ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: กรัง, -กรัง- |
นักรังสีเทคนิค | (n, uniq) Radiological technologist, Radiographer, Medical radiation technologist |
|
| กรัง | (n) mound, See also: knoll, Syn. เนิน, Ant. ราบ, Example: เราเดินขึ้นกรังจนหมดแรงไปตามๆ กัน | กรัง | (v) dry, Syn. แห้ง, Ant. สด, Example: ขี้มูกของเขากรังติดอยู่บนใบหน้า | ดินลูกรัง | (n) laterite, See also: red earth, rouge, Syn. ดินแดง, Example: ทางเดินเข้าบ้านของเขายังเป็นถนดินลูกรังสีแดง | ถนนลูกรัง | (n) non-asphalt road, Example: รถสองแถวตัวถังไม้โกโรโกโสแล่นเอี๊ยดอ๊าดมาตามถนนลูกรัง ฝุ่นสีแดงคลุ้งเข้ามาเต็มรถ, Count Unit: สาย, เส้น, Thai Definition: ถนนที่ปูผิวจราจรด้วยลูกรัง | หินลูกรัง | (n) light-brown stone | เกรอะกรัง | (v) be matted with, See also: be matted into a lump, be crusted, be encrusted, be caked, Example: สุนัขถูกรถชน ตัวของมันอ่อนน่วม เลือดเกรอะกรังตามหน้าอกและลำตัว, Thai Definition: หมักหมมแห้งติดอยู่ | เสบียงกรัง | (n) provisions, Syn. เสบียง, อาหารรองรัง, ของกิน, เสบียงอาหาร, Example: เจ้าหน้าที่สำนักงานเตรียมเสบียงกรังที่จำเป็น เพื่อเอาไว้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า, Thai Definition: อาหารแห้งที่เก็บไว้กินได้นาน |
| กรัง ๑ | (กฺรัง) ก. แห้ง เช่น เสบียงกรัง, แห้งติดแน่นอยู่ เช่น ขี้มูกขี้ตากรัง. | กรัง ๒ | (กฺรัง) น. เนิน เช่น กึกก้องไพรกรัง (อนิรุทธ์), อเนกทั่วไพรกรัง (ดุษฎีสังเวย). | เกรอะกรัง | (เกฺรอะกฺรัง) ว. หมักหมมแห้งติดอยู่. | ลูกรัง | น. หินแลงที่เป็นเม็ด ๆ. | เสบียงกรัง | น. อาหารที่เก็บไว้กินได้นาน ๆ, อาหารรองรัง, เช่น ในยามสงครามต้องเตรียมเสบียงกรังไว้มาก ๆ. | กระจาบ | น. ชื่อนกขนาดเล็ก วงศ์ย่อย Ploceinae ในวงศ์ Ploceidae ปากหนารูปกรวย ปลายหางมน ขนหัวและขนตัวลาย ในฤดูผสมพันธุ์ขนหัวเพศผู้เปลี่ยนเป็นสีเหลือง มี ๓ ชนิด คือ กระจาบธรรมดาหรือกระจาบอกเรียบ[ Ploceus philippinus (Linn.) ] กระจาบอกลาย [ P. manyar (Horsfield) ] ทำรังด้วยหญ้าหรือฟางข้าวห้อยอยู่กับกิ่งไม้หรือต้นพืชน้ำเช่นกก ปากรังอยู่ด้านล่าง และกระจาบทอง [ P. hypoxanthu s (Sparrman) ] ทำรังด้วยหญ้าหรือฟางข้าวโอบหุ้มกิ่งไม้หรือใบพืชน้ำ ปากรังอยู่ทางด้านข้าง มักอยู่รวมกันเป็นหมู่ กินเมล็ดพืช. | กระติ๊ด ๑ | น. ชื่อนกขนาดเล็ก ในวงศ์ Estrildidae ปากสั้นหนารูปกรวยปลายแหลม หัวกลม ลำตัวอ้วนป้อม มีหลายสี ปลายหางแหลม ใช้หญ้าทำรังเป็นรูปกลมอยู่บนพุ่มไม้เตี้ย ๆ หรือกอหญ้า ปากรังอยู่ทางด้านข้าง กินเมล็ดพืช มีหลายชนิด ที่พบมาก คือ กระติ๊ดขี้หมู [ Lonchura punctulata (Linn.) ] ชนิดอื่น ๆ เช่น กระติ๊ดเขียวหรือไผ่ [ Erythrura prasina (Sparrman) ] กระติ๊ดแดงหรือสีชมพูดง [ Amandava amandava (Linn.) ] กระติ๊ดท้องขาว[ Lonchura leucogastra (Blyth) ], กะทิ ก็เรียก. | กรู ๑ | (กฺรู) ว. อาการที่ไปพร้อม ๆ กันอย่างเร็วโดยมีจุดหมาย เช่น วิ่งกรูกันไป มดพรูออกจากรังแล้วกรูเข้าไปกัดศัตรู, ตรู ก็ว่า. | ของแห้ง | น. อาหารแห้งที่เก็บไว้กินได้นาน, เสบียงกรัง. | ขี้ | น. กากอาหารที่ร่างกายไม่ต้องการแล้วขับถ่ายออกทางทวารหนัก, อุจจาระ, ราชาศัพท์ว่า พระบังคนหนัก, สิ่งที่ร่างกายขับถ่ายออกมาเกรอะกรังอยู่ เช่น ขี้ไคล ขี้รังแค ขี้หู ขี้ตา, ใช้ประกอบหน้าคำ หมายความว่า เป็นสิ่งที่สกปรก เช่น ขี้เลน ขี้ดิน ขี้ทราย, โดยปริยายหมายความถึงสิ่งที่ไม่ต้องการ เช่น ขี้ตะกั่ว, เศษหรือกากที่ออกมาจากสิ่งนั้น ๆ เช่น ขี้กบ ขี้เลื่อย. | ขี้เกลือ | น. คราบเหงื่อที่แห้งกรังจนขึ้นขาว. | ขี้ไคล | น. เหงื่อที่ปนกับฝุ่นละอองติดกรังอยู่กับหนังกำพร้า, ไคล ก็ว่า. | คราบ | รอยเปื้อนติดกรังอยู่ เช่น คราบนํ้า คราบนํ้ามัน. | ไคล ๑ | (ไคฺล) น. เหงื่อที่ปนกับฝุ่นละอองติดกรังอยู่กับหนังกำพร้า, (ปาก) ขี้ไคล, ราชาศัพท์ว่า พระเมโท | ชะแง้ | ก. เหลียวแลดู, เฝ้าคอยดู, เช่น ว่าจากเรือนเหมือนนกมาจากรัง อยู่ข้างหลังก็จะแลชะแง้คอย (อภัย). | แซ | น. เรือที่ขุดขึ้นจากซุงทั้งต้น รูปร่างเช่นเดียวกับเรือกราบแต่เพรียวน้อยกว่า ใช้ในการลำเลียงพล ศัสตราวุธ ยุทโธปกรณ์ และเสบียงกรัง อาจใช้เป็นเรือทุ่นหรือทำหน้าที่อื่นได้. | ตกสะเก็ด | ก. อาการที่เลือดและนํ้าเหลืองแห้งติดกรังอยู่ที่ปากแผล. | ถือผิว | ก. รังเกียจผู้ที่มีสีผิวต่างกับตน (มักใช้แก่พวกผิวขาวที่มีความรู้สึกรังเกียจพวกที่มีผิวสีอื่น). | นกกระจอก ๑ | น. ดอกไม้ไฟชนิดหนึ่ง จุดแล้วจะพุ่งออกจากรังไปได้ไกล เรียกเต็มว่า นกกระจอกออกจากรัง | ป่ง | น. พื้นดินที่มีเกลือสินเธาว์ผุดเกรอะกรังอยู่, ป่าหรือดินที่มีป่ง เรียกว่า ป่าป่ง ดินป่ง, เรียกผีที่เชื่อว่ามีอยู่ในที่เช่นนั้น ว่า ผีป่ง, เรียกลักษณะที่นั่งบนห้างที่ใช้ไม้ขัดและผูกเป็นแคร่บนต้นไม้หรือบนกอไผ่เพื่อคอยเฝ้าดูหรือยิงสัตว์ที่มากินดินป่ง ว่า นั่งป่ง, โป่ง ก็ว่า. | เปรอะ | (เปฺรอะ) ว. เลอะ เช่น ผ้าเปรอะ, เกรอะกรัง เช่น สนิมเปรอะ, หมักหมม เช่น ขี้ไคลเปรอะ | โป่ง | พื้นดินที่มีเกลือสินเธาว์ผุดเกรอะกรังอยู่, ป่าหรือดินที่มีโป่ง เรียกว่า ป่าโป่ง ดินโป่ง, เรียกผีที่เชื่อว่ามีอยู่ในที่เช่นนั้น ว่า ผีโป่ง, เรียกลักษณะที่นั่งบนห้างที่ใช้ไม้ขัดและผูกเป็นแคร่บนต้นไม้หรือบนกอไผ่เพื่อคอยเฝ้าดูหรือยิงสัตว์ที่มากินดินโป่ง ว่า นั่งโป่ง, ป่ง ก็ว่า | ผล | น. ส่วนของพืชที่เจริญมาจากรังไข่ เช่น ผลมะม่วง ผลมะปราง | โพล่ | น. ภาชนะชนิดหนึ่ง สำหรับใส่เสบียงกรังและของใช้ต่าง ๆ เช่น ข้าวสาร เสื้อผ้า ประกอบด้วยกระชุ ๒ ใบ สานเป็นตาชะลอม กรุด้วยกาบไผ่ กระชุนั้นผูกติดกับคันซึ่งทำเป็นขา ๒ ขา ส่วนบนไขว้กัน มีหูสำหรับสอดไม้คานเพื่อหาบไป ด้านบนมีกัญญาซึ่งสานด้วยไม้ไผ่เป็นตาชะลอมแล้วกรุด้วยใบไม้ผูกติดกับคันสำหรับกันแดดกันฝน. | แฟ้ม | น. ภาชนะชนิดหนึ่ง สานด้วยไม้ไผ่หรือหวาย รูปร่างคล้ายฝาหอยแครงประกบเป็นคู่ ขอบปากตอนบนมีหูสำหรับสอดไม้คานเพื่อหาบไป ใต้หูมีห่วงและลูกสลักสำหรับขัดปาก ขอบด้านล่างถักพันให้ติดกันอย่างบานพับ ใช้ใส่เสบียงกรัง เช่น ปลาย่าง เนื้อเค็ม พริกแห้ง | รางนาน | น. นกรังนาน. | เรือแซ | น. เรือที่ขุดขึ้นจากซุงทั้งต้น รูปร่างเช่นเดียวกับเรือกราบแต่เพรียวน้อยกว่า ใช้ในการลำเลียงพล ศัสตราวุธ ยุทโธปกรณ์ และเสบียงกรัง อาจใช้เป็นเรือทุ่นหรือทำหน้าที่อื่นได้. | สะเก็ด | เลือดและนํ้าเหลืองซึ่งแห้งติดกรังอยู่ที่ปากแผล เช่น สะเก็ดแผล |
| | Carbon-14 | คาร์บอน-14, ไอโซโทปกัมมันตรังสีของธาตุคาร์บอน มีครึ่งชีวิต 5, 730 ปี เกิดขึ้นในบรรยากาศชั้นบนของโลก โดยอนุภาคนิวตรอนที่เกิดมาจากรังสีคอสมิกไปชนนิวเคลียสของธาตุไนโตรเจนเกิดเป็นคาร์บอน-14 และถูกออกซิไดส์ไปเป็นคาร์บอนไดออกไซด์เข้าสู่วงจรของสิ่งมีชีวิต หลังจากสิ่งมีชีวิตตายไป จะไม่มีการแลกเปลี่ยนกับคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศอีก คาร์บอน-14 ที่มีอยู่ก็จะสลายลดลงด้วยอัตราที่สามารถทราบได้ จึงใช้ในการคำนวณอายุซากสิ่งมีชีวิตและวัตถุโบราณที่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบ (ดู Radiocarbon dating ประกอบ) [นิวเคลียร์] | Clearance | การปล่อยผ่าน, 1. การให้สารกัมมันตรังสีหรือวัสดุกัมมันตรังสีพ้นจากการดำเนินการภายใต้การควบคุมทางด้านการป้องกันอันตรายจากรังสี โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย 2. กระบวนการทางชีววิทยาในการขจัดสารกัมมันตรังสีออกจากอวัยวะหรือร่างกาย [นิวเคลียร์] | Cosmogenic radionuclides | นิวไคลด์กัมมันตรังสีเกิดจากรังสีคอสมิก, นิวไคลด์กัมมันตรังสีที่เกิดขึ้นเมื่อรังสีคอสมิกชนกับโมเลกุลของแก๊สในชั้นบรรยากาศของโลก เช่น ทริเทียม (<sup>3</sup>H) คาร์บอน-14 (C-14) โซเดียม-22 (Na-22) และ เบริลเลียม-7 (Be-7) [นิวเคลียร์] | X-rays | รังสีเอกซ์, รังสีในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีอำนาจทะลุทะลวงสูงไม่ได้มีต้นกำเนิดจากนิวเคลียสของอะตอม แต่เกิดขึ้นเมื่ออะตอมถูกกระตุ้น ทำให้อิเล็กตรอนวงในหลุดออกไป และอิเล็กตรอนวงถัดไปเข้ามาแทนที่ แล้วให้พลังงานส่วนเกินออกมาในรูปของรังสีเอกซ์ หรือเกิดจากการระดมยิงเป้าโลหะหนักบางชนิด เช่น ทังสเตน ด้วยอิเล็กตรอนความเร็วสูง ซึ่งอิเล็กตรอนจะถูกหน่วงให้ช้าลงอย่างทันทีทันใดและปล่อยรังสีเอกซ์ออกมา บางคน เรียกรังสีเอกซ์ว่า รังสีเรินต์เก็น ตามชื่อของ วิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เก็น นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันผู้ค้นพบรังสีนี้เมื่อ ปี พ.ศ. 2438 [นิวเคลียร์] | Thermoluminescence | เทอร์โมลูมิเนสเซนซ์, ปรากฏการณ์การเปล่งแสงของสารบางชนิดเมื่อได้รับความร้อน นำมาประยุกต์ใช้วัดปริมาณรังสีที่สารนั้นดูดกลืนไว้ เช่น การวัดปริมาณรังสีด้วยทีแอลดี การหาอายุโบราณวัตถุและโบราณสถาน เทอร์โมลูมิเนสเซนซ์เกิดเมื่อสารได้รับรังสีและดูดกลืนพลังงานจากรังสีไว้ ทำให้อิเล็กตรอนส่วนหนึ่งหลุดออกมา และบางส่วนจะถูกจับไว้ในผลึกที่มีโครงสร้างไม่สมบูรณ์ ซึ่งเมื่อนำมากระตุ้นด้วยความร้อน อิเล็กตรอนดังกล่าวจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมทั้งคายพลังงานในรูปของแสง ตัวอย่างสารเทอร์โมลูมิเนสเซนซ์ในธรรมชาติ เช่น แร่แคลไซต์ แร่โดโลไมต์ หินฟันม้า หินเขี้ยวหนุมาน เพทาย และสารที่สังเคราะห์ขึ้น เช่น แคลเซียมฟลูออไรด์ (ดู thermoluminescence dating ประกอบ) [นิวเคลียร์] | Roentgen rays | รังสีเรินต์เก็น, รังสีในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีอำนาจทะลุทะลวงสูงไม่ได้มีต้นกำเนิดจากนิวเคลียสของอะตอม แต่เกิดขึ้นเมื่ออะตอมถูกกระตุ้น ทำให้อิเล็กตรอนวงในหลุดออกไป และอิเล็กตรอนวงถัดไปเข้ามาแทนที่ แล้วให้พลังงานส่วนเกินออกมาในรูปของรังสีเอกซ์ หรือเกิดจากการระดมยิงเป้าโลหะหนักบางชนิด เช่น ทังสเตน ด้วยอิเล็กตรอนความเร็วสูง ซึ่งอิเล็กตรอนจะถูกหน่วงให้ช้าลงอย่างทันทีทันใดและปล่อยรังสีเอกซ์ออกมา บางคน เรียกรังสีเอกซ์ว่า รังสีเรินต์เก็น ตามชื่อของ วิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เก็น นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันผู้ค้นพบรังสีนี้เมื่อ ปี พ.ศ. 2438 [นิวเคลียร์] | Radioimmunoassay | อาร์ไอเอ, เทคนิคการหาปริมาณสารต่างๆ ในสิ่งส่งตรวจ เช่น เลือด ปัสสาวะ โดยใช้สารประกอบติดฉลากรังสีเป็นตัวติดตามผลของปฏิกิริยาจำเพาะระหว่างสารก่อภูมิต้านทาน(antigen) และสารภูมิต้านทาน(antibody) [นิวเคลียร์] | Radiation worker | ผู้ปฏิบัติงานรังสี, ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติงานในบริเวณรังสีชนิดก่อไอออน เช่น ผู้ปฏิบัติงานผลิตสารไอโซโทปรังสี ผู้ปฏิบัติงานฉายรังสี ผู้ปฏิบัติงานกับเครื่องวัดเชิงนิวเคลียร์ และเครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ <br>ผู้ปฏิบัติงานรังสีอาจรวมถึงผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติงานด้านเทคนิค แต่มีความจำเป็นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริเวณรังสีหรือรังสีดังกล่าวเป็นประจำ ทำให้มีโอกาสได้รับรังสีมากกว่าประชาชนทั่วไป เช่น พนักงานทำความสะอาด พนักงานขับรถขนส่งสารกัมมันตรังสี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ป้องกันอันตรายจากรังสีจะกำหนดให้บุคคลใดเป็นผู้ปฏิบัติงานทางรังสีตามกฎระเบียบ หรือแล้วแต่กรณี</br> <br>ผู้ปฏิบัติงานรังสีดังกล่าวข้างต้น ย่อมมีโอกาสได้รับรังสีจากการปฏิบัติงานเป็นปริมาณแตกต่างกัน กล่าวคือ ผู้ปฏิบัติงานผลิตสารไอโซโทปรังสี หรือผู้ปฏิบัติงานฉายรังสี จะมีโอกาสได้รับรังสีมากกว่าผู้ปฏิบัติงานกับเครื่องวัดเชิงนิวเคลียร์ และเครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ</br> [นิวเคลียร์] | Radiation warning symbol | สัญลักษณ์เตือนภัยจากรังสี, สัญลักษณ์สากลที่กำหนดขึ้นเพื่อเตือนให้ทราบว่ามีรังสี หรือให้ระวังรังสี ประกอบด้วยใบพัด 3 แฉก สีม่วง หรือสีดำ อยู่บนพื้นสีเหลือง สัญลักษณ์นี้ใช้ติดที่ภาชนะบรรจุวัสดุกัมมันตรังสี หรือบริเวณที่มีรังสี [นิวเคลียร์] | Radiation syndrome | กลุ่มอาการป่วยจากรังสี, กลุ่มอาการที่ปรากฏเมื่อมนุษย์ได้รับรังสีที่มีอำนาจทะลุทะลวงสูงจากภายนอกทั่วร่างกายในระยะเวลาสั้นๆ มี 3 กลุ่มอาการขึ้นอยู่กับปริมาณรังสีที่ได้รับ ได้แก่ กลุ่มอาการทางไขกระดูกหรือกลุ่มอาการทางระบบเลือด กลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหาร และกลุ่มอาการทางระบบประสาทส่วนกลาง ทุกกลุ่ม จะแสดงอาการเป็น 3 ระยะ คือ <br>-ระยะเริ่มต้น (prodromal stage) มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย</br> <br>-ระยะแอบแฝง (latent stage) เป็นระยะที่ไม่แสดงอาการ</br> <br>-ระยะแสดงอาการที่แท้จริง (manifest illness stage) มีอาการที่แสดงถึงความเสียหายของอวัยวะ</br> <br>(ดู bone marrow syndrome, cerebrovascular syndrome และ gastrointestinal syndrome ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์] | Radiation safety | ความปลอดภัยจากรังสี, การป้องกันหรือลดอุบัติเหตุต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจากต้นกำเนิดรังสี หรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น โดยมีมาตรการบรรเทาผลแก่ผู้ปฏิบัติงานทางรังสี ประชาชน และสิ่งแวดล้อมภายหลังจากที่เกิดเหตุขึ้น, Example: [นิวเคลียร์] | Kinetic energy released in matter | เคอร์มา, ผลรวมของพลังงานจลน์เริ่มต้นของอนุภาคที่มีประจุซึ่งเกิดจากรังสีชนิดก่อไอออนที่ไม่มีประจุทำปฏิสัมพันธ์กับวัตถุ มีหน่วยเป็นเกรย์ [นิวเคลียร์] | Relative Biological Effect | ผลทางชีววิทยาสัมพัทธ์, การเปรียบเทียบปริมาณรังสีของรังสีชนิดหนึ่งกับรังสีเอกซ์ 250 กิโลอิเล็กตรอนโวลต์ หรือรังสีแกมมาจากต้นกำเนิดรังสีโคบอลต์-60 ที่ก่อให้เกิดผลทางชีววิทยาเหมือนกัน ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน $ RBE = \frac{ ปริมาณรังสีจากรังสีเอกซ์ 250 กิโลอิเล็กตรอนโวลต์ หรือรังสีแกมมาจากโคบอลต์-60 }{ ปริมาณรังสีจากรังสีชนิดอื่น } $ [นิวเคลียร์] | Laterite | ดินลูกรัง [TU Subject Heading] | Ovarian neoplasms | เนื้องอกรังไข่ [TU Subject Heading] | Radiologic technologists | นักรังสีเทคนิค [TU Subject Heading] | พลังงานปรมาณู | พลังงานปรมาณู, พลังงานไม่ว่าในลักษณะใดซึ่งเกิดจากการปลดปล่อยออกมาในเมื่อมีการแยกรวม หรือแปลงนิวเคลียสของปรมาณู หรือพลังงานจากรังสีเอ็กซ์ [พลังงาน] | Damage, Irradiation | อันตรายจากรังสี [การแพทย์] | ovulation | การตกไข่, กระบวนการที่ไข่ซึ่งเจริญเต็มที่เคลื่อนออกมาจากรังไข่เพื่อเตรียมรับการผสมจากตัวอสุจิ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | corpus luteum | คอร์ปัสลูเทียม, กลุ่มเนื้อเยื่อภายในรังไข่ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ซึ่งเปลี่ยนแปลงมาจากกราเฟียนฟอลลิเคิลที่ปล่อยไข่ออกไปจากรังไข่แล้ว ถ้าไข่ได้รับการผสม คอร์ปัสลูเทียมก็จะผลิตฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนเพื่อควบคุมการตั้งครรภ์ จนหมดหน้าที่ก็จะสลายไป ถ้าไข่ไม่ได้รับการผสมคอร์ปั [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | angle | มุม, รังสีสองเส้นที่มีจุดเริ่มต้นเดียวกัน เรียกรังสีทั้งสองเส้นนี้ว่า แขนของมุม และเรียกจุดเริ่มต้นว่าจุดยอดมุม [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | oviduct | ท่อนำไข่, หลอดปลายเปิดซึ่งปลายข้างหนึ่งมีลักษณะคล้ายปากแตรอยู่ใกล้ ๆ รังไข่และปลายอีกข้างหนึ่งต่อกับมดลูก ภายในหลอดประกอบด้วยกล้ามเนื้อและซีเลียที่ช่วยนำไข่จากรังไข่มายังมดลูก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | fallopian tube | ปีกมดลูก, ท่อนำไข่, หลอดปลายเปิดซึ่งปลายข้างหนึ่งมีลักษณะคล้ายปากแตรอยู่ใกล้ ๆ รังไข่และปลายอีกข้างหนึ่งต่อกับมดลูก ภายในหลอดประกอบด้วยกล้ามเนื้อและซีเลียที่ช่วยนำไข่จากรังไข่มายังมดลูก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Lethal Effects, Immediate | การตายอย่างเฉียบพลันอันเนื่องมาจากรังสี [การแพทย์] | Leukemia, Radiation-Induced | ลิวคีเมียจากรังสี, มะเร็ง; ลิวคีเมียผลจากรังสี [การแพทย์] | Malignancies, Radiation Induced | รังสีทำให้เกิดมะเร็ง, เนื้องอกเกิดจากรังสี, เนื้องอกจากรังสี [การแพทย์] | Meigs' Syndrome | เมกส์, กลุ่มอาการ; กลุ่มอาการมีกซ์; กลุ่มอาการเมกซ์; กลุ่มอาการของมิ๊ก; กลุ่มอาการเมก; เนื้องอกรังไข่ชนิดธรรมดาที่เป็นเนื้อแข็งกับมี [การแพทย์] | Monitoring Instruments, Personnel | เครื่องบันทึกรังสีส่วนบุคคล [การแพทย์] |
| ดินลูกรัง | [din lūkrang] (n, exp) EN: laterite ; red earth FR: latérite [ f ] ; terre rougeâtre [ m ] | หินลูกรัง | [hin lūkrang] (n, exp) EN: light-brown stone | ลูกรัง | [lūkrang] (n) EN: laterite FR: latérite [ f ] | แม่น้ำสะแกกรัง | [Maēnām Sakaē Krang] (n, prop) EN: Sakae Krang River | เสบียงกรัง | [sabīengkrang] (n) EN: provisions FR: provisions [ fpl ] | ถนนลูกรัง | [thanon lūkrang] (n, exp) EN: non-asphalt road |
| CT | (n, abbrev) ระบบสร้างภาพตัดขวางจากรังสีเอกซ์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ (Computerized axial tomography) |
| contempt | (n) การดูถูก, See also: ความรู้สึกรังเกียจอย่างมาก, Syn. disdain, scorn | cake in | (phrv) ติดกรังเป็นก้อน, See also: ติดเป็นก้อนแห้งแข็ง | cake up | (phrv) ติดกรังเป็นก้อน, See also: ติดเป็นก้อนแห้งแข็ง | cake with | (phrv) ติดกรังเป็นก้อน, See also: ติดเป็นก้อนแห้งแข็ง | estrogen | (n) ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ผลิตจากรังไข่ ช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศและช่วยพัฒนาลักษณะเฉพาะทางเพศของเพศหญิง, Syn. oestrogen | fallopian tube | (n) ท่อนำไข่, See also: ท่อทางเดินของไข่จากรังไข่ไปสู่มดลูก | Grand Prix | (n) การแข่งรถประจำปี มักจัดขึ้นในหลายๆ ประเทศ, See also: การแข่งขันรถยนต์กรังปรีซ์ | oestrogen | (n) ฮอร์โมนเพศหญิง สร้างมาจากรังไข่, Syn. estrogen | persecution | (n) การถูกก่อกวน, See also: การถูกกลั่นแกล้ง, การถูกรังแก | radiation | (n) รังสี, See also: พลังงานจากรังสีหรือคลื่น | repulsion | (n) ความรู้สึกรังเกียจ, See also: ความรู้สึกไม่ชอบ, ความสะอิดสะเอียน, Syn. abhorrence, disgust |
| grand prix | (กรานพรี') n. การแข่งขันรถระหว่างประเทศ, การแข่งขันกรังปรีซ์ | gravel | (แกรฟ'เวิล) n. กรวด, หินเล็ก ๆ , ลูกรัง vt. ปูหรือโรยกรวด, ทำให้ฉงน, ทำให้ระคายเคือง, ยั่วโมโห, กระตุ้น, เกยตื้น. adj. เสียงเสียดสี, เสียงแหบ, See also: gravelish adj. | ray | (เร) n. รังสี, ส่วนหรือเส้นที่ออกเป็นรัศมีจากโครงร่างหนึ่ง, แฉก, แววแสง, แววแห่งความหวัง, ปลากระเบน, เสียงหนึ่งในจำนวนเสียงดนตรีทั้ง7 vi. ปล่อยรังสี vt. ปล่อยรังสี, ทำให้ถูกรังสี, ทำให้มีเส้นรัศมี, ทำให้เป็นแฉก, Syn. beam, spark | swarm | (สวอร์ม) n. ฝูงผึ้ง, ฝูง, กลุ่มใหญ่, จำนวนมากมาย. -v. (ผึ้ง) อพยพออกจากรัง, ไปเป็นกลุ่มใหญ่, จับกลุ่ม, มีมากเกินไป, เต็มไปด้วย, ปีนป่าย, ปีนต้นไม้, ปีนเสา, See also: swarmer n., Syn. mass, throng |
| gravel | (n) กรวดทราย, ลูกรัง, ก้อนนิ่ว | gravel | (vt) ราดด้วยกรวดทราย, โรยกรวด, ปูลูกรัง |
| radiological technologist | [เรดิโอโลจิคัล เทคโนโลจีส] (n, uniq) นักรังสีเทคนิค | tomography | (n) การสร้างภาพตัดขวางของรูปทรงโดยใช้เทคนิคต่างๆ ดังเช่น จากการสั่นพ้องของคลื่นสนามแม่เหล็ก หรือ จากรังสีเอกซ์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ |
| Tomografie | (n) |die, pl. Tomografien| การสร้างภาพตัดขวางของรูปทรงโดยใช้เทคนิคต่างๆ ดังเช่น จากการสั่นพ้องของคลื่นสนามแม่เหล็ก หรือ จากรังสีเอกซ์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ | Computertomografie | (n) |die, pl. Computertomografien| วิธีการสร้างภาพตัดขวางจากรังสีเอกซ์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้ได้ภาพตัดขวางของส่วนของร่างกายออกมาเป็นดิจิตัลหรือตัวเลข | Computertomographie | (n) |die, pl. Computertomographien| ระบบสร้างภาพตัดขวางจากรังสีเอกซ์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์, Syn. Computertomografie |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |