงขบวนการชีววิทยาต่างๆ ในร่างกาย ทำให้เราสามารถตรวจขบวนการเผาผลาญ (metabolism) ของเซลล์ได้ หลักการของเครื่องตรวจนี้คือ ใช้้ในการตรวจหาเซลล์ที่มีเมตะบอลลิสม์ผิดปกติ เป็นการตรวจหาการทำงานของเซลล์และผ่านกลวิธีทำให้ออกมาเป็นรูปให้เราเห็น ในการตรวจมะเร็งปอดเราใช้น้ำตาล เมื่อเราทำให้น้ำตาลนั้นจับกับสารกัมมันตภาพ (Glucose 2-fluoro-2-deoxy-D-glucose หรือ FDG) ฉีดเข้าไปในเลือด เซลล์ไหนที่มีเมตะบอลลิสม์สูงจะใช้น้ำตาลมาก เช่น เซลล์ของมะเร็ง เซลล์ไหนที่ตายหรือมีเมตะบอลลิสม์ต่ำจะใช้น้ำตาลน้อย เมื่อใช้ Radiotracer จับปริมาณกัมมันตภาพ เราจะพบว่าก้อนมะเร็งนั้นมีกัมมันตภาพสูงกว่าเนื้อธรรมดาและใช้ตรวจทั้งตัว ก็ได้ | rhinoplasty | (n) ศัลยกรรมจมูก |
| นัยประหวัด | (n) คำที่มีความหมายให้ย้อนนึกถึง เช่น ความหมายนัยตรงแปลว่า ก้อนเนื้อร้าย ความหมายโดยนัย เช่น “อย่าทำตัวเป็นมะเร็งในที่ทำงาน” มะเร็ง หมายถึง ผู้ที่ไม่มีประโยชน์ให้กับบริษัท ความหมายนัยประหวัด เช่น “ กิจกรรมในงานวันมะเร็งแห่งชาติได้รับความสนใจมาก“ มะเร็ง หมายถึง การย้อนนึกถึงความทรมานจความเจ็บปวดจากเนื้อร้าย โรคร้ายนี้คร่าชีวตผู้คนจำจวนมาก | บวก | (vt) จู่โจม ปะทะ โจมตี มักใช้กันในกลุ่มผู้เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ บ้างก็ว่ามาจากวงการมวย คือ จังหวะบวกสวน เอาแรงชกของคู่ต่อสู้ที่ชกมาแล้วพลาด สะท้อนสวนกลับไปให้แรงยิ่งขึ้น |
| ได้แรงอก | [dai rang ok] (vt) สมใจอยาก , พอใจมาก |
| จม | (v) sink, See also: submerge, Ant. ลอย, Example: เมื่อเหลียวมองรอบข้างจึงรู้ว่าเรือยังไม่จม แต่ระดับน้ำในเรือสูงเลยหัวเข่าขึ้นมาแล้ว, Thai Definition: หายลงไปหรืออยู่ใต้พื้นผิว | โจม | (v) rush, See also: spring, pounce, Thai Definition: โถมเข้าไป, กระโดดเข้าไป, เอื้อมเข้าไป | โจม | (n) tent, See also: canopy, howdah, Syn. กระโจม, กูบ, Thai Definition: เครื่องบังแดดฝนทำเป็นซุ้มรวบยอด | จมูก | (n) nose, See also: organ of smell, Example: จมูกประกอบด้วยจมูกส่วนนอก และโพรงจมูกซึ่งแบ่งเป็นซ้ายและขวา, Count Unit: จมูก, Thai Definition: อวัยวะส่วนหนึ่งที่ยื่นออกมา อยู่เหนือปาก มีรู 2 รู สำหรับดมกลิ่นและหายใจเข้าหายใจออก | อาจม | (n) feces, See also: feces, stool, ordure, dejection, Syn. อุจจาระ, ขี้, Thai Definition: ขี้ (ของคน) | ใจมา | (v) be encouraged, See also: be confident, be hopeful, be supported, Syn. มีหวัง, Example: ผมใจมาเป็นกองเลยเมื่อเห็นหน้าแม่, Thai Definition: มีกำลังใจ | จมน้ำ | (v) drown, See also: be drowned, get drowned, Ant. ลอยน้ำ, Example: วิธีป้องกันไม่ให้เด็กจมน้ำคือ อย่าปล่อยให้เด็กๆ อยู่ในน้ำตามลำพัง | ล่มจม | (v) become bankrupt, See also: go under, become insolvent, be broke, be destitute, be impoverished, go to ruin, collapse, Syn. สิ้นเนื้อประดาตัว, Example: เขาทำทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อไม่ให้บริษัทล่มจม, Thai Definition: สูญเสียเงินทองข้าวของจนหมดตัวหรือเกือบหมดตัว | ใจมาร | (adj) cruel, See also: vicious, wicked, merciless, brutal, savage, evil, Syn. ใจยักษ์, Example: ผู้หญิงคนนี้เป็นคนใจมาร ฆ่าได้แม้กระทั่งลูกในไส้ตัวเอง, Thai Definition: ที่มีใจโหดร้ายทารุณ ไม่มีความเมตตาสงสาร | กระโจม | (n) tent, Syn. ซุ้ม, Example: นักเดินป่าต้องกางกระโจมสำหรับนอนในเวลากลางคืน, Count Unit: หลัง, Thai Definition: สิ่งที่ตามปกติมียอดเป็นลอมอย่างซุ้ม ใช้เป็นเครื่องกำบังแดดลม | จมดิ่ง | (v) submerge, See also: sink, Syn. จม, Ant. ลอย | จมปลัก | (v) be stagnant, See also: be stuck, be glued to one's place, Syn. ดักดาน, Ant. ก้าวหน้า, เจริญก้าวหน้า, Example: เธอต้องเรียนหนังสือเพื่อให้มีรายได้ และจะได้ไม่จมปลักอยู่กับชีวิตในชุมชนแออัดอีกต่อไป, Thai Definition: ติดอยู่กับที่ | จมูกไว | (adj) quick to know, Ant. จมูกช้า, Example: ฉันต้องเอาตัวรอดโดยต้องเป็นคนหูตาไว เป็นคนจมูกไว, Thai Definition: ได้กลิ่นไว, ได้ข่าวเร็ว, Notes: (ปาก) | จู่โจม | (v) attack, See also: burst into, intrude, assault, Syn. โจมตี, รุกราน, เล่นงาน, Example: เมื่อตอนชุมนุมประท้วงผมเคยถูกตำรวจจู่โจมเข้าจับถึงกับต้องกระโดดหน้าต่างหนี, Thai Definition: เข้ากระทำการโดยไม่ให้รู้ตัว | โจมทัพ | (n) herd of war elephants, See also: war-elephant troop, Thai Definition: พลช้างเหล่าหนึ่ง | คัดจมูก | (v) have a stuffed nose, See also: have a nasal congestion, have a nasal obstruction, Example: ไวรัสชนิด Rhino Virus ทำให้เป็นหวัดซึ่งหวัดชนิดนี้มีอาการน้อยแค่ คัดจมูก น้ำมูกไหล อ่อนเพลีย เจ็บคอเป็นอยู่ไม่นานก็หายเองได้ | จมูกบี้ | (v) have a flattened nose, Example: ฝรั่งส่วนน้อยจมูกบี้ ส่วนใหญ่จมูกโด่งกันหมด, Thai Definition: จมูกที่แฟบผิดปกติ | จมูกวัว | (n) pipe, See also: nozzle, Thai Definition: ท่อที่ต่อจากสูบให้เปลวไฟไปลงเบ้า | จมูกหัก | (v) break one's nose, Example: นักมวยฝ่ายแดงจมูกหักจนต้องยุติการชก, Thai Definition: จมูกที่มีลักษณะแฟบแบนลงที่ตรงกลางสันจมูก | จมูกแบน | (v) have a flat nose, Example: นางแบบคนนี้จมูกแบน แต่ก็ดูสวยแบบเก๋ไก๋ดี, Thai Definition: จมูกที่มีลักษณะแฟบลงไปกว่าปกติ | จูงจมูก | (v) lead someone by the nose, Syn. ชักนำ, หว่านล้อม, Example: เขาไม่ใช่คนที่ใครจะมาจูงจมูกเขาง่ายๆ, Thai Definition: ถูกเขาชักนำไปโดยไม่ใช้ความคิดของตน, Notes: (สำนวน) | สันจมูก | (n) bridge of the nose, Syn. ดั้ง, ดั้งจมูก, Example: สันจมูกของเขาแตกเพราะฝีมือของอ้ายวายร้าย, Thai Definition: ส่วนของจมูกที่มีลักษณะเป็นสัน | เตะจมูก | (v) be appetizing, See also: strike the nose, Example: กลิ่นหอมของอาหารพัดมาเตะจมูกผม, Thai Definition: ได้กลิ่นอย่างแรง | เบญจมาศ | (n) Chrysanthemum morifolium Ramat., Syn. ต้นเบญจมาศ, Example: ขณะนี้ได้มีนายทุนได้เข้ามายึดพื้นที่ 50 ไร่เพาะกล้าเบญจมาศขาย, Count Unit: ต้น, Thai Definition: ไม้ล้มลุกหรือไม้พุ่มขนาดเล็กชนิด Chrysanthemum morifolium Ramat. ในวงศ์ Compositae ใบหนา ใต้ใบมีขนละเอียด รูปใบมีแบบต่างๆ ดอกเป็นช่อออกตามปลายกิ่ง มีหลายสี | กระโจมอก | (v) pull up one's lower garment so as to cover the breasts, See also: wear a skirt to cover her breast, Syn. นุ่งกระโจมอก, Example: สาวๆ ในหมู่บ้านต่างพากันกระโจมอกว่ายน้ำในคลอง | กระโจมไฟ | (n) light-house, Syn. ประภาคาร, เรือนตะเกียง, Example: กระโจมไฟให้แสงสว่างได้มาก, Count Unit: หลัง | กุญแจมือ | (n) handcuffs, See also: bracelets, shackles, Example: นายตำรวจออกคำสั่งให้จ่าจับมือผู้ต้องหาไพล่หลังสวมกุญแจมือ, Count Unit: คู่, Thai Definition: ห่วงเหล็กมีกุญแจไข สำหรับเจ้าหน้าที่ใช้ใส่ข้อมือผู้ต้องหา | ขื่อจมูก | (n) nasal septum, Syn. ดั้ง, ดั้งจมูก, Example: เธอเปลี่ยนขื่อจมูกมาใหม่ โด่งกว่านางเอกละครเสียอีก, Count Unit: แผ่น, Thai Definition: แกนกลางระหว่างช่องจมูก | จมูกโด่ง | (v) have a prominent nose, Example: ลูกชายคนเล็กของเขาจมูกโด่งผิดกับพ่อแม่, Thai Definition: จมูกที่เป็นสันเด่นออกมา | ช่องจมูก | (n) nasopharynx | ดั้งจมูก | (n) bridge, Syn. ดั้ง, สัน, สันจมูก, Example: เธอขยับแว่นที่ดั้งจมูก | ปลายจมูก | (n) nose tip, Example: งวง คือ ปลายจมูกของช้าง ซึ่งย่นยาวออกมาจนใช้จับฉวยอะไรๆ ได้, Thai Definition: ส่วนปลาย หรือส่วนยอดของจมูก | ร่องจมูก | (n) skin between nostrils, Example: เขม่าติดอยู่ที่ร่องจมูก เช็ดออกสิ, Count Unit: ร่อง | โครงจมูก | (n) bridge, See also: top of a nose, ridge of a nose, bone of a nose, Syn. กระดูกจมูก, Example: ชาวตะวันตกจะมีโครงจมูกที่ใหญ่กว่าชาวเอเซียมาก, Count Unit: โครง | โพรงจมูก | (n) sinus, Example: สารเคมีจากสระว่ายน้ำทำให้โพรงจมูกอักเสบ, Thai Definition: โพรงอากาศเป็นช่องกลวงภายในจมูก | กระโจมทอง | (n) howdah, Syn. กูบช้าง | กลางใจมือ | (n) the middle of the palm, Syn. กลางฝ่ามือ, อุ้งมือ, Example: นางเอกเรื่องนั้นมีปานแดงอยู่กลางใจมือ | จมอยู่กับ | (v) be bogged down in, See also: be caught up in, stuck, Example: เธอรู้สึกเหมือนตัวเองหมดคุณค่า จมอยู่กับความทุกข์หลังจากที่สามีทิ้งเธอไป, Thai Definition: ติดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถทำหรือคิดสิ่งอื่นได้ | กล่าวโจมตี | (v) attack verbally, See also: assault, strike, verbally, criticize, Syn. จวก, สับ, Example: นายประมวลออกมากล่าวโจมตีรัฐมนตรีคลังเรื่องดอกเบี้ย, Thai Definition: กล่าวถึงความไม่ดีหรือความผิดของผู้อื่นอย่างรุนแรง | เข้ากระโจม | (v) have the water vapour bath in a small tent in the sun, Example: ป้าแนะนำให้ฉันเข้ากระโจมเพื่อรักษาโรคหืดหอบที่เป็นอยู่ให้ทุเลาลง, Thai Definition: เข้าไปอยู่ในผ้าที่ทำเป็นกระโจมเพื่ออบให้เหงื่อออก, เข้าไปอบควันในกระโจม | เหยียบจมูก | (v) tread on someone's toes, Syn. ลบเหลี่ยม, หมิ่นเชิง, Example: เขาเข้ามาเหยียบจมูกพ่อถึงในบ้าน ยังจะไม่ยอมเอาเรื่องเขาอีก, Thai Definition: บังอาจมาทำให้ชั้นเชิงหรือเกียรติของเขาด้อยลงไปต่อหน้าธารกำนัล | เบญจมสุรทิน | (n) fifth day of the solar calendar, Thai Definition: วันที่ 5 แห่งเดือนสุริยคติ | กระโจมกระจาม | (v) dash against, See also: rush, burst, storm, reach over, hurry, Syn. พรวดพราด, Example: โดยไม่ทันดูตาม้าตาเรือเขาก็กระโจมกระจามเปิดประตูเข้ามา, Thai Definition: พรวดพราดอย่างลุกลน (เป็นคำที่ใช้ในทางที่ติ) | นุ่งกระโจมอก | (v) put on cloth covering the breasts, Example: ผู้หญิงที่อยู่ตามริมคลองมักนุ่งกระโจมอกอาบน้ำกัน, Thai Definition: นุ่งผ้าถุงสูงปิดอก | โรคจมูกอักเสบ | (n) rhinitis, Example: ฝุ่นบ้านเป็นสารก่อภูมิแพ้ ที่ทำให้เกิดโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ได้ | การโจมตีทางอากาศ | (n) air strike, Example: การรบเมื่อวานนี้เป็นปฏิบัติการร่วมระหว่างทหารราบสหรัฐกับการโจมตีทางอากาศที่เขตภูเขาในเมืองการ์เดซ, Thai Definition: ใช้กำลังบุกเข้าสู้รบทางอากาศ | บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต | (n) Master of Business Administration, See also: M.B.A., Syn. บธ.ม. |
| กระโจม ๑ | น. สิ่งที่ตามปรกติมียอดเป็นลอมอย่างซุ้ม ใช้เป็นเครื่องกำบังแดดลมเป็นต้น, โจม ก็ว่า, โดยปริยายหมายถึง สิ่งที่รวมกันเข้าเป็นลอม เช่น กระโจมปืน หรือสิ่งที่ผูกรวบยอดให้รวมกัน เช่น ปากผูกกระโจม หรือผ้าที่ทำเป็นลอมเพื่อเข้าไปอยู่ให้เหงื่อออก เช่น เข้ากระโจม. | กระโจมไฟ | น. หอสูงซึ่งตามไฟฉายแสงอย่างแรงไว้บนยอดเพื่อใช้บอกสัญญาณในการเดินเรือเป็นต้น, ประภาคาร หรือ เรือนตะเกียง ก็เรียก. | กระโจมอก | ก. นุ่งผ้าสูงปิดอก. | กระโจมอก | ว. อาการที่นุ่งผ้าสูงปิดอก ในความว่า นุ่งผ้ากระโจมอก. | กระโจม ๒ | กูบที่มีด้านเปิดโล่ง ๔ ด้าน, โจม ก็ว่า | กระโจมทอง | น. เครื่องกันแดดและฝนเปิดโล่ง ๔ ด้าน อยู่บนสัปคับหลังช้างพระที่นั่ง เขียนลายปิดทองรดน้ำ. | กระโจม ๓ | เครื่องสวมศีรษะอย่างหนึ่ง เช่น กระจอนหูแปงประดับแก้วเครื่องเลิศอุดมกระโจมคำสุบเก้าเกษ (ม. ภาคอีสาน นครกัณฑ์). | กระโจม ๔ | ก. โถมเข้าไป เช่น ไม่ได้ทีอย่ากระโจมเข้าโรมรัน (รามเกียรติ์ ร. ๒) | กระโจม ๔ | ข้ามลำดับไป ในความว่า กินข้าวต้มกระโจมกลาง. | กระโจมกระจาม | ก. พรวดพราดอย่างลุกลน (เป็นคำใช้ในทางที่ติ). | กลางใจมือ | น. กลางฝ่ามือ. | กินข้าวต้มกระโจมกลาง | ก. ทำอะไรด้วยความใจร้อนไม่พิจารณาให้รอบคอบ มักเป็นผลเสียแก่ตน. | กุญแจมือ | น. ห่วงเหล็กมีกุญแจไข สำหรับเจ้าหน้าที่ใช้ใส่ข้อมือผู้ต้องหา. | ขื่อจมูก | น. แกนกลางระหว่างช่องจมูก. | เข้ากระโจม | ก. เข้าไปอยู่ในผ้าที่ทำเป็นกระโจมเพื่ออบให้เหงื่อออก, เข้าไปอบควันยาในกระโจม. | โครงจมูก | น. กระดูกจมูก. | จม | ก. หายลงไปหรืออยู่ใต้ผิวพื้น เช่น จมนํ้า จมดิน, โดยปริยายหมายความว่า เข้าลึก เช่น จมมีด จมเขี้ยว, หมกตัวหรือฝังตัวอยู่ เช่น จมอยู่ในห้องหนังสือ จมเลือด, ถอนทุนไม่ขึ้น เช่น ทุนจม, ยุบตัวลง เช่น สะบักจม | จม | เรียกลวดลายที่ไม่เด่น ว่า ลายจม. | จม | ว. มาก เช่น วันนี้มีการบ้านจมเลย. | จมเบ้า | ว. อยู่กับที่เป็นเวลานาน ๆ. | จมปลัก | ก. ติดอยู่กับที่, ไม่ก้าวหน้า. | จมไม่ลง | ก. เคยทำตัวใหญ่มาแล้วทำให้เล็กลงไม่ได้ (มักใช้แก่คนที่เคยมั่งมีหรือรุ่งเรืองมาก่อน เมื่อยากจนหรือตกอับลงก็ยังทำตัวเหมือนเดิม). | จมร, จมรี | ดู จามรี. | จมื่น | ดู หัวหมื่น. | จมูก | (จะหฺมูก) น. อวัยวะส่วนหนึ่งที่ยื่นออกมา อยู่เหนือปาก มีรู ๒ รู สำหรับดมกลิ่นและหายใจเข้าหายใจออก, (ปาก) ตมูก ก็ว่า, ราชาศัพท์ว่า พระนาสิก พระนาสา โดยปริยายเรียกสิ่งที่ยื่นออกมาคล้ายจมูก, เรียกสิ่งที่เจาะเป็นรู ๒ รูเพื่อร้อยเชือกเป็นต้น เช่น จมูกซุง. | จมูกข้าว | น. ส่วนปลายของเมล็ดข้าวที่ติดกับก้านดอก เป็นส่วนที่ต้นอ่อนงอก. | จมูกมด | ว. ที่ไหวตัวหรือรู้ตัวทันเหตุการณ์, บางทีใช้เข้าคู่กับคำ หูผี เป็น หูผีจมูกมด. | จมูกวัว | น. ท่อที่ต่อจากสูบไปเป่าเปลวไฟไปท่วมเบ้า. | จมูกปลาหลด, จมูกปลาไหล | ดู กระพังโหม. | จมูกหลอด | น. ตะพาบ. (ดู ตะพาบ ๑, ตะพาบนํ้า). | จู่โจม | ก. ตรงเข้าไปถึงตัวอย่างรวดเร็ว เช่น สกัดกั้นทันนางกลางโพยม จู่โจมจับเป็นไม่เข่นฆ่า (รามเกียรติ์ ร. ๒ ตอนนางลอย) | จู่โจม | เข้ากระทำการโดยไม่ให้รู้ตัว เช่น ตำรวจจู่โจมจับบ่อนพนัน, โจมจู่ ก็ว่า. | จูงจมูก | ก. อาการที่จับเชือกที่สนตะพายจมูกวัวควายแล้วจูงไป, โดยปริยายใช้แก่คนว่า ถูกจูงจมูก หมายความว่า ถูกเขาชักนำไปโดยไม่ใช้ความคิดของตน. | เจาะจมูก | ก. เจาะด้านหัวและท้ายของซุงเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายจมูกห่างจากหัวไม้ประมาณ ๗๕ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๑๒.๕ เซนติเมตร แล้วเอาลวดหรือหวายร้อยเข้ากับคานแพซึ่งเป็นไม้ยาว ๆ ขวางลำกับท่อนซุงเพื่อผูกเป็นแพ. | โจม ๑ | น. สิ่งที่ตามปรกติมียอดเป็นลอมอย่างซุ้ม ใช้เป็นเครื่องกำบังแดดลมเป็นต้น | โจม ๑ | กูบที่มีด้านเปิดโล่ง ๔ ด้าน | โจม ๑ | กระโจม ก็ว่า. | โจม ๒ | ก. โถมเข้าไป, กระโดดเข้าไป, เช่น โจมจับ โจมฟัน. | โจมจับ | น. ชื่อช้างศึกพวกหนึ่ง มีหน้าที่เข้าโจมตีข้าศึก, ช้างโจมทัพ ก็เรียก. | โจมจู่ | ก. เข้ากระทำการโดยไม่ให้รู้ตัว, จู่โจม ก็ว่า. | โจมตี | ก. ใช้กำลังบุกเข้าตี เช่น โจมตีข้าศึก, โดยปริยายหมายความว่า พูดหรือเขียนว่าหรือกล่าวหาผู้อื่นอย่างรุนแรง เช่น ๒ พรรคการเมืองโจมตีกันและกัน หนังสือพิมพ์โจมตีผู้บริหารที่ทุจริต. | โจมทัพ ๑ | น. ชื่อช้างศึกพวกหนึ่ง มีหน้าที่เข้าโจมตีข้าศึก, ช้างโจมจับ ก็เรียก. | โจมทัพ ๒ | ก. เข้าตีกองทัพ. | ใจมา | ว. มีหวังขึ้น เช่น ใจมาเป็นกอง ใจมาเป็นกระบุง. | ใจมาร | ว. มีใจดุร้าย, มีใจอำมหิต, บางทีก็ใช้คู่กับ ใจยักษ์ เป็น ใจยักษ์ใจมาร. | ใจมือ | น. มาตราตวงตามวิธีประเพณีของไทยโบราณ ๑๕๐ เมล็ดข้าว = ๑ ใจมือ ๔ ใจมือ = ๑ กำมือ และ ๘ กำมือ = ๑ จังออน | ใจมือ | กลางฝ่ามือ. | เตะจมูก | ก. โชยมาให้ได้กลิ่นอย่างแรง. | นุ่งกระโจมอก | ก. นุ่งผ้าถุงสูงปิดอก. | เบญจม- | (เบ็นจะมะ-) ว. ครบ ๕, ที่ ๕. |
| piriform aperture; aperture, anterior nasal | ช่องจมูกส่วนหน้า(กะโหลก) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | piriform aperture; anterior nasal aperture; anterior nasal opening in skull | ช่องจมูกส่วนหน้า(กะโหลก) [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] | pneumohaemopericardium; pneumohemopericardium | ภาวะถุงหุ้มหัวใจมีอากาศและเลือด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pneumohemopericardium; pneumohaemopericardium | ภาวะถุงหุ้มหัวใจมีอากาศและเลือด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | prenaris; nares (พหู.); naris (เอก.); naris, anterior; naris, external; nostril | รูจมูก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | polyp, nasal | ๑. ติ่งเนื้อเมือกจมูก๒. โรคริดสีดวงจมูก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pneumopericardium | ภาวะถุงหุ้มหัวใจมีอากาศ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pharyngonasal | -คอหอยร่วมจมูก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pharyngorhinitis; nasopharyngitis | คอหอยส่วนจมูกอักเสบ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pneumoprecordium | ภาวะช่องหน้าหัวใจมีอากาศ [ มีความหมายเหมือนกับ pneumomediastinum ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pneumopyopericardium | ภาวะถุงหุ้มหัวใจมีอากาศและหนอง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pernasal | -ผ่านทางจมูก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pneumatocardia | ภาวะหัวใจมีอากาศ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | polemic | บทโจมตี [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | paranasal sinusitis | โพรงอากาศข้างจมูกอักเสบ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | postnasal | -หลังจมูก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | purulent rhinitis | เยื่อจมูกอักเสบเป็นหนอง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | posterior naris; choana (เอก.); choanae (พหู.) | รูจมูกด้านหลัง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | posterior nasal spine | เงี่ยงกระดูกจมูกส่วนหลัง [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] | police, State | ตำรวจรัฐ, ตำรวจมลรัฐ (อเมริกัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | perirhinal | -รอบจมูก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | plan, strong-mayor | เทศบาลแบบนายกเทศมนตรีมีอำนาจมาก (อเมริกัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | Poll, Gallup | การสำรวจมติมหาชน (แบบแกลลัป) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | pyopericardium | ถุงหุ้มหัวใจมีหนอง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pocketing | บ่าลิ้นจม [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | pneumohydropericardium | ภาวะถุงหุ้มหัวใจมีอากาศและน้ำ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinitis, allergic; rhinallergosis; rhinitis, anaphylactic | เยื่อจมูกอักเสบเหตุภูมิแพ้ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinitis, anaphylactic; rhinallergosis; rhinitis, allergic | เยื่อจมูกอักเสบเหตุภูมิแพ้ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinitis, atrophic | เยื่อจมูกอักเสบฝ่อ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinitis, gangrenous | เยื่อจมูกอักเสบเน่า [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinitis, hypertrophic | เยื่อจมูกอักเสบหนา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinitis, membranous | เยื่อจมูกอักเสบมีเยื่อติด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinitis, purulent | เยื่อจมูกอักเสบเป็นหนอง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinitis, vasomotor; rhinopathia vasomotoria | เยื่อจมูกอักเสบเหตุหลอดเลือด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | ridge of nose; agger nasi; nasoturbinal concha | สันในจมูก [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] | rhinodynia; rhinalgia | อาการปวดจมูก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinogenous | -เกิดในจมูก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinokyphosis | สันจมูกโก่ง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinolalia | เสียงพูดจมูกบี้ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinometry | การวัดจมูก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinomycosis | โรคจมูกเหตุเชื้อรา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinonecrosis | การเน่าตายของกระดูกจมูก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinostenosis | ช่องจมูกตีบ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinal; nasal | -จมูก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinalgia; rhinodynia | อาการปวดจมูก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinallergosis; rhinitis, allergic; rhinitis, anaphylactic | เยื่อจมูกอักเสบเหตุภูมิแพ้ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinism; nasonnement | เสียงขึ้นจมูก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinitis | เยื่อจมูกอักเสบ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinitis sicca | เยื่อจมูกอักเสบฝ่อแห้ง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhinopathia; rhinopathy | โรคจมูก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| Portable electronic nose | จมูกอิเล็กทรอนิกส์แบบพกพา [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Petroleum | สารไฮโดรคาร์บอนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ, สารไฮโดรคาร์บอนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยมีธาตุสองชนิดเป็นองค์ประกอบหลัก ได้แก่คาร์บอนและไฮโดรเจน โดยอาจมีหรือไม่มีธาตุอโลหะอื่นๆ เช่น กำมะถัน ออกซิเจน ไนโตรเจน ฯลฯ ปนอยู่ด้วยก็ได้, Example: ปิโตรเลียมเป็นได้ทั้งของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของปิโตรเลียมเอง และความร้อน ตลอดจนความกดดันตามสภาพแวดล้อมที่ปิโตรเลียมนั้นถูกกักเก็บไว้ แบ่งตามสถานะสำคัญทางธรรมชาติได้ 2 ชนิด คือ น้ำมันดิบ และ ก๊าซธรรมชาติ [ปิโตรเลี่ยม] | Area survey | การสำรวจพื้นที่, ขั้นตอนเบื้องต้นในการหาพื้นที่เพื่อเป็นที่ตั้งสถานปฏิบัติการทางนิวเคลียร์หรือทางรังสี โดยสำรวจข้อมูลและปัจจัยต่างๆ ของแต่ละพื้นที่ เพื่อพิจารณาผลกระทบที่อาจมีต่อความปลอดภัยของสถานปฏิบัติการ และคัดสถานที่ที่ไม่เหมาะสมออก [นิวเคลียร์] | Radioecology | นิเวศวิทยารังสี, การศึกษาผลกระทบของสารกัมมันตรังสีที่มีในธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้นต่อระบบนิเวศ สารกัมมันตรังสีอาจมีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบและสมบัติทางเคมีของตัวมันเอง และมีวัฏจักรการเคลื่อนย้ายในระบบนิเวศภายในกลุ่มหรือระหว่างกลุ่มของสิ่งมีชีวิตกับสิ่งไม่มีชีวิต (หิน ดิน น้ำ และอากาศ) ในสภาวะแวดล้อมต่างๆ กัน เข้าสู่ห่วงโซ่อาหารของสิ่งมีชีวิต ส่งผลกระทบทางชีววิทยาและการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ [นิวเคลียร์] | Naturally occurring radioactive material | วัสดุกัมมันตรังสีตามธรรมชาติ, วัสดุที่ประกอบด้วยนิวไคลด์กัมมันตรังสีตามธรรมชาติ และอาจมีนิวไคลด์กัมมันตรังสีอื่นปนอยู่ในปริมาณที่ไม่มีนัยสำคัญ <br>(ดู naturally occurring radionuclides ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์] | Adobe PageMill | อะโดเบ เพจมิลล์ [TU Subject Heading] | Chrysanthemums | เบญจมาศ [TU Subject Heading] | Chrysanthemums indicum | เบญจมาศสวน [TU Subject Heading] | Dacryocystorhinostomy | ศัลยกรรมเปิดทางเชื่อมระหว่างถุงน้ำตากับช่องจมูก [TU Subject Heading] | Drowning | การจมน้ำ [TU Subject Heading] | Drowning victims | ผู้ประสบภัยจากการจมน้ำ [TU Subject Heading] | James, Henry, 1843-1916 | เจมส์, เฮนรี่, ค.ศ. 1843-1916 [TU Subject Heading] | Nasal cavity | โพรงจมูก [TU Subject Heading] | Nasal obstruction | อาการคัดจมูก [TU Subject Heading] | Nasal polyps | ริดสีดวงจมูก [TU Subject Heading] | Nose diseases | โรคจมูก [TU Subject Heading] | Nose neoplasms | เนื้องอกจมูก [TU Subject Heading] | Otorhinolaryngologic diseases | โรคหูคอจมูกและกล่องเสียง [TU Subject Heading] | Pearl Harbor (Hawaii), Attack on, 1941 | การโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ (ฮาวาย), ค.ศ. 1941 [TU Subject Heading] | Public opinion polls | การสำรวจมติมหาชน [TU Subject Heading] | Rhinitis | เยื่อจมูกอักเสบ [TU Subject Heading] | Rhinitis, Allergic, Perennial | จมูกอักเสบจากภูมิแพ้ที่เป็นไม่เลือกฤดูกาล [TU Subject Heading] | Rhinoplasty | ศัลยกรรมตกแต่งจมูก [TU Subject Heading] | September 11 Terrorist Attacks, 2001 | การโจมตีโดยผู้ก่อการร้าย 11 กันยายน ค.ศ. 2001 [TU Subject Heading] | Sinusitis | โพรงจมูกอักเสบ [TU Subject Heading] | Trigeminal neuralgia | อาการปวดประสาทไทรเจมินัล [TU Subject Heading] | Subtidal | เขตชายฝั่งจมน้ำ, Example: ส่วนที่เป็นน้ำในบริเวณที่ตื้นจากริมฝั่งจนถึง ที่มีความลึก 200 เมตร ในระบบนิเวศทะเล ซึ่งเป็นแนวชายฝั่งที่จมน้ำทะเลอยู่ตลอดเวลา [สิ่งแวดล้อม] | Jamesonite | เจมซอไนต์, Example: แหล่ง - พบที่จังหวัดเชียงใหม่ ประโยชน์ - ถลุงเอาโลหะตะกั่วและพลวง [สิ่งแวดล้อม] | Settling Solids | ของแข็งจมตัว, Example: ของแข็งซึ่งตกตะกอนอยู่ในถังตกตะกอน, ดู settleable solids [สิ่งแวดล้อม] | Settleable Solids | ของแข็งจมตัวได้, Example: สารที่อยู่ในน้ำเสียซึ่งจะจมตัวลงในช่วงเวลา ที่กำหนด เช่น ในช่วงเวลา1ชั่วโมง ในการทดสอบโดยใช้กรวยอิมฮอฟฟ์ หมายถึงปริมาณของสารที่ตกตะกอน อยู่ที่ก้นกรวยภายในเวลา 1 ชั่วโมง [สิ่งแวดล้อม] | Nonsettleable Matter | สารไม่จมตัว, Example: สารแขวนลอยซึ่งไม่ตกตะกอน และไม่ลอยขึ้นสู่พื้นผิวน้ำภายใน ระยะเวลา 1 ชั่วโมง [สิ่งแวดล้อม] | Amnesty International | องค์การนิรโทษกรรมสากล องค์การนี้เริ่มต้นจากเป็นขบวนการเล็ก ๆ ก่อน เพื่อทำหน้าที่ประท้วง (Protest) แต่ภายในเวลาไม่นานนัก ได้ขยายตัวออกเป็นองค์การ เพื่อให้สมกับเป้าหมายและภารกิจที่ต้องปฏิบัติเพิ่มขึ้นมากมาย คติดั้งเดิมของการรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนบรรดาบุคคลที่ต้องถูกคุม ขังอยู่ทั่วโลก ด้วยข้อหาเกี่ยวกับความเชื่อถือทางการเมืองและการศาสนานั้น ได้บังเกิดจากความคิดของบุคคลหนึ่งชื่อปีเตอร์ เบเนนสันปีเตอร์ เบเนนสัน ได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ประจำวันอาทิตย์ของอังกฤษชื่อ Sunday Observer เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1961 โดยให้หัวเรื่องบทความว่า ?นักโทษที่ถูกลืม? (The Forgotten Prisoners) บทความนี้ได้ประทับใจมติมหาชนทั่วโลกทันที และภายในปีเดียว องค์การได้รับเรื่องร้องเรียนในนามของนักโทษกว่า 200 รายองค์การนิรโทษกรรมสากลมีเป้าหมายนโยบายกว้างๆ อยู่ 3 ข้อ คือ ต้องการให้ปล่อยนักโทษผู้มีนโนธรรม (Prisoners of Conscience) ทั้งหมด ให้มีการยุติการทรมานนักโทษไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ รวมทั้งการลงโทษประหารชีวิตและให้มีการพิจารณาพิพากษาคดีนักโทษการเมืองทั้ง หมดอย่างเป็นธรรมและไม่รอช้า องค์การนี้นอกจากจะมีชื่อเสียงว่าเป็นผู้ดำรงความเป็นกลางไม่เข้ากับฝ่ายใด และเป็นที่น่าเชื่อถือไว้วางใจได้อย่างแท้จริงแล้ว ยังเป็นเสมือนศูนย์ข้อมูลและข้อสนเทศที่สำคัญ ซึ่งบรรดาบุคคลสำคัญๆ ทางการเมืองทั่วโลกได้ใช้อ้างอิงอีกด้วยในปัจจุบัน องค์การนิรโทษกรรมมีสมาชิกและผู้สนับสนุนเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านคน จากประเทศต่างๆ กว่า 150 ประเทศ องค์การอยู่ภายใต้การบริหารของคณะกรรมการบริหารจำนวน 9 คน รวมทั้งตัวเลขาธิการอีกผู้หนึ่ง ทำหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อมติเกี่ยวกับนโยบาย และเป็นหัวหน้าของสำนักเลขาธิการขององค์การด้วย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ องค์การมีผู้แทนของตนประจำอยู่กับองค์การสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ. 1978 ได้รับรางวัลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ และในปี ค.ศ. 1977 ก็ได้รับรางวัลสันติภาพโนเบลมาแล้ว [การทูต] | Break of Diplomatic Relations | การตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อสองรัฐตัดความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งกันและกัน เพราะมีการไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรง หรือเพราะเกิดสงคราม จึงไม่มีหนทางติดต่อกันได้โดยตรง ดังนั้น แต่ละรัฐมักจะขอให้มิตรประเทศที่เป็นกลางแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐอีกฝ่ายหนึ่ง ช่วยทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในอีกรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ช่วยดูแลคนชาติของรัฐนั้น ตัวอย่างเช่น ในตอนที่สหรัฐอเมริกากับคิวบาได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกดัน สหรัฐอเมริกาได้ขอให้คณะผู้แทนทางการทูตของสวิส ณ กรุงฮาวานา ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเทศคิวบา ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเช็คโกสโลวาเกียในกรุงวอชิงตัน ก็ได้รับการขอจากประเทศคิวบา ให้ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในสหรัฐอเมริกาถึงสังเกตว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกงสุลจะต้องตัดขาดไปด้วย มาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า ?ถ้าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองรัฐขาดลง หรือถ้าคณะผู้แทนถูกเรียกกลับเป็นการถาวรหรือชั่วคราวก. แม้ในกรณีการขัดแย้งกันด้วยอาวุธ รัฐผู้รับจะต้องเคารพและคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทนด้วยข. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการพิทักษ์สถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทน ให้แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับแก่รัฐผู้รับก็ได้ค. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการอารักขาผลประโยชน์ของคนและคนชาติของตน แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แก่รัฐผู้รับก็ได้ [การทูต] | Cluster munitions | ระเบิดพวง เป็นลูกระเบิดชนิดที่ปล่อยจากเครื่องบินหรือลูกกระสุน ปืนใหญ่ที่ภายในบรรจุลูกระเบิดขนาดเล็ก (submunition) ไว้จำนวนมาก อาจมีจำนวนถึงหลายร้อยลูก ซึ่งจะระเบิดกลางอากาศและปล่อยลูกระเบิดขนาดเล็ก และสะเก็ดระเบิดกระจายเป็นวงกว้าง มีอัตราความคลาดเคลื่อนผิดพลาดจากเป้าหมายสูงและบางครั้งอาจไม่ระเบิดใน ทันที และตกค้างบนพื้นดิน ซึ่งมีผลทำลายล้างเหมือนกับทุ่นระเบิด [การทูต] | Exercise of Consular Functions in a Third State | การปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลในรัฐที่สาม (A Third State) ในเรื่องนี้ข้อ 7 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้ระบุว่า?เมื่อได้บอกกล่าวให้รัฐที่เกี่ยวข้องทราบ แล้ว รัฐูผู้ส่งอาจมอบหมายให้สถานีที่ทำการทางกงสุลที่ได้ตั้งอยู่ในรัฐหนึ่งโดย เฉพาะปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลในอีกรัฐหนึ่งได้ นอกจากจะมีการคัดค้านอย่างชัดเจนโดยรัฐหนึ่งในบรรดารัฐที่เกี่ยวข้อง?นอกจาก นี้ สถานที่ทำการทางกงสุลยังอาจปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลแทนรัฐที่สามได้ เรื่องนี้ข้อ 8 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้กำหนดว่า เมื่อบอกกล่าวอย่างเหมาะสมแก่รัฐผู้รับแล้ว สถานที่ทำการทางกงสุลของรัฐผู้ส่งอาจปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลในรัฐผู้รับ แทนรัฐที่สามได้ นอกจากรัฐผู้รับนั้นจะคัดค้าน และพนักงานฝ่ายกงสุลอาจปฏิบัติการหน้าที่ของตนนอกเขตกงสุลได้ในพฤติการณ์ พิเศษ และด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ ทั้งนี้เป็นไปตามข้อ 6 แห่งอนุสัญญากรุงเวียนนา อย่างไรก็ดี ยังไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ที่จะให้พนักงานฝ่ายกงสุลปฏิบัติการหน้าที่ทาง กงสุลนอกเขตกงสุล ฝ่ายที่เห็นด้วยว่าควรปฏิบัติการนอกเขตกงสุลได้ อ้างว่า การใช้เอกสิทธิ์เช่นนั้นเป็นการชอบแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า อาจจะมีภาวะฉุกเฉินเกิดขึ้นในสถานที่นอกเขตกงสุล ซึ่งเป็นความจำเป็นที่พนักงานฝ่ายกงสุลจะได้ให้บริการในทันที่ที่มีการแจ้ง โดยกะทันหัน [การทูต] | International Atomic Energy Agency | สำนักพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ในการประชุมระหว่างประเทศ ที่ประชุมได้รับรองกฎข้อบังคับขององค์การนี้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 1956 ณ สำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก รัฐที่ร่วมลงนามเป็นสมาชิกขององค์การอย่างน้อย 18 ประเทศ รวมทั้งประเทศดังต่อไปนี้ คือ แคนาดา ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต สหราชอาณาจักร และ สหรัฐอเมริกา อย่างน้อยสามประเทศได้มอบสัตยาบันสาร ยังผลให้กฎข้อบังคับดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 1956วัตถุประสงค์ขององค์การพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ คือ1. ต้องการเร่งรัดและส่งเสริมให้พลังงานปรมาณูมีส่วนเกื้อกูลมากขึ้นต่อ สันติภาพ สุขภาพ และความไพบูลย์มั่งคั่งตลอดทั่วโลก2. ทำให้เป็นที่แน่ใจว่า ความช่วยเหลือที่องค์การจัดให้หรือตามคำขอร้องขององค์การ หรือที่อยู่ใต้ความควบคุมดูแลขององค์การนั้น จะต้องไม่ถูกนำไปใช้เพื่อส่งเสริมความมุ่งหมายทางทหารแต่อย่างใดองค์การ ดำเนินงานผ่านทางองค์กรต่าง ๆ เหล่านี้ คือ1. ที่ประชุมระหว่างประเทศ (General Conference) ประกอบด้วยสมาชิกของสำนักพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศทั้งหมด มีการประชุมสมัยสามัญประจำปี และอาจมีการประชุมสมัยพิเศษเท่าที่จำเป็น ที่ประชุมจะพิจารณาแลกเปลี่ยนความเห็นในปัญหาต่าง ๆ ที่อยู่ภายในกรอบของกฎข้อบังคับ2. คณะผู้ว่าการ (Board of Governors) ประกอบด้วยประเทศสมาชิกทั้งหมด 23 ประเทศ ปฏิบัติงานตามหน้าที่ขององค์การ3. คณะเจ้าหน้าที่ขององค์การมีหัวหน้าเรียกว่าอธิบดี (Director General) ซึ่งคณะผู้ว่าการแต่งตั้งขึ้นตามความเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่ และมีอายุอยู่ในตำแหน่ง 4 ปี ตัวอธิบดีถือเป็นหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารขององค์การ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย [การทูต] | International Civil Aviation Organization | เรียกโดยย่อว่า ICAO คือองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1947 หลังจากที่ประเทศสมาชิก 28 แห่ง ได้ให้สัตยาบันแก่อนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือน ซึ่งได้ร่างขึ้นโดยที่ประชุมองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศในนครชิคาโก เมื่อปี ค.ศ.1944วัตถุประสงค์ของ ICAO คือการศึกษาปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการบินพลเรือนระหว่างประเทศ รวมทั้งจัดวางมาตรฐานระหว่างประเทศ และระเบียบข้อบังคับสำหรับการบินพลเรือนองค์การจะพยายามสนับสนุนให้มีการใช้ มาตรการว่าด้วยความปลอดภัย วางระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการปฏิบัติให้เสมอเหมือนกันหมด และให้ใช้วิธีปฏิบัติที่สะดวกง่ายขึ้นตรงพรมแดนระหว่างประเทศ องค์การจะส่งเสริมการใช้วิธีการทางเทคนิคและอุปกรณ์เครื่องมือใหม่ ๆ ดังนั้น ด้วยความร่วมมือจากประเทศสมาชิก องค์การจะจัดวางแนวบริการทางอุตุนิยมวิทยา การควบคุมการจราจรทางอากาศ การคมนาคมสื่อสารไฟสัญญาณด้านวิทยุ จัดระเบียบการค้นหาและช่วยเหลือ รวมทั้งอุปกรณ์ความสะดวกอื่น ๆ ซึ่งจำเป็นที่จะให้การบินระหว่างประเทศได้รับความปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังชักจูงให้รัฐบาลประเทศสมาชิกวางแนวทางปฏิบัติด้านศุลกากรให้สะดวกง่าย ขึ้น รวมทั้งการตรวจคนเข้าเมือง และระเบียบเกี่ยวกับสาธารณสุขที่ใช้กับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ นอกจากนี้ องค์การยังรับผิดชอบต่องานร่างกฎหมายเกี่ยวกับการบินระหว่างประเทศ ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศในด้านเศรษฐกิจมาก มายหลายอย่างองค์การ ICAO ดำเนินงานโดยองค์การต่าง ๆ ดังนี้1. สมัชชา (Assembly) ประกอบด้วยผู้แทนของประเทศสมาชิกทุกประเทศ ทำการประชุมกันปีละครั้ง และจะลงมติเกี่ยวกับมาตรการทางการเงิน และจะรับพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ที่คณะมนตรีส่งมาให้ดำเนินการ2. คณะมนตรี (Council) ประกอบด้วยผู้แทนจากชาติต่าง ๆ 21 ชาติ ซึ่งสมัชชาเป็นผู้เลือก โดยคำนึงถึงประเทศที่มีความสำคัญในการขนส่งทางอากาศ รวมทั้งประทเศที่มีส่วนเกื้อกูลไม่น้อยในการจัดอำนวยอุปกรณ์ความสะดวกแก่การ เดินอากาศฝ่ายพลเรือนระหว่างประเทศ และจัดให้มีตัวแทนตามจำนวนที่เหมาะสมในเขตภูมิศาสตร์ใหญ่ ๆ ของโลก คณะมนตรีเป็นผู้เลือกตั้งประธาน (President) ขององค์การ3. เลขาธิการ (Secretary-General) ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่ขององค์การ [การทูต] | Introducer of Ambassadors | หมายถึง เจ้าหน้าที่แนะนำเอกอัครราชทูต ในนครหลวงของบางประเทศจะมีเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะ ซึ่งรับผิดชอบการติดต่อกับเอกอัครราชทูตซึ่งกำหนดจะยื่นสารตราตั้ง ให้เดินทางจากทำเนียบเอกอัครราชทูตไปยังทำเนียบของประมุขแห่งรัฐ และจะเป็นผู้เบิกตัว หรือแนะนำเอกอัครราชทูตผู้นั้นต่อประมุขของรัฐในพิธียื่นสารตราตั้ง ในนครหลวงของอีกบางประเทศ เจ้าหน้าที่แนะนำตัวเอกอัครราชทูตจะมีตำแหน่งเรียกอย่างอื่นคือ Master of Ceremonies ส่วนในประเทศอังกฤษ ณ พระราชสำนักแห่งเซนต์เจมส์ ผู้ที่ทำหน้าที่เช่นนี้จะเรียกว่า Her Majesty?s Marshal of the Diplomatic Corps ส่วนในสหรัฐอเมริกา ผู้กระทำหน้าที่นี้คืออธิบดีกรมพิธีการทูต (Chief of Protocol) [การทูต] | Joint Commission | คณะกรรมาธิการร่วม " เป็นกลไกความร่วมมือในระดับทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก JC มีบทบาทในการดูแลและส่งเสริมความสัมพันธ์ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วัฒนธรรม และสังคม โดยแต่ละฝ่ายจะสลับกันเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม ซึ่งอาจมีขึ้นปีละครั้งหรือ 2-3 ปีต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความสะดวกของทั้งสองฝ่าย JC อาจมีกลไกย่อยหรือคณะกรรมการภายใต้ JC เพื่อกำกับดูแลเฉพาะเรื่องหรือมีคณะกรรมการในระดับส่วน ภูมิภาค เช่น ไทยกับมาเลเซียมีคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee - GBC) มีบทบาทในการดูแลความร่วมมือด้านการทหารและความมั่นคงบริเวณชายแดน และมีคณะกรรมการจัดทำหลักเขตแดนทางบก (Land Boundary Committee - LBC) เพื่อดูแลการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างประเทศทั้งสอง นอกจากนั้น ยังมีคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee - JTC) ระหว่างไทยกับบางประเทศ เป็นกลไกเพื่อส่งเสริมการค้าและขจัดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน " [การทูต] | Ministry of Foreign Affairs | กระทรวงการต่างประเทศ ในแต่ละประเทศอาจมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป อาทิ Department of State ของสหรัฐอเมริกา (Secretary of State รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ) Department of Foreign Affairs and Trade (DFAT) ของออสเตรเลีย Ministry of Foreign Affairs and Trade (MFAT) ของนิวซีแลนด์ เป็นต้น [การทูต] | North Atlanitc Treaty Organization | องค์การนาโต้ หรือองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ซึ่งได้ลงนามกันเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1949 ประเทศสมาชิกขณะเริ่มตั้งองค์การครั้งแรก ได้แก่ ประเทศเบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ต่อมาประเทศกรีซและตรุกีได้เข้าร่วมเป็นภาคีของสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1952 และเยอรมนีตะวันตก ( ในขณะนั้น) เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1955 สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1949ในภาคอารัมภบทของสนธิสัญญา ประเทศภาคีได้ยืนยันเจตนาและความปรารถนาของตน ที่จะอยู่ร่วมกันโดยสันติกับประเทศและรัฐบาลทั้งหลาย ที่จะปกป้องคุ้มครองเสรีภาพมรดกร่วม และอารยธรรมของประเทศสมาชิกทั้งมวล ซึ่งต่างยึดมั่นในหลักการของระบอบประชาธิปไตย เสรีภาพส่วนบุคคลหลักนิติธรรม ตลอดจนจะใช้ความพยายามร่วมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อป้องกันประเทศ และเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงในสนธิสัญญาดังกล่าว บทบัญญัติที่สำคัญที่สุดคือข้อ 5 ซึ่งระบุว่า ประเทศภาคีสนธิสัญญาทั้งหลายต่างเห็นพ้องต้องกันว่า หากประเทศภาคีหนึ่งใดหรือมากกว่านั้น ในทวีปยุโรปหรือในอเมริกาเหนือ ถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธ จักถือว่าเป็นการโจมตีต่อประเทศภาคีทั้งหมด ฉะนั้น ประเทศภาคีจึงตกลงกันว่า หากมีการโจมตีด้วยกำลังอาวุธเช่นนั้นเกิดขึ้นจริง ประเทศภาคีแต่ละแห่งซึ่งจะใช้สิทธิในการป้องกันตนโดยลำพังหรือร่วมกัน อันเป็นที่รับรองตามข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ จะเข้าช่วยเหลือประเทศภาคีแห่งนั้นหรือหลายประเทศซึ่งถูกโจมตีด้วยกำลัง อาวุธในทันทีองค์กรสำคัญที่สุดในองค์การนาโต้เรียกว่า คณะมนตรี (Council) ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศภาคีสนธิสัญญานาโต้ คณะมนตรีนี้จะจัดตั้งองค์กรย่อยอื่น ๆ หลายแห่ง รวมทั้งกองบัญชาการทหารสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตรภาคพื้นยุโรปและภาคพื้น แอตแลนติก สำนักงานใหญ่ขององค์การนาโต้ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส [การทูต] | Neutralization, Neutrality หรือ Neutralism | คำว่า Neutraliza-tion หมายถึง กระบวนการซึ่งรัฐได้รับการค้ำประกันความเป็นเอกราชและบูรณภาพอย่างถาวรภาย ใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ รัฐที่ได้รับการประกันรับรองให้เป็นกลาง (Neutralized State) เช่นนี้จะผูกมัดตนว่า จะละเว้นจาการใช้อาวุธโจมตีไม่ว่าประเทศใดทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าจะถูกโจมตีก่อน ตัวอย่างอันเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความ เป็นกลางอย่างถาวร คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามปฏิญญา (Declaration) ซึ่งมีการลงนามกัน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1815 ประเทศใหญ่ ๆ ในสมัยนั้น คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษ ปรัสเซีย และรัสเซีย ได้รับรองว่า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม จึงเป็นการจำเป็นที่จะให้รัฐเฮลเวติก(Helvetic Swiss States) ได้รับการประกันความเป็นกลางตลอดไป ทั้งยังประกาศด้วยว่า รัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์ตกลงรับปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้ระบุไว้เมื่อไร ความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์ก็จะได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางในทันที และแล้วสมาพันธ์สวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประกาศยอมรับปฏิบัติตาม หรือให้ภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1815 บรรดาประเทศที่รับรองค้ำประกันความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์จึงประกาศ รับรองดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1815 อนึ่ง การค้ำประกันความเป็นกลางในลักษณะที่ครอบคลุมทั้งประเทศของรัฐใดรัฐหนึ่ง นั้น มีความแตกต่างกับการค้ำประกันเพียงดินแดนส่วนใดส่วนหนึ่งของรัฐหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าดินแดนส่วนหนึ่งของรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางจะ ไม่ยอมให้ฝ่ายใดใช้ดินแดนส่วนที่ค้ำประกันนั้นเป็นเวทีสงครามเป็นอันขาด การค้ำประกันความเป็นกลางยังมีอีกแบบหนึ่งคือ รัฐหนึ่งจะประกาศตนแต่ฝ่ายเดียวว่าจะรักษาความเป็นกลางของตนตลอดไปโดยถาวร แต่ในกรณีเช่นนี้ ความเป็นเอกราชและบูรณภาพของรัฐที่ประกาศตนเป็นกลางเพียงฝ่ายเดียว จะไม่ได้รับการค้ำประกันร่วมกันจากรัฐอื่น ๆ แต่อย่างใดส่วนคติหรือลัทธิความเป็นกลาง (Neutralism) เป็นศัพท์ที่หมายถึงสถานภาพของรัฐต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการน้ำประเทศของตนเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสงครามเย็น ( Cold War) ที่กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ระหว่างกลุ่มประเทศภาคตะวันออกกับกลุ่มประเทศภาค ตะวันตก นอกจากนี้ ผู้นำบางคนในกลุ่มของรัฐที่เป็นกลาง ไม่เห็นด้วยกีบการที่ใช้คำว่า ?Neutralism? เขาเหล่านี้เห็นว่าควรจะใช้คำว่า ?ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด? ( Uncommitted ) มากกว่าจะเห็นได้ว่า คำว่า ?ความเป็นกลาง? ( Neutrality ) นั้น หมายถึงความเป็นกลางโดยถาวร ซึ่งได้รับการค้ำประกันจากกลุ่มประเทศกลุ่มหนึ่ง เช่นในกรณีประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้หรือหมายถึงความเป็นกลางเฉพาะในดินแดน ส่วนหนึ่งของรัฐที่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปทำสงครามกันในดินแดนที่เป็นกลางส่วน นั้นเป็นอันขาดก็ได้ ดังนั้น พอจะเห็นได้ว่า แก่นแท้ในความหมายของความเป็นกลาง ( Neutrality) จึงอยู่ที่ท่าที หรือ ทัศนคติของประเทศที่ดำรงตนเป็นกลาง ไม่ต้องการเข้าข้างประเทศคู่สงครามใด ๆ ในสงคราม ในสมัยก่อนผู้คนยังไม่รู้จักความคิดเรื่องความเป็นกลางดังที่รู้จักเข้าใจ กันในปัจจุบัน ความเป็นกลางเป็นผลมาจากการทยอยวางหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของความเป็นกลาง นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน [การทูต] | Niccolo Machiavelli (1469-1527) | คือรัฐบุรุษและปรัชญาเมธีทางการเมืองของสาธารณรัฐ ฟลอเรนส์ (Florence) ระหว่างรับราชการ ท่านดำรงตำแหน่งฝ่ายธุรการหลายตำแหน่งซึ่งไม่สู้มีความสำคัญเท่าใด แต่สิ่งที่ท่านสนใจมากที่สุดได้แก่ศิลปะของการเมือง หนังสือสำคัญ ๆ ที่ท่านประพันธ์ขึ้นไว้คือ The Prince เล่มหนึ่ง อีกเล่มหนึ่งชื่อ The Art of War และอีกเล่มหนึ่งคือ Discourses on the First Ten Books of Livyมีนักเขียนหลายคนวิพากษ์ Machiavelli ที่แสดงความเห็นสนับสนุนว่า รัฐบาลใดก็ตมที่ต้องการรักษาอำนาจการปกครองตนให้เข้มแข็งไว้ ย่อมจะใช้วิถีทางใด ๆ ก็ได้ ถึงแม้หนทางเช่นนั้นจะผิดกฎหมายหรือไร้ศีลธรรมก็ตาม และก็มีนักเขียนอีกหลายคนสนับสนุนท่าน โดยชี้ให้เห็นว่า ท่านเป็นแต่เพียงตีแผ่ให้เห็นพฤติกรรมที่แท้จริงของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในยุคสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่มากกว่าอย่างอื่น อาทิเช่น ในหนังสือ The Prince ของท่านตอนหนึ่งอ้างว่า การต่อสู้นั้นมีอยู่สองวิธี วิธีแรกเป็นการต่อสู้โดยวิถีทางกฎหมาย อีกวิธีหนึ่งคือการต่อสู้โดยใช้กำลัง (Force) วิธีแรกนั้นเป็นวิธีที่มนุษย์พึงใช้ ส่วนวิธีที่สองเป็นวิธีเยี่ยงสัตว์ป่า แต่การใช้วิธีแรกมักจะไม่ค่อยได้ผลเสมอไป เพราะไม่เพียงพอ ก็ย่อมจะหันเข้าใช้วิธีที่สองได้ ฉะนั้น ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้น ซึ่ง Machiavelli เรียกว่า Prince จึงจำเป็นต้องรู้ดีว่าจะใช้ทั้งวิธีที่มนุษย์จะพึงใช้ และวิธีเยี่ยงสัตว์ป่าอย่างไร ด้วยเหตุนี้ ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้นไม่จำเป็นต้องมีสัจธรรม หากการกระทำนั้น ๆ จะทำความเสียหายแก่ผลประโยชน์ของประเทศ ท่านเห็นว่า หากมนุษย์ทุกคนเป็นคนดี กฎเช่นนี้ก็เป็นกฎที่ไม่ถูกต้อง แต่โดยที่มนุษย์ไม่ใช่คนดีทั้งหมด ในเมื่อเขาไม่ยอมให้ความศรัทธาความไว้วางใจในตัวท่าน ก็ไม่มีอะไรที่จะมาห้ามมิให้ท่านเลิกศรัทธากับเขาเหล่านั้นได้ [การทูต] | Organization of American States | คือองค์การของรัฐในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1947 สหรัฐอเมริกา และประเทศต่าง ๆ ในละตินอเมริกา ยกเว้นประเทศนิคารากัวและอีเควดอร์ ได้ตกลงทำสนธิสัญญาระหว่างรัฐในอเมริกาด้วยกัน ณ กรุงริโอเดจาเนโร เพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า สนธิสัญญาริโอ ประเทศเหล่านั้นต่างมุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือกันอย่างมีประสิทธิผล ถ้าหากรัฐในอเมริกาหนึ่งใดถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธหรือถูกคุกคามจาการรุกราน ต่อมาในเดือนเมษายน ค.ศ. 1948 ได้มีการจัดตั้งองค์การของรัฐอเมริกัน (Organization of American States) ขึ้น ณ กรุงโบโกตา ประเทศโบลิเวีย ประกอบด้วยรัฐต่าง ๆ ในอเมริการวม 21 ประเทศ ยกเว้นประเทศแคนาดา เพื่อดำเนินการให้เป็นผลตามสนธิสัญญาริโอ และจัดวางระบบการรักษาความมั่นคงร่วมกันขึ้น กฎบัตร (Charter) ขององค์การได้มีผลบังคับให้เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1951องค์การโอเอเอสนี้ เป็นองค์การส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่ง ภายในกรอบของสหประชาชาติ ประเทศสมาชิกต่างปฏิญาณร่วมกันที่จะทำการธำรงรักษากระชับสันติภาพ ตลอดจนความมั่นคงในทวีปอเมริกา เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุแห่งความยุ่งยากใด ๆ และต้องการระงับกรณีพิพาทที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างประเทศสมาชิกด้วยกันโดย สันติวิธี อนึ่ง ถ้าหากมีการรุกรานเกิดขึ้นก็จะมีการปฏิบัติการร่วมกัน นอกจากนี้ ยังจะหาทางระงับปัญญาหาทางการเมือง ทางการศาล และทางเศรษฐกิจ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างประเทศสมาชิก พร้อมทั้งจะพยายามร่วมกัน ในการหาหนทางส่งเสริมพัฒนาการทางเศรษฐกิจสังคม และวัฒนธรรม สำนักงานใหญ่ขององค์การโอเอเอสตั้งอยู่ ณ กรุงวอชิงตันดีซี นครหลวงของสหรัฐอเมริกา [การทูต] | Political Appointee | หมายถึง บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งด้วยเหตุผลทางการเมือง คือ ผู้ที่มิได้มีอาชีพทางการทูตโดยแท้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูต ซึ่งต่างกับนักการทูตอาชีพ (Career diplomat) ในประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหภาพโซเวียต ธรรมเนียมปฏิบัติโดยทั่วไปจะแต่งตั้งเฉพาะบุคคลที่มีอาชีพนักการทูตแท้ ๆ เข้าดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตและอัครราชทูต อย่างไรก็ดี เฉพาะในกรณีพิเศษจริง ๆ เท่านั้นจึงจะแต่งตั้งบุคคลจากภายนอก และบุคคลจากภายนอกที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตได้รับผลสำเร็จในการ ปฏิบัติหน้าที่ก็มีอยู่หลายราย ทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก แฮโรลด์ นิโคลสัน ได้ให้ความเห็นไว้ในหนังสือเรื่องการทูตของท่านว่า ในประเทศใหญ่ ๆ เป็นที่พึงปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้นักการทูตอาชีพเท่านั้นเป็นผู้รับผิดชอบ ในการดำเนินนโยบายการต่างประเทศ เพราะได้ผ่านการศึกษาและฝึกฝนในวิชาการทูตมาเป็นอย่างดีแล้ว ส่วนเอกอัครราชทูตที่แต่งตั้งจากคนภายนอกจะมีข้อเสียบางอย่าง เช่น ในการเขียนรายงานไปยังรัฐบาล เช่น รายงานการเมือง เขาอาจมุ่งแต่จะอวดความเฉียบแหลมของเขาเอง และร้อยกรองคำอย่างไพเราะเพราะพริ้ง มากกว่าที่จะมุ่งเสนอรายงานข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบและมีเหตุผลอันสมควร เป็นต้น [การทูต] | Potsdam Proclamation | คือคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดม ออกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 โดยหัวหน้าคณะรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และจีน ลงนามโดยประธานาธิบดีของรัฐบาลจีนคณะชาติ เป็นคำประกาศเมื่อตอนใกล้จะเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง โดยฝ่ายสัมพันธมิตรดังกล่าวกำลังทำสงครามขับเคี่ยวอยู่กับฝ่ายญี่ปุ่น พึงสังเกตว่า สหภาพโซเวียต ในตอนนั้นมิได้มีส่วนร่วมในการออกคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดมแต่อย่างใดโดยแท้จริงแล้ว คำประกาศนี้เท่ากับเป็นการยื่นคำขาดให้ฝ่ายญี่ปุ่นตัดสินใจเลือกเอาว่าจะทำ การสู้รบต่อไป หรือจะยอมจำนนเพื่อยุติสงคราม คำประกาศได้เตือนอย่างหนักแน่นว่า หากญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะสู้รบต่อไป แสนยานุภาพอันมหาศาลของสัมพันธมิตรก็จะมุ่งหน้าโจมตีบดขยี้กองทัพและประเทศ ญี่ปุ่นให้แหลกลาญ แต่หากว่าญี่ปุ่นยอมโดยคำนึงถึงเหตุผล ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้ตั้งเงื่อนไขไว้หลายข้อ สรุปแล้วก็คือ ลัทธิถืออำนาจทหารเป็นใหญ่จะต้องถูกกำจัดให้สูญสิ้นไปจากโลกอำนาจและอิทธิพล ของบรรดาผู้ที่ชักนำให้พลเมืองญี่ปุ่นหลงผิด โดยกระโจนเข้าสู่สงครามเพื่อครองโลกนั้น จะต้องถูกทำลายให้สิ้นซาก รวมทั้งพลังอำนาจในการก่อสงครามของญี่ปุ่นด้วยจุดต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด จะต้องถูกยึดครองไว้จนกระทั่งได้ปฏิบัติตามจุดมุ่งหมายของสัมพันธมิตรเป็นผล สำเร็จแล้ว อำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่นให้จำกัดอยู่เฉพาะภายในเกาะฮอนซู ฮ็อกไกโด กิวชู ชิโกกุ และเกาะเล็กน้อยอื่น ๆ ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด อาชญากรสงครามทุกคนจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาล รวมทั้งที่ทำทารุณโหดร้ายต่อเชลยศึกของสัมพันธมิตร รัฐบาลญี่ปุ่นจะต้องกำจัดสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อการรื้อฟื้น และเสริมสร้างความเชื่อถือในหลักประชาธิปไตยในระหว่างพลเมืองญี่ปุ่น และจัดให้มีเสรีภาพในการพูด การนับถือศาสนา และในการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการด้านอุตสาหกรรมที่จะเกื้อกูลต่อภาวะ เศรษฐกิจของประเทศ และความสามารถที่จะชำระค่าปฏิกรรมสงคราม แต่จะไม่ยอมให้คงไว้ซึ่งกิจการอุตสาหกรรมชนิดที่จะช่วยให้ญี่ปุ่นสร้างสม อาวุธเพื่อทำสงครามขึ้นมาอีก ในทีสุด กำลังทหารสัมพันธมิตรจะถอนตัวออกจากประเทศญี่ปุ่นในทันทีที่จุดประสงค์ต่าง ๆ ได้บรรลุผลเรียบร้อยแล้ว ในตอนท้ายของเงื่อนไข สัมพันธมิตรได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข เสียโดยไว [การทูต] | Regional Organizations | คือองค์การส่วนภูมิภาค ในเรื่องนี้ ข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติไว้ว่า ?ไม่มีข้อความใดในกฎบัตรฉบับปัจจุบัน อันจักริดรอนสิทธิประจำตัวในการป้องกันตนเองโดยลำพังหรือโดยร่วมกัน หากการโจมตีโดยกำลังอาวุธบังเกิดแก่สมาชิกของสหประชาชาติ จนกว่าคณะมนตรีความมั่นคงจะได้ดำเนินมาตรการที่จำเป็น เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ มาตรการที่สมาชิกได้ดำเนินไปในการใช้สิทธิป้องกันตนเองนี้ จักต้องรายงานให้คณะมนตรีความมั่นคงทราบโดยทันที และจักไม่กระทบกระเทือนอำนาจและความรับผิดชอบของคณะมนตรีความมั่นคงภายใต้กฎ บัตรฉบับปัจจุบันแต่ทางหนึ่งทางใด ในอันที่จักดำเนินการเช่นที่เห็นจำเป็น เพื่อธำรงไว้หรือสถาปนากลับคืนมา ซึ่งสันติภาพความมั่นคงระหว่างประเทศ?จะเห็นได้ว่า ประเทศต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเดียวกันมักจะทำข้อตกลงกันในส่วนภูมิภาค โดยอาศัยสนธิสัญญา และโดยที่อาศัยอยู่ในเขตภูมิศาสตร์ใกล้เคียงกัน ( Geographical Propinquity ) หรือมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด และมีวัตถุประสงค์ที่จะอำนวยความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเมืององค์การส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่งที่พอจะหยิบยก มาเป็นตัวอย่างได้ คือ องค์การสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEATO) ซึ่งบัดนี้ได้ยุบเลิกไปแล้วเพราะหมดความจำเป็น องค์การรัฐอเมริกัน (Organization of American States-OAS) องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ (NATO) องค์การร่วมมือระหว่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา (ANZUS) เป็นต้น องค์การภูมิภาคเหล่านี้ตั้งขึ้นโดยอาศัยข้อ 51 ของกฎบัตร สหประชาชาติ ซึ่งกล่าวถึงสิทธิของประเทศสมาชิกที่จะทำการป้องกันตนเองโดนลำพังหรือโดย ร่วมกัน หากถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธ [การทูต] | rule of origin | กฎแหล่งกำเนิดสินค้า เป็นเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณาว่า สินค้ามีแหล่งกำเนิดจากประเทศใด เนื่องจากการผลิตอาจมิได้ผลิตจากวัตถุดิบภายในประเทศเท่านั้น แต่มีการนำเข้าวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนจากนอกประเทศมาใช้ในการผลิต [การทูต] | Southeast Asia Collective Defense Treaty (Mahila Pact) | สนธิสัญญาซีโต้ สนธิสัญญานี้ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1954 ประเทศที่ลงนามในสนธิสัญญามีประเทศออสเตรเลีย ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ประเทศไทย อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา สนธิสัญญาได้มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1955ในภาคอารัมภบทของสัญญานี้ บรรดาประเทศสมาชิกต่างแสดงความปรารถนาที่จะประสานความพยายามของตนที่จะ ป้องกันร่วมกัน เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคง โดยเฉพาะข้อ 4 ของสนธิสัญญาเป็นข้อสำคัญที่สุด คือ แต่ละประเทศภาคีคู่สัญญาตกลงเห็นพ้องกันว่า หากดินแดนของประเทศใดถูกรุกรานจาการโจมตีด้วยกำลังอาวุธ ประเทศภาคีทั้งหมดที่เหลือจะถือว่าเป็นอันตรายร่วมกัน และจะปฏิบัติการเพื่อเผชิญหน้ากับอันตรายร่วมกัน หรือถ้าหากพื้นที่ภายในเขตครอบคลุมของสนธิสัญญาถูกคุกคามด้วยประการใด ๆ ประเทศภาคีทั้งหมดจะปรึกษากันในทันที เพื่อตกลงในมาตรการเพื่อการป้องกันร่วมกันสำนักงานใหญ่ขององค์การซีโต้ตั้ง อยู่ในกรุงเทพมหานคร โดยที่สถานการณ์ทางการเมืองของโลกได้เปลี่ยนไปมากทำให้องค์การซีโต้หมดความ จำเป็น และได้ยุบเลิกไปนานแล้ว [การทูต] | radiation disinfestation | การควบคุมการแพร่พันธุ์ของแมลงด้วยรังสี, คือ การนำอาหารหรือผลิตผลการเกษตร ไปผ่านการฉายรังสีแกมมา หรือรังสีเอกซ์ หรืออิเล็กตรอน เพื่อกำจัด หรือยับยั้งการขยายพันธุ์ของแมลงที่อาจมีอยู่ในอาหารหรือผลิตผลการเกษตร และจะต้องบรรจุในภาชนะที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการกลับเข้ามาทำลายของแมลงที่อาจมีอยู่ในอาหาร หรือผลิตผลการเกษตรที่ฉายรังสีด้วยปริมาณรังสีไม่เกิน 1 กิโลเกรย์ เช่น มะม่วง มะละกอ เมล็ดโกโก้ ถั่ว ข้าว ข้าวสาลี ปลาแห้ง ปลารมควัน ดอกกล้วยไม้ [พลังงาน] |
| Up his nose? | ในจมูกงั้นหรอ Here Comes the Flood (2008) | Jamie? | เจมี่.. Nebraska (2011) | James. | เจมส์ Rush (2013) | Jameson: | เจมสัน: Athens (2014) | Now then, perhaps I can divine a solution to this thorny problem. | เอาละ บางทีข้าอาจมีทางแก้อุปสรรคเหล่านี้ Aladdin (1992) | I'm really very sorry. | ข้าเสียใจมากๆเลย Aladdin (1992) | I think she took it ... | ข้าว่าเธอเข้าใจมัน ค่อนข้างดีทีเดียว Aladdin (1992) | Who disturbs my slumber? | ใครบังอาจมารบกวนเวลานอนของข้า? Aladdin (1992) | -Aladdin! Hello, Aladdin. | สวัสดี อะลาดิน ดีใจมากที่ได้คุณร่วมแสดง Aladdin (1992) | If you wanna court the little lady, you gotta be a straight shooter, do ya got it? | ถ้าเจ้าจะจีบสาวน้อย เจ้าต้องยิงลูกตรง เข้าใจมั้ย Aladdin (1992) | You have to say "Genie I want you to save my life." Got it? Okay. | "จีนี่ ข้าต้องการให้ช่วยชีวิตข้า" เข้าใจมั้ย เร็วเข้า อะลาดิน Aladdin (1992) | Kevin Franks did not drown. | เควิน แฟร๊งค์ ไม่ได้จมน้ำ Basic Instinct (1992) | Dr. Gerst was very impressed. | เกิร์สประทับใจมาก Basic Instinct (1992) | Like you said, trust is very hard to come by. | อย่างที่คุณว่า ความเชื่อใจมันยากที่จะเกิดขึ้น Basic Instinct (1992) | In fact, it came as a complete surprise, didn't it? | ความจริงแล้ว มันออกมาน่าประหลาดใจมากๆเลย ไม่ใช่เหรอ? Basic Instinct (1992) | She's very upset. You terrified her. | เธอตกใจมาก คุณทำให้เธอกลัว Basic Instinct (1992) | You assaulted her. She nearly drowned. | คุณจู่โจมเธอ เธอเกือบจะจมน้ำ Basic Instinct (1992) | Get the cuffs on him. | ใส่กุญแจมือเขา Basic Instinct (1992) | I'm sure the number of nuts writing fan letters jumps whenever Rachel's on a magazine. | นิคกี้ บอกเขาด้วยเรื่องที่มี จม.บ้าๆ จากแฟนมาเรื่อย ทุกครั้งที่ราเชลขึ้นปกหนังสือ The Bodyguard (1992) | Maybe there is some glory in saving a president, but just anybody? | ช่วยชีวิตประธานาธิบดีอาจมีศักดิ์ศรี แต่ถ้าคนเดินดิน? The Bodyguard (1992) | What is that, exactly? Making me feel like shit? No. | อะไร ทำยังกับฉันเป็นอาจม The Bodyguard (1992) | You could have drowned him! You could have drowned him! | จะให้ลูกฉันจมน้ำตายหรือไง! The Bodyguard (1992) | Edgar and Isabella Linton said they might come this afternoon. | เอ็ดการ์กับอิซซาเบลล่า ลินตันบอกว่า พวกเขาอาจมาเยี่ยมบ่ายนี้ Wuthering Heights (1992) | "Fair" means you haven't the courage to attack him. | "ยุติธรรม" หมายถึงคุณไม่กล้า พอจะจู่โจมเขา Wuthering Heights (1992) | Cathy, give me the key. | แคทธี เอากุญแจมา Wuthering Heights (1992) | I said give me the key. | ผมบอกว่า เอากุญแจมา Wuthering Heights (1992) | Give me that key. | เอากุญแจมาให้ดิฉัน Wuthering Heights (1992) | Threat. | จู่โจม The Lawnmower Man (1992) | We can report the air raid sirens are going off. | ทางเราสามารถจับภาพ การโจมตีทางอากาศได้ The Lawnmower Man (1992) | Project Five is very impressive. | โครงการที่ห้าที่คุณเสนอน่าสนใจมาก The Lawnmower Man (1992) | - My handcuff keys. Wait. | กุญแจมือผม! Jumanji (1995) | And the possibilities for education are staggering. | โครงการนี้อาจมีอุปสรรคบ้าง The Lawnmower Man (1992) | I feel so lazy today. | วันนี้ฉันขี้เกียจมาก ๆ Of Mice and Men (1992) | Couldn't swim a stroke. He damn near drowned before we could get to him. | ว่ายน้ำไม่เป็นเลยสักท่า เขาเกือบจมน้ำตาย ก่อนที่เราจะถึงตัว Of Mice and Men (1992) | - You got that? Huh? | - เข้าใจมั้ย หา.. Of Mice and Men (1992) | Thanks a lot. I didn't want no trouble. | ขอบใจมาก ฉันไม่อยากจะมีเรื่องเลย Of Mice and Men (1992) | One of 'em got very close. | อาจมีสักอันที่ใกล้นะ Of Mice and Men (1992) | No one knows when they will strike first! | ไม่มีใครรู้ว่ามันจะโจมตีเมื่อไหร่ The Cement Garden (1993) | Have you got the key? | เอากุญแจมาซิ The Cement Garden (1993) | You understand? | เข้าใจมั้ย? Cool Runnings (1993) | Is it very sore? | เขาตั้งใจมากเลย รู้ไหม? The Cement Garden (1993) | We've had a most successful afternoon... and I'd like to congratulate all of the athletes... who have participated in today's events. | เราประสบความสำเร็จมาก เมื่อช่วงบ่าย... และผมขอแสดงความยินดี กับนักกีฬาทุกคน... ที่เข้าร่วมการแข่งขันในวันนี้ Cool Runnings (1993) | Hey, man, you could be famous. | เพื่อน นายอาจมีชื่อเสียง Cool Runnings (1993) | You could have your picture on a Wheaties box. | นายอาจมีรูปขึ้นทำเนียบแชมเปี้ยน Cool Runnings (1993) | Thanks a lot, Junior. Thanks a whole heap, man. | ขอบใจมาก จูเนียร์ ขอบใจมากที่สุด เพื่อน Cool Runnings (1993) | You understand? | - นายเข้าใจมั้ย? Cool Runnings (1993) | Is that clear? | จาก 1 นาที 2 วินาที เป็น 1 นาที เข้าใจมั้ย? Cool Runnings (1993) | Well, in case Jimi Hendrix shows up tonight, here's my number. | เออ.. , ที่โชว์งานเจมี่ เฮนดริกซ์ คืนนี้, นี่เบอร์ผม. Hocus Pocus (1993) | The book is bound in human skin... and contains the recipes for her most powerful and evil spells." | หนังสือนี่ทำมาจากหนังมนุษย์... ประกอบไปด้วยการปรุงยาที่มีอำนาจมากและคถาของซาตาน." Hocus Pocus (1993) | Thanks a lot. | ขอบใจมาก Hocus Pocus (1993) |
| อำนาจมืด | [amnāt meūt] (n, exp) EN: dark influence ; dark power FR: pouvoir occulte [ m ] ; pouvoir de l'ombre [ m ] | เบญจมสุรทิน | [benjamasunthin] (n) EN: fifth day of the solar calendar | เบญจมาศ | [benjamāt] (n) EN: Chrysanthemum morifolium ; Florist's Mun | บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต | [børihān thurakit mahābandit] (n, exp) EN: Master of Business Administration | ช่องจมูก | [chǿng jamūk] (n) EN: nasopharynx FR: pharynx supérieur [ m ] | ช่องจมูกวัวควาย | [chǿng jamūk wūa-khwāi] (n, exp) EN: hole in a nose of an ox/buffalo | ดั้งจมูก | [dang jamūk] (n, exp) EN: bridge of the nose | ดีใจมาก | [dījai māk] (adj) FR: très heureux ; enchanté | หัวใจมะพร้าว | [hūajai maphrāo] (n, exp) EN: coconut’s heart | หัวใจม่วง | [hūajai muang] (n, exp) EN: Purple heart ; Purple tradescantia | จมูก | [jamūk] (n) EN: nose FR: nez [ m ] ; pif [ m ] (fam.) ; tarin [ m ] (fam.) | จมูก | [jamūk] (n) EN: snout FR: museau [ m ] ; groin [ m ] ; truffe [ f ] | จมูกแบน | [jamūk baēn] (n, exp) EN: flat nose FR: nez épaté [ m ] | จมูกบี้ | [jamūk bī] (n, exp) EN: flattened nose ; snub nose ; pug nose | จมูกชี้ฟ้า | [jamuk chī fā] (n, exp) EN: tip-tilted nose ; turnup nose | จมูกดั้งหัก | [jamūk dang hak] (n, exp) EN: crooked nose | จมูกโด่ง | [jamūk dong] (n, exp) EN: prominent nose ; aquiline nose FR: nez aquilin [ m ] | จมูกแหลม | [jamūk laēm] (n, exp) EN: sharp-pointed nose | จมูกงอน | [jamūk ngøn] (n, exp) FR: nez en trompette [ m ] | จมูกงุ้ม | [jamūk ngum] (n, exp) EN: aquiline nose ; hooked nose FR: nez aquilin [ m ] | จมูกโต | [jamūk tō] (n, exp) EN: big nose FR: gros nez [ m ] | จมูกไว | [jamūk wai] (adj) EN: quick to know | จมูกวัว | [jamūkwūa] (n) EN: pipe | จมูกใหญ่ | [jamūk yai] (n, exp) EN: big nose FR: gros nez [ m ] | จมูกยาว | [jamūk yāo] (n, exp) EN: long nose FR: long nez [ m ] ; nez allongé [ m ] | เจมส์ เคลิร์ก แมกซ์เวล | [Jēm Khloēk Maēkswēl] (n, prop) EN: James Clerk Maxwell FR: James Clerk Maxwell | จม | [jom] (v) EN: sink ; submerge ; be imbedded ; be immersed FR: couler ; s'enfoncer ; être submergé ; sombrer | โจม | [jōm] (n) EN: tent ; canopy ; howdah FR: tente [ f ] ; camp [ m ] | โจม | [jōm] (v) EN: rush ; spring ; pounce | จมดิ่ง | [jomding] (v) EN: submerge ; sink | จมหายไป | [jom hāi pai] (v, exp) FR: immerger | จมน้ำ | [jom nām] (v, exp) EN: drown ; be drowned ; get drowned FR: submerger ; couler ; noyer ; se noyer ; sombrer | จมน้ำตาย | [jom nām tāi] (v, exp) FR: se noyer | จมปลัก | [jomplak] (v) EN: be stagnant ; be stuck ; be glued to one's place | โจมทัพ | [jōmthap] (n) EN: herd of war elephants ; war-elephant troop ; elephant batallion | โจมตี | [jōmtī] (v) EN: attack ; assault ; raid FR: attaquer ; charger ; assaillir | โจมตี | [jōmtī] (v) EN: criticize ; lambaste FR: critiquer | จมอยู่กับ | [jom yū kap] (v, exp) EN: be bogged down in ; be caught up in ; stuck | จมอยู่ในความคิด | [jom yū nai khwām khit] (v, exp) EN: be immersed in meditation FR: être plongé dans les pensées | จู่โจม | [jūjōm] (v) EN: attack ; burst into ; intrude ; assault ; make a sudden and violent attack | จูงจมูก | [jūng jamūk] (v, exp) EN: lead someone by the nose FR: mener par le bout du nez | การโจมตี | [kān jōmtī] (n) EN: attack FR: attaque [ f ] | การโจมตีทางอากาศ | [kān jōmtī thāng ākāt] (n, exp) EN: air strike FR: attaque aérienne [ f ] | การซุ่มโจมตี | [kān sum jōmtī] (n, exp) EN: ambush ; ambuscade FR: embusacde [ f ] | โครงจมูก | [khrōng jamūk] (n, exp) EN: nasal septum | กลางใจมือ | [klāngjai meū] (n, exp) EN: middle of the palm | กระดูกดั้งจมูก | [kradūk dang jamūk] (n, exp) EN: nasal bone FR: os propre du nez [ m ] | กระโจม | [krajōm] (n) EN: tent ; marquee ; pavilion FR: tente [ f ] ; chapiteau [ m ] | กระโจมไฟ | [krajōmfai] (n) EN: lighthouse FR: phare [ m ] | กระโจมอก | [krajōm-ok] (v) EN: wear a skirt to cover her breast |
| lasagna | (n) ชื่่ออาหารอิตาลีชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยเส้นพาสต้า, ซอส, เนยแข็ง และอาจมีผักหรือเนื้อ แล้วนำไปอบ Image: | tsunami | (n) คลื่นขนาดใหญ่และยาว (ระดับน้ำขึ้นสูง เป็นระยะทางยาวๆ ไม่ใช่ขึ้นแล้วลงเร็ว เหมือนคลื่นปกติ) ในทะเล ที่ไม่ได้เกิดขึ้นโดยปกติ แต่เกิดจากการแทนที่น้ำอย่างรุนแรง ทำให้มวลของน้ำเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง ลักษณะคล้ายๆ กับการปาหินลงในน้ำ แล้วเกิดคลื่นแผ่กระจายออก, มีสาเหตุโดยมากจากแผ่นดินไหวนอกชายฝั่ง, มักเคลื่อนไปได้เป็นระยะทางไกลๆ (มากได้ถึงหลายพัน หรือเป็นหมื่นกิโลเมตร), เมื่อถึงฝั่ง อาจมีความสูงได้เป็นสิบเมตร และทำความเสียหายได้มาก, มาจากภาษาญี่ปุ่น 津波 [ つなみ, tsunami, สึนามิ ] <p> รายละเอียดเพิ่มเติม: <A HREF=http://www.navy.mi.th/dockyard/sara_tsinami.html>http://www.navy.mi.th/dockyard/sara_tsinami.html</A>, Syn. tidal wave | advent calendar | (n) ปฏิทินชนิดหนึ่งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลศักดิ์สิทธิ์ของการมาจุติของพระเยซู เริ่มเฉลิมกันในเดือนธันวาคม ซึ่งผู้ใหญ่มักให้เป็นของขวัญแก่เด็กๆ ปฏิทินนี้ประกอบด้วยแผ่นกระดาษสองแผ่นซ้อนทับกัน มีช่องที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อให้เป็นประตูเปิดได้จากกระดาษชั้นบน ประตูเหล่านี้มีตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 24 ธันวาคม ก่อนถึงวันคริสต์มาส ซึ่งแต่ละช่องจะบอกเล่าถึงเรื่องราวของการประสูติของพระเยซู และอาจมีขนม ของขวัญชิ้นเล็กๆซ่อนอยู่ด้วยก็ได้ | flocculant | (n) สารที่ช่วยจับกลุ่มอนุภาคสารที่ทำให้เกิด floc (ตะกอนเบาซึ่งเกิดขึ้นช้า ๆ เมื่อเติมสารนี้ลงในสารแขวนลอยหรือของเหลวแขวนตะกอน จะทำให้อนุภาคต่าง ๆ ที่แขวนลอยอยู่มารวมตัวกันเป็นตะกอนมีน้ำหนักแล้วจมลงนอนก้น สารที่มีสมบัติดังกล่าว ได้แก่ potash alum ซึ่งมีสูตร K2SO4.Al.(SO4)3.24H2O และสารส้ม (alum) ซึ่งมีสูตร Al2(SO4)3.14H2O | God bless you! | พระเจ้าคุ้มครองคุณ (หรือพูดสั้นๆว่า Bless you!) เป็นคำอวยพรที่พูดเมื่อบุคคลอื่นมีอาการจาม เพราะสมัยก่อนเชื่อกันว่า ขณะที่คนเราจามนั้นวิญญาณสามารถออกจากร่างได้ ทำให้อาจมีโรคภัยได้ง่าย | larger than life | (adj) น่าประทับใจมาก เช่น He was a larger than life man, not just an intellectual., See also: imposed, Syn. very impressive | financial resource | (n, phrase) เงินที่ธุรกิจมีสำหรับใช้จ่ายในรูปของเงินสด สภาพคล่องหลักทรัพย์และวงเงินสินเชื่อ | Amyotrophic Lateral Sclerosis (ALS) | (n, name) โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ พยาธิสภาพของโรคเอแอลเอสอยู่ที่บริเวณแกนสมอง และไขสันหลัง ทำให้ผู้ป่วยมีกล้ามเนื้อแขนขา และลำตัวอ่อนแรง กลืนลำบาก และพูดไม่ชัด คำว่า “Amyotrophic” หมายถึง กล้ามเนื้ออ่อนแรง ฝ่อลีบและเต้นพลิ้ว (fasciculation) ส่วนคำว่า “Lateral sclerosis” หมายถึงรอยโรคในทางเดินของกระแสประสาทซึ่งควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อในไขสันหลัง โรคเอแอลเอสพบน้อยมาก โดยพบได้เพียง 4 ถึง 6 ต่อประชากร 100, 000 คน และโอกาสที่จะพบผู้ป่วยรายใหม่มีเพียง 1.5 ถึง 2.5 ต่อประชากร 100, 000 คนต่อปี โรคนี้เป็นกับผู้ใหญ่วัยใดก็ได้ แต่จะพบบ่อยขึ้นตามอายุ อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 65 ปี โดยมักเป็นในเพศชายมากกว่าเพศหญิง จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าโรคเอแอลเอสเกิดขึ้นได้อย่างไร ผู้ป่วยราวร้อยละ 5 (โดยเฉพาะผู้ป่วยอายุน้อย) อาจมีประวัติโรคนี้ในครอบครัว สิ่งแวดล้อมหรือสารพิษบางชนิด อาจมีผลกับการเกิดโรคนี้ เนื่องจากพบว่าในบางพื้นที่ของโลก เช่นที่เกาะกวม พบโรคนี้มากกว่าที่อื่น นอกจากนั้นการศึกษาทางระบาดวิทยายังพบว่า นักกีฬาบางประเภท โดยเฉพาะนักฟุตบอลอาชีพมีโอกาสเป็นโรคนี้สูงกว่าประชากรทั่วไป ปัจจุบันเชื่อว่าสาเหตุของโรคนี้อาจเกิดจาก กลไกภูมิคุ้มกันต่อตนเองผิดปกติ (Autoimmune attack) หรือเกิดจากกลไกอนุมูลอิสระ (Free radicals) ทำลายเซลล์ประสาทของตนเอง ส่วนอีกทฤษฎีหนึ่งเชื่อว่า การเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทในสมองและไขสันหลังเกิดจากสารสื่อนำกระแสประสาท (neurotransmitter) ที่เรียกว่ากลูตาเมต (glutamate) กระตุ้นให้เกิดการทำลายเซลล์ (ข้อมูลจาก ผศ.นพ.รุ่งนิรันดร์ ประดิษฐสุวรรณ สาขาวิชาอายุรศาสตร์ปัจฉิมวัย : http://www.thonburihospital.com/th/tip_detail.asp?id=22 , http://www.inf.ku.ac.th/article/diag/520506/alsmnd.html) | killer | (adj, slang) มีประสิทธิภาพอย่างมาก, น่าประทับใจมาก | networking | (n) กิจกรรมการพบปะผู้คน, ทำความรู้จักคนใหม่ๆ, สนทนา และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เช่น ในงานสัมมนาอาจมีช่วงงานเลี้ยงที่เป็น networking party ให้ผู้เข้าร่วมได้พบปะทำความรู้จักกัน |
| above | (adv) ที่มีอำนาจมากกว่า | absorbing | (adj) ที่ดึงดูดความสนใจ, See also: ที่น่าสนใจมาก, Syn. interesting, engrossing | acrid | (adj) รุนแรง (กลิ่นหรือรส), See also: ฉุน, แสบจมูก, Syn. bitter, sharp, stinging | air raid | (n) การโจมตีทางอากาศ, See also: การโจมตีโดยเครื่องบิน | ambuscade | (n) การซุ่มโจมตี, Syn. ambush | ambuscade | (vi) ซุ่มโจมตี, Syn. ensnare, lie in wait for | ambush | (n) การซุ่มโจมตี, See also: การดักลอบทำร้าย, การโจมตีที่ไม่ได้คาดคิด, Syn. ambuscade | ambush | (vi) ซุ่มโจมตี (จากตำแหน่งที่ซ่อนอยู่) | ambush | (vt) ซุ่มโจมตี (จากตำแหน่งที่ซ่อนอยู่) | animate | (vt) ทำให้ดุจมีชีวิต | assail | (vt) โจมตี, See also: รุกราน, ถล่ม, Syn. attack, assault | assault | (n) การจู่โจม, See also: การโจมตี, การทำร้ายร่างกาย, Syn. attack, charge, onslaught | assault | (vi) โจมตี, See also: เล่นงาน, จู่โจม | assault | (vt) โจมตี, See also: จู่โจม, เล่นงาน, Syn. attack, assail | attack | (n) การโจมตี, Syn. assault, charge, strike | attack | (vi) บุก, See also: โจมตี, รุกราน, รุก, ตี | attack | (vt) บุก, See also: โจมตี, รุกราน, รุก, ตี, Syn. assault, strike | abandon to | (phrv) ปล่อยให้ (ตัวเองหรือบางสิ่ง) จมอยู่กับ, See also: จมอยู่กับ | absorb in | (phrv) หมกมุ่น, See also: จดจ่ออยู่กับ, จมอยู่กับ, วุ่นวายอยู่กับ | advance on | (phrv) บุก, See also: โจมตี, รุกราน, เข้าตี, Syn. advance upon | advance upon | (phrv) บุก, See also: โจมตี, รุกราน, เข้าตี, Syn. advance on | assail with | (phrv) จู่โจมด้วย (มักใช้รูป passive voice), See also: โจมตีด้วย, รุกรานด้วย | backslap | (vi) ส่งเสียงพึงพอใจมาก, See also: แสดงความพอใจอย่างยิ่ง, Syn. be jovial | backslap | (vt) ส่งเสียงพึงพอใจมาก, See also: แสดงความพอใจอย่างยิ่ง | backslapping | (adj) อย่างความพึงพอใจมาก, Syn. hearty | barrage | (n) การโจมตี, See also: การระดมยิงปืน, Syn. bombardment | barrage | (vt) โจมตีคู่ต่อสู้ไม่หยุด | bathos | (n) การเสแสร้งสงสารหรือเห็นใจมากเกินไป, Syn. sentimentality | batter | (vt) ทุบตีติดต่อกัน, See also: ตีติดต่อกัน, โจมตีติดต่อกัน, Syn. beat | battery | (n) การทำร้ายร่างกาย, See also: การโจมตี, การต่อสู้ | beaten | (adj) ถูกโจมตี, See also: พ่ายแพ้ | besiege | (vt) โอบล้อมด้วยศัตรู, See also: ล้อม, โจมตี, Syn. beleaguer | better | (adv) เป็นที่ชอบหรือพึงพอใจมากกว่า | blindside | (vt) โจมตีจากทิศทางที่มองไม่เห็น | blitz | (n) การโจมตีทางอากาศอย่างรวดเร็วและรุนแรง, Syn. bombardment, attack | blitz | (vt) โจมตีทางอากาศอย่างรวดเร็วและรุนแรง, See also: ี, Syn. bombard | blitzkrieg | (n) การโจมตีทางทหารทันทีเพื่อเอาชนะอย่างรวดเร็ว | blow | (vt) สูดจมูก | bob | (n) การศัลยกรรมจมูก (ภาษาไม่เป็นทางการ) | bombard | (vt) โจมตีโดยการใช้ระเบิดหรือปืนที่มีอานุภาพร้ายแรง, See also: ถล่ม, กระหน่ำ, จู่โจม, Syn. assail, attack | bombardment | (n) การโจมตีโดยการใช้ระเบิดหรือปืนที่มีอานุภาพร้ายแรง, Syn. attack | break | (vt) ล่มจม, See also: ล้มละลาย | bridge | (n) ดั้งจมูก, See also: ดั้ง | broadside | (n) การกล่าวโจมตี | brunt | (n) การโจมตีอย่างรุนแรง, Syn. attack | bulldog | (vt) จู่โจม | bury | (vt) จม | be at | (phrv) โจมตี | be at each other's throats | (idm) ทำให้กลัว (ด้วยการกระทำหรือคำพูด), See also: กล่าวโจมตี, ขู่ให้กลัว | be plunged in thought | (idm) คิดหมกมุ่นกับ, See also: จมอยู่กับ ความคิด |
| about-ship | (อะเบาท' ชิพ) vt. โจมตี | acrid | (แอค' ริด) adj. (กลิ่นหรือรส) รุนแรง, ฉุน, เผ็ด, ซึ่งกัดกร่อน, เหี้ยม, แสบตาหรือจมูก. | acromegaly | (แอคโรเมก' กาลี) n. การที่ส่วนปลายของโครงกระดูกคือ จมูก ขากรรไกร นิ้วมือนิ้วเท้าโตเกินปกติ, เนื่องจากต่อม pituitary gland หลังฮอร์โมนมากเกินไป | ado | (อะดู') n. ความวุ่นวาย, ความมีธุรกิจมาก, Syn. fuss, confusion-A. peace, quiet | airraid | (แอร์' เรด) n. การโจมตีโดยเครื่องบิน (โดยเฉพาะการทิ้งลูกระเบิด) . -air-raid adj. -air raider n. | all clear | สัญญาณที่ว่าการโจมตีทางอากาศได้ผ่านพ้นไปแล้ว | amaze | (อะเมซ') vt., n. ทำให้ประหลาดใจมาก, ทำให้งงงวย -amazement n., Syn. astonish | ambuscade | (แอมบัสเคด') n., vt., vi. การซุ่มโจมตี, การคอยดักทำร้าย. -ambuscader n., Syn. ambush | ambush | (แอม' บุช) n., vt. การซุ่มโจมตี, การคอยดักทำร้าย, ที่ที่คอยดักทำร้าย, ที่ซุ่มโจมตี, ผู้ซุ่มโจมตีหรือทำร้าย, ซุ่มโจมตีหรือทำร้าย. -ambusher n. -ambushlike adj., Syn. waylaying, hiding, cover | andor | หมายถึงอาจมีผลต่อสิ่งหนึ่งหรือทั้งหมดที่รุบุชื่อไว้ | assail | (อะเซล') vt. โจมตี, ป้ายร้าย, รุกราน, กล่าวหา, ทำร้าย-assailer, assailment n. | assailant | (อะเซ'เลินทฺ) n. ผู้โจมตี, ผู้ป้ายร้าย | assault | (อะซอลทฺ') n. การโจมตีอย่างรุนแรง, การจู่โจม, การข่มขืน, การทำลาย (ชื่อเสียง) -vt. โจมตี, จู่โจม, ทำลาย, ข่มขืน -assaulter n., Syn. attack, abuse, rape | aster | (แอส'เทอะ) n. ต้นไม้ดอกจำพวกดอกเบญจมาศหรือดอกเก๊กฮวย, ส่วนที่มีรูปคล้ายดาว ในระหว่างการแบ่งตัวของเซลล์ | attack | (อะแทค') vt., vi., n. โจมตี, เข้าตี, ทำร้าย, เล่นงาน, ลงมือทำ, (โรค) เป็น, (ไข้) จับ, ลงมือทำ, เริ่มขึ้น, เริ่มต้น, ข่มขืน, พยายามข่มขืน | autoexec.bat | ชื่อแฟ้มคำสั่งรวม <คำแปล>เป็นชื่อของแฟ้มเก็บคำสั่งรวม (batch file) แฟ้มหนึ่ง ถือเป็นแฟ้มพิเศษ เพราะคอมพิวเตอร์จะทำตามคำสั่งในแฟ้มที่ชื่อนี้ทันทีที่เปิดเครื่อง โดยมาก จะเขียนขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์เรียกโปรแกรมต่าง ๆ มาใช้ได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาหาว่า โปรแกรมที่ต้องการอยู่ในสารบบ (directory) ใด ใช้คำสั่งเข้าไปในสารบบนั้น แล้วจึงตามด้วยชื่อแฟ้มที่เป็นโปรแกรม แต่ผู้ใช้สามารถพิมพ์ชื่อโปรแกรมได้เลย ตัวอย่างแฟ้ม autoexec.bat ที่นำเข้าสู่ โปรแกรม FoxPro โดยผ่านโปรแกรม VTHAI อาจมีข้อความดังนี้ echo off cls cd FOXPRO25 VTHAI/U CD\ AUX : axis : | awning | (ออ'นิง) n. กระโจม, ผ้าใบบังแดด, ที่พัก | barrage | (บะราจฺ') { barraged, barraging, barrages } n. การระดมยิงคุ้มกัน, เครื่องกั้น, ม่านไฟ, การระดมโจมตี, การทะลัก, ปริมาณเหลือล้น, เขื่อน vt. ระดมยิง, Syn. artiller | bash | (แบช) vt. โจมตี, ตีแรง, ทุบบู้บี้, ทุบเสียงดัง n. การตีอย่างแรง, การสโมสรหรือการเลี้ยงที่รื่นเริง, Syn. wallop | batter { battered | vt. ทุบติดต่อกัน, ตีติดต่อกัน, โจมตีติดต่อกัน, ใช้จนเสีย, นวด - n. ผู้ตี, ผู้นวด, มือตีเบสบอล (หรือคริกเก็ต) | battering | vt. ทุบติดต่อกัน, ตีติดต่อกัน, โจมตีติดต่อกัน, ใช้จนเสีย, นวด - n. ผู้ตี, ผู้นวด, มือตีเบสบอล (หรือคริกเก็ต) | batters } | vt. ทุบติดต่อกัน, ตีติดต่อกัน, โจมตีติดต่อกัน, ใช้จนเสีย, นวด - n. ผู้ตี, ผู้นวด, มือตีเบสบอล (หรือคริกเก็ต) | battery | (แบท'เทอรี) n. แบตเตอรี่, หม้อกำเนิดไฟฟ้า, กองร้อยทหารปืนใหญ่, ชุดปืนเรือ, กลุ่มอาวุธยุทธภัณฑ์, การทุบตี, การทำโจมตี, Syn. troop | bbs | (บีบีเอส) ย่อมาจาก bulletin board system หรือที่แปลว่า ระบบแผงข่าว เป็นโปรแกรมหนึ่งที่ทำหน้าที่เก็บรายการ หัวข้อ หรือข้อมูลที่เป็นที่สนใจ ผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเหล่านี้ อาจจะโทรศัพท์ผ่านเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อขอคัดลอกแฟ้มข้อมูล หรือสอบถามข้อความ ก็ได้ เช่น บีบีเอสของมหาวิทยาลัยก็อาจมีประกาศต่าง ๆ เช่น ประกาศรับสมัครนิสิตเข้าเรียนในระดับต่าง ๆ ปฏิทินการศึกษา รายการกีฬา ฯ ผู้ใช้บริการจะต้องมีคอมพิวเตอร์และโมเด็มพร้อมกับโปรแกรมที่จำเป็น ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับข้อมูลสำคัญในทางธุรกิจ จะมีการเรียกเก็บค่าบริการด้วย (มีใช้เฉพาะในระบบเครือข่าย) | beacon | (บี'เคิน) n. กระโจมไฟ, สัญญาณไฟ, ดวงประทีป, เครื่องเตือน, กองไฟสัญญาณ vt. เตือน, เป็นสัญญาณให้, นำทาง, เป็นสัญญาณไฟให้, Syn. warning | beak | (บีค) n. จะงอย, ปากนก, ปากกา, ส่วนที่คล้ายจะงอบปาก, จมูก, ผู้พิพากษา, ครู, See also: beaked adj., Syn. bill, nib, neb | beaten | (บีท'เทิน) adj. ถูกโจมตี, พ่ายแพ้, เก่า, ถูกเหยียบจนเรียบ, หมดเรี่ยวแรง, เป็นผงหรือที่ตีแล้ว, Syn. defeated, Ant. optimistic | belt | (เบลทฺ) { belted, belting, belts } n. เข็มขัด, สายคาดเอว, สาย, ทางโค้ง, ทางรถไฟฟ้า, ดื่มอึกใหญ่, การโจมตี, แนว, เทือก vt. รัดเข็มขัด, คาดสาย, ใช้สายคาด, ใช้เข็มขัดหรือสายคาดตี, ตี, ร้อง (เพลง) เสียงดัง, Syn. girdle | bemire | (บิไม'เออ) { bemired, bemiring, bemires } vt. ทำให้เปื้อนโคลน, ทำให้จมหรือตกอยู่ในโคลน | beset | (บิเซท') { beset, beset, besetting, besets } vt. โจมตีทุกด้าน, กลุ้มรุม, รบกวน, ห้อมล้อม, See also: besetment n. ดูbeset besetter n. ดูbeset, Syn. annoy | besetting | (บิเซท'ทิง) adj. ซึ่งโจมตีหรือกลุ้มรุมอย่างไม่หยุดยั้ง | besiege | (บีซีจฺ') { besieged, besieging, besieges } vt. ล้อม, โอบล้อม, ล้อมโจมตี, กลุ้มรุมด้วย (คำถาม/งาน/การรบกวนหรืออื่น ๆ), See also: besiegement n. besieger n. | biff | (บิฟ) n. การชก, การต่อย, การโจมตี-vi ชก, ต่อย, ตี, Syn. blow | blast | (บลาสทฺ) { blasted, blasting, blasts } n. การระเบิด, การเป่าแตร, การเป่านกหวีด, เสียงระเบิด, เสียงอึกกระทึก, ลมแรงจัด, ลมอัดเข้าไปในเตา, คลื่นกระทบ, ความเร็วสุดขีด, กำลังสุดขีด vt. ทำให้เกิดเสียงดังมาก, เป่าแตร, ทำให้เหี่ยว, ทำลาย, ระเบิด, ส่งลมเข้าไป, โจมตี, วิจารณ์อย่างเผ็ | blitz | (บลิทซ) { blitzed, blitzing, blitzs } n. การรบแบบสายฟ้าแลบ, การทิ้งลูกระเบิดอย่างดุเดือด, การโจมตีอย่างรวดเร็ว vt. โจมตีอย่างรวดเร็ว, Syn. attack | boarfish | (บอร์'ฟิซ) n. ปลาที่มีจมูกออกเป็นหนาม | boffo | (บอฟ'โฟ) adj. ประสบความสำเร็จมาก | bog | (บอก) { bogged, bogging, bogs } n. ห้วย, บึง, หนอง vt., vi. จมลงในโคลน, ติดตม, ติดปลัก, ทำให้จมอยู่ในปลัก -Phr. (bog down ทำให้อยู่ในภาวะที่ลำบาก, ทำให้หยุดชะงัก), See also: bogginess n. ดูbog boggish adj. boggish adj. ดูbog คำที่มีความหมายเหมือนกั | boko | (โบ'โด) n. จมูก | bombard | (บอมบาร์ด') vt. ระดมยิง, ยิงกระหน่ำ, ทิ้งระเบิด, โจมต, See also: bombarder, bombardment n. | bottlenose | (บอท'เทิลโนส) n. สัตว์ทะเลที่มีจมูกคล้ายรูปขวด เช่น ปลาโลมา, See also: bottle-nosed adj. | bracelet | (เบรส'ลิท) n. กำไลมือ, กุญแจมือ, See also: bracelets n. กุญแจมือ, Syn. handcuffs | bricole | n. การโจมตีทางอ้อม, ศรหินโบราณ | bridge | (บริดจฺ) n. สะพาน, สิ่งเชื่อมประสาน, ดั้ง, ดั้งจมูก, ดั้งแว่นตา, หอบังคับการเรือ, ไพ่บริดจ์. vt. ทอดสะพานข้าม, ข้าม, ทอดข้าม, ผ่านพ้น (อุปสรรค) , เชื่อมต่อ, ข้ามให้พ้น, Syn. span | broadside | n. ข้างเรือทั้งหมด, ปืนเรือทั้งหมดของข้างหนึ่งของเรือ, การโจมตีหรือวิจารณ์อย่างรุนแรง, ยกหน้าเดียว adj., vi. เอาด้านกว้างกว่าเข้าหา, Syn. volley | broken-heart | n. ความท้อแท้หมดหวัง, ความเศร้าสลด, ความผิดหวังในเรื่องความรัก, ความเสียใจมาก, See also: broken-hearted adj. ดูbroken-heart | brunt | (บรันทฺ) n. แรงกดดันที่หนักที่สุด, ส่วนหนักที่สุดที่ได้รับหรือกระทบ, การโจมตีอย่างรุนแรง | bulletin board system | ระบบการบริการเครือข่ายที่อนุญาตให้ผู้ใช้ที่มีผลประโยชน์ร่วมให้ส่งและรับข้อมูลหรือได้รับซอฟแวร์ เป็นต้น ระบบแผงข่าวศูนย์รวมข่าวใช้ตัวย่อว่า BBS (อ่านว่า บีบีเอส) เป็นโปรแกรมหนึ่งที่ทำหน้าที่เก็บรายการ หัวข้อ หรือข้อมูลที่เป็นที่สนใจ ผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเหล่านี้ อาจจะโทรศัพท์ผ่านเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อขอคัดลอกแฟ้มข้อมูล หรือสอบถามข้อความ ก็ได้ เช่น ระบบแผงข่าวของมหาวิทยาลัยก็อาจมีประกาศต่าง ๆ เช่น ประกาศรับสมัครนิสิตเข้าเรียนในระดับต่าง ๆ ปฏิทินการศึกษา รายการกีฬา ฯ ผู้ใช้บริการจะต้องมีคอมพิวเตอร์และโมเด็มพร้อมกับโปรแกรมที่จำเป็น ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับข้อมูลสำคัญในทางธุรกิจ จะมีการเรียกเก็บค่าบริการด้วย (มีใช้เฉพาะในระบบเครือข่าย) | buoy | (บอย) { buoyed, buoying, buoys } n. ทุ่น, ทุ่นลอยน้ำ, ห่วงชูชีพ vt. ทำให้ลอยน้ำ, ทำให้ไม่จม, สนับสนุน, ค้ำจุน, ให้กำลังใจ vi. ลอย | bytes per inch | ไบต์ต่อนิ้วใช้ตัวย่อว่า BPI เป็นหน่วยวัดความจุของตัวอักขระในเทปหรือแถบบันทึก (tape) หมายความว่า ขนาดความยาวของแถบบันทึก 1 นิ้ว จะบรรจุตัวอักขระได้เท่าใดอาจต่างกันได้ตั้งแต่ 200 ถึง 1600 ไบต์ต่อนิ้ว และอาจมีการปรับให้มากหรือน้อยกว่านั้นก็ได้ (บางทีใช้กับความยาวของแทร็กของพื้นผิวของจานบันทึก (disk) ด้วย |
| absorbed | (adj) ที่หมกมุ่น, ที่ใฝ่ใจ, ที่สนใจมาก, อย่างตั้งอกตั้งใจ | AIR air raid | (n) การโจมตีทางอากาศ | almighty | (adj) ยิ่งใหญ่, มีอานุภาพ, มีอำนาจมาก, มีอิทธิพล | ambush | (n) การซุ่มทำร้าย, การดักโจมตี, ที่ซุ่ม | ambush | (vt) ดักโจมตี, ดักทำร้าย, ซุ่มทำร้าย | assail | (vt) ทำร้าย, ก้าวร้าว, ด่าว่า, โจมตี, รุกราน, ต่อสู้ | assailant | (n) ผู้ทำร้าย, ผู้โจมตี, ผู้ป้ายร้าย | assault | (n) การเข้าทำร้าย, การจู่โจม, การโจมตี, การข่มขืน | assault | (vt) ทำร้าย, โจมตี, จู่โจม, ข่มขืน | attack | (vt) ต่อสู้, โจมตี, จู่โจม, ทำร้าย, เล่นงาน | awash | (adj) จมอยู่ใต้น้ำ, เปียกน้ำ | batter | (vt) โจมตี, ทำลาย, ปะทะ | beacon | (n) ไฟสัญญาณ, ประภาคาร, กระโจมไฟ, ดวงประทีป | beak | (n) จะงอยปาก, ปากนก, จมูก, ครู, ผู้พิพากษา | beset | (vt) โจมตี, กลุ้มรุม, จู่โจม, ห้อมล้อม, ทำให้จนแต้ม | biff | (n) การต่อย, การชก, การโจมตี | biff | (vt) ต่อย, ชก, โจมตี, ตี | blitz | (n) การโจมตีแบบสายฟ้าแลบ | blow | (n) การตี, การชก, การต่อย, การโจมตี, เสียงพัด | bog | (vt) ติดปลัก, ติดโคลน, จมปลัก, จมโคลน | bombard | (vt) ระดมยิง, กระหน่ำยิง, ทิ้งระเบิด, โจมตี | bombardment | (n) การระดมยิง, การทิ้งระเบิด, การกระหน่ำยิง, การโจมตี | bracelet | (n) กำไล, สร้อยข้อมือ, กุญแจมือ | bridge | (n) สะพาน, สะพานเรือ, หอบังคับการเรือ, ดั้งจมูก, การเล่นไพ่ชนิดหนึ่ง | capsize | (vi, vt) จม, คว่ำ, ล่ม, พลิก | chrysanthemum | (n) ดอกเบญจมาศ, ดอกเก็กฮวย | cocksure | (adj) แน่ใจมาก, มั่นใจมาก | commando | (n) หน่วยจู่โจม, หน่วยคอมมานโด | cuff | (n) ขอบแขนเสื้อ, การชก, กุญแจมือ | cuff | (vt) พับแขนเสื้อ, ใส่กุญแจมือ, ชก, ต่อย | deepen | (vi) ลึกมากขึ้น, สงัด, ถลำลึก, จมลึก | descend | (vi) ลงมา, สืบทอด, สืบสายเลือด, ตกลงมา, เข้าโจมตี | dip | (vt) จมน้ำ, จุ่มน้ำ, แช่น้ำ, ตัก, ล้าง, ลดต่ำลง | disaster | (n) ความหายนะ, ความล่มจม, ความวิบัติ, ความย่อยยับ, ภัยพิบัติ | downfall | (n) ความพินาศ, ความหายนะ, ความล่มจม, ความฉิบหาย, ความตกต่ำ, การตก | drop | (vi) หยด, ตก, หย่อนลง, เคลื่อนต่ำลง, จมลง, ยุติ, สิ้นสุด | drop | (vt) เลิก, ทำตก, ปลด, ส่งข่าวคราว, ทำให้จมลง | drown | (vi, vt) จมน้ำตาย, ทำลาย, กำจัด, ท่วม, ถ่วงน้ำ | embed | (vt) ตรึง, ใส่ที่นอน, จมไว้, ฝัง | encamp | (vi) ตั้งค่าย, ตั้งแคมป์, ตั้งที่พัก, พักแรม, ตั้งกระโจม | equanimity | (n) ความมีใจมั่นคง, ความใจเย็น, ความมีใจสงบ | exult | (vi) ปราโมทย์, หรรษา, ยินดีปรีดา, ดีใจมาก | flank | (vt) โจมตีทางปีก, ขนาบข้าง, โอบปีก | forage | (vt) หาอาหาร, ค้น, ปล้นสะดม, จู่โจม | foray | (n) การปล้นสะดม, การจู่โจม, การโจมตี, การล้างผลาญ | foray | (vt) ปล้นสะดม, จู่โจม, โจมตี, ทำลายล้าง, ล้างผลาญ | founder | (vi) ล่ม, จมน้ำ, อับปาง, ล้ม, ทรุดลง, ล้มเหลว, เสียหาย | fusillade | (vt) ระดมยิง, กระหน่ำยิง, ระดมโจมตี | gravitate | (vi) ถ่วง, จมลง, ไหล, ดึงดูด | handcuff | (n) กุญแจมือ |
| army ranger | (n) หน่วยจู่โจม (กองทัพบกสหรัฐ) หรือทับศัพท์ว่า เรนเจอร์ | brush house | (n) กระท่อม, กระโจม, หรือบ้านที่ทำจากกิ่งไม้ | brush house | (n) กระท่อม, กระโจม, หรือบ้านที่ทำจากกิ่งไม้, See also: brush, house | chikungunya | [ชิคุนกุนยา] (n) โรคติดเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ทำให้ผู้ป่วยมีอาการไช้สูงฉับพลัน มีผื่นแดงขึ้นตามร่างกายและอาจมีอาการคัน ตาแดง ในผู้ใหญ่จะพบอาการปวดข้อร่วมด้วย | data warehouse | (n) ฐานข้อมูลขนาดยักษ์ ที่รวบรวมฐานข้อมูลจากหลายแหล่งหลายช่วงเวลา ซึ่งอาจมี schema แตกต่างกัน มาไว้รวม ณ ที่เดียวกัน (และใช้ schema เดียวกัน) | Esophagogastroduodenoscopy (EGD) | เป็นขั้นตอนในระหว่างที่ใช้กล้องส่องมีความยืดหยุ่นขนาดเล็กถูกนำมาใช้ผ่านทางปาก (หรือ, ที่มีลำกล้องขนาดเล็ก, ผ่านจมูก)และขั้นสูงผ่านหอย, หลอด, กระเพาะอาหาร, และไส้ | glamping | (n) การพักแรมในกระโจมที่หรูหราและสะดวกสบายกว่าปกติ ('glamorous'+'camping') | hog ring | ตะขอหรือแหวนสำหรับหนีบจมูกหมู | horse whisperer | (n) คนฝึกผู้รู้ใจม้า A horse trainer who adopts a sympathetic view of the motives, needs, and desires of the horse, based on modern equine psychology. | mega tsunami | (n) คลื่นซึนามิขนาดใหญ่ ที่นักวิทยาศาสตร์คาดว่าอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งคลื่น mega tsunami อาจมีความสูงหลายร้อยเมตร มีอำนาจการทำลายล้างมากกว่า Tsunami หลายสิบเท่า | meglomoniac | (vt) บ้าอำนาจ, อาการที่คิดว่าตัวเองมีพลังอำนาจมากที่สุดในโลก | nasogastric | [นาซโซ-ก๊าซทริค] การรักษาพยาบาลโดยการเสียบท่อพลาสติกเข้าทางรูจมูก ผ่านลำคอ และลงไปถึงกระเพาะอาหาร (ในบางกรณีย์ ทีมแพทย์อาจใช้วิธีการนี้ในการดูดสารพิษออกจากกระเพาะผู้ป่วย ซึ่งเรียกกันว่า การล้างท้อง) Orogastric Intubation (อ่านว่า ออโร-ก๊าซทริค อินทูเบชั่น) เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่มีวัตถุประสงค์เหมือนกัน คือการสอดท่อพลาสติกลงไปในกระเพาะอาหาร หากแต่เสียบท่อพลาสติกเข้าทางปาก ผ่านลำคอเพื่อลงไปสุดที่กระเพาะอาหาร | nasogastric | [นาซโซ-ก๊าซทริค] การรักษาพยาบาลโดยการเสียบท่อพลาสติกเข้าทางรูจมูก ผ่านลำคอ และลงไปถึงกระเพาะอาหาร (ในบางกรณีย์ ทีมแพทย์อาจใช้วิธีการนี้ในการดูดสารพิษออกจากกระเพาะผู้ป่วย ซึ่งเรียกกันว่า การล้างท้อง) Orogastric Intubation (อ่านว่า ออโร-ก๊าซทริค อินทูเบชั่น) เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่มีวัตถุประสงค์เหมือนกัน คือการสอดท่อพลาสติกลงไปในกระเพาะอาหาร หากแต่เสียบท่อพลาสติกเข้าทางปาก ผ่านลำคอเพื่อลงไปสุดที่กระเพาะอาหาร, Syn. nasogastric intubation | oligopolistic | ลักษณะทางการตลาดแบบหนึ่งที่มีผู้ขายหรือผู้ให้บริการจำนวนน้อย ซึ่งทำให้การกระทำการใดๆของบริษัทผู้ให้บริการเพียงบริษัทเดียวอาจมีผลกระทบต่อราคาของสินค้าหรือบริการนั้นๆในท้องตลาด และอาจรวมถึงส่งผลกระทบถึงคู่แข่งด้วย ตัวอย่าง เช่นธุรกิจสายการบิน ในยุคแรกๆ | petrel | (n) นกจมูกหลอดยักษ์ขั้วโลกใต้ | pre-emptive | (adj) ชิงโจมตีก่อน ชิงลงมือก่อน exp. pre-emptive war | raid row | (phrase) ดาหน้าเข้าจู่โจม, เรียงแถวเข้าหา, เดินหน้าเข้าหา | RSV | (abbrev) ไวรัส RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus เป็นสาเหตุของการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจตั้งแต่ส่วนบนจนถึงส่วนล่าง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการหลอดลมฝอยอักเสบ (Acute bronchiolitis) และอาจทำให้ปอดอักเสบติดเชื้อได้ (Pneumonia) โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กที่มีโรคประจำตัว คลอดก่อนกำหนด ฯลฯ อาการเริ่มแรกเหมือนไข้หวัด คือ มีไข้ ไอ น้ำมูกไหล แต่จะมีไอมาก เสมหะเยอะและเหนียวข้น หายใจหอบเหนื่อย หน้าอกบุ๋ม อาจมีเสียหงายใจดังวี๊ดๆ ซึม ไม่กินน้ำ หงุดหงิด กระวุนกระวาย มีสีเขียวคล้ำบริเวณริมฝีปาก หรือ ปลายมือปลายเท้า เนื่องจากร่างกายขาดออกซิเจน หากมีอาการดังกล่าว ควรไปพบแพทย์ ที่มา: เอกสารแผ่นพับจากโรงเรียนอนุบาลชนานันท์ เรียบเรียงโดยก้านแก้ว จากการสัมภาษณ์ เรืออากาศเอกแพทย์หญิงหฤทัย กมลาภรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี | social distancing | (n) การแยกตัวออกห่างจากสังคม ไม่อยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์ผู้อื่น โดยอาจมีสาเหตุ เช่น เพื่อลดอัตราการแพร่ระบาดของโรคระบาด | stand down | (n) การหยุดการโจมตี(ปฏิบัติการ)ชั่วคราว | Teratomas | ชนิดของเนื้องอกเซลล์เชื้อโรคที่อาจมีหลายชนิดที่แตกต่างกันของเนื้อเยื่อ, เช่นผม, กล้ามเนื้อ, และกระดูก. เกิดขึ้นบ่อยที่สุดในรังไข่ในผู้หญิงลูกอัณฑะในผู้ชายและกระดูกในเด็ก | To add fuel to the fire | (slang) ทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น โดยทำให้ใครบางคนโกรธหรือเสียใจมากกว่าเดิม ex. Martha's still mad at you, so don't go adding fuel to the fire by arguing with her right now. Let her calm down, first. | united arab emirates | [ยูไน้ถิด อาหรับ เอมิเร็ทสฺ] สหอาหรับเอมิเรตส์ (ไม่มีคำว่า "รัฐ" เพราะไม่เน้นที่ States แต่เน้นที่ คนอาหรับ เขาก่อร่างสร้างประเทศเขาตั้งใจมองไปที่คนเล็กคนน้อย เขาเล็งไปที่ "ชาวอาหรับ" ที่เป็นประชาชนในอาณาบริเวณของเขา เขาจึงใช้ชื่อประเทศว่า United Arab Emirates: ภาษาอาหรับก็บอกชัดเจนอ่านจากคำขวาก่อนคือ อิมิเรต หากดูตรงกลางพบคำว่า "อาระบียะห์" ซึ่งหมายถึงคนอาหรับ และคำสุดท้ายแปลว่ามารวมกัน الإمارات العربيّة المتّحدة ) | War Ensign | ธงชัยสมรภูมิ เป็นธงที่ถูกชักไว้บนเรือรบเพื่อแสดงสัญชาติของเรือรบ อาจมีการชักธงนี้ไว้บนบกในดินแดนที่กองทัพเจ้าของธงยึดครองอยู่ อาทิ เมื่อเยอรมนีเข้ายึดกรุงปารีสในปี ค.ศ. 1940 มีการชักธงชัยสมรภูมิเยอรมันไว้บนยอดหอไอเฟลเพื่อสื่อว่า ประเทศฝรั่งเศสเป็นดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของกองทัพเยอรมัน | warison | [\WAIR-uh-sun\] (n) เสียงแตรสั่งโจมตี | ตุ๋ย | (vt, slang) กิริยาอย่างหนึึ่งหมายถึงการกระทำจากข้างหลัง เช่นกิจกรรมทางเพศของพวกเกย์ หรือกรณีในเกมเช่น DotA หมายถึงการซุ่มโจมตีโดยอีกฝ่ายไม่ทันระวังตัว, See also: Tui, DotA, Noob, Grean, Syn. Backdoor |
| 水難 | [すいなん, suinan] (n) อุทกภัย(น้ำท่วม, จมน้ำ) | 菊 | [きく, kiku] (n) ต้นเบญจมาศ | 鼻 | [はな, hana] (n) จมูก |
| 詰まり | [つまり, tsumari] บรรจุอยู่เต็ม (จมูก) คัด แน่นเอี๊ยด เต็ม (เสื้อ) หด ใกล้ถึงวัน | うずもれる | [つまり, uzumoreru] (vt) ถูกกลบ, จมอยู่ใน, (สถานที่)เต็มไปด้วย | 水死 | [すいし, suishi] การจมน้ำตาย | 一心 | [いっしん, isshin] ใจดวงเดียวกัน , จิตใจมุ่งมั่น | 奇襲 | [きしゅう, kishuu] ลอบโจมตี | 溺ぼれる | [おぼれる, oboreru] (vt) จม, ตามใจ, ยอม, ปล่อยใจไปตามความต้องการ, See also: R. indulge in, to be drown | 溺れる | [おぼれる, oboreru] (vt) จม, ตามใจ, ยอม, ปล่อยใจไปตามความต้องการ, See also: R. indulge in, to be drown | สมูก | [จมูก] (slang) เป็นคำที่ แผลงมาจากจมูก เช่น น้องนิวสมูกบาน |
| 襲う | [おそう, osou] TH: เข้าโจมตี | 鳴らす | [ならす, narasu] TH: แปร้นเสียงทางจมูกอย่างช้าง EN: to snort (nose) | 浸る | [ひたる, hitaru] TH: จมหรือติดอยู่ในสภาพนั้นจนถอนตัวไม่ขึ้น EN: to be flooded | 撃つ | [うつ, utsu] TH: โจมตี EN: to attack | 沈む | [しずむ, shizumu] TH: จม EN: to sink | 攻める | [せめる, semeru] TH: โจมตี EN: to attack |
| Auftrag | (n) |der, pl. Aufträge| ใบสั่งงาน, ใบมอบหมายงาน เช่น Der Schreiner hatte den Auftrag, den Stühl zu reparieren. ช่างไม้ได้รับใบสั่งงานให้ซ่อมเก้าอี้, James Bond hat einen Auftrag erhalten, eine Bombe zu entschärfen. เจมส์ บอนด์ ได้รับมอบหมายงานให้กู้ระเบิดลูกหนึ่ง | möchten | อยาก- (อยากได้, แต่ไม่ตั้งใจมากเท่า wollen) | zugucken | (vt) |guckte zu, hat zugeguckt| ตั้งใจดู, ตั้งใจมอง, See also: zuschauen, zusehen | Wohnung | (n) |die, pl. Wohnungen| ที่พักอาศัยที่อาจประกอบด้วยหนึ่งถึงหลายห้อง ภายในบ้านหรือตึกหนึ่งหลังอาจมีหลาย Wohnung เช่น Einzimmerwohnung ห้องชุดที่มี 1 ห้องใหญ่และห้องน้ำ, Zweizimmerwohnung ห้องชุดที่มี 2 ห้องใหญ่บวกห้องครัวและห้องน้ำ, Eigentumswohnung ห้องชุดที่ตนเองเป็นเจ้าของ, 1.5-Zimmerwohnung ห้องชุดที่มี 1 ห้องใหญ่ บวกห้องครัวและห้องน้ำ | Wochenmarkt | (n) |der, pl. Wochenmärkte| ตลาดสดประจำอาทิตย์ โดยทั่วไปที่เยอรมนีตลาดสดจะถูกจัดขึ้นตามใจกลางเมือง อาจมีอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ส่วนมากขายผัก ผลไม้ ดอกไม้ ต้นไม้ ไม่ค่อยมีเนื้อสัตว์วางขาย Image: | überglücklich | (adj) ดีใจมาก, ดีใจท่วมท้น ตัวอย่างการใช้คำ Sie ist überglücklich über ihre bestandene Führerscheinprüfung = เธอดีใจสุดๆ เลยล่ะ ที่สอบใบขับขี่ผ่าน (ที่เยอรมนีสอบยากมาก) | Luftangriff | (n) |der, pl. Angriffe| การโจมตีทางอากาศ ในสงคราม | kapieren | (vt, slang) |kapierte, hat kapiert| เข้าใจ เช่น Ich kapiere das einfach nicht! = ผมไม่เข้าใจมันเลยเนี่ย ให้ตายสิ!, Syn. verstehen | Bombenanschlag | (n) |der, pl. Bombenanschläge| การโจมตีทางอากาศด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิด | verzweifelt | (adj) สิ้นหวัง, เศร้าโศก, ที่มีแต่ความทุกข์ตรม (อาการหนักกว่า unglücklich) เช่น Er ist verzweifelt, weil er Jahre lang arbeitslos ist. เขาทุกข์ใจมากเนื่องจากไม่มีงานทำมาหลายปีแล้ว, See also: A. froh, frohlich, glücklich, Related: unglücklich, besorgt, betrübt | Schnupfen | (n) |der, nur Sg.| อาการจามคัดจมูก เนื่องจากไข้หวัด | schnupfen | (vi) |schnupfte, hat geschnupft| สูดจมูกฟุดฟิด, สูดด้วยจมูกอย่างมีเสียง, สูดดม, | bewaffnet | (adj) mit etw. bewaffnet ที่พกด้วยอาวุธหนึ่งๆ เช่น Mit einem Messer bewaffnet ging er auf mich los. = เขา(ซึ่งพกอาวุธด้วยมีดหนึ่งด้าม)ตรงเข้าจู่โจมฉัน | sinken | (vi) |sank, ist gesunken| ลดลง, ลดต่ำ, ตกลง, หล่น, ร่วง, จมลง เช่น Die Temperatur sinkt. อุณหภูมิลดต่ำลง, Ein Schiff ist gestern gesunken. เมื่อวานมีเรือลำหนึ่งจม, See also: fallen, A. steigen, Related: senken, Syn. abnehmen | Erkrankung | (n) |die, pl. Erkrankungen| โรค, การเจ็บป่วย, โรคภัยไข้เจ็บ เช่น Viele Erkrankungen des Gehirns und des Herzens beruhen auf einem gestörten Signalaustausch zwischen den Zellen. โรคทางสมองและหัวใจมากมายมีสาเหตุมาจากระบบการแลกเปลี่ยนสัญญาณระหว่างเซลล์ที่ได้ถูกรบกวน | erschrecken | (vt) |erschreckte, hat erschreckt, jmdn.| ทำให้ใครคนใดคนหนึ่งตกใจหรือกลัว เช่น Der plötzliche Tsunami hat mich furchtbar erschreckt. สึนามิที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้ฉันตกใจมาก | Adventskalender | (n) |der, pl. Adventskalender| ปฏิทินชนิดหนึ่งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลศักดิ์สิทธิ์ของการมาจุติของพระเยซู เริ่มเฉลิมกันในเดือนธันวาคม ซึ่งผู้ใหญ่มักให้เป็นของขวัญแก่เด็กๆ ปฏิทินนี้ประกอบด้วยแผ่นกระดาษสองแผ่นซ้อนทับกัน มีช่องที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อให้เป็นประตูเปิดได้จากกระดาษชั้นบน ประตูเหล่านี้มีตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 24 ธันวาคม ก่อนถึงวันคริสต์มาส ซึ่งแต่ละช่องจะบอกเล่าถึงเรื่องราวของการประสูติของพระเยซู และอาจมีขนม ของขวัญชิ้นเล็กๆซ่อนอยู่ด้วยก็ได้ | Ruin | (n) |der, nur Sg.| ความพินาศ, ความหายนะ, ความล่มจม | Überfall | (n) |der, pl. Überfalle| การโจมตี, การทำร้าย เช่น Sind es auch solche Überfalle, bei welchen Mehrere auf ein einzelnes Opfer einschlagen, es misshandeln und demütigen?, Syn. Angriff | Hals-Nasen-Ohren-Krankheit | (n) |die, pl. Hals-Nasen-Ohren-Krankheiten| โรคคอหูจมูก |
| Fiasko { n }; Pleite { f } | [ฟี-เอิส-โก] [ N ] ความล้มเหลวอย่างมาก , ความล่มจม, สิ่งที่ทำให้อัปยศ , disaster; misfortune, Syn. Fiasco | Landesherr | ลันเดสแฮร์ เป็นตำแหน่งเจ้าศักดินาในยุคกลาง มีอำนาจเฉกเช่นเจ้าแผ่นดินเหนือดินแดนหนึ่ง ดินแดนนั้นอาจมีสถานะเป็นรัฐอิสระ หรือรัฐบริวารของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ |
| trés | (adv) มาก, เหลือเกิน เช่น trés intéressant น่าสนใจมาก, J'ai trés faim. ฉันหิวมาก | calendrier de l'Avent | (n) |m| ปฏิทินชนิดหนึ่งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลศักดิ์สิทธิ์ของการมาจุติของพระเยซู เริ่มเฉลิมกันในเดือนธันวาคม ซึ่งผู้ใหญ่มักให้เป็นของขวัญแก่เด็กๆ ปฏิทินนี้ประกอบด้วยแผ่นกระดาษสองแผ่นซ้อนทับกัน มีช่องที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อให้เป็นประตูเปิดได้จากกระดาษชั้นบน ประตูเหล่านี้มีตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 24 ธันวาคม ก่อนถึงวันคริสต์มาส ซึ่งแต่ละช่องจะบอกเล่าถึงเรื่องราวของการประสูติของพระเยซู และอาจมีขนม ของขวัญชิ้นเล็กๆซ่อนอยู่ด้วยก็ได้ |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |