มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ อย่างหนัก | (adv) harshly, See also: severely, Syn. อย่างมาก, Example: รัฐมนตรีกระทรวงการคลังถูกกระแสสังคมโจมตีอย่างหนักในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเพราะยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม |
|
| กระหน่ำ | ว. ซํ้า ๆ ลงอย่างหนัก. | ขบคิด | ก. คิดตรึกตรองอย่างหนัก. | น้ำตาเช็ดหัวเข่า | เสียใจเพราะชํ้าใจหรือต้องผิดหวังอย่างหนักในเรื่องคู่ครอง (ใช้แก่ผู้หญิง) เช่น เพราะเธอเชื่อผู้ชายคนนี้ จึงต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่า. | บอบ | ว. อ่อนเปลี้ยหรือหมดแรงเพราะถูกทุบตีอย่างรุนแรง หรือเจ็บป่วยอย่างหนัก หรือออกกำลังมากเกินไปเป็นต้น. | เบญจดุริยางค์ | น. ปี่พาทย์เครื่องห้า มี ๒ ชนิด คือ เครื่องอย่างเบาใช้ประกอบการเล่นละครพื้นเมืองชนิดหนึ่ง และเครื่องอย่างหนักใช้ประกอบการเล่นโขนชนิดหนึ่ง, เครื่องอย่างเบามี ปี่ไฉน ๑ ทับ ๒ (ตัวผู้ ๑ ใบ ตัวเมีย ๑ ใบ) กลองตุ๊ก ๑, เครื่องอย่างหนักมี ปี่ใน ๑ ระนาดเอก ๑ ฆ้องวงใหญ่ ๑ กลองทัด ๑ คู่ ตะโพน ๑ ฉิ่ง ๑. | ผ้ำ ๆ | ว. อาการเดินหรือวิ่งอย่างหนัก. | ฟูมฟายน้ำตา | ก. เอามือทั้ง ๒ ข้างเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบหน้าเพราะความเศร้าโศกเสียใจอย่างหนัก. | รู้สำนึก | ก. รู้สึกตัวว่าผิด เช่น ถูกลงโทษอย่างหนักแล้วยังไม่รู้สำนึก. | หนักหน่วง | ว. จริงจัง, มาก, ยิ่ง, เช่น เขาพยายามอย่างหนักหน่วงเพื่อส่งเสียให้ลูกเรียน. | หน้าดำคร่ำเครียด, หน้าดำคล้ำเครียด | น. ใบหน้าหมองคล้ำเพราะต้องคร่ำเครียดหมกมุ่นอยู่กับงานหรือต้องใช้ความคิดอย่างหนัก. | หูตูบ | โดยปริยายหมายถึงทำงานอย่างหนักหรือถูกใช้งานอย่างหนัก เช่น ถูกใช้จนหูตูบ วิ่งจนหูตูบ. | อาน ๒ | ว. บอบชํ้า เช่น ถูกตีเสียอาน, โดยปริยายหมายความว่า อย่างหนัก, อย่างมาก, เช่น ถูกต่อว่าอานเลย. |
| diligent inquiry | การสอบสวนอย่างหนักหน่วง (เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงอย่างสมบูรณ์) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
| Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Potsdam Proclamation | คือคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดม ออกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 โดยหัวหน้าคณะรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และจีน ลงนามโดยประธานาธิบดีของรัฐบาลจีนคณะชาติ เป็นคำประกาศเมื่อตอนใกล้จะเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง โดยฝ่ายสัมพันธมิตรดังกล่าวกำลังทำสงครามขับเคี่ยวอยู่กับฝ่ายญี่ปุ่น พึงสังเกตว่า สหภาพโซเวียต ในตอนนั้นมิได้มีส่วนร่วมในการออกคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดมแต่อย่างใดโดยแท้จริงแล้ว คำประกาศนี้เท่ากับเป็นการยื่นคำขาดให้ฝ่ายญี่ปุ่นตัดสินใจเลือกเอาว่าจะทำ การสู้รบต่อไป หรือจะยอมจำนนเพื่อยุติสงคราม คำประกาศได้เตือนอย่างหนักแน่นว่า หากญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะสู้รบต่อไป แสนยานุภาพอันมหาศาลของสัมพันธมิตรก็จะมุ่งหน้าโจมตีบดขยี้กองทัพและประเทศ ญี่ปุ่นให้แหลกลาญ แต่หากว่าญี่ปุ่นยอมโดยคำนึงถึงเหตุผล ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้ตั้งเงื่อนไขไว้หลายข้อ สรุปแล้วก็คือ ลัทธิถืออำนาจทหารเป็นใหญ่จะต้องถูกกำจัดให้สูญสิ้นไปจากโลกอำนาจและอิทธิพล ของบรรดาผู้ที่ชักนำให้พลเมืองญี่ปุ่นหลงผิด โดยกระโจนเข้าสู่สงครามเพื่อครองโลกนั้น จะต้องถูกทำลายให้สิ้นซาก รวมทั้งพลังอำนาจในการก่อสงครามของญี่ปุ่นด้วยจุดต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด จะต้องถูกยึดครองไว้จนกระทั่งได้ปฏิบัติตามจุดมุ่งหมายของสัมพันธมิตรเป็นผล สำเร็จแล้ว อำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่นให้จำกัดอยู่เฉพาะภายในเกาะฮอนซู ฮ็อกไกโด กิวชู ชิโกกุ และเกาะเล็กน้อยอื่น ๆ ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด อาชญากรสงครามทุกคนจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาล รวมทั้งที่ทำทารุณโหดร้ายต่อเชลยศึกของสัมพันธมิตร รัฐบาลญี่ปุ่นจะต้องกำจัดสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อการรื้อฟื้น และเสริมสร้างความเชื่อถือในหลักประชาธิปไตยในระหว่างพลเมืองญี่ปุ่น และจัดให้มีเสรีภาพในการพูด การนับถือศาสนา และในการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการด้านอุตสาหกรรมที่จะเกื้อกูลต่อภาวะ เศรษฐกิจของประเทศ และความสามารถที่จะชำระค่าปฏิกรรมสงคราม แต่จะไม่ยอมให้คงไว้ซึ่งกิจการอุตสาหกรรมชนิดที่จะช่วยให้ญี่ปุ่นสร้างสม อาวุธเพื่อทำสงครามขึ้นมาอีก ในทีสุด กำลังทหารสัมพันธมิตรจะถอนตัวออกจากประเทศญี่ปุ่นในทันทีที่จุดประสงค์ต่าง ๆ ได้บรรลุผลเรียบร้อยแล้ว ในตอนท้ายของเงื่อนไข สัมพันธมิตรได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข เสียโดยไว [การทูต] | Diabetes Mellitus, Severe | เบาหวานอย่างหนัก [การแพทย์] | Diarrhea, Severe | ท้องเดินอย่างหนัก, ถ่ายอุจจาระมากและบ่อย [การแพทย์] | Exercise, Heavy | ออกกำลังกายอย่างหนัก [การแพทย์] | ฟื้นฟูสมรรถภาพสุขภาพจิต | ฟื้นฟูสมรรถภาพสุขภาพจิต, มุมมองการดำเนินงานที่เน้นการอาศัยผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพเข้ามามีบทบาทใน การเยียวยาจิตใจหรือเสริมศักยภาพที่เสียไปให้มีเพิ่มเท่าเดิมหรือดีกว่าเดิม ด้วยหลักวิชาการและแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมตามวิชาชีพ เพื่อให้ผู้มีเคยเจ็บป่วยหรือมีปัญหาสุขภาพจิตอย่างหนัก ได้เห [สุขภาพจิต] | บำบัดรักษาปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวช | บำบัดรักษาปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวช, มุมมองการดำเนินงานที่เน้นการให้ผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพเข้ามามีบทบาทในการ ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวชด้วยหลักวิชาการและแนวทางปฏิบัติที่ เหมาะสมตามวิชาชีพ เพื่อให้ผู้มีปัญหาสุขภาพจิตอย่างหนัก หรือผู้ป่วยจิตเวชมีอาการทุเลา หรือหายจากปัญหาหรือโรคที่ท [สุขภาพจิต] | Glomerulonephritis, Diffuse, Severe Acute | กลอเมอรูไลในไตอักเสบอย่างหนัก [การแพทย์] |
| I had to use all my concentration to block it. | ผมต้องพยายามอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ได้ยินมัน The Lawnmower Man (1992) | But you should know that sudden, serious brain injury causes the victim to bite down hard. | แต่คุณควรรู้ว่าฉับพลันบาดเจ็บที่สมองอย่างรุนแรงทำให้เหยื่อที่จะกัดลงอย่างหนัก The Shawshank Redemption (1994) | While the entire village, with the notable exception of Davies the School toil in this heroic task you have applied your labor to making a profit and to further disseminating the evil of alcohol. | ขณะที่ทั้งหมู่บ้าน ยกเว้นโรงเรียนของเดวี่ส์ที่เดียว ช่วยกันขนดินอย่างหนัก The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | Make a hard knot. | ทำให้ปมอย่างหนัก Snow White and the Seven Dwarfs (1937) | In the morning, it was blowing so hard... ... that the boats would not be going out. | ในตอนเช้ามันก็พัดอย่างหนักว่า เรือดริฟท์จะไม่ได้ออกไปข้าง นอก The Old Man and the Sea (1958) | Very heavily mined, you'll find, I'm sure. | อย่างหนักศีลธรรมคุณจะพบ ฉันแน่ใจว่า ใช่เรากำลังที่ดีที่สุดออกจากที่นี่ How I Won the War (1967) | Work hard. | ฝึกหนัก. เล่นอย่างเต็มที่. และ ฆ่าอย่างหนัก How I Won the War (1967) | Eminent physicist, polyglot, classicist, prize-winning botanist, hard biting satirist, | ฟิสิกส์เด่นพูดได้หลายภาษา, ข้, นักพฤกษศาสตร์ได้รับรางวัล ชนะเลิศอย่างหนักกัดเย้ยหยัน Yellow Submarine (1968) | I want everyone to try very hard to make sure it doesn't all go down the drain. | ผมอยากให้ทุกคนพยายามอย่างหนัก เพื่อไม่ให้พวกเราได้รับความหายนะ Oh, God! (1977) | I'm out there busting my buns every night. | ฉันอยู่ในสนามฝึกซ้อมอย่างหนักทุกคืน Airplane! (1980) | He went all to pieces on a particular mission. | มีภารกิจหนึ่งที่เขาล้มเหลวอย่างหนัก Airplane! (1980) | So the truth is, after all your travels after all your efforts they've stopped the campaign and sent you back empty-handed. | ความจริงก็คือ หลังจากที่เดินทางไป หลังจากที่ทุ่มเทอย่างหนัก พวกเขาก็ทำให้การรณรงค์ยุติ และส่งคุณกลับมามือเปล่า Gandhi (1982) | I'm trying so hard, but I can't. | ฉันกำลังพยายามอย่างหนัก เพื่อที่ แต่ฉันไม่สามารถ 2010: The Year We Make Contact (1984) | Miguel is seriously disturbed. He's close to the breaking point, and that's dangerous for all of us. | มิเกลเสียขวัญอย่างหนัก เขาใกล้สติแตกแล้ว Day of the Dead (1985) | You're really being a hard-ass about this, Frank. | คุณจริงๆเป็นตูดอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้แฟรงก์ Bloodsport (1988) | They try so hard, from so far back... | พวกเขาพยายามอย่างหนักเพื่อให้ห่างไกลจากการกลับ ... The Russia House (1990) | You gotta stop working so hard, April. | คุณต้องหยุดการทำงานอย่างหนักเมษายน Teenage Mutant Ninja Turtles (1990) | For when you do you must strike hard and fade away without a trace. | เมื่อคุณทำ ... ... คุณต้องตีอย่างหนักและจางหายไป ... อย่างไร้ร่องรอย ... Teenage Mutant Ninja Turtles (1990) | You have been working awful hard on this story lately. | คุณได้รับการทำงานอย่างหนักที่น่ากลัวเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเร็ว ๆ นี้ Teenage Mutant Ninja Turtles (1990) | Concentrate hard. | สมาธิอย่างหนัก Teenage Mutant Ninja Turtles (1990) | They've got you looking so hard for any flaw That after awhile that's all you see. | คุณจะต้องฝึกอย่างหนักเพื่อปกปิดข้อบกพร่อง หลังจากทั้งหมดที่คุณได้เห้น Gattaca (1997) | Hearts have grown hard throughout the land. | หัวใจได้เติบโตขึ้นอย่างหนักทั่วทั้งแผ่นดิน Princess Mononoke (1997) | Toki. | ดอนเว็บไซต์นั้นทีจะเป็นอย่างนั้นอย่างหนักเกี่ยวกับฉัน Toki Princess Mononoke (1997) | I got the stage fright. | ฉันพยายามอย่างหนัก The One with the Jellyfish (1997) | I'll work hard for people to recognize us | ผมจะทำงานอย่างหนักเพื่อคนจะได้ยอมรับพวกเรา GTO (1999) | The Jews that do not respect this decree will be severely punished. | ชาวยิวที่ฝ่าฝืนกฎข้อบังคับนี้ จะถูกลงโทษอย่างหนัก The Pianist (2002) | I'm sure, if they tried very hard, they could find some time to fit you in their schedule. | ฉันมั่นใจว่าเขาต้องพยายามอย่างหนัก ที่จะจัดสรรหาเวลาในการไปให้ได้แน่ Hope Springs (2003) | But that must mean my eye problem is really serious, cos last night I drove past the lvy and there were all these fire engines and people. | งั้นหมายความว่าสายตาฉันมีปัญหาอย่างหนักเลย เพราะว่าเมื่อคืนนี้ ฉันขับรถผ่านโรงแรมไอวี่ และที่นั่นฉันเห็นรถดับเพลิงและคนมากมาย Hope Springs (2003) | "Our students study so hard and nosebleed everyday, they don't have any blood to donate! | นักเรียนของเราขยันเรียนอย่างหนัก จนเลือดกำเดาไหลทุกวัน พวกเขาเลยไม่มีเลือดเหลือพอ ที่จะไปบริจาคได้แล้ว Crazy First Love (2003) | But what the public doesn't know is now there's this great race by genomic companies and biotech companies and life science companies to find the treasure in the map. | แต่สิ่งที่สาธารณชนไม่รู้ก็คือ มีการแข่งขันกันอย่างหนักในหมู่บริษัทรหัสพันธุกรรม บริษัทไบโอเทคและบริษัทวิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิต The Corporation (2003) | This year was a very tough decision. | ปีนี้ กรรมการต้องทำงานอย่างหนักมาก The Girl Next Door (2004) | Now, it's your turn. Oh, I absolutely insist! | ตอนนี้ตาคุณแล้วค่ะ โอฉันขอยืนยันอย่างหนักแน่น Episode #1.5 (1995) | I work hard for the money So you better treat me right | ผมทำงานอย่างหนักเพื่อเงินเพื่อให้คุณดีกว่ารักษาฉันขวา The Birdcage (1996) | He took a good look at what he had accomplished, got rip-roaring drunk for 10 days, thought seriously about setting it on fire, then finally put the house up for sale. | เขาถ่ายรูปคู่กับสิ่งที่เขาประสบความสำเร็จ ดื่มเหล้าฉลองกันเป็นเวลา 10 วัน ไตร่ตรองอย่างหนัก เรื่องที่จะขายมัน The Notebook (2004) | About a year ago, Lucy was in a terrible car accident. | ประมาณปีที่แล้วลูซี่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างหนัก 50 First Dates (2004) | Her father broke some ribs, but Lucy suffered a serious head injury. | พ่อของเธอกระดูกซี่โครงหัก แต่สมองลูซี่ถูกกระทบกระเทือนอย่างหนัก 50 First Dates (2004) | It's just Dad and I work too hard to protect Lucy to let some idiot ruin it. | ชั้นกับพ่อทำหน้าที่ปกป้องลูซี่อย่างหนักมาตลอด และจะไม่ยอมให้ใครเข้ามาและทำลายมันหมดหรอก 50 First Dates (2004) | And he's working me to the bone as his cleaning lady. | แล้วก็ยังใช้ฉันทำความสะอาดอย่างหนักอีกต่างหาก Howl's Moving Castle (2004) | And a really bad cold. | และฉันก็เป็นหวัดอย่างหนัก A Cinderella Story (2004) | Yeah, a guy got beat up pretty bad last night out there. | มีคนโดนทำร้ายอย่างหนัก เมื่อคืนข้างนอกนั่น The Woodsman (2004) | 'Conklin had these guys wound so tight they were bound to snap. | คอนกลินฝึกคนพวกนี้อย่างหนัก จนพวกนี้ฟิวส์ขาด The Bourne Supremacy (2004) | You can do this dance if you want to, but I'm willing to bet when the coroner's report comes back tomorrow it's going to say that Detective Lewis was coked out of his head. | คุณจะทำแบบนี้ก็ได้ แต่ผมพนันได้เลยว่า เมื่อผลการชันสูตร ออกมาพรุ่งนี้ จะต้องเขียนว่านักสืบ ลิวอิส เมายาอย่างหนัก Crash (2004) | Your tax dollars hard at work. | ดอลลาร์ภาษีของคุณทำงานอย่างหนัก Cubeº: Cube Zero (2004) | I see you've been working hard, but can you finish at this pace? | ครูเห็นพวกเธอทำงานกันอย่างหนัก แต่จะเสร็จทันหรอ ช้าออกอย่างนี้ My Little Bride (2004) | Take a few days off and you'll study harder when you come back | ไป 2-3 วัน แล้วเราจะกลับมาเรียนกันอย่างหนัก 100 Days with Mr. Arrogant (2004) | I trained myself to death every day | ผมฝึกฝนอย่างหนักทุกวัน Be with You (2004) | We've seen beating deaths in here as bad as you can imagine. | เราต่อสู้กับความตาย อย่างหนัก ตามที่คุณเข้าใจ Pilot (2004) | But if we get hit hard, you're gonna need someone who can operate. | แต่ถ้าเราถูกโจมตีอย่างหนัก เราต้องการคนที่จะคุมสถานการณ์ได้ด้วย The Great Raid (2005) | We worked hard to raise a fine unit. | - ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก เราฝึกคนเหล่านี้มาอย่างหนัก.. The Great Raid (2005) | All because Mother's cells are working hard... | เซลของท่านแม่ต้องทำงานอย่างหนัก... Final Fantasy VII: Advent Children (2005) |
| อย่างหนัก | [yāng nak] (adv) EN: harshly ; severely FR: grièvement ; gravement |
| bone | (vi) เรียนอย่างหนัก, See also: มุมานะ, คร่ำเคร่ง | bear down on | (phrv) ลงโทษอย่างรุนแรง, See also: ลงโทษอย่างหนัก | bear down upon | (phrv) ลงโทษอย่างรุนแรง, See also: ลงโทษอย่างหนัก | bone up on | (phrv) ศึกษาอย่างหนัก, Syn. mug up, swot up | carousal | (n) การดื่มเหล้ากันอย่างหนัก, Syn. carouse | carouse | (n) การดื่มเหล้ากันอย่างหนัก, Syn. carousal | cough one's head off | (idm) ไอต่อเนื่องอย่างหนัก, See also: ไอรุนแรงและต่อเนื่อง | cram up | (phrv) ท่องหนังสืออย่างหนัก (เพื่อสอบ) | drive a hard bargain | (idm) พยายามต่อรองอย่างมากหรืออย่างหนัก | fester | (vi) ้เป็นหนอง, See also: ติดเชื้ออย่างหนัก, Syn. ooze, putresce | firm | (adv) อย่างมั่นคง, See also: อย่างเด็ดขาด, อย่างหนักแน่น, Syn. firmly | firmly | (adv) อย่างหนักแน่น, See also: อย่างมั่นคง, อย่างเหนียวแน่น | forcefully | (adv) อย่างหนักแน่น, See also: อย่างเข้มแข็ง, อย่างแข็งขัน | go to work on | (idm) พยายามอย่างหนัก, See also: ทำงานหนัก | grind away at | (phrv) ทำอย่างหนัก (เช่น เรียน, ทำงาน) | heavily | (adv) อย่างหนัก, Syn. weightily | labour at | (phrv) พยายามอย่างมากเกี่ยวกับ, See also: ใช้ความพยายามมาก, ทำ บางสิ่ง อย่างหนัก, Syn. toll at, work at, work on | labour over | (phrv) พยายามอย่างมากเกี่ยวกับ, See also: ใช้ความพยายามมาก, ทำ บางสิ่ง อย่างหนัก, Syn. toll at, work at, work on | lash at | (phrv) โจมตีอย่างหนัก (ด้วยกำลังหรือคำพูด), See also: พูดให้รู้สึกเจ็บปวดใจ, ตอบโต้อย่างหนัก, Syn. lay into | lash out | (phrv) เตะอย่างแรง, See also: กระแทกอย่างแรง, ตีอย่างเเรง, หวดอย่างหนัก, Syn. hit out, kick out, lam out, strike out | labor camp | (n) คุกที่นักโทษต้องทำงานอย่างหนัก | misuse | (vt) ใช้อย่างหนัก, See also: กระทำทารุณ, Syn. maltreat, mistreat, Ant. respect, protect | mortally | (adv) ขนาดถึงตาย, See also: ขนาดหนัก, อย่างหนัก, อย่างรุนแรง, Syn. very, deeply, seriously | pound | (vi) เต้นอย่างหนัก, See also: กระเพื่อมมาก, สั่นมาก | pelt down | (phrv) ตกอย่างหนัก, See also: เทลงมา ฝน, Syn. pelt with, pour down | put one's mind to | (idm) ทำงานหนัก, See also: ใช้สมองอย่างหนักกับ, Syn. set to | put one's shoulder to the wheel | (idm) พยายามอย่างหนัก (กับบางสิ่ง), Syn. set to | quest for | (phrv) ควานหาอย่างหนัก, See also: พยายามหาอย่างหนัก, Syn. look for, search for | ride down | (phrv) ใช้งานอย่างหนัก / นาน (ม้า) | beer monster | (sl) คนที่ดื่มเหล้าอย่างหนัก (มักหมายถึงคนที่ยังหนุ่ม), See also: ปีศาจสุรา | brahms and Liszt | (sl) ที่ดื่มเหล้าอย่างหนัก, See also: ที่ดื่มอย่างหัวราน้ำ | strive | (vi) พยายามอย่างหนัก, See also: มานะ, พากเพียร, บากบั่น, อุตสาหะ, Syn. attempt, struggle, try hard | striver | (n) คนที่ดิ้นรนต่อสู้, See also: คนที่พยายามอย่างหนัก, Syn. contender, fighter, struggler | swot | (n) ความพยายามอย่างหนัก, Syn. grind, attempt | seek out | (phrv) ค้นหาอย่างหนัก, Syn. search out | slog at | (phrv) ทำงานหนัก, See also: ต่อสู้อย่างหนักและต่อเนื่อง, Syn. peg away, plod away, plug away at | strain at | (phrv) ดึงเต็มที่, See also: ดึงอย่างหนัก, Syn. strain on | strain on | (phrv) ดึงเต็มที่, See also: ดึงอย่างหนัก, Syn. strain at | study for | (phrv) ศึกษาอย่างหนัก, See also: เรียน, เล่าเรียน | swot for | (phrv) เรียนหนักเพื่อ, See also: ศึกษาอย่างหนักเพื่อ, Syn. cram for | task | (vt) ใช้ความพยายามในการทำงานอย่างหนัก, See also: ทำให้ทำงานหนักเกินไป, ใช้สมองหนัก, ทำให้เหน็ดเหนื่อย | toper | (n) คนที่ดื่มเหล้าอย่างหนัก | throw the book at | (phrv) ทำโทษหรือลงโทษอย่างหนัก |
| bone | (โบน) { boned, boning, bones } n. กระดูก vt. เอากระดูกออก vi. มุ่งเรียนอย่างหนัก -Phr. (bone of connection เรื่องที่ทะเลาะกัน) | burden | (เบอร์'เดิน) n. ภาระ, น้ำหนักที่แบก vt. บรรจุอย่างหนัก, ทำให้ยุ่งยาก | cloudburst | n. ฝนที่ตกอย่างหนักมากและกะทันหันปานฟ้ารั่ว, พายุฝน | heavily | (เฮฟ'วิลี) adv. อย่างหนัก, รุนแรง, มากมาย, งุ่มง่าม | plod | (พลอด) v., n. (การ) เดินอย่างหนักอึ้งหรือลำบาก, ค่อย ๆ เดิน, เพียรพยายาม, See also: plodder n. plodness n, Syn. drudge | rain | (เรน) n. ฝน, น้ำฝน vi. ฝนตก, ตกลงมาคล้ายฝน. vt. ส่งลงมา, ทำให้ตกลงมาเป็นจำนวนมาก, ให้อย่างมากมาย, เสนอให้อย่างมากมาย, -Phr. (rain cats and dogs ฝนตกลงมาอย่างหนักหรือไม่ขาดสาย), See also: rains n. ฤดูฝน, หน้าฝน, การหลั่งไหลลงมาอย่างแรง | soak | (โซค) vi., n. (การ) จุ่ม, ทำให้โชก, ทำให้ชุ่ม, หมัก, แช่. vt. จุ่ม, ทำให้โชก, ทำให้ชุ่ม, หมัก, แช่, ทำให้เมา, จำนำ, ลงโทษอย่างหนัก, เก็บภาษีมากเกินไป, เก็บเงินมากเกินไป. soaking adj. เปียกชุ่ม, Syn. seep, steep |
| grievously | (adv) อย่างเศร้าโศก, อย่างสาหัส, อย่างมหันต์, อย่างร้ายแรง, อย่างหนัก | hard | (adv) อย่างแข็งขัน, อย่างเต็มกำลัง, อย่างเต็มที่, อย่างหนัก, อย่างยากลำบาก | steadily | (adv) อย่างแน่วแน่, อย่างมั่นคง, อย่างหนักแน่น, อย่างเด็ดเดี่ยว |
| Hagelschlag | (n) |der| การตกอย่างหนักของลูกเห็บ ซึ่งมักก่อความเสียหายแก่เกษตรกร | sehr | (adv) |ใช้เติมหน้าำคำคุณศัพท์ หรือ อยู่โดดๆได้| อย่างยิ่ง อย่างมาก เช่น Sie hat sehr geweint. เธอร้องให้มาอย่างหนัก, Er ist sehr reich. เขารวยมาก |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |