473 ผลลัพธ์ สำหรับ *ขอบ*
หรือค้นหา: ขอบ, -ขอบ-

Longdo CN-CZ - TH
感謝[กำเสี่ย] (phrase) ขอบคุณ

Longdo Unapproved MED - TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Terms of Reference(n, phrase) ขอบเขตของงาน, รายละเอียด เงื่อนไขหรือข้อกำหนด, ข้อกำหนดการศึกษา

Longdo Unapproved TH - TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
thankful(n, adj, adv) ขอบคุณ
อภิเชษฐ์[อะ-พิ-เชด] (n, vt) ความซาบซึ้ง, รู้สึกซาบซึ้ง, รู้สึกขอบคุณเป้นอย่างยิ่ง, See also: S. appreciate

Longdo Unapproved MM - TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ေက်းဇူးတန္ပါတယ္။[เจซูติน บาแด] ขอบคุณ

NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
ขอบ(n) edge, See also: rim, brim, side, border, fringe, brink, periphery, perimeter, Syn. สัน, ริม, กรอบ, Example: เด็กเล็กๆ มักจะเดินชนขอบโต๊ะ
ขอบตา(n) eye socket, See also: rim of the eyes, edge of the eyelid, periphery of the eyes, Example: คุณแม่ไปหาหมอเพราะที่ขอบตาของเธอมีตุ่มใสๆ ขึ้นหลายเม็ด
ขอบใจ(v) thank, See also: be thankful for, be grateful to, give thanks, Syn. ขอบคุณ, Example: ฉันขอบใจเธอมากที่เธอดีต่อฉันเสมอต้นเสมอปลาย, Thai Definition: กล่าวแสดงความรู้สึกพอใจในความดีที่ผู้อื่นได้มีต่อตน (เป็นคำที่ผู้ใหญ่ใช้แก่ผู้น้อย)
ขอบไร(n) circumspect, See also: discretion, prudence, completeness, complement, carefulness, Syn. ความรอบคอบ, ความทั่วถึง
ตกขอบ(adj) extreme, See also: ultra-, Syn. ที่สุด, เต็มที่, แรงกล้า, สุดโต่ง, สุดขอบ, Example: เขาเป็นพวกขวาตกขอบ
ขอบคุณ(v) thank, See also: be thankful for, be grateful to, give thanks for, Syn. ขอบพระคุณ, Example: ผมรู้สึกขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือของผู้ชายคนนั้นอยู่เสมอ, Thai Definition: กล่าวแสดงความรู้สึกบุญคุณ (เป็นคำที่ใช้แก่บุคคลที่เสมอกัน หรือผู้น้อยใช้แก่ผู้ใหญ่).
ขอบฟ้า(n) horizon, See also: skyline, Syn. เส้นขอบฟ้า, Example: เราจะเห็นรุ้งกินน้ำที่ขอบฟ้าเวลาฝนตกแดดออก, Thai Definition: เส้นแบ่งเขตระหว่างพื้นโลกกับท้องฟ้า
ขอบเขต(n) boundary, See also: range, extent, bound, border, precinct, Syn. อาณาเขต, ขอบข่าย, เขต, บริเวณ, Example: การจัดการเรียนการสอนเฉพาะในขอบเขตห้องเรียนย่อมไม่ก่อให้เกิดผลต่อการพัฒนาการเรียนการสอน
ขอบเขต(n) limit, See also: confine, scope, margin, Syn. ข้อจำกัด, ข้อกำหนด, เงื่อนไข, Example: การเล่นกีฬาต้องอยู่ในขอบเขตที่กำหนดไว้
(ประธานคณะกรรมการมีกำหนดจะประกาศรายชื่อนักการเมืองที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยเรื่องการทุจริต)
ชายขอบ(n) margin, See also: rim, edge, fringe, Syn. ขอบ, ริม, Example: น้ำท่าเป็นน้ำฝนที่ไหลจากชายขอบของพื้นที่ป่าพรุ
ขอบกั้น(n) edge, See also: rim, brim, side, border, fringe, brink, perimeter, periphery, Example: ร่องดินสายนี้มีตลิ่งสูงชันเป็นขอบกั้นอยู่สองด้าน
ขอบข่าย(n) framework, See also: scope, range, extend, sphere, domain, limit, Syn. ขอบเขต, Example: การตรวจสอบเค้าโครงเรื่องของนักเรียนเพื่อจะช่วยให้แน่ใจว่านักเรียนได้กำหนดขอบข่ายและลำดับขั้นตอนของเนื้อหาได้ครบถ้วนแล้ว, Thai Definition: ขอบเขตงานหรือความรู้ที่อยู่ในความรับผิดชอบ
คำขอบคุณ(n) thank, See also: gratefulness, recognition, Example: พิธีกรกล่าวคำขอบคุณผู้ชมที่มาร่วมงานในวันนี้, Thai Definition: คำกล่าวแสดงความรู้สึกบุญคุณ
ขอบพระคุณ(v) thank, See also: be thankful for, be grateful to, give thanks, Syn. ขอบคุณ, Example: เจ้าบ่าวและเจ้าสาวขอบพระคุณแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานมงคลสมรส, Thai Definition: กล่าวแสดงความรู้สึกบุญคุณ (เป็นคำที่ใช้แก่บุคคลที่เสมอกัน หรือผู้น้อยใช้แก่ผู้ใหญ่).
นอกขอบเขต(n) outside the scope of, Ant. ในขอบเขต, ภายในขอบเขต, Example: การกระทำของคุณตอนนี้อยู่นอกขอบเขตแล้วนะ, Thai Definition: ออกนอกบริเวณที่กำหนดไว้
นาขอบเหล็ก(n) unexpanded field, Syn. นาเชิงทรง, Example: ที่ดินตรงนี้เป็นนาขอบเหล็ก ที่หมดหวังจะได้ผลผลิตแล้ว, Count Unit: แปลง, Thai Definition: นาที่ไม่มีวันจะบุกเบิกได้อีก
เกินขอบเขต(adv) over the limit, Syn. เลยขอบเขต, Ant. ในขอบเขต, Example: รถคันนั้นขับเร็วเกินขอบเขตที่กฎหมายกำหนด, Thai Definition: ที่เลยจากขอบเขตที่กำหนดไว้
เกินขอบเขต(v) be over the limit, Syn. เลยขอบเขต, Ant. ในขอบเขต, Example: ท่านจงมีความหยิ่งในชาติกำเนิดของท่าน แต่อย่าหยิ่งจนเกินขอบเขต, Thai Definition: เลยจากขอบเขตที่กำหนดไว้
อินังขังขอบ(v) care, See also: pay attention to, be concerned with, Syn. อินัง, เอาใจใส่, ดูแล, เหลียวแล, สนใจ, Example: เพราะไม่จำเป็นต้องรีบร้อนออกจากบ้านแต่เช้าเหมือนคนอื่น ดังนั้นเขาจึงไม่อินังขังขอบเท่าไหร่นักในเรื่องตื่นนอน
ทำเกินขอบเขต(v) overstep, Example: ชาวบ้านรู้สึกว่าผู้ใหญ่บ้านทำเกินขอบเขตกว่าอำนาจที่ตนมี

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ขอบิณฑบาตก. ขอให้ละเว้นการกระทำ.
ขอบน. ริมรอบ เช่น ขอบโต๊ะ, ริมที่ยกให้สูงขึ้นโดยรอบ เช่น ขอบสระ ขอบถนน.
ขอบกระด้งน. ชื่อเรียกกระเพาะอาหารกระเพาะแรกของสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่นวัวควาย มีขนาดใหญ่ที่สุดในจำนวน ๔ กระเพาะ เยื่อบุภายในมีสันคล้ายขอบกระด้ง.
ขอบทางน. แนวริมของทางเดินรถ.
ขอบฟ้าน. แนวที่เห็นเสมือนฟ้าจดกับแผ่นดินหรือทะเล, โดยปริยายหมายถึงไกลมากจนประมาณระยะทางไม่ได้.
ขอบไรน. ใช้โดยปริยายว่า ความรอบคอบ, ความทั่วถึง.
ขอบก. ทดแทน, ตอบ, รับ, เช่น ขอบแต่ขอมสักตั้ง (ตะเลงพ่าย), ภายในสองนางขอบ, ธขอบคำความมนตรี (ลอ).
ขอบอกขอบใจก. ขอบใจมาก เช่น เขามาช่วยงานหลายงานแล้ว ต้องไปขอบอกขอบใจเสียหน่อย.
ขอบข่ายน. ขอบเขตงานหรือความรู้ที่อยู่ในความรับผิดชอบ.
ขอบเขตน. อาณาเขต, ขอบข่าย, ข้อจำกัด.
ขอบคุณ, ขอบพระคุณคำกล่าวแสดงความรู้สึกบุญคุณ (เป็นคำที่ใช้แก่บุคคลที่เสมอกัน หรือผู้น้อยใช้แก่ผู้ใหญ่).
ขอบใจคำกล่าวแสดงความรู้สึกพอใจในความดีที่ผู้อื่นได้มีต่อตน (เป็นคำที่ผู้ใหญ่ใช้แก่ผู้น้อย).
ขอบเหล็กน. นาชนิดที่ไม่มีทางจะบุกเบิกออกไปได้อีก เรียกว่า นาขอบเหล็ก, นาเชิงทรง ก็ว่า.
ตกขอบว. ที่สุดข้างใดข้างหนึ่ง เช่น ขวาตกขอบ, เต็มที่ เช่น ฮาตกขอบ.
นาขอบเหล็กน. นาชนิดที่ไม่มีทางจะบุกเบิกออกไปได้อีก, นาเชิงทรง ก็ว่า.
ไม่อินังขังขอบก. ไม่เอาใจใส่, ไม่ดูแล, ไม่นำพา.
สุดขอบฟ้าว. ไกลมากที่สุด เช่น ต่อให้หนีไปอยู่สุดขอบฟ้า ก็จะตามให้พบ, สุดหล้าฟ้าเขียว ก็ว่า.
อินัง, อินังขังขอบก. เอาใจใส่, เอาใจช่วย, ดูแล, เหลียวแล, นำพา, (มักใช้ในความปฏิเสธ) เช่น ไม่อินัง ไม่อินังขังขอบ หมายความว่า ไม่เอาใจใส่.
กง ๒ไร่ล้มลุกที่ถางป่าเป็นหย่อม ๆ ตามเนื้อที่และกั้นเป็นขอบเขตไว้.
กรวย ๒ชื่อไม้พุ่มชนิด Casearia grewiifolia Vent. ในวงศ์ Flacourtiaceae ใบคล้ายชนิดแรกแต่ปลายมน มีขนมาก ขอบใบมีจักเล็ก ๆ เชื่อกันว่าเป็นยาสูบแก้ริดสีดวงจมูก, กรวยป่า ก็เรียก.
กรอบ ๑(กฺรอบ) น. สิ่งที่ประกอบตามริมวัตถุมีรูปภาพเป็นต้น, โดยปริยายหมายความว่า ขอบเขตกำหนด เช่น ทำงานอยู่ในกรอบ.
กรอบหน้าน. เครื่องประดับขอบหน้าผากเป็นรูปกระจังเป็นต้น.
กระจัง ๑น. ชื่อลายอย่างหนึ่ง อยู่ในรูปทรงสามเหลี่ยม ใช้เป็นลวดลายสำหรับเครื่องประดับที่อยู่บนชั้นหรือตามขอบของสิ่งบางอย่าง เช่น ชั้นฐานธรรมาสน์ กระจังมีหลายแบบ เช่น กระจังตาอ้อย กระจังเจิม กระจังปฏิญาณ, เครื่องประดับที่มีลวดลายชนิดนี้ เรียกว่า ตัวกระจัง ใช้ประดับบนลับแลและอื่น ๆ.
กระจับบกน. ชื่อไม้เถาชนิดหนึ่งขึ้นในป่าตํ่าตามที่นํ้าท่วม มักขึ้นปะปนกับเถากรด ซึ่งดูผาด ๆ คล้ายคลึงกัน ใบคู่ ขอบใบตอนบนที่ใกล้หรือติดกับก้านมีต่อมข้างละต่อม ผลนัยว่าแบน ๆ รูปสามเหลี่ยม ไม้ใช้ทำฟืน.
กระจาดน. ภาชนะสาน รูปเตี้ย ๆ ปากกว้าง ก้นสอบ, โดยปริยายเรียกเครื่องสานที่ทำเป็นตาโต ๆ ขอบปากแบบพานปากกระจับ สำหรับใส่ของเครื่องกัณฑ์เทศน์มหาชาติ.
กระโฉมน. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Limnophila rugosa (Roth) Merr. ในวงศ์ Scrophulariaceae ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะ ลำต้นและกิ่งอวบน้ำ สีม่วง ใบรูปไข่ ค่อนข้างหนา ด้านล่างมีขน ขอบหยักห่าง ๆ ก้านใบแบน ๆ โคนก้านโอบกิ่งหรือลำต้น ดอกเล็ก ๆ สีม่วงแกมชมพู กลางเหลือง ออกเป็นกระจุกที่ง่ามใบหรือปลายกิ่ง ทุกส่วนของไม้นี้มีกลิ่นหอม ใช้เป็นอาหาร และใช้ทำยาได้, ผักโฉม ก็เรียก เช่น ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน (เห่เรือ).
กระชับ ๑น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Xanthium indicum K. Koenig ex Roxb. ในวงศ์ Compositae มักขึ้นเป็นวัชพืชในทุ่งนาและริมนํ้า ลำต้นและใบคาย ใบมนเว้า ขอบจัก โคนใบแหลม ดอกเล็กรวมเป็นกระจุกแน่น ผลรี ยาวประมาณ ๑ เซนติเมตร มีหนามปลายงอทั่วทั้งผล รากหอมอ่อน ๆ ใช้อบผ้าได้ บางส่วนของไม้นี้ใช้เป็นยาได้ แต่ทั้งต้นเป็นพิษต่อปศุสัตว์, ขี้ครอก หรือ ขี้อ้น ก็เรียก.
กระด้งน. ภาชนะสานรูปแบน กลม ยกขอบ สำหรับฝัดข้าวเป็นต้น, ถ้ามีตาห่าง เรียกว่า ตะแกรง.
กระแตไต่ไม้ ๒น. ชื่อเฟินอิงอาศัยชนิด Drynaria quercifolia (L.) J. Sm. ในวงศ์ Polypodiaceae ขึ้นเกาะตามต้นไม้ใหญ่ในป่าที่ชุ่มชื้น เหง้ามีขนเป็นปุยสีนํ้าตาลแก่คล้ายกระแต ใบมี ๒ ชนิด คือ ใบสร้างอับสปอร์ ยาวประมาณ ๑ เมตร เว้าเป็นแฉกลึกเกือบถึงเส้นกลางใบ และมีอับสปอร์เป็นจุด ๆ สีนํ้าตาลเข้มใต้ใบ ใบไม่สร้างอับสปอร์ ขนาดประมาณฝ่ามือ ขอบจักหยาบ ๆ สีนํ้าตาล แข็งติดอยู่กับเหง้าจนผุ ไม่หล่นเหมือนใบสร้างอับสปอร์ ทำหน้าที่กักปุ๋ย, กระปรอกว่าว ใบหูช้าง สไบนาง สะโมง หรือ หัวว่าว ก็เรียก.
กระทง ๑น. ภาชนะเย็บด้วยใบตองหรือใบไม้เป็นต้น ยกขอบสูงสำหรับใส่ของ, ถ้าเสริมขอบปากเป็นรูปกรวยเล็ก ๆ โดยรอบ เรียกว่า กระทงเจิม, ภาชนะที่ทำขึ้นสำหรับลอยนํ้าในประเพณีลอยกระทง
กระทงเจิมน. กระทงที่เสริมขอบปากเป็นรูปกรวยเล็ก ๆ โดยรอบ.
กระทงลายน. ชื่อไม้เถาเนื้อแข็งชนิด Celastrus paniculatus Willd. ในวงศ์ Celastraceae ใบรูปไข่ปลายแหลม ขอบจักถี่ ดอกเล็กขาว ๆ เหลือง ๆ ออกเป็นช่ออยู่ปลายกิ่ง ผลเท่าเมล็ดถั่วลันเตา เมื่อแก่แตกเป็น ๓ กลีบ นํ้ามันจากเมล็ดใช้ทำยา ตามไฟ หรือเคลือบกระดาษกันนํ้าซึม, กระทุงลาย หรือ มะแตก ก็เรียก.
กระทะ ๑น. ภาชนะสำหรับใช้ผัดหรือทอดเป็นต้น มีรูปร่างต่าง ๆ ตามปรกติมีก้นลึก ปากผาย ต่อมาอนุโลมเรียกภาชนะที่ใช้ในลักษณะเช่นนั้นแม้มีก้นตื้นหรือแบน ทั้งชนิดที่มีขอบและไม่มีขอบว่า กระทะ เช่น กระทะขนมเบื้อง กระทะโรตี.
กระบมน. ภาชนะชนิดหนึ่ง ทำด้วยไม้ขุด รูปวงกลมมีขอบ ด้ามสั้น สำหรับสงข้าวเหนียวที่นึ่งสุกใหม่ ๆ หรือคนข้าวเหนียวนึ่งให้ลดความร้อนก่อนนำไปใส่ในกล่องข้าว หรือใช้เป็นภาชนะรองถ้วยชามอย่างสำรับ, กระโบม ก็เรียก, อีสานและพายัพว่า กะบมหรือกะโบม.
กระบะน. ภาชนะไม้ก้นแบนมีขอบ ใช้อย่างถาด, ใช้ว่า ตระบะ ก็มี
กระเบนเรียกชายผ้าที่เป็นส่วนกว้างของผ้านุ่งที่ประกบกันแล้วม้วนเฉียงสอดไปใต้หว่างขา ดึงขึ้นแล้วเอาชายไปเหน็บที่ขอบผ้านุ่งด้านหลังระดับบั้นเอว ว่า ชายกระเบน หรือ หางกระเบน
กระโบม ๒น. ภาชนะชนิดหนึ่ง ทำด้วยไม้ขุด รูปวงกลมมีขอบ ด้ามสั้น สำหรับสงข้าวเหนียวที่นึ่งสุกใหม่ ๆ หรือคนข้าวเหนียวนึ่งให้ลดความร้อนก่อนนำไปใส่ในกล่องข้าว หรือใช้เป็นภาชนะรองถ้วยชามอย่างสำรับ, กระบม ก็เรียก, อีสานและพายัพว่า กะบมหรือกะโบม.
กระสา ๓น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Broussonetia papyrifera (L.) Vent. ในวงศ์ Moraceae ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะ ตามริมแม่นํ้าลำคลอง ใบใหญ่เท่าฝ่ามือหรือกว่านั้นบ้าง รูปไข่ปลายแหลม ขอบใบเป็นจัก ๆ หรือเว้าเป็น ๓ แฉก มีขนทั้ง ๒ ด้าน เปลือกใช้ทำกระดาษได้ เรียก กระดาษสา, พายัพเรียก สา.
กระสูบน. ชื่อปลานํ้าจืด ๒ ชนิด ในวงศ์ Cyprinidae รูปร่างคล้ายปลาตะเพียน แต่ลำตัวเพรียวกว่า ชนิดแรกคือ กระสูบขาว [ Hampala macrolepidota (van Hasselt) ] มักมีลายดำพาดขวางที่บริเวณลำตัวใต้ครีบหลัง พื้นหางสีแดง ขอบบนและล่างสีดำ ยาวได้ถึง ๗๐ เซนติเมตร อีกชนิดหนึ่งคือ กระสูบจุด ( H. disparSmith) ลำตัวมีจุดดำอยู่ตอนกลาง ปลายครีบหางมนกว่าและไม่มีแถบสีดำ ขนาดยาวได้ถึง ๒๐ เซนติเมตร, สูด หรือ สูบ ก็เรียก.
กระหมิบอาการที่กล้ามเนื้อขอบปากทวารรัดตัวเข้ามา. (แผลงมาจาก ขมิบ).
กระแห, กระแหทองน. ปลาตะเพียนขนาดกลางชนิด Barbonymus schwanefeldi (Bleeker) หรือ Puntius schwanefeldi (Bleeker) ในวงศ์ Cyprinidae ลำตัวสั้นกว้างคล้ายปลาตะเพียนขาว มักมีสีแดงอ่อนบนครีบ เฉพาะส่วนปลายของครีบหลังและขอบทั้งบนและล่างของครีบหางมีสีดำ ขนาดยาวได้ถึง ๔๐ เซนติเมตร, ตะเพียนหางแดง หรือ เลียนไฟ ก็เรียก, ปักษ์ใต้เรียก ลำปำ.
กราย ๑(กฺราย) น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Chitata ornata (Gray) วงศ์ Notopteridae หัวและลำตัวแบนข้างมาก สันหัวแอ่นลง ท้องเป็นสันคม ครีบท้องเล็กมาก ครีบก้นยาวต่อเนื่องกับครีบหางซึ่งเล็กและมีขอบมน บริเวณเหนือครีบก้นมีจุดสีดำ ๕-๑๐ จุดเรียงเป็นแถวตามยาว ขนาดยาวได้ถึง ๑ เมตร, ตองกราย หรือ หางแพน ก็เรียก.
กลด ๑(กฺลด) น. เครื่องกั้นกันแดดหรือฝน ลักษณะคล้ายร่มขนาดใหญ่ ขอบมีระบาย คันยาว ใช้ถือกั้นเจ้านาย, ราชาศัพท์ว่า พระกลด, เรียกร่มขนาดใหญ่มีด้าม สำหรับพระธุดงค์โดยเฉพาะ, เรียกดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ที่มีแสงสีรุ้งเป็นวงกลมล้อมรอบ ว่า ดวงอาทิตย์ทรงกลด ดวงจันทร์ทรงกลด.
กวดน. เหล็กเครื่องมือสำหรับกวดเลี่ยมขอบภาชนะ เรียกว่า เหล็กกวด.
กะชะน. ภาชนะสานชนิดหนึ่ง ตั้งได้คล้ายตะกร้า รูปร่างสูงตรงขึ้นไป สำหรับบรรจุเครื่องเดินทาง เช่น ผ้าและอาหาร ปากไม่มีขอบ เพื่อบีบให้ติดกันแล้วร้อยเชือกแขวนไปบนหลังสัตว์บรรทุก เป็นต้น
กะบมน. ภาชนะชนิดหนึ่ง ทำด้วยไม้ขุดรูปวงกลมมีขอบ ด้ามสั้น สำหรับสงข้าวเหนียวที่นึ่งสุกใหม่ ๆ หรือคนข้าวเหนียวนึ่งให้ลดความร้อนก่อนนำไปใส่ในกล่องข้าว หรือใช้เป็นภาชนะรองถ้วยชามอย่างสำรับ, กะโบม ก็เรียก. (ดู กระบม).
กะโบมน. ภาชนะชนิดหนึ่ง ทำด้วยไม้ขุดรูปวงกลมมีขอบ ด้ามสั้น สำหรับสงข้าวเหนียวที่นึ่งสุกใหม่ ๆ หรือคนข้าวเหนียวนึ่งให้ลดความร้อนก่อนนำไปใส่ในกล่องข้าว หรือใช้เป็นภาชนะรองถ้วยชามอย่างสำรับ, กะบม ก็เรียก. (ดู กระโบม).
กะพ้อ ๒น. ชื่อปาล์มขนาดย่อมในสกุล Licuala วงศ์ Palmae มีหลายชนิด เช่น ชนิด L. spinosa Thunb. มักขึ้นเป็นกออยู่ริมทะเล หรือในที่ซึ่งนํ้าเค็มขึ้นถึง ลำต้นสูงถึง ๔ เมตร ใบกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง ๖๐-๑๑๐ เซนติเมตร เว้าเป็นแฉกลึก ก้านใบยาว ขอบก้านมีหนาม, ชนิด L. peltata Roxb. ขึ้นตามป่าดอนในที่ชุ่มชื้นและที่แฉะ ลักษณะคล้ายชนิดแรก แต่ก้านใบลํ้าอยู่ใต้โคนใบ ทั้ง ๒ ชนิดใบใช้ห่อทำไต้ ห่อของ เย็บเป็นร่ม มุงหลังคาชั่วคราว ใบอ่อนใช้มวนบุหรี่, กะชิง ก็เรียก, ปักษ์ใต้เรียก ชิง หรือ ชิ่ง, ปาล์มพวกนี้เรียก พ้อ ก็มี เช่น ใบพ้อพันห่อหุ้ม กฤษณา (โลกนิติ).
กะราง, กะลางน. ชื่อนกขนาดกลางหลายชนิด ใน ๒ วงศ์ ลำตัวอ้วนป้อม หากินเป็นฝูงตามพื้นดิน อาจหากินร่วมกับนกชนิดอื่น ๆ พวกที่อยู่ในวงศ์ Sylviidae มีปากหนาสั้นสีดำปลายแหลม เช่น กะรางหัวหงอก [ Garrulax leucolophus (Hardwicke) ] กะรางคอดำ [ G. chinensis (Scopoli) ] กะรางสร้อยคอเล็ก [ G. monileqer (Hodgson) ] พวกที่อยู่ในวงศ์ Upupidae ได้แก่ กะรางหัวขวาน ( Upupa epops Linn.) ปากยาวแหลมโค้งสีดำ หงอนขนสีส้มขอบดำ ลักษณะหงอนขนเหมือนหมวกของอินเดียนแดง ขนตามลำตัวสีนํ้าตาลอมเหลือง มีแถบดำขาวสลับกัน, ชนิดนี้ การางหัวขวาน หรือ หงอนชบา ก็เรียก.
กังเวียนน. ขอบที่เป็นระบายของผ้าปกกระพองช้าง เช่น จัดพาดกังเวียนวาง ห่อได้ (ตำราช้างคำโคลง-วชิรญาณ เล่ม ๒๑).

ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
partial veilเยื่อขอบหมวกเห็ด [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
peripheradสู่ขอบ, สู่ส่วนขอบ, สู่รอบนอก, สู่ส่วนปลาย, สู่นอกส่วนกลาง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
peripheral; peripheric-ขอบ, -ส่วนขอบ, -รอบนอก, -ส่วนปลาย, -นอกส่วนกลาง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
perimeter๑. มาตรลานสายตา๒. เส้นขอบ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
paronychiaขอบเล็บอักเสบ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
peripheric; peripheral-ขอบ, -ส่วนขอบ, -รอบนอก, -ส่วนปลาย, -นอกส่วนกลาง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
peripheryขอบ, ส่วนขอบ, ส่วนรอบนอก, ส่วนปลาย, ส่วนนอกส่วนกลาง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
periphery; borderขอบ [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
periphery waxขี้ผึ้งดามขอบ [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
precinct๑. ขอบเขต, บริเวณ๒. ปริมณฑล [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
purviewบทกฎหมาย, ขอบเขตของบทกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
posterior borderขอบด้านหลัง [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
posterior border positionตำแหน่งสุดขอบหลัง(ขากรรไกรล่าง) [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
posterior embryotoxonขอบวงด้านในกระจกตาหนา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
posterior palatal seal; post palatal sealขอบผนึกท้ายเพดาน(ปาก) [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
post palatal seal; posterior palatal sealขอบผนึกท้ายเพดาน(ปาก) [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
peripheral cyanosisอาการเขียวคล้ำส่วนขอบ, อาการเขียวคล้ำรอบนอก, อาการเขียวคล้ำส่วนปลาย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ponorหลุมขอบชัน [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
precinct๑. ขอบเขต, บริเวณ๒. ปริมณฑล [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
lower border; inferior borderขอบด้านล่าง [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
lower boundขอบเขตล่าง [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
lower boundaryขอบล่าง [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
lateral borderขอบด้านข้าง [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
lateral margin of orbitขอบเบ้าตาด้านข้าง [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
land boundariesขอบเขตที่ดิน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
labial-ริมฝีปาก, -แคม, -ขอบเปลือกตา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
least upper boundขอบเขตบนน้อยสุด [ มีความหมายเหมือนกับ supremum ] [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
ring ridgeขอบในของกระบอกสูบ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
ring scotomaวงขอบลานเห็นมืด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ring-ridge remover; cylinder ridge reamer; ridge reamerเครื่องปาดขอบในของกระบอกสูบ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
ridge reamer; cylinder ridge reamer; ring-ridge removerเครื่องปาดขอบในของกระบอกสูบ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
restraint of tradeการจำกัดขอบเขตการค้า [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
restraint of tradeการจำกัดขอบเขตการค้า [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
rule relating to territorial extentกฎว่าด้วยขอบเขตแห่งดินแดน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
revoluteม้วนลง [ ขอบ ] [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
rugged individualismปัจเจกนิยมตกขอบ, ปัจเจกนิยมแบบไม่พึ่งใคร [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
reaction border; reaction rimขอบปฏิกิริยา [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
reaction rim; reaction borderขอบปฏิกิริยา [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
rimขอบล้อ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
reduplicateขอบพับออก [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
superior border; upper borderขอบด้านบน [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
separation of boundary layerการแยกของชั้นขอบเขต [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
sty; hordeolum; stye๑. กุ้งยิง๒. กุ้งยิงด้านนอก, กุ้งยิงขอบหนังตา [ มีความหมายเหมือนกับ hordeolum, external ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
stye; hordeolum; sty๑. กุ้งยิง๒. กุ้งยิงด้านนอก, กุ้งยิงขอบหนังตา [ มีความหมายเหมือนกับ hordeolum, external ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
simple pitรอยเว้าไม่มีขอบ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
septomarginal-ขอบผนังกั้น [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
sphere of Monsonขอบเขตของมอนสัน [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
spherical aberration; aberration, dioptricความพร่าเหตุขอบเลนส์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
sea, marginalทะเลชายอาณาเขต, ทะเลชายขอบทวีป [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
submarginalใต้ขอบ, ใกล้ขอบ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]

คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
รั้วราชวัติเป็นเครื่องหมายกำหนดขอบเขตปริมณฑลพระราชพิธี [ศัพท์พระราชพิธี]
พระกลด[ กฺลด ] น. ร่มขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ขอบร่มมีระบาย คันยาวกว่าก้านร่ม ใช้ถือกั้นเจ้านาย หรือพระภิกษุที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์, ราชาศัพท์ว่า พระกลด, เรียกร่มขนาดใหญ่มีด้าม สำหรับพระธุดงค์โดยเฉพาะ, เรียกดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ที่มีแสงสีรุ้งเป็นวงกลมล้อมรอบว่า ดวงอาทิตย์ทรงกลด ดวงจันทร์ทรงกลด. (ข. กฺลส). [ศัพท์พระราชพิธี]
Delineation Wellหลุมสำรวจขอบเขต, Example: หลุมประเมินผล (Appraisal well) ที่เจาะโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหาขอบเขตของแหล่งกักเก็บปิโตรเลียม [ปิโตรเลี่ยม]
Justifyจัดขอบ [คอมพิวเตอร์]
systemระบบ, ที่รวมของส่วนประกอบต่างๆ ที่ทำงานร่วมกัน มีจุดประสงค์ร่วมกัน และมีขอบเขตโดยแน่ชัด เช่น คอมพิวเตอร์เป็นระบบ เพราะประกอบด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ที่ทำงานร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาตามที่ผู้ใช้กำหนด ร่างกายมนุษย์เป็นระบบเพราะประกอบด้วยอวัยวะต่างๆ ที่ทำงานร่วมกันโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะให้ร่างกายมีชีวิตอยู่ ระบบทั้งหลายต้องรับอินพุดรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเข้าไปในระบบ ต่อจากนั้นจึงนำอินพุดเหล่านั้นมาดำเนินการให้เกิดเป็นเอาท์พุต หรือปรับอินพุดหรือการดำเนินการให้เหมาะสมยิ่งขึ้น การนำเอาท์พุดมาพิจารณาแล้วปรับ ดังนี้เรียกว่า การป้อนกลับ (feedback) [คอมพิวเตอร์]
Boundary value problemsข้อปัญหาค่าขอบ [TU Subject Heading]
Marginality, Socialความเป็นชายขอบทางสังคม [TU Subject Heading]
Eutrophicationกระบวนการเจริญเติบโตเกินขอบเขต, Example: เป็นกระบวนการที่เป็นตัวชักนำธาตุอาหารไปสู่ สิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะ ธาตุฟอสฟอรัส ไนโตรเจน ฯลฯ โดยมีสาเหตุจากสภาพเทคโนโลยี ในปัจจุบันที่มนุษย์ใช้ปุ๋ยเคมีซึ่งมีส่วนประกอบของธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโปแตสเซียมอย่างมาก และธาตุอาหารเหล่านี้อาจ แพร่กระจายไปในพื้นที่บริเวณกว้างโดยการชะล้างของฝน และการชักนำของน้ำ เมื่อแพร่กระจายไปรวมตัวอยู่ในบริเวณใดเป็นจำนวนมาก พืชในบริเวณนั้นก็จะเจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนมากเกินขอบเขต ซึ่งจะก่อให้เกิดอัตราดูดซึมธาตุอาหารอื่นเข้าไปสู่สิ่งมีชีวิตเพิ่มมากขึ้น จากอัตราปกติหรือเป็นจำนวนมาก [สิ่งแวดล้อม]
Curbside Recyclingการแยกขยะตามขอบถนน, Example: การเก็บขยะที่แยกแยะไว้ เพื่อการนำกลับมาใช้โดยติดตั้งถังแยกได้ที่ขอบถนน [สิ่งแวดล้อม]
Perimeter Gas Extraction Trenchesร่องสกัดแก๊สตามขอบ(หลุมฝังกลบ), Example: ร่องสกัดแก๊สตามขอบพื้นที่ฝังกลบขยะเพื่อรวบ รวมแก๊สที่เกิดขึ้น เป็นป้องกันการรั่วไหลออกสู่สิ่งแวดล้อมภายนอกพื้นที่ฝังกลบ [สิ่งแวดล้อม]
ASEAN Regional Forumการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก " เป็นการประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับรัฐมนตรี ต่างประเทศของประเทศคู่เจรจาของอาเซียน (Dialogue Partners) ได้แก่ ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย จีน รัสเซีย และสหภาพยุโรป ผู้สังเกตการณ์ (Observers) ของอาเซียน ได้แก่ ปาปัวนิวกินี และประเทศอื่น ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น มองโกเลียและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) โดย ARF ได้ใช้ ""geographical footprint"" หรือขอบเขตทางภูมิศาสตร์ เป็นปัจจัยสำคัญเพื่อประกอบการพิจารณารับสมาชิกใหม่ ปัจจุบัน ARF มีประเทศสมาชิก 22 ประเทศ กับ 1 กลุ่ม (สหภาพยุโรป) โดยมีการประชุมเป็นประจำทุกปีในช่วงต่อเนื่องกับการประชุมรัฐมนตรี ต่างประเทศอาเซียน (ASEAN Ministerial Meeting - AMM) เป็นเวทีปรึกษาหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ระดับพหุภาคีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และพัฒนาแนวทางการ ดำเนินการทางการทูตเชิงป้องกัน (Preventive Diplomacy) ที่มุ่ง ป้องกันการเกิดและขยายตัวของความขัดแย้ง โดยใช้มาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ (Confidence Building Measures - CBMs) ระหว่างกัน ทั้งนี้ ARF มีการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2537 และไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ARF ระดับรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่ 7 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2543 นอกจากการประชุม ARF ประจำปีแล้วยังมีการดำเนินกิจกรรมระหว่างปี (Inter-sessional Activities) ในสองระดับ คือ กิจกรรมที่เป็นทางการ (Track I) และกิจกรรมที่ไม่เป็นทางการ (Track II) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับสถาบันวิชาการของ ประเทศผู้เข้าร่วม ARF ได้แก่ (1) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมกลุ่มสนับสนุนว่าด้วยมาตรการสร้างความไว้เนื้อ เชื่อใจของ ARF (ARF Inter-sessional Support Group on Confidence Building Measures - ARF ISG on CBMs) (2) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการบรรเทาภัยพิบัติของ ARF (ARF Inter-sessional Meeting on Disaster Relief - ARF ISM on DR) (3) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการรักษาสันติภาพของ ARF (Inter-sessional Meeting on Peace-keeping Operations - ARF ISM on PKO) และ (4) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการประสานและร่วมมือด้านการค้นหาและกู้ภัย ของ ARF (ARF Inter-sessional Meeting on Search and Rescue Coordination - ARF ISM on SAR) " [การทูต]
Conference on Disamamentการประชุมว่าด้วยการลดอาวุธ จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2522 เพื่อเป็นเวทีเจรจาการลดอาวุธระหว่างประเทศ มีขอบเขตความรับผิดชอบเกี่ยวกับประเด็นด้านการลดอาวุธทุกด้าน และมีหน้าที่ รายงานต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติทุกปี ปัจจุบันมีสมาชิก 65 ประเทศ(ไทยมิได้เป็นสมาชิก) โดยที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จในการเจรจาจัดทำความตกลงระหว่างประเทศ ด้านการลดอาวุธหลายฉบับ ที่สำคัญได้แก่ สนธิสัญญาไม่แพร่อาวุธนิวเคลียร์ อนุสัญญาห้ามเคมี อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ และสนธิสัญญาห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ [การทูต]
continental shelfไหล่ทวีป ไหล่ทวีปของรัฐชายฝั่งประกอบด้วย พื้นดินท้องทะเลและดินใต้ผิวดินของบริเวณใต้ทะเล ซึ่งขยายเลยทะเลอาณาเขตของรัฐตลอดส่วนต่อออกไปตามธรรมชาติของดินแดนทางบกของ ตนจนถึงริมนอกของขอบทวีป หรือจนถึงระยะ 200 ไมล์ทะเลจากเส้นฐานซึ่งใช้วัดความกว้างของทะเลอาณาเขตในกรณีที่ริมนอกของ ขอบทวีปขยายไปไม่ถึงระยะนั้น [การทูต]
delimitationการกำหนดเขตแดน (ทางบก) / การแบ่งเขตแดน (ทางทะเล) การกำหนด หรือการอธิบาย หรือการจำกัดความขอบเขตของดินแดนของประเทศ [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
Immunity from Jurisdiction of Diplomatic Agentsความคุ้มกันจากอำนาจศาลของตัวแทนทางการทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตรา 31 ว่า?1. ให้ตัวแทนทางการทูตได้อุปโภคความคุ้มกันจากอำนาจศาลทางอาญาของรัฐผู้รับ ตัวแทนทางการทูตยังจะได้อุปโภคความคุ้มกันจากอำนาจศาลทางแพ่ง และทางการปกครองของรัฐผู้รับด้วย เว้นแต่ในกรณีของก) การดำเนินคดีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัว ที่ตั้งอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับนอกจากตัวแทนทางการทูตครอบครองไว้ในนามของ รัฐผู้ส่งเพื่อความมุ่งประสงค์ของคณะผู้แทนข) การดำเนินคดีเกี่ยวกับการสืบมรดกซึ่งเกี่ยวพันถึงตัวแทนทางการทูตในฐานะผู้ จัดการมรดกโดยพินัยกรรม ผู้จัดการมรดกโดยศาลตั้งทายาท หรือผู้รับมรดกในฐานะเอกชน และมิใช่ในนามของรัฐผู้ส่งค) การดำเนินคดีเกี่ยวกับกิจกรรมใดในทางวิชาชีพ หรือพาณิชย์ ซึ่งตัวแทนทางการทูตได้กระทำในรัฐผู้รับ นอกเหนือจากการหน้าที่ทางการของตน 2. ตัวแทนทางการทูตไม่จำเป็นต้องให้การในฐานะพยาน 3. มาตรการบังคับคดี ไม่อาจดำเนินได้ในส่วนที่เกี่ยวกับตัวแทนทางการทูต เว้นแต่ในกรณีซึ่งอยู่ภายใต้อนุวรรค (ก) (ข) และ (ค) ของวรรค 1 ของข้อนี้ และโดยมีเงื่อนไขว่ามาตรการที่เกี่ยวข้องอาจดำเนินไปได้โดยปราศจากการละเมิด ความละเมิดมิได้ในตัวบุคคลของตัวผู้แทนทางการทูต หรือที่อยู่ของตัวแทนทางการทูต 4. ความคุ้มกันของตัวแทนทางการทูตจากอำนาจศาลของรัฐผู้รับ ไม่ยกเว้นตัวแทนทางการทูตจากอำนาจศาลของรัฐผู้ส่ง?เกี่ยวกับความคุ้มกันตัว แทนทางการทูตจากขอบเขตของอำนาจศาลทางแพ่ง อาจกล่าวได้อย่างกว้างๆ ว่า ตัวแทนทางการทูตนั้นได้รับการยกเว้นจากอำนาจของศาลแพ่งในท้องถิ่นคือตัวแทน ทางการทูตนั้นได้รับการยกเว้นจากอำนาจของศาลแพ่งในท้องถิ่นคือตัวแทนทางการ ทูตจะถูกฟ้องมิได้ และถูกจับกุมมิได้เกี่ยวกับหนี้สิน รวมทั้งทรัพย์สินของเขา เช่น เครื่องเรือน รถยนต์ ม้า และสิ่งอื่นๆ ทำนองนั้นก็จะถูกยืดเพื่อใช้หนี้มิได้ ตัวแทนทางการทูตจะถูกกีดกันมิให้ออกไปจากรัฐผู้รับในฐานะที่ยังมิได้ชดใช้ หนี้สินของเขานั้นก็มิได้เช่นกัน อนึ่ง นักกฎมายบางกลุ่มเห็นว่า ตัวแทนทางการทูตจะถูกหมายศาลเรียกตัว (Subpoenaed) ไม่ได้ หรือแม้แต่ถูกขอร้องให้ไปปรากฎตัวเป็นพยานในศาลแพ่งหรือศาลอาญาก็ไม่ได้ อย่างไรก็ดี ถ้าหากตัวแทนทางการทูตสมัครใจที่จะไปปรากฏตัวเป็นพยานในศาล ก็ย่อมจะทำได้ แต่จะต้องขออนุมัติจากรัฐบาลในประเทศของเขาก่อน [การทูต]
marginalisation (marginalization)การถูกเบียดตกขอบ สภาวการณ์ด้านเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่ออนาคตการพัฒนาและเศรษฐกิจของประเทศใด ประเทศหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกที่มีบูรณาการ (integration) เพิ่มขึ้น สภาพการณ์ดังกล่าวมักถูกมองว่าเกิดขึ้นควบคู่ไปกับโลกาภิวัตน์ และประเทศกำลังพัฒนาและประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดมีโอกาสเสี่ยงที่จะตกอยู่ใน สภาวการณ์นี้ เนื่องจากประสบความยากลำบากในการปฏิบัติตามพันธกรณีการเปิดเสรีทางการค้า กอปรกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ประเทศเหล่านี้พึ่งพาตกต่ำลง [การทูต]
Responsibility to protectหลักการความรับผิดชอบในการคุ้มครอง เป็นหลักการที่ได้รับการรับรองในการประชุมระดับผู้นำ เพื่อทบทวนผลของปฏิญญาสหัสวรรษ(High Level Panel Meeting - HLPM) เมื่อวันที่ 14-16 กันยายน พ.ศ. 2548 ณ นครนิวยอร์ก ที่เกี่ยวข้องกับการแทรกแซงทางมนุษยธรรม ( humanitarian interference/intervention of humanity)เพื่อคุ้มครองประชาชนจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การฆ่าล้างชนชาติ โดยจะถือเป็นความรับผิดชอบและที่จะต้องดำเนินการร่วมกันโดยประชาคมระหว่าง ประเทศ อย่างไรก็ตาม หลักการเรื่องนี้มีนัยเกี่ยวข้องกับกฏหมายระหว่างประเทศ อธิปไตย ของรัฐ ความอ่อนไหวทางการเมือง และความชอบธรรมในการปฏิบัติ จึงยังไม่มีการนิยามแนวความคิด R2P รวมถึงขอบเขตของ R2P ที่ชัดเจน [การทูต]
Shanghai Cooperation Organizationพัฒนามาจากเวทีการประชุม Shanghai Five ซึ่งจีนเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 เดิมมีสมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ จีน รัสเซีย คาซัคสถาน สาธารณรัฐคีร์กีซ และทาจิกิสถาน ต่อมาเมื่อเดือนมิถุนายน 2544 อุซเบกิสถาน ได้เข้าเป็นสมาชิกด้วย จึงมีการเปลี่ยนชื่อกลไกความ ร่วมมือนี้เป็น Shanghai Cooperation Organization เดิมมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับพรมแดนของประเทศสมาชิก และต่อมาได้ขยายขอบเขตความร่วมมือให้ครอบคลุม ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจการค้า วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม การศึกษา พลังงาน การคมนาคม [การทูต]
terms of referenceขอบเขตอำนาจหน้าที่ [การทูต]
territorial seaทะเลอาณาเขต รัฐทุกรัฐมีสิทธิกำหนดความกว้างของทะเลอาณาเขตของตนได้จนถึงขอบเขตหนึ่งซึ่ง ไม่เกิน 12 ไมล์ทะเล โดยวัดจากเส้นฐานที่กำหนดขึ้นตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล พ.ศ. 2525 [การทูต]
ultra viresเกินขอบอำนาจ [การทูต]
Chloroprene rubberยาง CR เป็นยางสังเคราะห์ที่ได้จากมอนอเมอร์ของคลอโรพรีน มีทั้งประเภทที่ใช้งานทั่วไปและประเภทใช้งานพิเศษ เช่น ทำกาวยาง ยางใช้เคลือบ และวัสดุอุดรอยรั่ว เป็นต้น เนื่องจากโมเลกุลของยาง CR สามารถจัดเรียงตัวได้อย่างเป็นระเบียบภายใต้สภาวะที่เหมาะสม ยางชนิดนี้จึงสามารถตกผลึกได้เช่นเดียวกับยางธรรมชาติ มีค่าความทนต่อแรงดึงสูง มีค่าความทนต่อการฉีกขาดและความต้านทานต่อการขัดถูสูง ยาง CR มีสมบัติทนต่อน้ำมันได้ปานกลางถึงดี และทนต่อความร้อน แสงแดด และโอโซนได้ค่อนข้างดี และยังมีสมบัติการหน่วงไฟ จึงนิยมนำไปใช้ในการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ในงานภายนอกอาคาร เช่น ยางขอบหน้าต่าง ยางรองคอสะพาน ยางปลอกสายเคเบิล เป็นต้น [เทคโนโลยียาง]
Ethylene propylene diene rubberยาง EPDM เป็นยางสังเคราะห์ที่พัฒนามาจากยาง EPM โดยเติมมอนอเมอร์ตัวที่สาม คือ ไดอีน ลงไปเล็กน้อยในระหว่างการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชัน ทำให้ยางที่ได้มีส่วนที่ไม่อิ่มตัว (พันธะคู่) อยู่ในสายโซ่โมเลกุล ยางชนิดนี้จึงสามารถคงรูปได้ด้วยกำมะถัน แต่ไดอีนที่เติมลงไปไม่ได้ไปแทรกอยู่ที่สายโซ่หลักของโมเลกุล ดังนั้นสายโซ่หลักก็ยังคงเหมือนเดิมหรือไม่มีผลต่อสายโซ่หลักมากนัก จึงทำให้ยาง EPDM ยังคงมีสมบัติเด่นในเรื่องการทนทานต่อการเสื่อมสภาพอันเนื่องมาจากความร้อน แสงแดด ออกซิเจน โอโซน สารเคมี กรด ด่างได้ดีมาก และมีความยืดหยุ่นตัวได้ดีที่อุณหภูมิต่ำเมื่อเทียบกับ ยางธรรมชาติ มักใช้ทำผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ภายนอกเนื่องจากทนต่อสภาพอากาศได้ดีและใช้ผลิต ชิ้นส่วนยานยนต์เป็นส่วนใหญ่ เช่น ยางขอบกระจก ยางปัดน้ำฝน ท่อยางของหม้อน้ำรถยนต์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังใช้เป็นฉนวนหุ้มสายเคเบิล สายพานลำเลียง แผ่นยางกันน้ำ แผ่นยางมุงหลังคา [เทคโนโลยียาง]
Ethylene propylene rubberยาง EPM เป็นยางสังเคราะห์ที่ได้จากการทำปฏิกิริยาโคพอลิเมอไรเซชันระหว่างมอนอเมอร์ ของเอทิลีน (ethylene) กับโพรพิลีน (propylene) มีลักษณะการจัดเรียงตัวของโมเลกุลแบบอสัณฐานและมีสมบัติเป็นยาง แต่ไม่มีส่วนที่ไม่อิ่มตัว (ไม่มีพันธะคู่) จึงทำให้มีสมบัติเด่นในเรื่องความทนทานต่อการเสื่อมสภาพอันเนื่องมาจากแสง แดด ออกซิเจน ความร้อน โอโซน และสารเคมี แต่ยางชนิดนี้มีข้อเสีย คือ ไม่สามารถใช้กำมะถันในการคงรูปได้ (เนื่องจากไม่มีพันธะคู่อยู่ในโมเลกุล) ดังนั้นการทำให้ยางคงรูปจึงต้องใช้เพอร์ออกไซด์เท่านั้น การใช้งานนิยมใช้ทำผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานภายนอก เช่น ยางขอบประตู ยางขอบหน้าต่าง โอริง ฉนวนหุ้มสายเคเบิล เป็นต้น [เทคโนโลยียาง]
Extruderเครื่องอัดผ่านดาย คือ เครื่องมือที่ใช้สำหรับขึ้นรูปยางที่อาศัยการอัดยางผ่านดาย (die) ที่มีรูปร่างต่างๆ ตามลักษณะของผลิตภัณฑ์ ตัวเครื่องประกอบด้วยกระบอกที่ให้ความร้อนได้ และมีสกรูหมุนอยู่ภายใน เมื่อใส่ยางคอมพาวด์เข้าไป สกรูจะทำหน้าที่บดยางและอัดยางให้ไหลออกผ่านดาย ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ยางที่ขึ้นรูปโดยใช้เทคนิคนี้ได้แก่ ท่อยาง ยางหุ้มสายเคเบิ้ล ยางขอบกระจก และยางรัดของ เป็นต้น [เทคโนโลยียาง]
Abscess, Brodieฝีเรื้อรังในกระดูกซึ่งภาพรังสีเป็นโพรงกลมขอบทึบ [การแพทย์]
Acceptance, Region ofขอบเขตยอมรับสมมติฐาน [การแพทย์]
Acetabular Angleมุมที่ขอบเบ้าข้อตะโพกทำกับแนวนอน [การแพทย์]
Acropustulosisตุ่มหนองเริ่มจากปลายนิ้วมือหรือขอบเล็บ [การแพทย์]
Allergic Shinerขอบตาล่างบวมช้ำ, ขอบตาล่างสีคล้ำ [การแพทย์]
Anal Fissureขอบทวารหนักปริ, แผลที่ก้น, ทวารหนักแตกเป็นรอย [การแพทย์]
Anemia, Hemolytic, Autoimmuneเลือดจางเฮโมลิติกชนิดออโตอิมมูน, เลือดจางฮีโมลัยติก ออโตอิมมูน, โรคโลหิตจางบางชนิด, การทำลายเม็ดเลือดแดง, การทำลายเม็ดเลือดแดงที่ส่วนขอบของภูมิคุ้มกัน [การแพทย์]
Angle, Lateralมุมขอบนอกสุด [การแพทย์]
Antihelical Foldสันขอบหู [การแพทย์]
Approximation, Directการเย็บขอบบาดแผลปิดเข้าหากัน [การแพทย์]
Areolarขอบหัวนม, บริเวณรอบหัวนม, ฐานหัวนม, บริเวณหัวนม [การแพทย์]
Attitude, Over-Indulgenceทัศนคติแบบตามใจมากจนไม่มีขอบเขต [การแพทย์]
Auditory Meatus, Externalแนวของรูหู, ขอบบนของรูหู [การแพทย์]
Axillary Borderขอบรักแร้ [การแพทย์]
Axillary Line, Left Anteriorแนวเส้นหน้ารักแร้ข้างซ้าย, แนวขอบหน้าของรักแร้ซ้าย [การแพทย์]
Axillary Line, Posteriorแนวขอบรักแร้หลังแนวเส้นตรงลากจากขอบหลังรักแร้, แนวเส้นที่ลากจากมุมหลังของรักแร้, เส้นดิ่งรักแร้ข้างหลัง, แนวขอบหลังของรักแร้ [การแพทย์]
Bankart Procedureวิธีการเย็บเอ็นให้ติดกับขอบเบ้าข้อไหล่ [การแพทย์]
Bevel-Type Marginขอบเอียง [การแพทย์]
Biceps Femorisกล้ามเนื้อไบเซพส์ฟีมอรีส, กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง, ขอบด้านในของเอ็นของกล้ามเนื้อ, กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง, กล้ามเนื้อหน้าขาท่อนบน [การแพทย์]
Border, Lateralขอบนอก [การแพทย์]
Border, Sharpขอบเรียบและชัด [การแพทย์]
Bordorขอบข้าง [การแพทย์]
Boundariesขอบเขต [การแพทย์]
Boundaries, Classขอบเขตของชั้น [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
- Thank you. -ขอบคุณ Safe Haven (2013)
Thank you. ขอบคุณครับ Train Man (2005)
Thank you. ขอบใจนะ Train Man (2005)
Thank you. ขอบคุณ. The Visitor (2007)
Thank you. ขอบคุณครับ. The Visitor (2007)
Thanks. ขอบคุณ My Bloody Valentine (2010)
Thank you. ขอบคุณ Snowden (2016)
Thank you. ขอบคุณ Punch-Drunk Love (2002)
Please do. ขอบคุณ Match Point (2005)
Thanks. ขอบใจ Mr. Monk and the Other Detective (2005)
Thank you. ขอบคุณ Cell Test (2005)
Thank you. ขอบคุณ Chapter Ten 'Six Months Ago' (2006)
Thanks. ขอบใจ Chuck Versus the Wookiee (2007)
THANKS. ขอบคุณ Pilot (2007)
Thank you. ขอบคุณ The Deaths of Ian Stone (2007)
Thanks. ขอบใจนะ Cheating Death (2008)
Th ขอบคุณ Paradise (2008)
Thank you. ขอบใจ Summer Kind of Wonderful (2008)
Thanks. ขอบคุณค่ะ Patch Over (2008)
No, thanks. ไม่ละ ขอบใจ Here Comes the Flood (2008)
Thank you. ขอบคุณค่ะ The Dark Night (2008)
Thank you. ขอบคุณ Le Morte d'Arthur (2008)
Thank you. ขอบคุณ The Bank Job (2008)
Thank you. ขอบคุณ The No. 1 Ladies' Detective Agency (2008)
Yeah. Okay. ขอบใจ Sex and Violence (2009)
Thanks. ขอบใจ The Lost Boy (2009)
Thank you. ขอบคุณ A Night at the Bones Museum (2009)
Thank you. ขอบคุณ Incursion: Part 2 (2010)
Thanks. ขอบใจ Brave New World (2010)
Thank you. ขอบคุณ Chuck Versus the Aisle of Terror (2010)
Thanks. ขอบคุณ Practically Perfect (2010)
Thank you. ขอบคุณ Remembrance of Things Past (2010)
Thank you. ขอบคุณ Unaired Pilot (2010)
Thanks. ขอบใจ Final Destination 5 (2011)
Thanks. ขอบคุณนะ Countdown (2011)
Thanks. ขอบคุณ Friends with Benefits (2011)
P.S. ขอบอก It Takes Two to Make a Thing Go Wrong (2011)
Thank you. ขอบคุณค่ะ One Will Live, One Will Die (2011)
Thank you. ขอบคุณครับ Beauty and the Feast (2011)
Thank you. ขอบคุณนะ The Fasting and the Furious (2011)
Thank you. ขอบคุณ I Am Unicorn (2011)
Thank you. ขอบคุณ Knightfall (2011)
Thank you. ขอบใจ Tower Heist (2011)
Thank you. ขอบคุณ The End of the Affair? (2012)
Thank you. ขอบคุณ Medallion (2012)
Thank you. ขอบคุณ Plucky Pennywhistle's Magical Menagerie (2012)
Annie Edison. ขอบใจ แอนนี่ Pillows and Blankets (2012)
Thank you. ขอบคุณ Wolf and Cub (2012)
Thanks. - ขอบคุณค่ะ Stolen Kisses (2012)
Thank you! ขอบคุณ The Silencer (2012)

Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
จดหมายขอบคุณ[jotmāi khøpkhun] (n, exp) EN: letter of thanks  FR: lettre de remerciement [ f ]
จอดรถชิดขอบทาง[jøt rot chit khøp thāng] (v, exp) EN: pull over  FR: se ranger sur le côté de la route
การแสดงความขอบคุณ[kān sadaēng khwām khøpkhun] (n, exp) EN: acknowledgement  FR: reconnaissance [ f ]
ขอบิ[khø bin] (x) EN: please give me a receipt !  FR: l'addition, s'il vous plaît !
ขอบ[khøp] (n) EN: perimeter ; periphery ; circumference  FR: périmètre [ m ] ; circonférence [ f ]
ขอบ[khøp] (n) EN: edge ; fringe ; side ; brim ; rim  FR: bord [ m ] ; bordure [ f ] ; limite [ f ]
ขอบฟ้า[khøpfā] (n) EN: horizon ; skyline  FR: horizon [ m ]
ขอบใจ[khøpjai] (v) EN: thank ; be thankful for ; be grateful to ; give thanks  FR: remercier
ขอบใจ[khøpjai] (v, exp) EN: thanks  FR: merci
ขอบข่าย[khøpkhāi] (n) EN: framework ; scope ; range ; extend ; sphere ; domain ; limit  FR: portée [ f ] ; étendue [ f ] ; cadre [ m ]
ขอบเขต[khøpkhēt] (n) EN: frontier ; limit ; confine ; boundary ; range ; extent ; bound ; border ; precinct ; margin  FR: frontière [ f ] ; limite [ f ] ; borne [ f ]
ขอบเขตบน[khøpkhēt bon] (n, exp) EN: upper bound
ขอบเขตการปฏิบัติ[khøpkhēt kān patibat] (n, exp) EN: sphere of activity
ขอบเขตการประยุกต์ใช้[khøpkhēt kān prayukchai] (n, exp) EN: range of applications ; areas of application
ขอบเขตของการศึกษา[khøpkhēt khøng kānseuksā] (n, exp) EN: scope of the study ; delimitation of the study
ขอบเขตล่าง[khøpkhēt lāng] (n, exp) EN: lower bound
ขอบคุณ[khøpkhun] (v) EN: thank ; be thankful for ; be grateful to ; give thanks for  FR: remercier ; dire merci ; être reconnaissant
ขอบคุณ[khøpkhun] (interj) EN: thank you ; thanks ; with thanks  FR: merci
ขอบคุณล่วงหน้า[khøpkhun lūang-nā] (xp) EN: thanks in advance  FR: merci d'avance
ขอบคุณมาก[khøpkhun māk] (x) EN: thank you very much  FR: merci beaucoup
ขอบคุณที่...[khøpkhun thī ...] (x) EN: thank you for ...  FR: merci de ...
ขอบคุณที่บินกับเรา[khøpkhun thī bin kap rao] (xp) EN: thank you for flying with us
ขอบคุณที่ชม[khøpkhun thī chom] (x) FR: merci pour le compliment
ขอบล้อ[khøplø] (n) FR: jante [ f ]
ขอบนอก[khøp nøk] (n, exp) FR: contour [ m ] ; limite extérieure [ f ]
ขอบป่า[khøppā] (n) FR: orée [ f ] ; lisière [ f ]
เกินขอบเขต[koēn khøpkhēt] (v, exp) EN: be over the limit  FR: dépasser la limite
ลิ้นมังกรด่างเขียวขอบทอง[linmangkøn dāng khīo khøp thøng] (n, exp) EN: Snake Plant ; Mother-in-law's tongue ; Devil's tongue  FR: sansevière [ f ]
ไม่ขอบคุณ[mai khøpkhun] (adj) EN: thankless
นกนางนวลขอบปีกขาว[nok nāng-nūan khøp pīk khāo] (n, exp) EN: Black-headed Gull ; Common Black-headed Gull  FR: Mouette rieuse [ f ] ; Mouette rieuse d’Europe [ f ] ; Goéland rieur [ m ]
ผีเสื้อบารอนขอบปีกขาว[phīseūa bārøn khøp pīk khāo] (n, exp) EN: White-edged Blue baron
ผีเสื้อดำจุดขอบ[phīseūa dam jut khøp] (n, exp) EN: Forest Quaker
ผีเสื้อฟ้าขอบขนใต้ปีกจุด[phīseūa fā khøp khon tāi pīk jut] (n, exp) EN: Pointed Ciliate Blue
ผีเสื้อฟ้าขอบขนธรรมดา[phīseūa fā khøp khon thammadā] (n, exp) EN: Common Ciliate Blue ; Ciliate Blue
ผีเสื้อฟ้าขอบประกาย[phīseūa fā khøp prakāi] (n, exp) EN: Grass Jewel
ผีเสื้อฟ้าขอบประกายเล็ก[phīseūa fā khøp prakāi lek] (n, exp) EN: Small Grass Jewel
ผีเสื้อฟ้าพุ่มขอบปีกจาง[phīseūa fā phum khøp pīk jāng] (n, exp) EN: Pale Hedge Blue
ผีเสื้อเจ้าชายดำขอบปีกเรียบ[phīseūa jaochāi dam khøp pīk rīep] (n, exp) EN: Tonkin Prince
ผีเสื้อขอบปีกเลื่อยจุดแดง[phīseūa khøp pīk leūay jut daēng] (n, exp) EN: Red-spot Sawtooth
ผีเสื้อขอบปีกเลื่อยลายจุด[phīseūa khøp pīk leūay lāi jut] (n, exp) EN: Spotted Sawtooth
ผีเสื้อขอบไร้จุด[phīseūa khøp rai jut] (n, exp) EN: Common Quaker
ผีเสื้อเหลืองสยามขอบดำ[phīseūa leūang Sayām khøp dam] (n, exp) EN: Lesser Gull
ผีเสื้อหนอนใบกุ่มขอบตาลไหม้[phīseūa nøn bai kum khøp tān mai] (n, exp) EN: Chocolate Albatross
ผีเสื้อหนอนจำปีจุดต่อขอบ[phīseūa nøn jampī jut tø khøp] (n, exp) EN: Veined Jay
รู้สึกขอบคุณ[rūseuk khøpkhun] (adj) EN: grateful
แสดงความขอบคุณ[sadaēng khwām khøpkhun] (v, exp) EN: express thanks ; acknowledge
เส้นขอบฟ้า[sen khøpfā] (n, exp) FR: horizon [ m ] ; ligne d'horizon [ f ]
ตกขอบ[tokkhøp] (adj) EN: extreme ; ultra- ; egregious ; far out
อย่างปราศจากขอบเขต[yāng prātsajāk khøpkhēt] (adv) EN: ad infinitum

Longdo Approved EN-TH
vignette(n) ภาพถ่ายที่มีความสว่างค่อยๆลดจางลงบริเวณขอบภาพ
crown cap(n) ฝาขวดเบียร์หรือน้ำอัดลม ซึ่งโดยมากขอบมีลักษณะเป็นหยักและตัวฝาทำจากโลหะ, See also: bottle cap
Image:
domain(n) (คณิต.) ขอบเขตกำเนิด

NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
absolute(adj) ไม่มีขอบเขต, See also: ไม่จำกัด, Syn. unlimited, Ant. limited
acknowledge(vt) ขอบคุณ, See also: แสดงความขอบคุณ
acknowledge(vi) ขอบคุณ, See also: แสดงความขอบคุณ, Syn. thank
acknowledgement(n) การแสดงความขอบคุณ, Syn. acknowledgment, appreciation, gratefulness
acknowledgment(n) การแสดงความขอบคุณ, Syn. acknowledgement, appreciation, gratefulness
America Online(n) ศูนย์บริการออนไลน์ผ่านทางโมเด็มที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในอเมริกา มีขอบเขตการให้บริการที่กกว้างขวางมีการให้บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ปริการเชื่อมต่ออินเตอร์เนตขั้นพื้นฐาน มีข่าวสารการพยากรณ์อากาศจากสำนักข่าวรอยเตอร์และยูพีไอ
appreciation(n) ความสำนึกบุญคุณ, See also: ความขอบคุณ, ความกตัญญู, Syn. thankfulness, recognition, gratefulness
appreciative(adj) รู้สึกขอบคุณ, Syn. thankful, appreciatory, grateful
appeal for(phrv) ขอ, See also: ขอบริจาค, Syn. beg for
baseboard(n) แผ่นกระดานที่ปิดขอบด้านล่างของผนัง, Syn. skirting board
baseline(n) เส้นขอบด้านหลังของสนามกีฬา, See also: เช่น เทนนิส, แบดมินตัน, เบสบอล
beading(n) ขอบหรือริมของวัตถุที่ประดับด้วยลูกทรงกลม, Syn. astragal
benediction(n) การขอพรในตอนท้ายพิธีสวด, See also: การอวยพร, การขอบคุณ, Syn. blessing
beveled(adj) ซึ่งมีผิวหรือขอบเอียง
bevelled(adj) ซึ่งมีผิวหรือขอบเอียง
beyond(prep) ที่เหนือกว่า (แสดงถึงขอบเขต, ข้อจำกัด), See also: มากกว่า
beyond(n) ที่ที่อยู่ไกล, See also: ที่ที่ห่างไกล, สุดขอบฟ้า
border(n) ขอบเขต, Syn. borderline
border(n) กรอบ, See also: ขอบ, Syn. rim
border(vt) สร้างขอบเขต, Syn. edge
border(n) ขอบนอก, See also: เส้นรอบวง
borderline(n) เส้นแบ่งขอบเขต, See also: เส้นเขตแดน, เส้นแสดงเขต, Syn. borders
bound(vt) จำกัด, See also: จำกัดขอบเขต, Syn. confine
bound(n) เส้นขอบเขต, See also: ขอบเขต, เส้นแบ่งเขตแดน
boundary(n) ขอบเขต, See also: เขตแดน, อาณาเขต, Syn. border
bowler(n) หมวกทรงกลมสีดำมีขอบโค้ง, Syn. bowler hat, derby
brim(adj) ขอบ, See also: ขอบ ภาชนะ, Syn. rim
brink(n) ริม, ขอบ, Syn. edge
be within(phrv) มีประสบการณ์, See also: รู้, อยู่ในอำนาจ, อยู่ในขอบเขต, Syn. fall within
cheers(int) ขอบคุณ
circuit(n) ขอบเขต
collection(n) การเรี่ยไรเงิน, See also: การขอบริจาคเงิน, การเก็บเงิน, Syn. solicitation, appeal
compass(n) ขอบ, See also: เส้นขอบ, Syn. circumference, boundary
confine(n) ขอบเขต, Syn. border, limit
contour(n) เส้นขอบ, See also: เส้นรอบนอกที่แสดงรูปร่าง, โครงร่าง, Syn. outline, shape
coverage(n) ขอบเขตคุ้มครองในการประกันภัย
crepuscular(adj) ที่เกี่ยวกับช่วงเวลาพระอาทิตย์จวนจะลับขอบฟ้า
curb(n) ขอบทางเดิน, Syn. edge, ledge
curb(vt) ควบคุม, See also: จำกัดขอบเขต, ระงับ, Syn. restrain, control
curb(vt) ทำขอบทางเดิน
curbside(adj) ที่ขอบทางเดินเท้า
edge with(phrv) ขลิบด้วย, See also: ใส่ขอบด้วย
fall outside(phrv) อยู่นอกขอบเขตของ, See also: อยู่นอกเหนือจาก, Syn. be outside, stand outside, Ant. fall within
fall within(phrv) จัดอยู่ในประเภท, See also: อยู่ในขอบเขตของ, Syn. come under
deerstalker(n) หมวกที่มีขอบปีกด้านหน้าและหลัง และมีปกหูสองข้าง, See also: หมวกนักล่าสัตว์, Syn. glengarry
de-escalate(vt) ทำให้ลดลง (ขนาด, ขอบเขต, ความรุนแรง), See also: ทำให้น้อยลง, ทำให้เบาบางลง, Syn. lower, lesson
de-escalate(vi) ลดลง (ขนาด, ขอบเขต, ความรุนแรง), See also: บรรเทา, Syn. lower
define(vt) เป็นเครื่องหมายแสดง, See also: บอกขอบเขต, กำหนดเขตแดน, Syn. restrict, limit, delimit
derby(n) หมวกสีดำขอบแข็งและม้วนขึ้น, Syn. bowler
dimension(n) การหามิติ, See also: การวัดขนาด, การหาขอบเขต, การวัดระยะ, Syn. measurement

Hope Dictionary
a gogo(อาโก' โก) มากเท่าที่คุณต้องการ, ไม่มีขอบเขต, เดินเพ่นพ่าน, จังหวะเต้นรำอะโกโก้, เวที่เต้นรำจังหวะอะโกโก้, Syn. a Go go, a go-go, au gogo
ad infinitum(แอดอินฟะไน' ทัม) ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีขอบเขต
alvelar ridgeขอบเป็นสันของขากรรไกรบนและล่าง ประกอบด้วยเบ้าหรือแอ่งรับฟัน., Syn. alveolar process
ambit(แอม' บิท) n. เส้นรอบวง, ขอบเขต, บริเวณรอบ ๆ (circuit, boundary, limits)
appreciative(อะพรี'ชีเอทิฟว) adj. รู้สึกขอบคุณ, เห็นคุณค่า, สามารถเห็นคุณค่าหรือขอบคุณได้. -appreciativeness n., Syn. pleased
appropriable(อะโพร'พริอะเบิล) adj. สามารถเห็นคุณค่าหรือขอบคุณได้
architrave(อาร์'คิเทรฟว) n. ขอบประตูหรือหน้าต่าง, ส่วนล่างสุดของคิ้วบนเสา, บัวลาดบัวลาย. -architraval adj. -architraved adj.
baroque(บะโรค') n. ศิลปะขอบลวดลายพิสดาร adj. เกี่ยวกับศิลปะขอบลวดลายพิสดาร, แปลกประหลาด, พิสดาร, ประดับมากไป
benediction(เบนนิดิค'เชิน) n. การให้พร, การขอพร, การอวยพร, การขอบคุณ, พิธีอวยพร, See also: benedictory adj. ให้พร benedictive adj. ให้พร
bleed(บลีด) { bled, bleeding, bleeds } vi. เลือดออก, ตกเลือด, หลั่งเลือด, เศร้าโศก, โทมนัส, ซึมออก, แพร่กระจาย, เห็นใจ vt. ทำให้เลือดออก, เสียเลือด, ถ่ายเทของเหลว (น้ำ, ไฟฟ้าและอื่น) -n. ขอบหน้าตัด, ส่วนหน้าที่ตัดออก adj. ตัดริมทิ้ง
board(บอร์ดฺ) { boarded, boarding, boards } n. ไม้กระดาน, แผ่นกระดาน, แผ่นกระดาษแข็ง, กระดานหมากรุก, ข้างเรือ, ค่าอาหาร, อาหาร, ที่พัก, โต๊ะประชุม, โต๊ะอาหาร, เวที, คณะกรรมการ, สภา, กลุ่มผู้บริหารของหน่วยงาน, แป้นสวิตช์ไฟฟ้าบนผลฝาผนัง, ขอบ, ข้าง vt. ใช้กระดานปู, บริการอาหาร, บริการ แผงวงจรแผงหมายถึง แผ่นพลาสติกที่มีการติดตั้งวงจรไฟฟ้าซึ่งใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ แผงเหล่านี้จะทำหน้าที่ต่าง ๆ เช่น แผงวงจรเร่งความเร็ว (accelerator board) จะมีตัวประมวลผลที่ทำงานเร็วกว่าตัวประมวลผลทีมีอยู่เดิม แผงวงจรภาพ (video board) แผงวงจรเสียง (sound board) ก็จะเป็นตัวเพิ่มภาพและเสียง เป็นต้น
boilerplateต้นแบบหมายถึง เอกสารประเภทหนึ่งที่ทำเอาไว้เป็นแบบ เรียกว่า boilerplate document นิยมนำมาใช้ในเวลาที่รีบร้อน ไม่มีเวลาคิดหาถ้อยคำเพราะ ๆ เช่น บัตรเชิญ จดหมายขอบคุณ จดหมายแสดงความยินดี แสดงความเสียใจ หรือ สัญญาต่าง ๆ เมื่อนำมาใช้ ก็เพียงแต่เปลี่ยนข้อความให้เหมาะกับสถานการณ์เท่านั้นมีความหมายเหมือน template
border(บอร์'เดอะ) { bordered, bordering, borders } n. ชายแดน, ขอบ, ริม, เนิน -v. มีเขตแดนติดต่อกับ, คล้ายกับ, ใกล้เคียง, เหมือน, Syn. brink
bottomlessadj. สุดที่หยั่งถึง, ไม่มีก้น, ลึกจนไม่อาจหยั่งได้, ลึกลับ, วัดไม่ได้, ไร้ขอบเขต
bound(เบาดฺ) { bounded, bounding, bounds } adj. ถูกผูกมัด, เหนียวแน่น, แน่นอน, จักต้อง, ตัดสินใจ, เข้าเล่ม, ท้องผูก vi. กระโดด, เด้งกลับ, จดกับ, ประชิดกับ vt. จำกัด, กลายเป็นขอบเขต, พูดถึงขอบเขต -n. การกระโดด, การเด้งกลับ, ขอบเขต, ชายแดน adj. กำลังจะ, ไปทาง, พร้อมที่จะ
boundless(เบา'เลส) adj. ไร้ขอบเขต, สุดขีด, มากมาย, สุดสายตา, See also: boundlessness n.
bourn(เบิร์น) n. ลำธารสายเล็ก, ขอบเขต, เป้าหมาย
bourne(เบิร์น) n. ลำธารสายเล็ก, ขอบเขต, เป้าหมาย
braid(เบรค) { braided.braiding, braids } vt. ถักผม, ถักเปีย, ถักสาย, เล็ม, ขอบผ้า-n. สายถัก, เปีย, ดิ้นเงินดิ้นทอง, See also: braider เครื่องถัก, ผู้ถัก braiding การถัก, สิ่งที่ได้จากการถัก
brim { brimmedn. ขอบ, ริม, ปาก, ปีก vt. เต็มเปี่ยม, เต็มถึงขอบ vt. ใส่จนเต็มเปี่ยม
brimmingn. ขอบ, ริม, ปาก, ปีก vt. เต็มเปี่ยม, เต็มถึงขอบ vt. ใส่จนเต็มเปี่ยม
brims }n. ขอบ, ริม, ปาก, ปีก vt. เต็มเปี่ยม, เต็มถึงขอบ vt. ใส่จนเต็มเปี่ยม
brink(บริงคฺ) n ริม, ขอบ, ปาก, ระยะใกล้, ความจวนเจ, จุดปลาย
bullion(บูล'เยิน) n. ทองแท่ง, เงินแท่ง, ขอบลายทองหรือลายเงิน
bumper(บัม'เพอะ) { bumpered, bumpering, bumpers } n. คนหรือสิ่งที่กระทบ, เครื่องกันชน, เครื่องผ่อนคลายแรงกระทบ adj. อุดมสมบูรณ์อย่างผิดปกติ, มากผิดปกติ vt. เติมเต็มถึงขอบ, ดื่มอวยพรจากแก้วเหล้าที่เติมเต็มขอบ vi. ดื่มอวยพร
cadastraladj. แสดงขอบเขตหรือเส้นพรมแดนหรือที่ดินหรือภูมิภาค
cadre(คา'ดระ, แคด'รี) n. ฝ่ายบริหาร, นายทหารฝ่ายเสนาธิการ, โครงงาน, ขอบข่ายของงาน
circle { circledn. วงกลม, วงเวียน, วงแหวน, วัฎจักร, วงการ, ขอบเขต, บริเวณ, ปริมณฑล, อาณาจักร, ที่นั่งเป็นรูปวงกลม, โรงละครสัตว์, เส้นรอบวงที่แบ่งโลกออกเป็น2ส่วน, เส้นรุ้ง. vt. ล้อมรอบ, โคจรรอบ, หมุนรอบ vi. เคลื่อนเป็นรูปวงกลม, Syn. ring, cycle
circles }n. วงกลม, วงเวียน, วงแหวน, วัฎจักร, วงการ, ขอบเขต, บริเวณ, ปริมณฑล, อาณาจักร, ที่นั่งเป็นรูปวงกลม, โรงละครสัตว์, เส้นรอบวงที่แบ่งโลกออกเป็น2ส่วน, เส้นรุ้ง. vt. ล้อมรอบ, โคจรรอบ, หมุนรอบ vi. เคลื่อนเป็นรูปวงกลม, Syn. ring, cycle
circlingn. วงกลม, วงเวียน, วงแหวน, วัฎจักร, วงการ, ขอบเขต, บริเวณ, ปริมณฑล, อาณาจักร, ที่นั่งเป็นรูปวงกลม, โรงละครสัตว์, เส้นรอบวงที่แบ่งโลกออกเป็น2ส่วน, เส้นรุ้ง. vt. ล้อมรอบ, โคจรรอบ, หมุนรอบ vi. เคลื่อนเป็นรูปวงกลม, Syn. ring, cycle
circumscription(เซอคัมสคริพ'เชิน) n. การเขียนวงกลมรอบ, การจำกัดเขต, ขอบเขต, โครงร่าง, เส้นรอบวง, คำนิยาม, คำจำกัดความ, ลายริม, See also: circumscriptive adj.
cognizable(คอก'นิซะเบิล) adj. ซึ่งสามารถรับรู้หรือรู้ได้, ภายในขอบเขตอำนาจการพิจารณาของศาล, Syn. cognisable
cognizancen. การรับรู้, การยอมรับ, การสังเกต, คำสั่งศาล, อำนาจการพิจารณาคดี, อำนาจศาล, วงความรู้, ขอบข่ายของการสังเกต, Syn. cognisance
compass(คัม'พัส) { compassed, compassing, compasses } n. เข็มทิศ, เส้นรอบวง, เส้นล้อม, พื้นที่, เนื้อที่, ขอบเขต, อาณาเขต, อาณาจักร, ระยะ, ขอบเขตที่เหมาะสม, See also: compasses n., pl. วงเวียน adj. โค้ง. vt. เคลื่อนรอบ, โอบล้อม, ล้อม, เดินอ้อมรอบ, วางแผน, เข้าใจ. คำที่
confine(คันไฟน์') { confined, confining, confines } vt. ขีดขั้น, จำกัด, ตีวง, เก็บตัว, กักตัว n. ขอบเขต, การจำกัด, การเก็บตัว, คุก, สถานกักกัน., See also: confinable adj. ดูconfine confineable adj. ดูconfine, Syn. intern, imprision
conservative(คันเซอ'วะทิฟว) adj. ซึ่งอนุรักษ์ไว้, ซึ่งสงวนไว้, เกี่ยวกับการเก็บรักษา, ซึ่งมีขอบเขต, รอบคอบ, เกี่ยวกับพรรคConservative. n. นักอนุรักษ์นิยม, นักจารีตนิยม, ผู้รักษาสิ่งเก่า ๆ , สมาชิกพรรคคอนเซอวาตีฟ, ตัวกันบูด., See also: conservativeness n. คำที่มีความ
costa(คอส'ทะ, โคส'ทะ) n. ซี่โครง, เส้นกลางใบ, สัน, ริม, ขอบ, เส้นเลือดที่ปีกแมลง -pl. costae
coverage(คัฟ'เวอริจฺ) n. ขอบเขตที่การประกันภัยครอบคลุมถึง, เงินค้ำประกัน, เงินประกัน, การรายงานข่าวและการตีพิมพ์ข่าวหรือออกข่าว, ขอบเขตของการรายงานข่าว
curb(เคิร์บ) n. ขอบ, ขอบถนน, ขอบบ่อ, ริม, เครื่องเหนี่ยวรั้ง, สิ่งควบคุม vt. รั้งม้า, เหนี่ยวรั้ง, ควบคุม, ระงับ, กั้นขอบ, สร้างคันดิน., Syn. check
curbing(เคิร์บ'บิง) n. วัตถุที่สร้างเป็นขอบ, ขอบริม
deep(ดีพ) adj., adv. ลึก, ลึกล้ำ, ลึกซึ้ง, มาก, เหลือเกิน, ห่างไกล, อยู่ตามเส้นขอบ, มีใจจดจ่อ, ใจจริง n. ส่วนลึกของทะเล แม่น้ำ, ความกว้างใหญ่ไพศาล ส่วนที่เข้มข้นน้อยที่สุด
demesne(ดีเมน') n. การครอบครอง (ทรัพย์สิน) ที่ดินโดยเจ้าของที่ดิน, ที่ดินในครอบครอง , ขอบเขต, อาณาจักร
dialog boxกรอบสนทนาหมายถึงวินโดว์เล็ก ๆ มี ลักษณะเป็นกรอบสี่เหลี่ยมที่จะปรากฏขึ้นมาบนจอภาพเพื่อถามหาข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำคำสั่งไปปฏิบัติ เช่น ในโปรแกรมพิมพ์เอกสาร ถ้าสั่งเริ่มแฟ้มข้อมูลใหม่ ก็จะมีกรอบสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ถามว่าต้องการกำหนดหน้าเป็นขนาดใด กั้นขอบซ้าย ขวา บน ล่างเข้ามาเท่าใด มีจำนวนกี่หน้า เมื่อตอบคำถามต่าง ๆ แล้ว จึงกดปุ่ม OK กรอบสนทนานี้ก็จะหายไป พร้อมกับที่คอมพิวเตอร์นำความต้องการนั้นไปปฏิบัติ (อนึ่ง กรอบสนทนาจะปรากฏบนจอภาพทุกครั้งที่เลือกรายการคำสั่งที่มี....ตามหลัง เช่น คำสั่ง new... ใต้เมนู FILE)
domain(โดเมน') n. อาณาเขตการปกครอง, อาณาจักร, ที่ดินขอบเขต, กลุ่มของคำ (ในทางคณิตศาสตร์) ของตัวแปรอิสระของ function, See also: domainal, domainial adj., Syn. discipline
edge(เอดจฺ) n. ขอบ, ริม, ข้าง, เขตแดน, สัน, ด้านคมของใบมีด, ความคม, เหลี่ยม, เนินเขา, หน้าผา, ข้อได้เปรียบ, ตำแหน่งที่ดีกว่า vt. ทำให้คม, ใส่ขอบให้, เคลื่อนไปทางข้าง, ค่อย ๆ เคลื่อนไปทางข้าง. vi. เคลื่อนไปข้างหน้า -Phr. (edge out เอาชนะทีละนิด, เล็ม) คำที่มีความหมายเหมือ
edge tooln. เครื่องมือตัดขอบ, เครื่องมือมีคม
edger(เอด'เจอะ) n. เครื่องทำขอบ, เครื่องมือทำรอยบนขอบ
edgewaysadj. ไปทางขอบ, หันริมหรือคมออกนอก
edgewiseadj. ไปทางขอบ, หันริมหรือคมออกนอก
edging(เอด, 'จิง) n. การทำให้คม, การใส่ขอบ, การค่อย ๆ เคลื่อนไป, ริม, ขอบ, การประดับที่ขอบ

Nontri Dictionary
appreciative(adj) ซึ่งเห็นคุณค่า, รู้สึกขอบคุณ
architrave(n) ขอบประตู, ขอบหน้าต่าง
border(n) ริม, ขอบ, เขตแดน, ชายแดน, พรมแดน, อาณาเขต
bottomless(adj) ลึกมาก, หยั่งไม่ถึง, ไร้ขอบเขต
bound(n) ขอบเขต, บริเวณ, เขตแดน, อาณาเขต, ขอบข่าย
bound(vt) จำกัด, กำหนดขอบเขต
boundary(n) ขอบเขต, เขตแดน, บริเวณ, อาณาเขต
boundless(adj) ไม่มีขอบเขต, กว้างขวาง, ไม่มีที่สิ้นสุด, ไม่จำกัด
bourn(n) ลำธารเล็กๆ, ขอบข่ายงาน, วัตถุประสงค์, จุดหมาย, เป้าหมาย
bourne(n) ลำธารเล็กๆ, ขอบข่ายงาน, วัตถุประสงค์, จุดหมาย, เป้าหมาย
brim(n) ขอบ, ริม
brink(n) ปากขอบ, ริม
circle(n) วงกลม, วงแหวน, วงเวียน, บริเวณ, ขอบเขต, หมู่คณะ, การหมุนเวียน, วัฏจักร
circumference(n) เส้นรอบวง, ขอบ, ปริมณฑล, วง
circumscription(n) เส้นรอบวง, การจำกัดเขต, ขอบเขต, คำนิยาม
compass(n) เข็มทิศ, เส้นรอบวง, วงเวียน, ขอบเขต, เนื้อที่, ระยะ
confine(n) ขอบเขต, วงรอบ, การจำกัด, คุก, สถานกักกัน
confinement(n) การกักขัง, การจำกัดขอบเขต, การกักตัว, การคุมขัง
cuff(n) ขอบแขนเสื้อ, การชก, กุญแจมือ
curb(n) บังเหียน, เครื่องควบคุม, เครื่องเหนี่ยวรั้ง, ขอบถนน
curb(vt) กด, กั้นขอบ, ยั้ง, เหนี่ยวรั้ง, ระงับ
domain(n) ขอบเขต, คฤหาสน์, ที่ดิน, อาณาจักร
edge(n) ขอบ, ริม, ปาก, สัน, คมมีด, ข้าง, ความคม, เหลี่ยมเขา
edging(n) การขลิบริม, การแต่งขอบ, การทำให้คม, ขอบ
extent(n) อาณาเขต, ขอบเขต, ขนาด, การประเมินค่า
felloe(n) ขอบวงล้อ, ขอบล้อ
field(n) ทุ่ง, สนาม, ทุ่งหญ้า, ทุ่งนา, สนามรบ, สมรภูมิ, ขอบเขต, แผนก
frill(vt) ติดพู่ห้อย, มีครุย, จับจีบ, ประดับขอบ
fringe(n) ขอบผ้า, ตะเข็บ, ริมผ้า, กุ๊น, พู่
fringe(vt) อยู่ตามขอบ, ขึ้นรอบนอก, ขึ้นเป็นแนว
frontier(n) พรมแดน, ชายแดน, เขตแดน, ขอบเขต
grateful(adj) กตัญญู, ขอบคุณ, รู้คุณ, ปลื้มปีติ
gratitude(n) ความกตัญญู, ความรู้คุณ, การขอบคุณ
hedge(n) รั้ว, แนวพุ่มไม้, สิ่งกีดขวาง, เครื่องล้อม, ขอบแดน
hem(n) ชายผ้า, ขอบ, ริมผ้า
hem(vt) พับขอบ, เย็บริม, ปิดล้อม
horizon(n) สายตา, เส้นขอบฟ้า, ขอบเขต, วง, ตำแหน่ง, ระดับ
horizontal(adj) ทางเส้นขอบฟ้า, ตามแนวนอน, ตามขวาง, ตามพื้นราบ
illimitable(adj) ไม่มีขอบเขต, ไม่มีที่สิ้นสุด
immeasurable(adj) มากมาย, ไม่มีขอบเขต, ไม่สามารถวัดได้
incidence(n) การตกลงมา, แสงตกกระทบ, ขอบเขต, การบังเกิด, เหตุการณ์
infinite(adj) อสงขัย, ไม่จำกัด, ไม่มีขอบเขต, มากมาย, เหลือคณา
ken(n) ขอบเขต, สายตา
kingdom(n) อาณาจักร, ขอบเขต, วงการ, ปริมณฑล
limit(n) ขอบเขต, ขีดจำกัด, ข้อบกพร่อง
limit(vt) จำกัด, กั้นวง, ขีดวง, กำหนดขอบเขต
limited(adj) ถูกจำกัด, น้อย, มีขอบเขต, แคบ
limitless(adj) ไม่จำกัด, ไม่อั้น, มากมาย, ไม่มีขอบเขต
margin(n) ริมกระดาษ, จำนวนที่เกิน, ช่องว่าง, ขอบ, เงินทดรอง
marginal(adj) ตรงริม, ตรงขอบ, ร่อแร่, เกือบขาดทุน

Longdo Unapproved EN-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
bound(n) ขอบเขต
curtain call(n) เวลาที่ผู้แสดงออกมายืนหน้าเวทีหลังจบการแสดงเพื่อรับคำขอบคุณ
event horizonขอบฟ้าเหตุการณ์
imbricate[\IM-brih-kut\] (adj) ลวดลายที่ซ้อนทับกัน เช่น กระจกโบราณมีลายสี่เหลี่ยม"ซ้อนทับ"ที่ขอบ
much obliged(phrase) (ภาษาอังกฤษโบราณ แต่ก็ยังมีใช้กันอยู่) ขอบคุณ, เป็นคำแสดงความระลึกถึงบุญคุณของอีกฝ่าย
non-exclusive jurisdiction of court(n) ศาลที่่มีขอบเขตในการตัดสินคดีทั่่วไป
run the gamut(phrase) แสดงขอบเขตครอบคลุมครบถ้วน, ครอบคลุมตั้งแต่....จนถึง...., , See also: display, or perform the complete range of something., Syn. experience
Sovereign Prince(n) องค์อธิปัตย์ เป็นเจ้าชายซึ่งมีอำนาจปกครองราชรัฐในขอบขัณฑสีมาของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
thxย่อมาจากคำว่า thank แปลว่าขอบใจ
thxย่อมาจากคำว่า thank แปลว่าขอบใจ
thxย่อมาจากคำว่า thank แปลว่าขอบใจ
to the extent thatในขอบเขตที่ว่า

Longdo Approved JP-TH
すみません[すみません, sumimasen] (n) ขอโทษครับ/ค่ะ นอกเหนือจากนี้อาจใช้ในความหมายว่า ขอบคุณ เวลาที่คนอื่นต้องลำบากทำอะไรให้เรา
感謝[かんしゃ, kansha] (n, vt) ซาบซึ้ง, รู้สึกขอบคุณ
慰労会[いろうかい, iroukai] (n) งานเลี้ยงขอบคุณ
有難う[ありがとう, arigatou] (vt, conj) ขอบคุณ
範囲[はんい, han'i] (n) ขอบเขต

Longdo Unapproved JP-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Thank you very much[はんい, Thank you very much] (n, vt) ขอบคุณมาก
意味範[いみはん, imihan] (n) ขอบเขตของความหมาย
広範囲[こうはんい, kouhan'i] (n) ขอบข่ายกว้าง
[けん, ken] (n) ขอบเขต วง ข่าย
douitashimashite / どういたしまして / どう致しまして/ 如何致しまして[โดอิตะชิมะชิเตะ] (phrase) ไม่เป็นไร, ด้วยความยินดี (ตอบรับคำขอบคุณจากบุคคลที่เราให้ความช่วยเหลือ), See also: S. you are welcome, R. you are welcome, douitashimashite, どういたしまして, どう致しまして, 如何致しまして
厨房 ; 中坊 ; 中に病[จูโบ จูนิเบียว จูนิบโย chuubou chuububyou ちゅうにびょう ちゅうぼう] (n, slang) ความหมายโดยแท้จริง แปลว่า ครัว แต่เนื่องจากไปพ้องเสียงกับอีกคำแสลงอีกคำที่มีความหมายว่า เกรียน (ทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโต ก่อกวน หรือสร้างความรำคาญให้ผู้อื่น) คือ 中坊 (เด็กมัธยมต้น หรือ เด็กที่ไม่รู้จักโต) และในขั้นตอนเวลาพิมพ์คำว่า 中坊 มักจะไม่ออกมาให้เลือก ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จึงใช้คำ 厨房 ในเชิงคำแสลงว่า "เกรียน" แทนคำเดิมไปโดยปริยาย นอกจากนี้ยังมีคำว่า 中に病 (ちゅうにびょう)ซึ่งแปลว่า "โรคเด็กม.ต้น" ก็มีใช้ในความหมายเชิงว่า เกรียน ได้ด้วยเ่ช่นกัน (ขอบคุณข้อมูลจากเพจ "เรียนภาษาญี่ปุ่นกับโอมเซนเซ" ด้วยค่ะ)
有難い;有り難い[ありがたい, arigatai] (exp) "อยากขอบคุณ" ใช้ในเชิงความหมายว่า "ไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี"

Saikam JP-TH-EN Dictionary
恐れ入る[おそれいる, osoreiru] TH: ขอบคุณ  EN: Thank you

Longdo Approved DE-TH
Bereich(n) |der, pl. Bereiche| ขอบข่ายบริเวณหรือพื้นที่
Rahmen(n) |der, pl. Rahmen| กรอบ, ขอบเขต, เค้าโครง
ebenfallsด้วย, เช่นเดียวกัน เช่น Franz, schönes Wochenende! - Danke, ebenfalls. ฟร้านซ์ ขอให้มีวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ดีนะจ๊ะ - ขอบคุณ เช่นกันนะครับ, See also: auch, Syn. gleichfalls
Bereich(n) |der, pl. Bereiche| ขอบข่ายของงาน, ขอบข่ายทางวิชาการ
im Rahmen vonในขอบเขตของ, ในท้องเรื่อง
bitteไม่เป็นไร เป็นคำสุภาพใช้ตอบรับเวลาที่มีคนพูดขอบคุณ เช่น Vielen Dank. - Bitte (schön)!
Aufmerksamkeit(n) |die, pl. Aufmerksamkeiten| ความสนใจ, ความเอาใจใส่ เช่น Vielen Dank für Ihre Aufmerksamkeit! ขอบคุณมากสำหรับความสนใจของคุณ หรือ ขอบคุณมากที่คุณตั้งใจฟัง (มักใช้หลังจากผู้พูดจบการอภิปราย)
dankbar(adj) รู้สึกสำนึกในบุญคุณ, รู้สึกขอบคุณ เช่น Ich bin dafür sehr dankbar, was du für mich getan hast. ผมรู้สึกสำนึกในบุญคุณสำหรับทุกอย่างที่คุณทำให้ผมนะครับ
ausserhalb(prep) |+ G| นอกเหนือจากเวลาที่กล่าว หรือ นอกเหนือจากขอบเขตที่กล่าว เช่น Ausserhalb der Hochsaison ist es hier sehr ruhig., Unser Arzt ist auch ausserhalb der Sprechzeiten telefonisch erreichbar., Diese Befugnisse liegen ausserhalb meines Kompetenzbereichs., See also: A. innerhalb
sich bedanken(vt) |bedankte sich, hat sich bedankt| (+ bei jmdm für etw.) ขอบคุณ, ขอบใจ เช่น Er hat sich bei mir für meinen Rat bedankt. เขาขอบคุณฉันสำหรับคำแนะนำของฉัน, Syn. danken
danken(vt) |dankte, hat gedankt| (+ jmdm. für etw.) ขอบคุณ, ขอบใจ เช่น Er dankte mir für meinen Rat. เขาขอบคุณฉันสำหรับคำแนะนำของฉัน, Syn. sich bedanken
Balkon(n) |der, pl. Balkone/Balkons| เฉลียงหรือระเบียงบ้านที่อยู่นอกตัวบ้านและมีรั้วรอบขอบชิด โดยมากอยู่ชั้นบนของตัวอาคาร เช่น Gehen wir uns auf den Balkon setzen? เราไปนั่งบนระเบียงกันไหม, See also: Related: Terrasse
Terrasse(n) |die, pl. Terrassen| ลานหน้าบ้าน, ลานหลังบ้าน, เฉลียงหรือระเบียงบ้านที่อยู่ติดกับพื้นดิน(ไม่จำเป็นต้องมีรั้วกั้นเป็นขอบ) เช่น Im Urlaub haben wir uns auf der Terrasse im Hotel getroffen und zusammen gefrühstückt. เราเจอกันช่วงหยุดพักร้อนที่เฉลียงของโรงแรม และทานอาหารเช้าด้วยกัน, See also: Related: Balkon
Kante(n) |die, pl. Kanten| ขอบ เช่น Kante eines Steins ขอบของหิน

Longdo Approved FR-TH
merciขอบคุณ, ขอบใจ
Je vous en prie.(phrase) ไม่เป็นไร (ใช้ในกรณีที่มีคนขอบคุณเรา มีความหมายเท่ากับ You're welcome.ในภาษาอังกฤษ เป็นภาษาสุภาพ ถ้าพูดกับคนคุ้นเคยกันใช้ประโยคที่ว่า Je t'en prie!), Syn. De rien!, Il n'y a pas de quoi.
De rien!(phrase) ไม่เป็นไร, เป็นเรื่องเล็กน้อย (ใช้ในกรณีที่มีคนขอบคุณ), Syn. Je t'en prie!, Il n'y pas de quoi!, Je vous en prie.
Il n'y a pas de quoi.|อาจพูดสั้นๆได้ว่า pas de quoi!| ไม่เป็นไร (ใช้ในกรณีที่มีคนขอบคุณ), Syn. De rien!, Je t'en prie!, Je vous en prie.
excessif(adj) |f. -ive| มากเกินไป, เกินขอบเขต, เกินไป, เกินกว่าจะยอมรับได้ เช่น Vous êtes aussi excessif(ve) dans vos élans que dans vos courroux., See also: démesuré, énorme, extrême

Longdo Unapproved FR-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
la lettre de remerciement(s)(n) จดหมายแสดงความขอบคุณ

Time: 0.0629 seconds, cache age: 6.706 (clear)Longdo Dict -- https://dict.longdo.com/