ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: วิพากษ์, -วิพากษ์- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ วิพากษ์ | (v) criticize, See also: judge, Example: พวกเขามักจะวิพากษ์รัฐบาลชุดนี้ ในบางเนื้อหาอย่างค่อนข้างรุนแรง, Thai Definition: พิจารณาตัดสิน, Notes: (สันสกฤต) | วิพากษ์ | (v) criticize, See also: judge, Example: พวกเขามักจะวิพากษ์รัฐบาลชุดนี้ ในบางเนื้อหาอย่างค่อนข้างรุนแรง, Thai Definition: พิจารณาตัดสิน, Notes: (สันสกฤต) | การวิพากษ์ | (n) criticism, See also: review, comment, Syn. การวิพากษ์วิจารณ์, การวิจารณ์, การวิเคราะห์วิจารณ์, Example: หนังสือได้เสนอแง่มุมของการวิพากษ์สังคมตะวันตกโดยคนตะวันตกเอง, Thai Definition: การพิจารณาตัดสิน | วิพากษ์วิจารณ์ | (v) criticize, See also: censure, review, comment, judge, Syn. วิจารณ์, ติชม, Example: คนส่วนใหญ่วิพากษ์วิจารณ์วิธีการสลายม็อบของตำรวจว่ากระทำรุนแรงกว่าเหตุ, Thai Definition: ให้คำตัดสินว่ามีข้อดีอย่างไร หรือมีข้อขาดตกบกพร่องอย่างไรบ้าง |
|
| วิพากษ์ | ก. พิจารณาตัดสิน. | วิพากษ์วิจารณ์ | ก. วิจารณ์, ติชม, เช่น คนดูหนังวิพากษ์วิจารณ์ว่า หนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องช้าทำให้คนดูเบื่อ. | วิจาร, วิจารณ-, วิจารณ์ | (วิจาน, วิจาระนะ-, วิจาน) ก. ให้คำตัดสินสิ่งที่เป็นศิลปกรรมหรือวรรณกรรมเป็นต้น โดยผู้มีความรู้ควรเชื่อถือได้ ว่ามีค่าความงามความไพเราะดีอย่างไร หรือมีข้อขาดตกบกพร่องอย่างไรบ้าง เช่น เขาวิจารณ์ว่า หนังสือเล่มนี้แสดงปัญหาสังคมในปัจจุบันได้ดีมากสมควรได้รับรางวัล, ติชม, มักใช้เต็มคำว่า วิพากษ์วิจารณ์ เช่น คนดูหนังวิพากษ์วิจารณ์ว่า หนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องช้าทำให้คนดูเบื่อ. |
| Critical discourse analysis | การวิเคราะห์วาทกรรมเชิงวิพากษ์ [TU Subject Heading] | Critical theory | ทฤษฎีวิพากษ์ [TU Subject Heading] | Critical thinking | การคิดเชิงวิพากษ์ [TU Subject Heading] | Agreement | การที่รัฐที่ผู้จะไปประจำตำแหน่งในรัฐนั้นได้ตกลง เห็นชอบกับบุคคลที่รัฐผู้ส่งเสนอชื่อให้เป็นผู้แทนทางการทูต อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้ บัญญัติไว้ว่า1. รัฐผู้ส่งไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นที่แน่นอนว่า รัฐผู้รับได้ให้ความเห็นชอบแล้ว สำหรับบุคคลที่รัฐผู้ส่งเสนอจะแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไปยังรัฐนั้น2. รัฐผู้รับไม่จำเป็นต้องให้เหตุผลแก่รัฐผู้ส่งในการปฏิเสธไม่ให้ความเห็นชอบ เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตซึ่งรอการถวายสารตราตั้งจะต้องเริ่มดำเนิน การเพื่อเดินทางไปยังรัฐผู้รับในเรื่องนี้ มีตัวอย่างไม่น้อยที่รัฐผู้รับปฏิเสธไม่ให้ความเห็นชอบด้วยเหตุผลบางอย่าง นับตั้งแต่อ้างว่า การเสนอชื่อผู้รับการแต่งตั้งได้กระทำกะทันหันเกินไป และมิได้แจ้งข้อเท็จจริงมาก่อน หรือว่าผู้ที่ได้รับการเสนอให้เป็นผู้แทนทางการทูตผู้นั้นเคยกล่าวตำหนิ วิพากษ์รัฐผู้รับ หรือผู้รับการเสนอชื่อมมีภรรยาเป็นชาวยิว หรือผู้รับการเสนอชื่อถือศาสนาโรมันคาทอลิก หรือผู้นั้นเคยปฏิบัติไม่ดีต่อชนชาติของรัฐผู้รับ หรือผู้นั้นในขณะนั้นกำลังอยู่ในระหว่างถูกฟ้องร้อง ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกง เป็นต้นกล่าวโดยย่อ agr?ment คือ การให้ความเห็นชอบของรัฐผู้รับ แก่บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อจากรัฐผู้ส่งให้เป็นผู้แทนทางการทูตนั่นเอง [การทูต] | Niccolo Machiavelli (1469-1527) | คือรัฐบุรุษและปรัชญาเมธีทางการเมืองของสาธารณรัฐ ฟลอเรนส์ (Florence) ระหว่างรับราชการ ท่านดำรงตำแหน่งฝ่ายธุรการหลายตำแหน่งซึ่งไม่สู้มีความสำคัญเท่าใด แต่สิ่งที่ท่านสนใจมากที่สุดได้แก่ศิลปะของการเมือง หนังสือสำคัญ ๆ ที่ท่านประพันธ์ขึ้นไว้คือ The Prince เล่มหนึ่ง อีกเล่มหนึ่งชื่อ The Art of War และอีกเล่มหนึ่งคือ Discourses on the First Ten Books of Livyมีนักเขียนหลายคนวิพากษ์ Machiavelli ที่แสดงความเห็นสนับสนุนว่า รัฐบาลใดก็ตมที่ต้องการรักษาอำนาจการปกครองตนให้เข้มแข็งไว้ ย่อมจะใช้วิถีทางใด ๆ ก็ได้ ถึงแม้หนทางเช่นนั้นจะผิดกฎหมายหรือไร้ศีลธรรมก็ตาม และก็มีนักเขียนอีกหลายคนสนับสนุนท่าน โดยชี้ให้เห็นว่า ท่านเป็นแต่เพียงตีแผ่ให้เห็นพฤติกรรมที่แท้จริงของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในยุคสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่มากกว่าอย่างอื่น อาทิเช่น ในหนังสือ The Prince ของท่านตอนหนึ่งอ้างว่า การต่อสู้นั้นมีอยู่สองวิธี วิธีแรกเป็นการต่อสู้โดยวิถีทางกฎหมาย อีกวิธีหนึ่งคือการต่อสู้โดยใช้กำลัง (Force) วิธีแรกนั้นเป็นวิธีที่มนุษย์พึงใช้ ส่วนวิธีที่สองเป็นวิธีเยี่ยงสัตว์ป่า แต่การใช้วิธีแรกมักจะไม่ค่อยได้ผลเสมอไป เพราะไม่เพียงพอ ก็ย่อมจะหันเข้าใช้วิธีที่สองได้ ฉะนั้น ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้น ซึ่ง Machiavelli เรียกว่า Prince จึงจำเป็นต้องรู้ดีว่าจะใช้ทั้งวิธีที่มนุษย์จะพึงใช้ และวิธีเยี่ยงสัตว์ป่าอย่างไร ด้วยเหตุนี้ ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้นไม่จำเป็นต้องมีสัจธรรม หากการกระทำนั้น ๆ จะทำความเสียหายแก่ผลประโยชน์ของประเทศ ท่านเห็นว่า หากมนุษย์ทุกคนเป็นคนดี กฎเช่นนี้ก็เป็นกฎที่ไม่ถูกต้อง แต่โดยที่มนุษย์ไม่ใช่คนดีทั้งหมด ในเมื่อเขาไม่ยอมให้ความศรัทธาความไว้วางใจในตัวท่าน ก็ไม่มีอะไรที่จะมาห้ามมิให้ท่านเลิกศรัทธากับเขาเหล่านั้นได้ [การทูต] | Persona non grata | เป็นศัพท์ที่ใช้กับนักการทูตหรือผู้แทนทางการทูต ที่ประจำอยู่ในประเทศซึ่งรัฐบาลของประเทศนั้นไม่ปรารถนาให้อยู่ต่อไปอีกแล้ว หลังจากที่ได้ไปประจำทำงานในตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้น หรือก่อนหน้าที่นักการทูตผู้นั้นจะเดินทางไปถึงดินแดนของประเทศผู้รับ (Receiving State) นักการทูตที่ถูกประกาศเป็น persona non grata หรือ บุคคลที่ไม่พึงปรารถนานั้น เป็นเพราะสาเหตุดังต่อไปนี้ คือ กล่าวคำดูหมิ่นรัฐบาลของประเทศที่ตนไปประจำอยู่ ละเมิดกฎหมายของบ้านเมืองนั้น แทรกแซงในการเมืองภายในของเขา เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในประเทศของเขา ใช้ถ้อยคำก้าวร้าวต่อประเทศนั้น วิพากษ์ประมุขแห่งประเทศของเขากระทำการอันเป็นที่เสียหายต่อประโยชน์หรือต่อ ความมั่นคงของประเทศ และกระทำการอื่น ๆ ในทำนองนั้นตามปกติรัฐบาลของประเทศเจ้าภาพที่เป็นฝ่ายเสียหายจะขอร้องให้ รัฐบาลผู้ส่ง (Sending government) เรียกตัวนักการทูตผู้กระทำผิดกลับประเทศ ซึ่งตามปกติรัฐบาลผู้ส่งมักจะปฏิบัติตาม รัฐบาลของประเทศผู้เสียหายจะแจ้งให้นักการทูตผู้นั้นทราบว่า รัฐบาลจะไม่ทำการติดต่อเกี่ยวข้องเป็นทางการกับเขาอีกต่อไป หรืออาจจะบอกให้นักการทูตผู้นั้นออกไปจากประเทศโดยไม่เกรงใจแต่อย่างใดก็ได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในข้อ 9 ดังต่อไปนี้ ?1. รัฐผู้รับอาจบอกกล่าวแก่รัฐผู้ส่งในเวลาใดก็ได้ และโดยมิต้องชี้แจงถึงการวินิจฉัยของตนว่า หัวหน้าคณะผู้แทนหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ไม่พึงโปรด หรือว่าบุคคลอื่นใดในคณะเจ้าหน้าที่ของคณะผู้แทนเป็นที่ไม่พึงยอมรับได้ ในกรณีใดเช่นว่านี้ ให้รัฐผู้ส่งเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นกลับ หรือเลิกการหน้าที่ของผู้นั้นกับคณะผู้แทนเสียก็ได้ตามที่เหมาะสมบุคคลอาจจะ ถูกประกาศให้เป็นผู้ไม่พึงโปรด หรือไม่พึงยอกรับได้ก่อนที่จะมาถึงอาณาเขตของรัฐผู้รับก็ได้ 2. ถ้ารัฐผู้ส่งปฏิเสธ หรือไม่นำพาภายในระยะเวลาอันสมควร ที่จะปฏิบัติตามข้อผูกพันของคนภายใต้วรรค 1 ของข้อนี้ รัฐผู้รับสามารถปฏิเสธที่จะยอมรับนับถือบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นว่าเป็นบุคคล ในคณะผู้แทนก็ได้? [การทูต] |
| การวิพากษ์วิจารณ์ | [kān wiphākwijān] (n) EN: criticism | วิพากษ์ | [wiphāk] (v) EN: criticize ; judge ; blame FR: critiquer ; décrier | วิพากษ์วิจารณ์ | [wiphākwijān] (v) EN: criticize ; censure ; review ; comment ; judge FR: analyser |
| nag | (vi, n) เหน็บแนม, ชอบวิพากษ์วิจารณ์สิ่งเล็กๆน้อยๆในแง่ลบ, คนที่ชอบป่วนรบกวนคนอื่น |
| animadversion | (n) การวิพากษ์วิจารณ์, Syn. blame, comment | castigate | (vt) วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง, Syn. chasten, chastise, objurgate | cry down | (phrv) วิพากษ์วิจารณ์, Syn. do down, run down | cut up | (phrv) วิพากษ์วิจารณ์ (คำไม่เป็นทางการ) | descant on | (phrv) พูดยืดยาวเกี่ยวกับ, See also: วิพากษ์วิจารณ์อย่างยืดยาว | descant upon | (phrv) พูดยืดยาวเกี่ยวกับ, See also: วิพากษ์วิจารณ์อย่างยืดยาว | find fault with | (idm) วิพากษ์วิจารณ์ | decry | (vt) วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง (คำเป็นทางการ), See also: ประณาม, เหยียดหยาม, Syn. denounce, depreciate | diatribe | (n) ข้อเขียนที่โจมตีคนหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง, See also: คำพูดที่โจมตีคนหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง, คำวิพากษ์วิจารณ์, Syn. critism, denunciation, Ant. commendation, laudation | disparage | (vt) ดูถูก, See also: ดูหมิ่น, วิพากษ์วิจารณ์, Syn. belittle, minimize, diminish, Ant. esteem | disparagement | (n) การดูถูกดูหมิ่น, See also: การวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ, Syn. depreciation, detraction | flay | (vt) ตำหนิอย่างรุนแรง, See also: วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง, Syn. castigate, excoriate, upbraid | fulminate | (vi) ด่าว่าหรือวิพากษ์รุนแรง, See also: พูดให้เจ็บแสบ, ร้องด่า, Syn. denounce, rail | fulminate | (vt) ด่าว่าหรือวิพากษ์รุนแรง, See also: พูดให้เจ็บแสบ, ร้องด่า, Syn. denounce, rail | on someone's back | (idm) โดนวิพากษ์วิจารณ์ตลอด | pick holes in | (idm) ว่ากล่าวอย่งรุนแรง, See also: วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง | under fire | (idm) กำลังโดนโจมตี, See also: กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ | maul | (vi) วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง, See also: ต่อว่า, วิจารณ์อย่างเสียหาย | obloquy | (n) คำวิพากษ์อย่างรุนแรง, See also: คำประณามอย่างรุนแรง, Syn. aspersion, censure, slander, Ant. commendation, praise | pan | (vt) วิพากษ์วิจารณ์, See also: วิจารณ์อย่างรุนแรง | remark | (n) การให้ข้อคิดเห็น, See also: คำติชม, การวิพากษ์วิจารณ์ | bad-mouth | (sl) วิพากษ์วิจารณ์ | bag on someone | (sl) วิพากษ์วิจารณ์ | bum-rap | (sl) วิพากษ์วิจารณ์ | nit-picker | (sl) คนช่างวิพากษ์วิจารณ์, See also: คนช่างติ | slam | (vt) วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง | snipe | (vt) ใส่ร้าย, See also: นินทา, วิพากษ์วิจารณ์, Syn. abuse, assail, vituperate | tilt | (vi) วิพากษ์วิจารณ์ | tilt | (n) การวิพากษ์วิจารณ์ | ultracritical | (adj) ช่างวิพากษ์วิจารณ์เกินเหตุ, See also: ช่างติช่างว่าเกินไป, Syn. hypercritical, overcritical, Ant. uncritical | whale | (vt) ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง |
| censorious | (เซนซอ'เรียส) adj. วิพากษ์วิารณ์อย่างรุนแรง, จับผิด, หาเรื่อง, See also: censoriousness n., Syn. critical |
| | auf Kritik stoßen | เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เช่น Im Jahr 2002 ist die Währungsumstellung zu Euro in Europa auf Kritik gestoßen. | Kommentar | (n) |der, pl. Kommentare| คำวิจารณ์, คำวิพากษ์วิจารณ์ | kommentieren | (vt) |kommentierte, hat kommentiert| วิพากษ์วิจารณ์, ออกความคิดเห็น เช่น Das Paar wollte den Bericht nicht kommentieren. |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |