ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ตัวตน, -ตัวตน- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ |
| ตัวตน | (n) body, See also: shape, physique, form, human body, appearance, substance, Syn. ตัว, Example: คำสอนของศาสนาพุทธเน้นเรื่องความไม่เที่ยงของทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้น พุทธศาสนิกชนจึงไม่ควรยึดติดกับความเป็นตัวตนของตนให้มาก, Thai Definition: สิ่งที่เป็นรูป, ความเป็นมนุษย์ | ตัวตน | (n) body, See also: shape, physique, form, human body, appearance, substance, Syn. ตัว, Example: คำสอนของศาสนาพุทธเน้นเรื่องความไม่เที่ยงของทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นพุทธศาสนิกชนจึงไม่ควรยึดติดกับความเป็นตัวตนของตนให้มาก, Thai Definition: สิ่งที่เป็นรูป, ความเป็นมนุษย์ |
| ขวัญ | สิ่งที่ไม่มีตัวตน เชื่อกันว่ามีอยู่ประจำชีวิตของคนตั้งแต่เกิดมา ถ้าขวัญอยู่กับตัวก็เป็นสิริมงคล เป็นสุขสบายจิตใจมั่นคง ถ้าคนตกใจหรือเสียขวัญ ขวัญก็ออกจากร่างไป ซึ่งเรียกว่า ขวัญหาย ขวัญหนี ขวัญบิน เป็นต้น ทำให้คนนั้นได้รับผลร้ายต่าง ๆ, เรียกผู้ตกใจง่ายคือ เด็กหรือหญิงซึ่งมักจะขวัญหายบ่อย ๆ ว่า ขวัญอ่อน , และอนุโลมใช้ไปถึงสัตว์หรือสิ่งของบางอย่าง เช่น ช้าง ม้า ข้าว เรือน ฯลฯ ว่ามีขวัญเช่นเดียวกับคนเหมือนกัน, โดยปริยายหมายความว่า ยอดกำลังใจ เช่น ขวัญเมือง ว่า ยอดกำลังใจของเมือง | ไตรลักษณ์ | (-ลัก) น. ลักษณะที่เป็นสามัญทั่วไป ๓ ประการ คือ ความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความมิใช่ตัวตนที่แท้จริง. | ผี | น. สิ่งที่มนุษย์เชื่อว่าเป็นสภาพลึกลับ มองไม่เห็นตัว แต่อาจจะปรากฏเหมือนมีตัวตนได้ อาจให้คุณหรือโทษได้ มีทั้งดีและร้าย เช่น ผีปู่ย่าตายาย ผีเรือน ผีห่า, เรียกคนที่ตายไปแล้ว | ร่างกาย | น. ตัวตน. | สังขาร, สังขาร- | (-ขาน, -ขาระ-, -ขานระ-) น. ร่างกาย, ตัวตน, สิ่งที่ประกอบและปรุงแต่งขึ้นเป็นร่างกายและจิตใจรวมกัน, เช่น สังขารร่วงโรย สังขารไม่เที่ยง | อนงค์ ๒ | (อะนง) น. ผู้ไม่มีตัวตน เป็นชื่อหนึ่งของกามเทพ.(ส. อนงฺค ว่า ไม่มีตัวตน = ชื่อกามเทพ). | อัตภาพ | น. ตน, ลักษณะความเป็นตัวตนหรือบุคคล. | อาตม- | (อาดตะมะ-) น. ตน, ตัวตน. |
| | Self | ตัวตน [TU Subject Heading] | Self-presentation | การนำเสนอตัวตน [TU Subject Heading] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | International Finance Corporation | คือบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1956 และเริ่มมีฐานะเป็นองค์การชำนัญพิเศษที่มีสัมพันธ์กับองค์การสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1957 แม้บรรษัทจะดำเนินงานใกล้ชิดกับธนาคารโลก แต่ก็มีฐานะเป็นสิ่งที่มีตัวตนทางกฎหมายแยกต่างหาก และมีกองทุนที่แตกต่างจากกองทุนของธนาคารโลกด้วยวัตถุประสงค์ของบรรษัทคือ ส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ โดยสนับสนุนให้การผลิตของวิสาหกิจของเอกชนในประเทศสมาชิกเจริญเติบโตยิ่ง ขึ้น การที่จะกระทำตามวัตถุประสงค์นี้ได้ บรรษัทจะนำเงินไปลงทุนในวิสาหกิจด้านการผลิตฝ่ายเอกชน โดยดำเนินงานร่วมกับเอกชนผู้ลงทุน ทำหน้าที่เป็นสำนักหักบัญชี (Clearing House) คล้ายกับเป็นแหล่งรวมโอกาสต่าง ๆ ของการลงทุนฝ่ายเอกชนทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ รวมทั้งฝ่ายจัดการที่มีประสบการณ์ชำนาญ นอกจากนั้น ยังช่วยกระตุ้นการลงทุนด้านการผลิตของเอกชนทั้งภายในและต่างประเทศด้วย บรรษัทยังได้รับอนุญาตให้ทำการกู้ยืมเงินโดยใช้วิธีขายพันธบัตรของตนเอง รวมทั้งตั๋วสัญญาการใช้เงินบรรษัทการเงินระหว่างประเทศดำเนินงานโดยองค์กร ต่าง ๆ ของตน คืออำนาจทั้งหมดของบรรษัทจะขึ้นอยู่กับคณะผู้ว่าการ (Board of Govemors) ประกอบด้วยผู้ว่าการและผู้ว่าการสำรอง (Altemates) จากธนาคารโลกซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศต่าง ๆ อันเป็นสมาชิกของบรรษัทด้วย คณะผู้ว่าการจะคอยควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของบรรษัทให้ถูกต้อง ตัวประธานธนาคารโลก จะทำหน้าที่เป็นประธานคณะผู้ว่าการของบรรษัทโดยตำแหน่งด้วย บรรษัทมีสำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตันดีซี [การทูต] | Intangible fixed asset | ทรัพย์สินถาวรไม่มีตัวตน [การบัญชี] | Tangible | ทรัพย์สินถาวรที่มีตัวตน [การบัญชี] | Tangible fixed asset | สินทรัพย์ถาวรมีตัวตน [การบัญชี] | e-mail | อีเมล, บริการรับส่งจดหมายในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ โดยสามารถส่งได้ทั้งข้อความ และไฟล์ต่างๆ ซึ่งผู้รับและผู้ส่งต้องมีที่อยู่อีเมล เพื่อระบุตัวตนบนเครือข่าย เปรียบเสมือนกับเป็นที่อยู่ที่ใช้รับและส่งจดหมาย [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | email address | ที่อยู่อีเมล, ข้อมูลที่ใช้เพื่อระบุตัวตนบนเครือข่าย เปรียบเสมือนกับเป็นที่อยู่ที่ใช้รับและส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
| ตัวตน | [tūaton] (n) EN: body ; shape ; physique ; form ; human body ; appearance ; substance FR: corps [ m ] ; forme [ f ] |
| nominee | (n) ตัวแทน เช่น ตัวแทนหุ้น เป็นผู้รับถือหุ้นให้บุคคลอื่นที่ไม่ต้องการจะเปิดเผยตัวตน | avatar | (n) ตัวแทนตัวตนของเราในโลกเสมือนจริงหรืออินเทอร์เน็ต, ตัวตนจำลอง, See also: repretation |
| absence | (n) การไม่มีตัวตน | ens | (n) การมีตัวตน (ทางปรัชญาป, See also: เอกลักษณ์, Syn. existence | faceless | (adj) ไร้ตัวตน, See also: ไร้เอกลักษณ์, ซึ่งไม่สามารถระบุตัว | much ado about nothing | (idm) ความตื่นเต้นกับสิ่งไม่มีตัวตน | show oneself in one's true colours | (idm) เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง, See also: เผยสิ่งที่คิด, เผยสิ่งที่เป็นจริงๆออกมา | ideal | (adj) ซึ่งอยู่ในความคิด, See also: ซึ่งไม่มีตัวตน, ซึ่งเป็นนามธรรม, ซึ่งอยู่ในอุดมคติ, Syn. abstract, fanciful, imaginary | immaterial | (adj) ไม่ใช่วัตถุ, See also: ไม่มีตัวตน, จับต้องไม่ได้, Syn. incorporeal, spiritual, Ant. material | incarnation | (n) การทำให้เป็นรูปเป็นร่าง, See also: การทำให้มีตัวตน, Syn. embodiment, personification | nonentity | (n) สิ่งที่ไม่มีตัวตน, See also: สิ่งที่มีอยู่เฉพาะในจินตนาการ | personification | (n) การทำให้เป็นบุคคล, See also: การเทียบให้เป็นบุคคล, การทำให้มีตัวตน, Syn. manifestion, embodiment | phantom | (n) สิ่งที่ไม่มีตัวตน, See also: ภาพลวงตา, ภาพหลอน, สิ่งลวงตา | real | (adj) มีตัวตน, Syn. physical, substantial | self | (n) ตนเอง, See also: ความเป็นตัวตน, ตัวของตนเอง, มนุษย์, อัตตา, Syn. identity, individual, oneself, person | tangible | (n) สิ่งที่มีตัวตน | unsubstantial | (adj) ที่ไม่มีตัวตน, Syn. imaginary | wild-goose chase | (n) การค้นหาสิ่งไม่มีตัวตน, See also: การค้นหาสิ่งที่ไม่อาจพบได้ |
| absence | (แอบ' เซินซฺ') n. การไม่อยู่, ระยะเวลาที่ไม่อยู่, การไม่ปรากฏตัว, การไม่มีตัวตน, การขาด, การขาดแคลน, Syn. inexistence, nonexistence, Ant. presence, adequacy | abstract | adj. (แอบ' สแทรคทฺ, แอบสแทรคทฺ') (n., v. แอ็บสแทรคทฺ') นามธรรม, ไม่มีตัวตน, ลอย ๆ , เฉย ๆ , รายการย่อ, ถอน, ถอด, ควัก, สรุป | actualism | (แอค' ซวลลิสซึม) n. ความเชื่อที่ว่าความจริงทั้งหมดนั้นเปนสิ่งมีตัวตน. -actualistic adj. -actualist n. | concrete | (คอน'ครีท) ฐconcreted, concreting, concretes } adj. ชัดแจ้ง, ซึ่งเห็นประจักษ์, มีตัวตน, เป็นรูปธรรม, จริง ๆ n. สิ่งที่เป็นรูปธรรม, สิ่งที่มีตัวตน, คอนกรีต, ดินที่แข็งเป็นก้อน. vt. วางคอนกรีต, ใส่คอนกรีต, ทำให้เกาะตัวแน่น, ทำให้แข็ง., See also: concreteness n. ด | concretion | (คอนครี'เชิน) n. การแข็งตัว, สิ่งที่แข็งตัว, สิ่งที่เกิดจากการเกาะกัน, สิ่งที่มีตัวตน, ก้อนหรือเม็ดนิ่วในร่างกาย, ก้อนแข็งที่เกิดขึ้นในหินทรายหรือดิน, Syn. consolidation | corporeal | (คอร์โพ'เรียล) adj. เกี่ยวกับร่างกาย, ซึ่งมีตัวตน, เกี่ยวกับวัตถุ, See also: corpoeality n. corporealness n. ดู corporalcy n. ดูcorporal corporalship n. ดูcorporal, Syn. material, substantial -Conf. corporal | dummy | (ดัม'มี) n. หุ่น, รูปหุ่น, คนใบ้, คนโง่, ลูกมือ, ไพ่ดัมมี่, ของเลียนแบบ, การพิมพ์เป็นตัวอย่างเพื่อแสดงขนาดรูปร่างแบบและความต่อเนื่อง. -adj. เกี่ยวกับการเลียนแบบ, ปลอม, ไม่มีตัวตน. | embody | vt. ปรากฎในรูปร่าง, ทำให้เป็นรูปร่างขึ้น, สิ่งอยู่ในตัว, ทำให้เป็นตัวตน, รวบรวม, ประมวล., See also: embodier n. ดูembody, Syn. imbody | emerge | (อีเมิร์จฺ') vi. โผล่ออกมา, ปรากฎออกมา, พัฒนา, มีตัวตน | ethereal | (อิเธีย'เรียล) adj. บอบบาง, เบาหวิว, เหมือนอากาศธาตุ, ไม่มีตัวตน, ไม่ใช่โลกมนุษย์, เกี่ยวกับสวรรค์, เกี่ยวกับอีเทอร์, ประณีต, อ่อนช้อย., See also: ethereality n. ดูethereal etherealness n. ดู ethereal etheri, Syn. aethereal | etherial | (อิเธีย'เรียล) adj. บอบบาง, เบาหวิว, เหมือนอากาศธาตุ, ไม่มีตัวตน, ไม่ใช่โลกมนุษย์, เกี่ยวกับสวรรค์, เกี่ยวกับอีเทอร์, ประณีต, อ่อนช้อย., See also: ethereality n. ดูethereal etherealness n. ดู ethereal etheri, Syn. aethereal | fabled | (เฟ' เบิลดฺ) adj. ซึ่งไม่มีตัวตน, เกี่ยวกับนิทาน | fictitious | (ฟิคทิช'เชิส) adj.ซึ่งเป็นเรื่องโกหก, ไม่จริง, ไม่มีตัวตน, ซึ่งเสกสรรขึ้น, ปลอม, ไม่แท้., See also: fictitiousness n. | immaterial | (อิมมะเทีย'เรียล) adj. ไม่สำคัญ, ไม่ใช่วัตถุ, ไม่มีตัวตน, ไร้แก่นสาร, เกี่ยวกับจิตวิญญาณ, Syn. unimportant | incorporate 2 | (อินคอร์' เพอเรท) adj. ไม่ใช่วัตถุหรือสสาน, ไม่เป็นตัวตน, Syn. incorporeal | nonentity | (นอนเอน'ทิที) n. บุคคลหรือสิ่งที่ไม่สำคัญ, สิ่งที่ไม่มีตัวตน, Syn. cipher | nowhere | (โน'แวร์) adv. ไม่มีที่ไหน n. ความไม่มีตัวตน | null | (นัล) adj. ไม่เป็นผล, ไม่มีค่า, ไม่สำคัญ, ไม่มีตัวตน, ไม่มีธาตุ, โมฆะ, เป็นศูนย์, null and void ไม่ชอบด้วยกฎหมาย, ไม่ถูกต้อง, โมฆะ, Syn. ineffectual | objectify | (อับเจค'ทะไฟ) vt. ทำให้เป็นรูปธรรม, ทำให้แลเห็น, ทำให้เป็นตัวตน, ทำให้สัมผัสได้, See also: objectification n. | realism | (รี'อะลิสซึม) n. ความสนใจในความเป็นจริง, ลักษณะที่เหมือนจริง, การมองสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง, ลัทธินิยมความจริง, ลัทธิเขียนตามความเป็นจริง, ลัทธิที่ว่าจักรวาลเป็นสิ่งที่มีตัวตนจริง ๆ | substantial | (ซับสแทน'เชิล) adj., n. (สิ่งที่) มากมาย, ยิ่งใหญ่, มีเนื้อหา, มีใจความ, มีแก่นสาร, มีตัวตน, เป็นเนื้อหนังมังสา, เป็นพื้นฐาน, มั่งคั่ง, มีอิทธิพล, อุดมสมบูรณ์, แน่นหนา, เป็นความจริง, เป็นของจริง.., See also: substantiality n. substantialness n. |
| concrete | (adj) เป็นรูปธรรม, มีรูป, มีตัวตน, เห็นประจักษ์ | corporeal | (adj) เกี่ยวกับร่างกาย, เกี่ยวกับรูปธรรม, ซึ่งมีตัวตน, เกี่ยวกับวัตถุ | embody | (vt) รวมตัว, มีตัวตน, ปรากฏร่าง, รวบรวม | entity | (n) สิ่งมีตัวตน, รูปธรรม, ธาตุแท้, แก่นแท้ | ethereal | (adj) เบาหวิว, เกี่ยวกับสวรรค์, ไม่มีตัวตน, เหมือนอากาศธาตุ | immaterial | (adj) ไม่มีตัวตน, ไม่เป็นแก่นสาร, ไม่สำคัญ, ไม่ใช่วัตถุ | impalpable | (adj) สัมผัสไม่ได้, ไม่มีตัวตน, ยากจะเข้าใจ | impersonal | (adj) ไม่มีตัวตน, ลอยๆ, ไม่เจาะจง | incorporeal | (adj) เกี่ยวกับนามธรรม, ไม่มีตัวตน | intangible | (adj) สัมผัสไม่ได้, แตะต้องไม่ได้, ไม่มีตัวตน | materialistic | (adj) เป็นรูปธรรม, มีตัวตน, ซึ่งถือลัทธิวัตถุนิยม | nonentity | (n) สิ่งไม่สำคัญ, สิ่งไม่มีตัวตน, ผู้ไม่มีชื่อเสียง | personality | (n) บุคลิกภาพ, ท่าทาง, บุคคล, ความมีตัวตน | personification | (n) ตัวอย่าง, การอุปมา, การสมมุติตัวตน | substantial | (adj) คงทน, มีตัวตน, มากมาย, มีแก่นสาร, ยิ่งใหญ่ | visual | (adj) เห็นได้, เกี่ยวกับสายตา, ซึ่งมีตัวตน |
| embodied | (n, vt, modal, verb, adv, pron) ตัวตน | embodied | (n, vt, modal, verb, aux, verb, adj) ตัวตน | idence | [ไอ'เดินซฺ] (n) ตัวตน | idenciate | [ไอเดินเชิท] (adj) สร้างตัวตน | ident | [ไอเดินทฺ] (adj) มีตัวตน | malware | (n) Malicious software (mal-ware) is a form of computer program designed with malicious intent. This intent may be to cause annoying pop-up ads with the hope you click on one and generate revenue, or forms of spyware and viruses that can be used to steal your identity or track your activities. รูปแบบหนึ่งของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ถูกออกแบบมาด้วยจุดประสงค์แอบแฝงบางอย่าง จุดประสงค์ดังกล่าวอาจจะเพื่อสร้างหน้าต่างโฆษณาที่เปิดขึ้นมาเองโดยอัติโนมัติ ด้วยความหวังที่ว่าจะให้คุณกดเข้าไปและสร้างรายได้ให้กับบุคคลเหล่านั้น หรือ รูปแบบของ spyware และ ไวรัสคอมพิวเตอร์ ที่สามารถใช้เพื่อการขโมยตัวตนของคุณบนอินเตอร์เน็ต หรือ ติดตามกิจกรรมต่างของคุณ, Syn. Malicious software | normalisation | (phrase) ภาวะธรรมชาติ ภาวะปกติ ภาวะที่เกิดสมาธิและเข้าสู่ความเป็นตัวตนที่แท้จริง(มอนเตสซอรี่) | self-actualization | (n) การค้นหาศักยภาพสูงสุดของตัวเอง; การค้นหาตัวตนที่แท้จริง | signature | เอกลักษณ์ ตัวตน |
| 促す | [うながす, unagasu] (vt) กระตุ้น, เร่งเล้า บุคคลให้ทำอย่างใดอย่างนึง ทนายความเร่งเล้าจำเลยแสดงตัวตนออกมา | 有形固定資産 | [ゆうけいこていしさん, yuukeikoteishisan] สินทรัพย์มีตัวตน | 欠席 | [けっせき, kesseki] (n, vi) การไม่ปรากฏตัว, การไม่มีตัวตน, การขาด, |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |