ขาม้า | (n) pectoral fin, Syn. ครีบอกปลา, ตะเกียบ, Example: ปลาชนิดนี้มีขาม้าหลากสีเหมือนสีรุ้ง, Thai Definition: ครีบคู่ที่อยู่ตรงอกปลา |
มะขาม | (n) tamarind, See also: Tamarindus indica Linn., Syn. ต้นมะขาม, Example: ช้างจะข้ามแม่น้ำขึ้นไปฝั่งโน้น และหยุดให้เขาลงข้างต้นมะขามหน้าบ้าน, Count Unit: ต้น, Thai Definition: ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Tamarindus indica Linn. ในวงศ์ Leguminosae ฝักมีรสเปรี้ยว ใช้ปรุงอาหารและทำยาได้ |
เกรงขาม | (v) be in awe of, See also: venerate, fear, reverence, respect with fear, Syn. กลัวเกรง, กลัว, คร้าม, เกรง, Example: ดอนวิโตต้องเผชิญกับเจ้าพ่อชาวยิวที่เจ้าพ่อทุกคนเกรงขามในสติปัญญา, Thai Definition: ทั้งกลัวทั้งนับถือต่อผู้ที่อำนาจที่เหนือกว่า |
ต้นมะขาม | (n) tamarind tree, Example: มีคนไปขูดต้นมะขามใหญ่หน้าโรงงานเพื่อขอหวยกันเต็มไปหมด, Count Unit: ต้น |
ฝักมะขาม | (n) segment of a cart-wheel, See also: a piece stuck to the cart wheel, Count Unit: อัน, Thai Definition: ส่วนย่อยที่ต่อกันเป็นกงเกวียน |
ฝักมะขาม | (n) tamarind-pod-shaped club used as a weapon, Syn. ไม้ฝักมะขาม, Example: ไม้เท้าอันนี้ทำมาจากไม้ฝักมะขาม, Count Unit: อัน, Thai Definition: ไม้สำหรับตีหัวคน ยาวราวศอกเศษ รูปแบนคล้ายฝักมะขาม |
ฝักมะขาม | (n) tamarind pod, Example: ฝักมะขามที่แก่แล้วจะเป็นสีน้ำตาล, Count Unit: ฝัก, Thai Definition: ฝักของมะขาม |
ฝักมะขาม | (n) segment of a cart-wheel, See also: a piece of tamarind pod stuck to the cart wheel, Count Unit: อัน, Thai Definition: ส่วนย่อยที่ต่อกันเป็นกงเกวียน |
ฝักมะขาม | (n) tamarind pod, Example: ฝักมะขามที่แก่แล้วจะเป็นสีน้ำตาล, Count Unit: ฝัก, Thai Definition: ฝักของมะขาม |
ฝักมะขาม | (n) tamarind-pod-shaped club, Syn. ไม้ฝักมะขาม, Example: หัวหน้านักเลงส่งฝักมะขามให้ลูกน้องเพื่อใช้เป็นอาวุธเล่นงานฝ่ายตรงข้าม, Count Unit: อัน, Thai Definition: ไม้สำหรับตีหัวคน ยาวราวศอกเศษ รูปแบนคล้ายฝักมะขาม |
มะขามเทศ | (n) Manila tamarind, Example: เด็กๆ กำลังกินมะขามเทศจากฝักที่ร่วงอยู่ใต้ต้น, Count Unit: ต้น, ฝัก, Thai Definition: ชื่อไม้ต้นชนิด Pithecellobium dulce Benth. ในวงศ์ Leguminosae ลำต้นและกิ่งมีหนาม ฝักกินได้ |
น่าเกรงขาม | (v) terrify, See also: fill with terror, frighten greatly, alarm, owe, Syn. น่านับถือ, น่ายำเกรง, น่าเคารพ, น่าคร้ามเกรง, Example: ท่าทางขึงขังของพ่อน่าเกรงขามมาก, Thai Definition: มีลักษณะชวนให้กลัวเกรงเพราะความใหญ่โตหรือความสง่า |
น่าเกรงขาม | (adj) imposing (e.g. personage), See also: dignified, prestigious, Syn. น่ายำเกรง, น่าคร้ามเกรง, Example: พ่อมีลักษณะน่าเกรงขาม ใครๆ เห็นก็เกรงกันไปหมด, Thai Definition: ที่มีลักษณะชวนให้กลัวเกรงเพราะความใหญ่โตหรือความสง่า |
ความเกรงขาม | (n) respectability, Syn. ความเกรงกลัว, ความครั่นคร้าม, Example: สมาชิกพรรคหลายต่อหลายคนให้ความเกรงขามต่อหัวหน้าพรรค |
เอาใจเขามาใส่ใจเรา | (v) be considerate, See also: be thoughtful, Example: ผู้ปกครองควรสั่งสอนให้เด็กเอาใจเขามาใส่ใจเรา และไม่ควรทำร้ายผู้อื่น, Thai Definition: นึกถึงความรู้สึกของผู้อื่นเมื่อเราจะทำอะไรกับเขา |
เกรงขาม | ก. คร้าม, เกรง. |
ขาม้า | น. ครีบคู่ที่อยู่ตรงอกปลา, ตะเกียบ ก็เรียก. |
ขาม ๑ | ก. คร้าม, เกรง, มักใช้เข้าคู่กับคำ เกรง เป็น เกรงขาม. |
ขาม ๒ | น. มะขาม. |
เขามอ | น. เขาจำลองที่ทำไว้ดูเล่นในบ้านเป็นต้น. |
เครือเขามวก | ดู เครือเขามวกขาว. |
เครือเขามวกขาว | น. ชื่อไม้เถาชนิด Parameria laevigata (Juss.) Moldenke ในวงศ์ Apocynaceae มียางเหนียวคล้ายกาว ใช้ทำยาได้, กระทั่งติด กุมาริกา เครือเขามวก ตังติด หรือ เถามวก ก็เรียก. |
ดอกมะขาม | น. ชื่อข้าวพันธุ์หนึ่ง สีเหลืองคล้ายดอกมะขาม. |
ฝักมะขาม | น. ไม้สำหรับตีหัวคน ยาวราวศอกเศษ รูปแบนคล้ายฝักมะขาม เรียก ไม้ฝักมะขาม |
ฝักมะขาม | ส่วนย่อยที่ต่อกันเป็นกงเกวียน. |
พญาขามป้อม, พญามะขามป้อม | น. ชื่อไม้ต้นพวกเมล็ดเปลือยชนิด Cephalotaxus griffithii Hook.f. ในวงศ์ Cephalotaxaceae, มะขามป้อมดง ก็เรียก. |
พญาขามป้อม, พญามะขามป้อม | ชื่อไม้ต้นพวกเมล็ดเปลือยชนิด Dacryarpus imbricatus (Blume) de Laub. ในวงศ์ Podocarpaceae. |
มะขาม | น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Tamarindus indica L. ในวงศ์ Leguminosae ฝักมีรสเปรี้ยว ใช้ปรุงอาหารและทำยาได้, พันธุ์ฝักแบนใหญ่เรียก มะขามกระดาน, พันธุ์ฝักเล็กเรียก มะขามขี้แมว, พันธุ์ฝักมีรสหวานเรียก มะขามหวาน. |
มะขามแขก | น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Senna alexandriana Mill. ในวงศ์ Leguminosae ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย ๓-๗ คู่ ดอกสีเหลือง ฝักแบน รูปรีหรือรูปคล้ายไต ใบและฝักใช้ทำยา. |
มะขามแขก | ดู ระกำ ๑. |
มะขามคราบหมู | น. มะขามฝักที่จวนจะแก่. |
มะขามเทศ | น. ชื่อไม้ต้นชนิด Pithecellobium dulce (Roxb.) Benth. ในวงศ์ Leguminosae ลำต้นและกิ่งมีหนาม ฝักกินได้. |
มะขามเปียก | น. เนื้อมะขามเปรี้ยวที่แก่เกราะ นำมาปั้นเป็นก้อนเก็บไว้ใช้ปรุงอาหาร. |
มะขามป้อม | น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Phyllanthus emblica L. ในวงศ์ Euphorbiaceae ผลกลม รสเปรี้ยวฝาด เมล็ดแข็ง ผลใช้ทำยาได้. |
มะขามป้อมดง | ดู พญาขามป้อม, พญามะขามป้อม (๑). |
ส้มมะขาม | น. เนื้อในมะขามเปรี้ยวที่แก่จัด ซึ่งใช้เป็นเครื่องปรุงอาหารให้มีรสเปรี้ยว, ถ้าปั้นเป็นก้อนเรียก มะขามเปียก. |
เอาใจเขามาใส่ใจเรา | ก. ให้รู้จักเห็นใจผู้อื่น. |
เอาลูกเขามาเลี้ยงเอาเมี่ยงเขามาอม | ก. เอาลูกของคนอื่นมาเลี้ยงเป็นลูก เป็นภาระรับผิดชอบที่หวังผลตอบแทนแน่นอนไม่ได้. |
กกุธภัณฑ์ | (กะกุดทะ-) น. สัญลักษณ์สำคัญแห่งความเป็นพระมหากษัตริย์ คือ ๑. พระมหาพิชัยมงกุฎ ๒. พระแสงขรรค์ชัยศรี ๓. ธารพระกรชัยพฤกษ์ ๔. วาลวีชนี (พัดกับแส้) ๕. ฉลองพระบาท รวมเรียกว่าเบญจราชกกุธภัณฑ์ ทั้งนี้ บางสมัยใช้เครื่องราชกกุธภัณฑ์แตกต่างกัน เช่น ใช้ฉัตรแทนพระมหาพิชัยมงกุฎ.(ป. กกุธ ว่า เครื่องหมายความเป็นพระราชา + ภณฺฑ ว่า
ของใช้; ระบุไว้ในอภิธานัปปทีปิกา คาถาที่ ๓๕๘ ว่า พระขรรค์ ฉัตร อุณหิส ฉลองพระบาท วาลวีชนี คือ มีฉัตรแทนธารพระกร; ในจดหมายเหตุบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๒ มีทั้งฉัตรและธารพระกร พระแสงขรรค์ พระแสงดาบ วาลวีชนี พระมหาพิชัยมงกุฎ และฉลองพระบาท รวมเป็น ๗ สิ่ง.วาลวีชนี ที่ปรากฏวัตถุเป็นพัดกับแส้จามรีนั้น แต่ก่อนเป็นพัดใบตาลอย่างที่เรียกว่า พัชนีฝักมะขาม ต่อมาท่านเห็นควรเป็นแส้จามรีจะถูกกว่า เพราะศัพท์ว่าวาลวีชนี หมายความเป็นแส้ขนโคชนิดหนึ่ง จึงสร้างแส้จามรีขึ้น แต่ก็ไม่อาจเลิกพัดใบตาลของเก่า เป็นอันรวมไว้ทั้ง ๒ อย่างในเครื่องที่เรียกว่า วาลวีชนี). |
กรอก ๑ | (กฺรอก) ว. แห้งจนคลอน, ใช้แก่หมากและฝักมะขาม ว่า หมากกรอก มะขามกรอก. |
กระดางลาง | ว. มรรยาทหยาบ, สัปดน, เช่น อ้ายเฒ่าแก่กากกลีกระดางลาง ยังมันนี้ใครเขามีบ้างที่เมืองคน (ม. ร่ายยาว ชูชก). |
กระดูกอึ่ง | และชนิด Dicerma biarticulatum (L.) DC. ชอบขึ้นตามไหล่ทางที่ตัดผ่านทุ่งนา สูงประมาณ ๑ เมตร ใบเล็กคล้ายใบมะขาม ดอกสีม่วง. |
กระทั่งติด | ดู เครือเขามวกขาว. |
กระมึน | ว. ทะมึน, มีลักษณะดำมืดสูงใหญ่น่าเกรงขาม, เช่น กายาศีรษะพลัดพราย หัวขาดเด็ดตาย จรลู่กระมึนเหมือนเขา (เสือโค, บางฉบับเป็น ตระหมื้น), ตระมึน หรือ ตระมื่น ก็ใช้, โดยมากใช้ว่า ทะมื่น. |
กลม ๒ | อ้วน เช่น เขามีสุขภาพดีขึ้นจนดูกลมไปทั้งตัว |
กะตั้ก, กะตั้ก ๆ | น. กองใหญ่, จำนวนมากมาย, เช่น เขามีเงินเป็นกะตั้ก ๆ. |
กะตังกะติ้ว ๑ | น. นํ้ายางที่ได้จากไม้เถาหลายชนิดในวงศ์ Apocynaceae เช่น เครือเขามวกขาว [ Parameria laevigata (Juss.) Moldenke ] กะตังกะติ้วหรือคุยช้าง ( Willughbeia edulisRoxb.) และตังติ้ว [ Urceola lucida (Wall. ex G. Don) Kurz ] . |
กะเทาะ | น. สิ่งของหรือเปลือกไม้ที่หลุดล่อนออกมาจากพื้นเดิมหรือจากต้น เช่น กะเทาะมะขาม. |
กาน | ก. ตัดเพื่อให้แตกใหม่ เช่น กานต้นมะขาม, ตัดเพื่อให้ลำต้นเปลา เช่น กานต้นสน |
กิ้งก่า | น. ชื่อสัตว์เลื้อยคลานหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Agamidae มีขนาดลำตัวต่าง ๆ กัน สันกลางของคอถึงลำตัวมีหนามแหลมจำนวนและขนาดต่างกัน เพศผู้มีสีเข้มและปรับสีได้ดีแตกต่างจากเพศเมีย ตัวและขามีเกล็ด ขาและนิ้วเล็กเรียว เล็บแหลมคม หางยาว ส่วนใหญ่อาศัยบนต้นไม้ เช่น กิ้งก่าบ้านหัวนํ้าเงิน ( Calotes mystaceus Dumeril & Bibron) กิ้งก่าเขา [ Acanthosaura armata (Hardwicke & Gray) ], อีสานเรียก ปอม กะปอม กะทั่ง หรือ กะท้าง. |
กุดจี่ | น. ชื่อแมลงพวกด้วงหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Scarabaeidae หัวแบน ขาแบน ด้านข้างขามีลักษณะเป็นหนามคล้ายฟันเลื่อย ลำตัวยาว ๐.๕-๖.๐ เซนติเมตร ส่วนใหญ่สีน้ำตาลเข้มหรือดำ อาศัยอยู่ตามมูลสัตว์ ปั้นมูลสัตว์เป็นก้อนเพื่อวางไข่ ตัวเต็มวัยเมื่อถูกตัวมักทำเสียงดังฉู่ฉี่ บางครั้งจึงเรียก ตัวฉู่ฉี่หรือด้วงจู้จี้ ชนิดที่พบบ่อย เช่น Onitis subopacusArrow, Onthophagus seniculus Fabricius พบทุกภาค, กุดจี่ที่มีขนาดใหญ่ เช่น กุดจี่ขี้ช้างหรือด้วงขี้ช้าง ( Heliocopris dominus Bates) พบมากในภาคเหนือและภาคอีสาน, จี่ ก็เรียก. |
กุมาริกา | ดู เครือเขามวกขาว. |
กุย ๑ | น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิด Saiga tatarica (Linn.) ในวงศ์ Bovidae เป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง หัวใหญ่ ตัวอ้วน มีเขาเฉพาะตัวผู้ รูปร่างคล้ายพิณฝรั่ง สีขาวนวลโปร่งแสง มีวงเป็นข้อนูนต่อเนื่องกันจากโคนถึงปลาย จมูกลักษณะคล้ายกระเปาะ พองมีสันตามยาว หางสั้นมาก มีถิ่นกำเนิดในแถบไซบีเรียตอนใต้ มองโกเลียตะวันตก และจีนตะวันตกเฉียงเหนือ ไม่พบในประเทศไทย เขามีราคาแพง ใช้ทำยาได้. |
เกราะ ๓ | (เกฺราะ) ว. แห้งจนกรอบในลักษณะอย่างหญ้าแห้งหวายแห้งเป็นต้น เช่น ฟางแห้งเกราะ มะขามเกราะ. |
แกงส้ม | น. แกงพวกหนึ่ง มีลักษณะคล้ายแกงเผ็ด แต่ไม่ใส่เครื่องเทศ กะทิ หรือ นํ้ามัน มีรสเปรี้ยวด้วยนํ้าส้มมะขาม ใช้ผัก ผลไม้ หรือ ดอกไม้บางอย่าง เป็นต้น แกงกับกุ้งหรือปลา เรียกชื่อตามสิ่งนั้น ๆ เช่น แกงส้มผักกาดขาว แกงส้มมะละกอ แกงส้มดอกแค. |
แกะ ๑ | น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในสกุล Ovis วงศ์ Bovidae เป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องรูปร่างคล้ายแพะ แต่ไม่มีเครา มีเขา ๑ คู่ ไม่ผลัดเขา มีขนาดใหญ่โค้งงอ ปลายบิดไปข้างหน้า โคนเขาถึงประมาณกลางเขามีวงนูนลักษณะคล้ายพาลี ขนบนลำตัวยาวและอ่อนนุ่ม ใช้ทำเครื่องนุ่งห่ม ชนิดที่นำเลี้ยง ได้แก่ ชนิดย่อย Ovis amon aries Linn. |
โกรกหวัด | ก. เอาน้ำต้มหัวหอม ใบมะขามอ่อน และใบส้มป่อย เป็นต้น รดหัวเพื่อแก้หวัด, โกรกหัว ก็ว่า. |
โกรกหัว | ก. เอาน้ำต้มหัวหอม ใบมะขามอ่อน และใบส้มป่อย เป็นต้น รดหัวเพื่อแก้หวัด, โกรกหวัด ก็ว่า. |
ขอขมา, ขอขมาลาโทษ | ก. ขอไม่ให้เอาโทษในสิ่งที่ได้ล่วงละเมิดหรือล่วงเกิน เช่น เขามาขอขมาญาติผู้ใหญ่เพื่อลาบวช, ขอษมา หรือ ขอษมาลาโทษ ก็ว่า. |
ขอบอกขอบใจ | ก. ขอบใจมาก เช่น เขามาช่วยงานหลายงานแล้ว ต้องไปขอบอกขอบใจเสียหน่อย. |
ขัน ๒ | ว. แข็งแรง, กล้าหาญ, เช่น กูนี้คนขัน จะขามคนใด (สมุทรโฆษ). |
ขาย | ก. เอาของแลกเงินตรา, โอนกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินให้แก่กันโดยตกลงกันว่าผู้รับโอนจะใช้ราคาแห่งทรัพย์สินนั้น มีหลายลักษณะ คือ ชำระเงินในขณะที่ซื้อขายกัน เรียกว่า ขายเงินสด, ขายโดยยอมเก็บเงินอันเป็นราคาของในวันหลัง เรียกว่า ขายเชื่อ, (เลิก) เอาเงินเขามาโดยยอมตนเข้ารับใช้การงานของเจ้าเงิน เรียกว่า ขายตัวลงเป็นทาส. |
ขี้ปาก | น. คำที่เอาอย่างเขามาพูด |
ขี้แมว ๒ | น. ชื่อมะขามพันธุ์ฝักเล็ก. (ดู มะขาม). |
เขียนเสือให้วัวกลัว | ก. ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งเสียขวัญหรือเกรงขาม. |
Senna | มะขามแขก [TU Subject Heading] |
Tamarindus indica | มะขาม [TU Subject Heading] |
Dean (หรือ Doyen) of the Diplomatic Corps | หัวหน้า (Dean) ของคณะทูตานุทูตในนครหลวงของประเทศใดก็ตาม ได้แก่ ตัวทูตที่อาวุโสที่สุด (คือเป็นทูตอยู่ในประเทศนั้นๆ เป็นเวลานานที่สุด) ตัวหัวหน้าคณะทูตานุทูตจะมีลำดับอาวุโสเหนือทุกคนในคณะทูตานุทูต ทำหน้าที่เป็นโฆษกของคณะทูตเมื่อถึงความจำเป็น และเป็นผู้ดูแลและคุ้มครองบรรดาเอกสิทธ์และความคุ้มกันทางการทูตที่คณะ ทูตานุทูตมีอยู่ แต่หน้าที่ที่แท้จริงนั้น โดยมากเกี่ยวกับเรื่องพิธีการทูตมากกว่า อาทิเช่น เมื่อถึงวันที่ระลึกครบรอบวันเกิดประมุขของรัฐ (เช่นวันเฉลิมพระชนมพรรษาในประเทศไทย) Dean ของคณะทูตจะเป็นผู้กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสดังกล่าวในนามของคณะทูตทั้งหมด แต่การที่จะเรียกหรือขอให้บุคคลในคณะทูตไปประชุมเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง นั้น เป็นสิ่งที่ Dean ไม่พึงกระทำ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีผู้แทนทางการทูตคนใดไปร่วมการประชุมระหว่างบุคคลในคณะทูตด้วยกัน เกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศโดยมิได้รับคำสั่งโดยเฉพาะจากรัฐบาลของตนก่อน ภริยาของ Dean หรือ Doyen นั้นเรียกว่า Doyenneเมื่อหัวหน้าคณะทูตวายชนม์ขณะที่ดำรงตำแหน่งอยู่ บุคคลในคณะทูตที่มีอาวุโสรองลงมาหรือเป็นบุคคลที่สองจะเป็นผู้รับช่วงงาน ทันที และมีตำแหน่งเรียกว่า อุปทูตชั่วคราว (Chargé d?Affaires ad interim) ทั้งจะต้องดูว่า เอกสารทางราชการต่าง ๆ โดยเฉพาะเอกสารลับหรือปกปิด จะไม่ทิ้งรวมอยู่กับ เอกสารส่วนตัวของทูตผู้วายชนม์อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทาง การทูต ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1961 จากการประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับการติดต่อและความคุ้มกันทางการทูต ได้บัญญัติไว้ว่า?ข้อ 39 (3) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามี สิทธิที่จะได้รับไปจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป(4) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว ให้รัฐผู้รับอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่ส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้ามในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในคราอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดกและการรับมรดกนั้น ๆ ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับ เพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่ฝ่ายเดียวของผู้วายชนม์ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทนอนึ่ง อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1963 ได้บัญญัติไว้ว่า ?ข้อ 51 ในกรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล หรือของคนในครอบครัว ซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว รัฐผู้รับ(ก) จะอนุญาตให้ส่งออกซึ่งสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ โดยมีข้อยกเว้นแก่ทรัพย์สินเช่นว่า ทรัพย์ใด ๆ ที่ได้มาในรัฐผู้รับนั้น ซึ่งการส่งออกของทรัพย์ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลดังกล่าวถึงแก่มรณกรรม(ข) จะไม่เรียกเก็บอากรกองมรดก อากรสืบช่วงมรดกหรืออากรรับมรดก และอากรการโอน ไม่ว่าจะเป็นอากรของชาติ ของภูมิภาค หรือของเทศบาล จากสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการที่สังหาริมทรัพย์นั้นอยู่ในรัฐผู้รับก็เนื่องมาแต่ฝ่ายเดียว จากการที่ผู้วายชนม์อยู่ในรัฐนั้นฐานะบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุลหรือใน ฐานะคนในครอบครัวของบุคคลในที่ทำการกงสุล? ?ข้อ 53(5) กรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล คนในครอบครัวซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว จะคงได้รับอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ได้ประสาทให้แก่ตนต่อไป จนกว่าตนจะออกไปจากรัฐผู้รับ หรือจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะสามารถให้ตนกระทำดังนั้นได้ แล้วแต่ว่าเวลาไหนจะมาถึงก่อนกัน? [การทูต] |
Duration of Diplomatic Privileges and Immunities | ระยะเวลาของการอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทาง การทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตราที่ 39 ว่า?1. บุคคลทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน ที่จะได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันนั้นตั้งแต่ขณะที่บุคคลนั้นเข้ามาใน อาณาเขตของรัฐผู้รับในการเดินทางไปรับตำแหน่งของตน หรือถ้าอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับแล้ว ตั้งแต่ขณะที่ได้บอกกล่าวการแต่งตั้งของตนต่อกระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน 2. เมื่อภารกิจหน้าที่ของบุคคล ซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันยุติลง เอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามปกติให้สิ้นสุดลงขณะที่บุคคลนั้นออกไปจากประเทศ หรือเมื่อสิ้นกำหนดอันสมควรที่จะทำเช่นนั้น แต่จะยังมีอยู่จนกระทั่งเวลานั้น แม้ในกรณีของการขัดแย้งด้วยอาวุธ อย่างไรก็ดี ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่ได้ปฏิบัติไปโดยบุคคลเช่นว่านั้น ในการปฏิบัติการหน้าที่ของตนในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน ความคุ้มกันนั้นให้มีอยู่สืบไป 3. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามีสิทธิที่จะได้สืบไป จนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป 4. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นอยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว รัฐผู้รับสามารถอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่การส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดก และการรับมรดกนั้น ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับเพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่เพียงถ่ายเดียวของผู้วายชนม์ ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน หรือในฐานะเป็นคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน? [การทูต] |
Waiver of Immunity | การสละความคุ้มกันทางการทูต ในเรื่องนี้บางประเทศออกกฎไว้ว่า ความคุ้มกันจากอำนาจทั้งทางแพ่งหรืออาญาของผู้แทนทางการทูตที่ประจำอยู่ใน ประเทศผู้รับ ตามที่กฎหมายระหว่างประเทศได้มอบให้ รวมทั้งคณะเจ้าหน้าที่ทางการทูตและบุคคลในครอบครัวของเขานั้น ย่อมสละมิได้ นอกจากจะได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่าง ประเทศของผู้นั้น เหตุผลของการออกกฎข้อนี้เป็นเพราะเขาถือว่า ความคุ้มกันนั้นมิได้เกี่ยวกับตัวเจ้าหน้าที่โดยตรงหากแต่เกี่ยวกับตำแหน่ง หน้าที่ของเขามากกว่าเรื่องการสละความคุ้มกันข้างต้น อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตรา 32 ว่า?1. ความคุ้มกันจากอำนาจศาลของตัวแทนทางการทูตและของบุคคลที่อุปโภคความคุ้มกัน ภายใต้ขอ้ 37 อาจสละได้โดรัฐผู้ส่ง 2. การสละต้องเป็นที่ชัดแจ้งเสมอ 3. การริเริ่มคดีโดยตัวแทนทางการทูต หรือโดยบุคคลที่อุปโภคความคุ้มกันจากอำนาจศาลภายใต้ข้อ 37 จะกันตัวแทนทางการทูตหรือบุคคลนั้นจากการอ้างความคุ้มกันของอำนาจศาล ในส่วนที่เกี่ยวกับการฟ้องแย้งที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเรียกร้องสิทธิ สำคัญนั้น 4. การสละความคุ้มกันจากอำนาจศาลในส่วนที่เกี่ยวกับคดีแพ่งหรือคดีปกครอง ไม่ให้ถือว่ามีนัยเป็นการสละความคุ้มกันในส่วนที่เกี่ยวกับการบังคับคดีตาม คำพิพากษา ซึ่งจำเป็นต้องมีการสละต่างหากอีก? [การทูต] |
Fine Motor Skill | การเคลื่อนไหวที่ละเอียดซับซ้อน, ทักษะการเคลื่อนไหวของลำตัวแขนขามือ [การแพทย์] |
dicotyledon [ dicot ] | พืชใบเลี้ยงคู่, พืชที่มีใบเลี้ยง 2 ใบในระยะเอ็มบริโอ เป็นพืชที่มีลำต้นไม่เป็นปล้อง เส้นใบเป็นร่างแห กลุ่มท่อลำเลียงเป็นระเบียบ มีระบบรากแก้ว เช่น ถั่ว มะขาม มะม่วง เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
Multidisciplinary Team Work | นักวิชาชีพหลายสาขามาร่วมกันปฏิบัติ [การแพทย์] |
ใบมะขาม | [bai makhām] (n, exp) EN: tamarind leave FR: feuille de tamarinier [ f ] |
ใบมะขามอ่อน | [bai makhām øn] (n, exp) EN: young tamarind leaves |
ดอกมะขาม | [døk makhām] (n, exp) EN: tamarind flower FR: fleur de tamarinier [ f ] |
ฝักมะขาม | [fakmakhām] (n) EN: segment of a cart-wheel |
ฝักมะขาม | [fakmakhām] (n) EN: tamarind-pod-shaped club |
ฝักมะขาม | [fakmakhām] (n) EN: tamarind pod |
ขาม | [khām] (v) EN: be afraid of ; fear FR: craindre ; avoir peur (de) |
เขามอ | [khaomø] (n) EN: small hill FR: colline [ f ] |
เขามออีแดง | [khaomø Ī Daēng] (n, prop) EN: Maw I Daeng |
เกรงขาม | [krēngkhām] (v) EN: stand in awe of FR: éprouver de la crainte |
เกรงขาม | [krēngkhām] (adj) EN: solemn ; dignified ; grave ; stately FR: solennel ; digne ; majestueux |
มะขาม | [makhām] (n) EN: tamarind ; Indian date FR: tamarin [ m ] |
มะขามเปียก | [makhām pīek] (n, exp) EN: ripe tamarind |
มะขามป้อม | [makhāmpøn] (n) EN: Emblic Myrabolan ; Malacca Tree ; Indian Gooseberry ; Amala Plant ; Amalak Tree |
มะขามเทศ | [makhāmthēt] (n) EN: Manila tamarind |
มะขามเทศด่าง | [makhāmthēt dāng] (n, exp) EN: ? FR: ? |
น่าเกรงขาม | [nākrēngkhām] (adj) EN: awful ; impressive ; powerful ; formidable ; awe-inspiring FR: terrible |
น้ำส้มมะขาม | [nāmsom makhām] (n, exp) EN: tamarind juice FR: jus de tamarin [ m ] |
นกไต่ไม้ท้องสีเม็ดมะขาม | [nok taimāi thøng sī met makhām] (n, exp) EN: Chestnut-bellied Nuthatch FR: Sittelle à ventre marron [ m ] ; Sittelle de l’Inde [ f ] ; Sittelle à ventre brun [ f ] |
ส้มมะขามเปียก | [som makhām pīek] (n, exp) EN: tamarind juice |
ต้นมะขาม | [ton makhām] (n) EN: tamarind tree FR: tamarinier [ m ] |
awe | (n) ความน่าเกรงขาม, See also: ความกลัวเกรง, Syn. reverence, reverential fear, dread |
awe | (vt) ทำให้เกรงขาม, See also: ทำให้กลัว, ทำให้เกรงกลัว, Syn. inspire awe in |
daunt | (vt) ทำให้กลัว, See also: ทำให้เกรงขาม, ทำให้กังวลใจ, Syn. frighten, horrify |
formidable | (adj) ซึ่งน่าเกรงขาม |
grand | (adj) น่าเกรงขาม, See also: เป็นที่เคารพ, ซึ่งมีอำนาจ, Syn. significant, Ant. insignificant |
majestic | (adj) สูงส่ง, See also: น่าเคารพนับถือ, น่าเกรงขาม, ซึ่งมีอำนาจ, Syn. royal, regal, dignified |
majestically | (adv) อย่างสง่าผ่าเผย, See also: อย่างน่าเกรงขาม, อย่างน่าเคารพนับถือ |
Manila tamarind | (n) มะขามเทศ |
mesa | (n) ภูเขามียอดแบนและลาดชันด้านข้างแถบตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา, Syn. plateau, tableland |
mountainous | (adj) เต็มไปด้วยภูเขา, See also: ซึ่งมีภูเขามาก |
senna | (n) พืชลำต้นอ่อนจำพวก Cassia, See also: มะขามแขก, ยาระบายที่ประกอบด้วยใบมะขามแขก |
tamarind | (n) ต้นมะขาม |
tamarind | (n) มะขาม |
terrible | (adj) น่ากลัว, See also: น่าเกรงขาม, สยองขวัญ, Syn. terrifying, frightening, fearful, Ant. happy, joyful |
talk down to | (phrv) พูดคุยกับ (บางคน / กลุ่ม) ราวกับว่าเขามีคุณค่าน้อยหรือฉลาดน้อยกว่า, See also: พูดดูถูก, Syn. play down to |
awe | (ออ) n. ความน่าเกรงขาม, ความน่าสะพรึงกลัว, ความกลัว -vt. ทำให้กลัว, ทำให้เกรง |
chunk | (ชังคฺ) n. ก้อนหนา, ม้าที่แข็งแรง, สัตว์ที่แข็งแรง, ชายมะขามข้อเดียว, ชายอ้วนเตี้ย, ชายที่แข็งแรงล่ำสัน |
chunky | (ชัง'คี) adj. มะขามข้อเดียว, อ้วนเตี้ย, แข็งแรงล่ำสัน, See also: chumkily adv. ดูchunky |
derivative | (ดีริฟ'วะทิฟว) adj., n. (สิ่งที่, คำ) ซึ่งได้มาจากที่อื่น, เป็นอนุพันธุ์, ซึ่งแตกกิ่งสาขามา, ไม่ใช่ต้นฉบับ, อนุพันธุ์, Syn. derived |
majestic | (มะเจส'ทิค) adj. สง่าผ่าเผย, สูงส่ง, ตระหง่าน, มีอำนาจ, น่าเกรงขามและน่าเคารพนับถือ, ใหญ่โต, See also: majestically adv., Syn. grand, splendid |
moose | (มูส) n. กวางขนาดใหญ่ ตัวผู้มีเขามาก pl. moose |
sober | (โซ'เบอะ) adj. ไม่เมา, มีสติ, ปกติ, สุขุม, เยือกเย็น, เคร่งขาม, สงบเสงี่ยม, ไม่คุยโว, ไม่จินตนาการ, มีเหตุผล vt., vi. ทำให้หรือกลายเป็นไม่เมา (มีสติ, ปกติ...), See also: soberingly adv. soberly adv., Syn. moderate |
splint | (สพลินทฺ) n. แผ่นไม้เบา ๆ , แผ่นโลหะบาง, โครงสาน, แผ่นแตก, เฝือก, เฝือกต่อกระดูก, เครื่องดาม, เครื่องยึด, เนื้องอกที่กระดูกหน้าขาม้า. vt. เข้าเฝือก. |
tamarind | (แทม'มะรินด์) n. มะขาม |
terrible | (เทอ'ระเบิล) adj. น่ากลัว, น่าเกรงขาม, ร้ายแรง, สยองขวัญ, มหันต์, Syn. distressing |
trammel | (แทรม'เมิล) n. สิ่งกีดขวาง, อุปสรรค, ห่วงคล้องขาม้า, ตาข่ายจับปลา, จับตก, ปลอกพันธนาการ, เครื่องวาดเป็นรูปวงรี, วงเวียนวาดรูปวงรี, ที่ค้ำจุนหม้อหรือกาน้ำเหนือเตาไฟ, โซ่ตรวน. vt. ขัดขวาง, ยับยั้ง, จับด้วยตาข่าย, ติดกับ., See also: trammeler, trammeller n. |
wyvern | (ไว'เวิร์น) n. มังกรสองขามีหางเป็นงูและปลายหางเป็นลูกศร เป็นตราที่พบบนโล่โบราณ, Syn. wivern |
awe | (n) ความกลัว, ความหวาดหวั่น, ความเกรงขาม, ความน่าสะพรึงกลัว |
awe | (vt) ทำให้กลัว, ทำให้ตกใจ, ทำให้เกรงขาม, ทำให้หวาดหวั่น |
awful | (adj) น่ากลัว, น่ายำเกรง, น่าเกรงขาม |
awfully | (adv) อย่างน่ากลัว, อย่างมาก, อย่างน่าเกรงขาม |
daunt | (vt) ทำให้หวาดหวั่น, ทำให้เกรงขาม, ทำให้กลัว, ขู่ขวัญ |
derivative | (adj) ซึ่งได้รับมา, ซึ่งแตกออกมา, ซึ่งแตกกิ่งก้านสาขามา |
formidable | (adj) น่ากลัว, น่าเกรงขาม, น่ายำเกรง, น่าสะพรึงกลัว |
hilly | (adj) มีภูเขามาก, เป็นเนิน, สูง, ชัน |
majestic | (adj) ใหญ่โต, ตระหง่าน, โอ่อ่า, สง่าผ่าเผย, สูงส่ง, น่าเกรงขาม |
majestical | (adj) ใหญ่โต, ตระหง่าน, โอ่อ่า, สง่าผ่าเผย, สูงส่ง, น่าเกรงขาม |
mountainous | (adj) มีภูเขามาก, สูง, ใหญ่โต |
rangy | (adj) มีภูเขามาก |
redoubtable | (adj) แข็งแรง, น่ากลัว, น่าเกรงขาม, กล้าหาญ, มีชื่อเสียง, เด่น |
stern | (adj) โหดเหี้ยม, เข้มงวด, รุนแรง, ดุร้าย, น่าเกรงขาม |
tamarind | (n) มะขาม |
tremendous | (adj) ใหญ่โต, น่าเกรงขาม, น่ากลัว, มหึมา |