ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: จิตใจ, -จิตใจ- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ กุศล | (n, adj, adv) การกระทำที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับจิตใจให้ดีขึ้น ปรับปรุงจิตใจให้ดีขึ้น มากกว่าทำความดีเฉย ๆ การกระทำใด ๆ หากทำแล้วมีผลต่อสภาวะจิตใจของตนเปลี่ยนไปในทางที่สูงขึ้น จึงเรียกว่ากุศล หากการกระทำดีนั้น ๆ ไม่ได้มีผลเปลี่ยนแปลงจิตใจตนเองเลย ไม่เรียกว่ากุศล แต่เรียกว่า กรรมดี โดยทั่วไป มักจะใช้คู่กันกับคำว่า บุญกุศล แต่คำว่า บุญ กับ กุศล ความหมายต่างกัน (เขียนก็ไม่เหมือนกันแล้วจะให้ความหมายเหมือนกันได้อย่างไร) ตัวอย่าง 1. นาย กอ เป็นคนรวย ชอบที่จะให้ทาน เพราะเขาหวังว่า การให้ทานของเขาจะส่งผลทำให้เขารวย ยิ่ง ๆ ขึ้นไป และอาจจะได้ไปสวรรค์ หลังจากที่เขาตายไป - อันนี้นาย กอ ทำกรรมดี หรือทำบุญ แต่ไม่ได้เกิดกุศลในจิต หรือเกิดขึ้นน้อยมาก เพราะเขาทำทานก็จริง แต่ไม่มีผลทำให้จิตใจของเขาวางลงจากความโลภ หรืออยากเลย 2. นาย ขอ เป็นคนชั้นกลาง เขาเห็นเด็กกำพร้ามากมายเกิดขึ้น เขาจึงรู้สึกอยากที่จะช่วยเหลือเด็กเหล่านั้น จึงประหยัดค่าใช้จ่ายของตัวเองมากขึ้น เพื่อที่จะให้ตัวเองมีเงินเหลือมากขึ้น เพื่อที่จะแบ่งไปบริจาคเด็กเหล่านั้น เพื่อที่เด็กเหล่านั้นจะได้โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดีต่อไป - อันนี้ นาย ขอ ทำทั้งกุศล และบุญ เพราะมีผลที่ทำให้เขาต้องประหยัด อดออมมากขึ้น และการประหยัดอดออมนี้เอง จะทำได้ก็คือต้องปล่อยวางความอยากของตนเอง และทำเพราะในใจเกิดจิตเมตตากรุณา |
|
| บังกล้อง | [บัง-กล้อง] (n) เป็นชื่อ ที่ เรียกแทน บุคคล ที่ มีคุณสมบัติ คือ กาก เกรียน เพี้ยน หลุดโลก มักชอบทำอะไร เพี้ยนๆ ไม่เหมือนคนอื่น ชอบการ fag เป็นชีวิตจิตใจ คติประจำใจ คือ สเต็ปอยู่ในไต |
| จิตใจ | (n) mind, See also: mind, heart, thoughts, spirit: mood, Syn. ใจ, อารมณ์ทางใจ, Ant. ร่างกาย, Example: จิตใจของหญิงสาวคนนี้ช่างงดงามจริงๆ | ทางจิตใจ | (adj) spiritual, See also: mental, Syn. ทางจิต, Ant. ทางร่างกาย, ทางกาย, Example: ยุคนี้เป็นยุคของการเรียกร้องความสงบทางจิตใจ | ชีวิตจิตใจ | (n) heart and soul, Syn. ความรู้สึกนึกคิด, Example: มนุษย์แต่ละคนย่อมมีชีวิตจิตใจ มีอารมณ์ และมีความคิดอ่าน | ชีวิตจิตใจ | (adv) wholeheartedly, See also: very, truly, absolutely, Syn. เป็นอย่างมาก, Example: เด็กชายชอบท่องป่าล่าสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ | ทารุณจิตใจ | (v) hurt, See also: distress, upset, Syn. ทำร้ายจิตใจ, Example: ภาพที่เห็นมันทารุณจิตใจวัยเด็กอย่างเขา | ทำร้ายจิตใจ | (v) hurt one's feeling, See also: grieve, sadden, distress, pain, upset, wound, Example: การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันเช่นนี้ย่อมทำร้ายจิตใจของผู้ถูกเปลี่ยนแปลงอย่างมาก, Thai Definition: ทำให้เสียใจ, ทำให้เจ็บปวดใจ |
| จิตใจ | น. ใจ, อารมณ์ทางใจ, (ปาก) กะจิตกะใจ. | กะเทย | น. คนที่มีอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง, คนที่มีจิตใจและกิริยาอาการตรงข้ามกับเพศของตน | กำลังใจ | น. สภาพของจิตใจที่มีความเชื่อมั่นและกระตือรือร้นพร้อมที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ทุกอย่าง. | กำลังภายใน | น. กำลังที่เร้นอยู่ภายใน, กำลังที่เกิดจากการฝึกจิต โดยเฉพาะในลัทธิเต๋าและพระพุทธศาสนาบางนิกาย เพื่อให้จิตใจกล้าแข็งจนสามารถทำสิ่งที่คนทั่วไปทำไม่ได้. | กินนรรำ | ชื่อกลบทชนิดหนึ่ง ตัวอย่างว่า ชะจิตใจไฉนนางระคางเขิน ปะพบพักตร์จะทักทายชม้ายเมิน ละเลิงเหลือจะเชื้อเชิญเผอิญอาย. | ข่มขืนใจ | ก. บังคับจิตใจหรือฝืนใจให้ต้องกระทำการหรืองดเว้นกระทำการ เช่น ข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่ หรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งเป็นความผิดต่อเจ้าพนักงาน. | ขวัญ | สิ่งที่ไม่มีตัวตน เชื่อกันว่ามีอยู่ประจำชีวิตของคนตั้งแต่เกิดมา ถ้าขวัญอยู่กับตัวก็เป็นสิริมงคล เป็นสุขสบายจิตใจมั่นคง ถ้าคนตกใจหรือเสียขวัญ ขวัญก็ออกจากร่างไป ซึ่งเรียกว่า ขวัญหาย ขวัญหนี ขวัญบิน เป็นต้น ทำให้คนนั้นได้รับผลร้ายต่าง ๆ, เรียกผู้ตกใจง่ายคือ เด็กหรือหญิงซึ่งมักจะขวัญหายบ่อย ๆ ว่า ขวัญอ่อน , และอนุโลมใช้ไปถึงสัตว์หรือสิ่งของบางอย่าง เช่น ช้าง ม้า ข้าว เรือน ฯลฯ ว่ามีขวัญเช่นเดียวกับคนเหมือนกัน, โดยปริยายหมายความว่า ยอดกำลังใจ เช่น ขวัญเมือง ว่า ยอดกำลังใจของเมือง | เข้าเงียบ | ก. ประพฤติสงบจิตใจอยู่ในที่สงัดตามลัทธิคริสต์ศาสนา. | เข้าถึง | ก. เข้าใจอย่างซาบซึ้ง เช่น เข้าถึงบท เข้าถึงวรรณคดี, เข้าใกล้ชิดสนิทสนมเพื่อจะได้รู้ซึ้งถึงชีวิตจิตใจและความต้องการเป็นต้น เช่น เข้าถึงประชาชน. | คนพิการ | น. คนที่มีความผิดปรกติหรือบกพร่องทางร่างกาย ทางสติปัญญาหรือทางจิตใจ. | ความเครียด | ลักษณะอาการที่สมองไม่ได้ผ่อนคลายเพราะคร่ำเคร่งอยู่กับงานจนเกินไป, ลักษณะอาการที่จิตใจมีอารมณ์บางอย่างมากดดันความรู้สึกอย่างรุนแรง. | ควิวควัง, ควิวควั่ง, ควิวคว่าง, ควิวคว้าง | (-คฺวัง, -คฺวั่ง, -คฺว่าง, -คฺว้าง) ก. หมุนคว้างจนใจหวิว ๆ, อาการที่จิตใจรู้สึกหวาดหวิว | ค่า | น. มูลค่าหรือราคาของสิ่งใด ๆ ทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม ที่มีประโยชน์ในทางใช้สอย แลกเปลี่ยน หรือทางจิตใจเป็นต้น บางอย่างก็ประเมินเป็นเงินได้ บางอย่างก็ประเมินเป็นเงินไม่ได้ เช่น ทองคำเป็นของมีค่า เวลามีค่ามาก | โฆษณาชวนเชื่อ | ก. เผยแพร่อุดมการณ์หรือความคิดเห็น ด้วยกลอุบายต่าง ๆ เพื่อโน้มน้าวจิตใจผู้อื่นให้เห็นคล้อยตาม. | จริต | (จะหฺริด) น. ความประพฤติ, กิริยาหรืออาการ, เช่น เสียจริต วิกลจริต, มักใช้ในทางไม่ดี เช่น ดัดจริต มีจริต, จริตจะก้าน ก็ว่า, ความประพฤติปรกติ, ความประพฤติที่หนักไปทางใดทางหนึ่ง อันเป็นปรกติอยู่ในสันดาน, แนวโน้มของจิตใจ, มี ๖ อย่าง คือ ราคจริต โทสจริต โมหจริต สัทธาจริต พุทธิจริต วิตกจริต. | จิตใต้สำนึก | น. ภาวะของจิตที่ไม่อาจรู้สึกได้ เพราะอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ. | จิตบำบัด | (จิดตะ-, จิด-) น. วิธีรักษาผู้ป่วยหรือผู้มีปัญหาทางด้านจิตใจด้วยวิธีที่จิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาสนทนากับผู้ที่มารับการรักษา เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุของโรคหรือปัญหาแล้วหาทางแก้ไข. | จิตแพทย์ | (จิดตะ-) น. แพทย์ผู้รักษาโรคทางจิตใจ ซึ่งมีอาการแสดงความรู้สึก ความคิด อารมณ์ หรือพฤติกรรมที่ผิดปรกติ. | จิตไร้สำนึก | น. ความคิด ความรู้สึก และแรงผลักดัน ซึ่งถูกกดเก็บไว้ภายในจิตใจโดยไม่รู้ตัว แม้จะพยายามนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก. | จิตเวชศาสตร์ | (จิดตะเวดชะ-) น. วิชาแพทย์แขนงหนึ่งที่เกี่ยวกับการศึกษาการตรวจรักษาและป้องกันโรคของจิตใจ เช่น โรคประสาท โรคจิต. | จินตนาการ | น. การสร้างภาพขึ้นในจิตใจ. | เจ้าเรือน | น. นิสัยซึ่งประจำอยู่ในจิตใจ เช่น มีโทสะเป็นเจ้าเรือน | ใจคอ | น. จิตใจ, อัธยาศัย, อารมณ์, บางทีใช้ในทางร้ายก็มี เช่น ใจคอจะทิ้งบ้านทิ้งช่องไปได้หรือ. | ช็อก | น. สภาวะที่ร่างกายเสียเลือดจนความดันเลือดต่ำมาก หรือถูกกระทบจิตใจอย่างรุนแรง หรือถูกกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน เป็นต้น จนทำให้เป็นลมหรือหมดสติในทันที. | ใช้กำลังประทุษร้าย | ก. ทำการประทุษร้ายแก่กายหรือจิตใจของบุคคล ไม่ว่าจะทำด้วยใช้แรงกายภาพหรือด้วยวิธีอื่นใด และหมายความรวมถึงการกระทำใด ๆ ซึ่งเป็นเหตุให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ไม่ว่าจะโดยใช้ยาทำให้มึนเมา สะกดจิต หรือใช้วิธีอื่นใดอันคล้ายคลึงกัน. | ซึ้ง ๒ | ว. รู้สึกเอิบอาบซาบซ่านแผ่ไปทั่วร่างกายและจิตใจ เช่น ภาพนี้มองดูซึ้ง ฟังเขาพูดแล้วรู้สึกซึ้งมาก. | ตราบาป | น. บาปติดตัว, ความรู้สึกว่าเป็นบาปซึ่งมีฝังอยู่ในจิตใจตลอดไป. | ถึงกัน | มีจิตใจสื่อถึง เช่น ๒ คนนี้เขาถึงกัน เกิดอะไรขึ้นกับคนหนึ่ง อีกคนหนึ่งก็รู้สึกได้เหมือนกัน. | ทำร้ายร่างกาย | น. เป็นฐานความผิดอาญา ที่ผู้กระทำทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น. | นมาซ | น. การปฏิบัติศาสนกิจในศาสนาอิสลามเพื่อชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ ปฏิบัติวันละ ๕ เวลา, ละหมาด ก็เรียก. | นาม, นาม- | สิ่งที่ไม่ใช่รูป คือ จิตใจ, คู่กับ รูป. | บั่นทอน | ก. ทำให้สั้นหรือลดน้อยลง เช่น บั่นทอนอายุ บั่นทอนกำลัง, ทำให้เสียกำลังใจ ในคำว่า บั่นทอนจิตใจ. | ประสาท ๑, ประสาท- ๑ | (ปฺระสาทะ-) น. ส่วนของร่างกาย มีลักษณะคล้ายเส้นใย มีหน้าที่นำคำสั่งและความรู้สึกไปสู่หรือออกจากสมองหรืออวัยวะส่วนอื่นของร่างกาย, โดยปริยายหมายความว่า จิตใจ, ความรู้สึก. | ผ่องแผ้ว | ว. เปล่งปลั่ง, บริสุทธิ์, สะอาดหมดจด, เช่น จิตใจผ่องแผ้ว. | ผ่องใส | ว. สุกใส, บริสุทธิ์, เช่น จิตใจผ่องใส, แจ่มใส, มีน้ำมีนวล, เช่น หน้าตาผ่องใส. | ผิวบาง | ว. แบบบาง, อ่อนแอ, ผู้ดี, ใช้โดยปริยายไปถึงจิตใจด้วย. | พลานามัย | วิชาว่าด้วยการรักษาสุขภาพของร่างกายและจิตใจ. | พลังจิต | น. ความเข้มแข็งของจิตใจ, อำนาจจิต. | พิษ, พิษ- | (พิดสะ-, พิด-) น. สิ่งที่ร้ายเป็นอันตรายแก่ร่างกายหรือให้ความเดือดร้อนแก่จิตใจ | เพรียงเมือง | ก. แทรกแซงบ่อนจิตใจชาวเมือง. | ฟอก | ก. ทำให้สะอาดหมดจด เช่น ฟอกผ้า ฟอกจิตใจ. | ฟั่นเฟือน | ว. หลงใหล, เคลิบเคลิ้ม, เผลอสติ, คุ้มดีคุ้มร้าย, เช่น มีสติฟั่นเฟือน จิตใจฟั่นเฟือน. | ไฟกิเลส | น. กิเลสที่เปรียบเสมือนไฟเพราะทำให้จิตใจเร่าร้อน ได้แก่ ราคะ โทสะ และโมหะ. | ภาวนา | (พาวะ-) น. การทำให้มีขึ้นให้เป็นขึ้นทางจิตใจ. | ภูมิธรรม | น. พื้นจิตใจที่มีคุณธรรม. | มนุษย-, มนุษย์ | (มะนุดสะยะ-, มะนุด) น. สัตว์ที่รู้จักใช้เหตุผล, สัตว์ที่มีจิตใจสูง, คน. | มนุษยศาสตร์ | (มะนุดสะยะ-, มะนุดสาด) น. วิชาว่าด้วยคุณค่าทางจิตใจและงานของคน มีศิลปะ วรรณคดี ประวัติศาสตร์ ภาษาศาสตร์ ศาสนา และปรัชญา. (ส. มนุษฺย + ศาสฺตฺร). | แม่พระ | เรียกผู้หญิงที่มีจิตใจเมตตาปรานีชอบช่วยเหลือผู้อื่นเป็นนิจ. | ไม่เต็มเต็ง, ไม่เต็มบาท | ว. บ้า ๆ บอ ๆ สติไม่สมบูรณ์, มีจิตใจใกล้ไปทางบ้า ๆ บอ ๆ, สองสลึงเฟื้อง หรือ สามสลึงเฟื้อง ก็ว่า. | ยาเสพติด | น. ยาหรือสารเคมีซึ่งเมื่อเสพหรือฉีดเข้าสู่ร่างกายติดต่อกันชั่วระยะเวลาหนึ่งก็จะติด ก่อให้เกิดพิษเรื้อรัง ทำให้ร่างกายและจิตใจเสื่อมโทรม เช่น ฝิ่น กัญชา เฮโรอีน ยานอนหลับ สุรา. |
| psychic; psychical | -จิต, -ใจ, -จิตใจ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | psychical; psychic | -จิต, -ใจ, -จิตใจ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | psychalgia | อาการปวดเหตุจิตใจ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | psyche | จิต, ใจ, จิตใจ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | psychogenic | ๑. -เกิดจากจิตใจ๒. -ทางจิตใจ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | lability | ๑. ความไม่คงตัว๒. ความกลับกลายง่าย (จิตใจ) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | solatium | ค่าสินไหมทดแทน (ความเสียหายทางจิตใจ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | sound | ๑. เสียง๒. เครื่องแยงตรวจ๓. หยั่ง๔. แข็งแรง (ร่างกาย), ปรกติ (จิตใจ) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | anorexia nervosa | โรคเบื่ออาหารเหตุจิตใจ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | mental cruelty | การทารุณจิตใจ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | cruelty | ๑. การกระทำทารุณโหดร้าย (ก. อาญา)๒. การทารุณจิตใจ (ของคู่สมรสอันเป็นเหตุหย่า) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | condition of the mind | สภาพจิตใจ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | vegetative | ๑. -เติบโตคล้ายผัก๒. -ทำงานนอกบังคับจิตใจ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | thym(o)- | ๑. ต่อมไทมัส๒. จิตใจ, อารมณ์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | thym(o)- | ๑. ต่อมไทมัส๒. จิตใจ, อารมณ์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | thymopathy | ๑. โรคต่อมไทมัส๒. โรคเกี่ยวกับจิตใจ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | heirlooms | ทรัพย์มรดกที่มีค่าทางจิตใจ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | nervous breakdown | ความเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| Affective Domain | ด้านจิตใจ [เทคโนโลยีการศึกษา] | Mental suggestion | การแนะนำจิตใจ [TU Subject Heading] | Mind and body | จิตใจและร่างกาย [TU Subject Heading] | Mind-body and relaxation fechnique | จิตใจและร่างกายกับเทคนิคการผ่อนคลาย [TU Subject Heading] | Peace of mind | ความสงบแห่งจิตใจ [TU Subject Heading] | Diplomatist หรือ Diplomat | ใช้กับราชการทุกคนที่ประจำทำงานในด้านทางการทูต ไม่ว่าจะประจำอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศ หรือในราชการต่างประเทศ คือ ในสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือในสำนักงานทางทูตอื่นๆในทรรศนะของ เซอร์แฮโรลด์ นิโคลสัน นักการทูตยอดเยี่ยมคนหนึ่งของอังกฤษ ได้ระบุไว้ว่า นักการทูตหรือ Diplomat จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ ยึดถือความเป็นจริง มีความแม่นยำ สงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น อารมณ์ดี มีความสงบเสงี่ยมและมีความจงรักภักดี ทั้งยังจะต้องเป็นผู้ที่มีสติปัญญา มีความรู้ มองเห็นการณ์ไกล มีความสุขุมรอบคอบ ใจดีกับแขกและผู้แปลกหน้า มีเสน่ห์ มีความอุตสาหะวิริยะ มีความกล้า และมีปฏิภาณในทำนองเดียวกัน Francoise de Callieres (1645-1717) นักการทูตชั้นเยี่ยมของฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นเอกอัครราชทูตประจำโปแลนด์ ซาวอย ฮอลแลนด์ บาวาเรีย และลอเรน ได้เขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่งชื่อว่า De la miniere avec les souverains เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการเจรจาทางการทูต ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังเป็นที่รับรองกันทั่วไปว่าเป็นหนังสือที่ดีเยี่ยมเล่ม หนึ่ง หรือเป็นจินตกวีนิพนธ์เรื่องการดำเนินการทูตกับเจ้าผู้ครองนคร (Princes) สมัยนั้นCallieres ได้วางมาตรฐานของนักการทูตไว้สูงมากเพราะเขาเห็นว่า ไม่มีงานราชการใด ๆ ที่จะยากยิ่งไปกว่าการเจรจา ในการเจรจานั้น ผู้เจรจาจะต้องสามารถมองเห็นเหตุการณ์ทะลุปรุโปร่ง หรือมีสติปัญญาเฉียบแหลม มีความคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง มีความละมุนละไม มีความรอบรู้และความเข้าใจอย่างกว้างขวาง ตลอดจนข้อสำคัญที่สุด ต้องเป็นผู้มีความสุขุมคัมภีรภาพ สามารถมองเห็นการณ์ไกลชนิดเจาะลึกทีเดียว นอกจากนี้ จะต้องเป็นผู้มีอารมณ์ขันอย่างสม่ำเสมอ ไม่โกรธง่าย มีจิตใจสงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น พร้อมเสมอที่จะรับฟังทุกคนที่เขาพบด้วยความตั้งอกตั้งใจ พูดจาอย่างเปิดเผย และมีอารมณ์ร่าเริงไม่หน้าเง้าหน้างอ มีอัธยาศัยไมตรี รวมทั้งมีกิริยาท่าทางเป็นที่ต้องตาต้องใจกับทุกคน ในฐานะนักเจรจา (Negotiator) นักการทูตจะต้องมีคุณลักษณะและคุณสมบัติตามที่กล่าวมานี้เป็นอย่างน้อย เนื่องจากมีการเจรจาเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของนักการทูตนั่นเอง [การทูต] | Genocide | การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1946 สมัชชาสหประชาชาติได้ยืนยันเป็นเอกฉันท์ว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือการฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อนนั้นให้ถือเป็นอาชญากรรม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งโลกที่บรรลุความเจริญแล้วประณามอย่างรุนแรงอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกัน และการลงโทษอาชญากรรมเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ สมัชชาสหประชาชาติได้ลงมติรับรองเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 1948 อนุสัญญานี้ได้นิยามคำว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) หมายถึงการประกอบอาชญากรรมบางอย่าง โดยมีเจตนาที่จะทำลายล้างกลุ่มชนชาติ กลุ่มเผ่าพันธุ์ กลุ่มเชื้อชาติ หรือกลุ่มศาสนา ในบางส่วนหรือทั้งหมดก็ตาม การประกอบกรรมซึ่งถือเป็นการฆ่าล้างชาตินั้นได้แก่ การฆ่า การทำให้เกิดความเสียหายอย่างสาหัส ทั้งต่อร่างกายหรือจิตใจ และการบังคับให้มีสภาวะการครองชีพที่เจตนาจะให้ชีวิตร่ายกายถูกทำลาย ไม่ว่าจะเพียงส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดก็ตาม ตลอดจนออกมาตรการกีดกันมิให้มีลูกและโยกย้ายเด็ก ๆ ไม่เพียงแต่การฆ่าล้างชาติอย่างเดียว หากแต่การคบคิดหรือการยุยงให้มีการฆ่าล้างชาติ รวมทั้งความพยายามที่จะฆ่าล้างชาติและสมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมดังกล่าว ย่อมถูกลงโทษได้ตามนัยแห่งอนุสัญญานี้ บรรดาผู้ที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกลงโทษไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้ ปกครอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง หรือเอกชนส่วนบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดของตามกฎหมายก็ตามบรรดาประเทศที่ภาคี อนุสัญญานี้จำเป็นต้องออกกฎหมายของตนเพื่อรองรับ และจะต้องตกลงเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนในกรณีที่บุคคลนั้นๆ มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติ และบุคคลที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกพิจารณาลงโทษในประเทศที่มีการ ประกอบอาชญากรรมดังกล่าวขึ้น หรือโดยศาลระหว่างประเทศที่มีอำนาจครอบคลุมถึงเจตนารมณ์ของสนธิสัญญานี้ เพื่อต้องการป้องกัน และลงโทษอาชญากรรมฆ่าล้างชาติ ไม่ว่าจะประกอบขึ้นในยามสงครามหรือในยามสงบก็ตามอนุสัญญาดังกล่าวได้เริ่มมี ผลบังคับเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1951 เป็นเวลา 90 วันหลังจากที่ 20 ประเทศได้ให้สัตยาบัน หรือให้ภาคยานุวัติตามที่ระบุอยู่ในอนุสัญญา อนุสัญญานี้จะมีผลบังคับเป็นเวลา 10 ปี และมีการต่ออายุสัญญาทุก 5 ปี สำหรับประเทศที่มิได้บอกเลิกสัญญา หากประเทศที่ยังเป็นภาคีอนุสัญญามีจำนวนเหลือไม่ถึง 16 ประเทศ อนุสัญญานี้จะเลิกมีผลบังคับทันที [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Adverse Effects, Psychological | อาการไม่พึงประสงค์ทางจิตใจ [การแพทย์] | Amenorrhea, Hypothalamic | ภาวะไม่มีระดูที่มีสาเหตุทางจิตใจ [การแพทย์] | Amentia | ไม่มีจิตใจ [การแพทย์] | Autonomic Function | การทำงานนอกบังคับจิตใจ [การแพทย์] | Cohesiveness, Group | แรงยึดเหนี่ยวทางจิตใจระหว่างสมาชิกในกลุ่ม [การแพทย์] | Conflict, Emotional | ข้อขัดแย้งของจิตใจ [การแพทย์] | Conflict, Neurotic | ข้อขัดแย้งภายในจิตใจ [การแพทย์] | Constipation, Psychogenic | ท้องผูกเนื่องจากเหตุผลทางด้านจิตใจ [การแพทย์] | Control, Involuntary | การควบคุมของกล้ามเนื้อที่อยู่นอกอำนาจจิตใจ [การแพทย์] | Depression | การกด, กดลง, ความซึมเศร้า, โรคซึมเศร้า, อาการซึมเศร้า, ซึมเศร้า, การซึมเศร้า, จิตใจหดหู่, อารมณ์ซึมเศร้า, อารมณ์เศร้า, เศร้าเสียใจ, อารมณ์เศร้าซึม, โรคซึมเศร้า, ซึม, การซึมเศร้า, ความเศร้า, อาการทางระบบประสาทคล้ายคนเสียสติ, การเป็นคนเงียบเหงาซึมเศร้า, อาการหดหู่ใจ [การแพทย์] | Depression, Mental | จิตใจหดหู่, อารมณ์ซึมเศร้า, การซึมเศร้า [การแพทย์] | Distress, Psychic | ความอึดอัดบีบคั้นทางจิตใจ [การแพทย์] | Ego | สภาพจิตใจ, ตน, อีโก [การแพทย์] | Ego Protection | กลไกฝ่ายบริหารของจิตใจในการป้องกันตนเอง [การแพทย์] | Ego State | การสั่งการของภาวะจิตใจ [การแพทย์] | Emotional Needs | ความต้องการทางด้านจิตใจ [การแพทย์] | Emotional Problems | ปัญหาทางอารมณ์, ปัญหาอารมณ์และจิตใจ [การแพทย์] | Emotionally Disturbance | ปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ [การแพทย์] | Emotions | อารมณ์, จิตใจ [การแพทย์] | Euphoria | ครึ้มอกครึ้มใจ, รู้สึกสบายใจ, อารมณ์เปลี่ยนแปลง, ความเคลิบเคลิ้มสุข, ความรู้สึกสบาย, การเคลิบเคลิ้มเป็นสุข, อาการเป็นสุข, เบิกบานใจมากผิดธรรมดา, อารมณ์ครื้นเครง, อารมณ์รื่นเริงสนุกสนาน, ครึ้มอกครึ้มใจ, รู้สึกสบายใจมาก, เคลิบเคลิ้ม, จิตใจสบาย, รู้สึกสบายยิ้มแย้มตลอดเวลา, อารมณ์รื่นเริงสนุกสนาน, รู้สึกเคลิ้มๆพอสบาย [การแพทย์] | Experience, Traumatic | ความบกพร่องในพัฒนาการทางอารมณ์, การกระทบกระเทือนต่อจิตใจ [การแพทย์] | Eye Movements, Pursuit | การเคลื่อนไหวของตาชนิดนอกอำนาจจิตใจ [การแพทย์] | Eye Movements, Saccadic | การเคลื่อนไหวของตาชนิดใต้อำนาจจิตใจ [การแพทย์] | Feelings, Disturbed | ความรู้สึกที่รบกวนจิตใจ [การแพทย์] | Flexion, Involuntary | การงอชนิดนอกอำนาจจิตใจ [การแพทย์] | Functional | การทำหน้าที่, ทางสมรรถภาพ, เกิดจากจิตใจ [การแพทย์] | Psychological First Aid | การปฐมพยาบาลด้านจิตใจ, Example: การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์รุนแรง เช่น ผู้สูญเสีย ผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ที่รอดชีวิต ทุกเพศ ทุกวัย ไม่เลือกชนชั้น และศาสนา โดยการเข้าไปให้ความช่วยเหลืออย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดและบรรเทาอาการเจ็บปวดทางจิตใจ โดยตอบสนองความ [สุขภาพจิต] | ฟื้นฟูสมรรถภาพสุขภาพจิต | ฟื้นฟูสมรรถภาพสุขภาพจิต, มุมมองการดำเนินงานที่เน้นการอาศัยผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพเข้ามามีบทบาทใน การเยียวยาจิตใจหรือเสริมศักยภาพที่เสียไปให้มีเพิ่มเท่าเดิมหรือดีกว่าเดิม ด้วยหลักวิชาการและแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมตามวิชาชีพ เพื่อให้ผู้มีเคยเจ็บป่วยหรือมีปัญหาสุขภาพจิตอย่างหนัก ได้เห [สุขภาพจิต] | ความเครียด | ความเครียด, สภาพร่างกายและจิตใจที่เกิดการตื่นตัวเตรียมรับกับเหตุการณ์ใดเหตุการณ์ หนึ่ง ซึ่งบุคคลคิดว่าไม่น่าพอใจ เป็นเรื่องที่หนักหนา เกินกำลังหรือทรัพยากรที่ตนมีอยู่ หรือเกินความสามารถของตนที่จะแก้ไขได้ ทำให้รู้สึกหนักใจเป็นทุกข์ หรืออาจพลอยทำให้เกิดอาการผิดปกติทางร [สุขภาพจิต] | ความคับข้องใจ | ความคับข้องใจ, สภาพทางจิตใจหรือความรู้สึกที่เป็นผลสืบเนื่องอันได้แก่ ความหงุดหงิด กระวนกระวายใจ กลุ้มใจ สิ่งเหล่านี้มาจากความปรารถนาที่บุคคลมุ่งหวัง แต่ถูกขัดขวาง ทำให้ลดแรงจูงใจ บั่นทอนอิทธิพลความพยายาม ไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย ไม่ตอบสนองความต้องการของตนเองได้ ด้วยอุปสรร [สุขภาพจิต] | ตัวกระตุ้นทางใจ | ตัวกระตุ้นทางใจ, สิ่งที่ไปเร้าจิตใจให้เกิดการกระทำจัดการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยที่สิ่งนั้นอาจสร้างผลดีหรือผลเสียได้หลายรูปแบบ เช่น ความสับสน (Confusion) ความกดดัน (Pressure) ความเครียด (Stress) ความคับข้องใจ (Frustration) ความขัดแย้ง (Conflict) เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ย้ [สุขภาพจิต] | ดัชนีสุขภาพจิต | ดัชนีสุขภาพจิต, สิ่งที่ใช้วัดสภาพชีวิตที่เป็นสุข อันเป็นผลจากการมีความสามารถในการจัดการปัญหาในการดำเนินชีวิต มีศักยภาพที่จะพัฒนาตนเองเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี โดยครอบคลุมถึงความดีงามในจิตใจ ภายใต้สภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งในที่นี้เป็นระดับบุคคล มิได้รวมถึงร [สุขภาพจิต] | ความสุข | ความสุข, สิ่งที่ใช้บ่งบอกระดับสภาวะจิตใจของบุคคล ณ ช่วงเวลา หรือ สถานการณ์หนึ่ง ๆ ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามที่บุคคลนั้นรู้สึก (ปัจจัยภายนอกตัวบุคคล) และรับรู้ (ปัจจัยภายในบุคคล) จากสิ่งกระตุ้น โดยที่การรับรู้จะมีอิทธิพลเหนือกว่าความรู้สึก เพราะใช้สร้างสมดุลของร่างกายแล [สุขภาพจิต] | กลไกป้องกันทางจิต | กลไกป้องกันทางจิต, วิธีการปรับตัวและปรับจิตใจเพื่อให้ผ่านพ้นจากผลกระทบที่ก่อให้เกิดความ สับสน ความอึดอัดใจ ความคับข้องใจ ความขัดแย้ง จนเป็นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในจิตใจของบุคคล อันเนื่องมาจากสถานการณ์ที่ปรารถนาหรือถูกคุกคามอย่างที่สุด เพื่อป้องกันตนเองในระดับจิตไร้สำนึก ให้ [สุขภาพจิต] | จิตประสาท (โรคประสาท) | จิตประสาท (โรคประสาท), เป็นความผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่งที่ไม่รุนแรง ไม่ใช่โรคทางระบบประสาท แต่แสดงอาการทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทำให้จิตใจแปรปรวน อ่อนไหวง่าย มักมีความรู้สึกสบายใจ วิตกกังวลอยู่เสมอ ไม่สามารถควบคุมความรู้สึก อารมณ์ หรือพฤติกรรมให้เหมือนเดิมได้ อาการทางกายมักแสดงออกไ, Example: ที่มา: กรมสุขภาพจิต. 2554. โรคประสาทต่างจากโรคจิตอย่างไร. http://203.157.56.1/1667view.asp?id=3016, อภิญญา ปัญญาพร. 2554. โรคจิตต่างจากโรคประสาทอย่างไร. โรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ราชนครินทร์, http://www.nph.go.th/knowledge/nph4/nph4.html, www.wikipedia.org [สุขภาพจิต] | จิตเวช | จิตเวช, นัยที่หนึ่ง เป็นวิชาที่เกี่ยวกับจิตใจ อารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมของมนุษย์ ที่มีความผิดปกติสลับซับซ้อนอย่างมาก ยากที่จะมองเห็นหรือพิสูจน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม ต้องพิจารณาด้วยพยาธิสภาพทางกายหรือพฤติกรรมเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งคาบเกี่ยวกับวิชาอื่น ๆ เช่น จิตวิทยา สั, Example: ที่มา: ศาสตราจารย์นายแพทย์ฝน แสงสิงแก้ว. 2518. เรื่องของสุขภาพจิต., สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย. 2520. ตำราจิตเวชศาสตร์., สุวัทนา อารีพรรค. 2524. ความผิดปกติทางจิต., กรมการแพทย์. 2536. DSM-III-R. [สุขภาพจิต] | smooth muscle | กล้ามเนื้อเรียบ, กล้ามเนื้อ ที่ประกอบด้วยเซลล์รูปร่างเรียวยาวคล้ายกระสวย เรียงตัวกันเป็นชั้น พบที่อวัยวะภายในของสัตว์ ทำงานนอกอำนาจจิตใจ เช่น ผนังของเส้นเลือด ผนังของทางเดินอาหาร เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | cardiac muscle | กล้ามเนื้อหัวใจ, เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อที่ประกอบด้วยเซลล์รูปทรงกระบอก มีลายตอนปลายของเซลล์ มีการแตกแขนงและเชื่อมโยงติดต่อกันกับเซลล์ข้างเคียง ทำงานนอกอำนาจจิตใจ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | reflex action | รีเฟล็กซ์แอกชัน, การกระทำที่อยู่นอกอำนาจจิตใจที่ส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายตอบสนองในทันทีทันใดต่อสิ่งเร้า [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | reflex | รีเฟล็กซ์, พฤติกรรมที่อยู่นอกอำนาจจิตใจแสดงออกโดยที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายตอบสนองในทันทีทันใดต่อสิ่งเร้าที่มากระตุ้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | myxedema | มิกซีดีมา, โรคที่เกิดจากร่างกายขาดฮอร์โมนไทรอกซินในระยะโตเต็มวัยแล้วอาการสำคัญของโรคคือ อ่อนแอ จิตใจหดหู่ ความคิดเชื่องช้า อ้วนง่ายแม้กินอาหารน้อย [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | autonomic nervous system (ANS) | ระบบประสาทอัตโนวัติ, ระบบประสาทส่วนหนึ่งของสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังซึ่งทำงานนอกอำนาจจิตใจ ประกอบด้วยระบบประสาทซิมพาเทติกและระบบประสาทพาราซิมพาเทติก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
| จิตใจ | [jitjai] (n) EN: mind ; sentiment ; feeling ; emotion ; spirit ; thoughts FR: sentiment [ m ] ; émotion [ f ] ; mental [ m ] ; psychisme [ m ] ; pensée [ f ] ; esprit [ m ] ; impression [ f ] ; âme [ f ] | จิตใจดี | [jitjai dī] (adj) EN: kind FR: gentil ; aimable | จิตใจท้อแท้ | [jitjai thøthaē] (adj) EN: demoralized | การบำบัดจิตใจ | [kān bambat jitjai] (n, exp) EN: psychotherapy | ทำร้ายจิตใจ | [thamrāi jitjai] (v, exp) EN: hurt one's feeling ; grieve ; sadden ; distress ; pain ; upset ; wound FR: peiner ; attrister ; blesser | ทางจิตใจ | [thāng jitjai] (adj) EN: spiritual ; mental | วัฒนธรรมทางจิตใจ | [watthanatham thāng jitjai] (n, exp) EN: spiritual culture ; non material culture |
| innovative | (adj) เกี่ยวกับการปรับปรุงใหม่, ที่เต็มไปด้วยจิตใจปฏิรูปใหม่ | impregnability | (n) ความสามารถที่จะไม่ถูกตีให้แตกได้, ความเข้มแข็งต่อการถูกกระทบหรือทำร้ายได้ทั้งทางจิตใจและร่างกาย | yoga | (n) การฝึกบริหารร่างกายและควบคุมจิตใจในเวลาเดียวกัน เช่น She credits yoga with helping her maintain a serene outlook. | frame of mind | (n) อารมณ์, สภาพของจิตใจขณะนั้น | placebo | (n) ยาที่บังเกิดผลทางจิตใจแต่ไม่มีฤทธิ์รักษาโรค | homoeopathy | [โฮมีโอพาธี] (n) การบำบัดแบบโฮมีโอพาธีมีแนวคิดหรือปรัชญาพื้นฐานในการทำความเข้าใจร่างกายมนุษย์ที่แตกต่างจากระบบการแพทย์แผนปัจจุบันโดยสิ้นเชิง การมองร่างกายและจิตใจของ ผู้ป่วยจะไม่ได้มองเป็นอวัยวะที่แยกส่วนออกจากกัน แต่จะมองร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยเป็นภาพรวมเดียวกัน ดังนั้นก่อนที่จะบำบัดผู้ป่วยจะต้องมีการสัมภาษณ์และคุยกับผู้ป่วยในเรื่องของลักษณะทั่วไป บุคลิกภาพ ประวัติทางการแพทย์ของครอบครัว อารมณ์ ความรู้สึกส่วนบุคคลต่อสิ่งแวดล้อม อาหาร อากาศ ฯลฯ รวมทั้งอาการของโรคด้วย นักบำบัด (practitioner) จะต้องนำคำตอบทั้งหมดมาประมวลและสรุปเป็นภาพรวมโดยเรียกว่า “ภาพของอาการ” (symtom picture)ดังนั้นการประเมินประสิทธิภาพของการบำบัดจึงไม่ควรใช้กรอบและแนวคิดของระบบการแพทย์แผนปัจจุบันประเมินแต่เพียงอย่างเดียว ควรมีการศึกษาและทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐานของการบำบัดแบบโฮมีโอพาธีด้วย โดยสรุปแล้วการบำบัดแบบโฮมีโอพาธีจัดเป็นศาสตร์การรักษาสุขภาพแบบองค์รวมที่เน้นเรื่องการปรับสมดุลสารชีวเคมีและพลังไหลเวียนภายในร่างกาย การให้ยาเป็นไปเพียงเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการปรับสมดุลด้วยกลไกตามธรรมชาติของร่างกายเอง ไม่ได้มุ่งหมายให้ยาไปขจัดหรือทำลายกลไกของร่างกายหรือสารที่ก่อให้เกิดอาการป่วย รวมทั้งไม่ได้มุ่งหมายที่จะขจัดสิ่งมีชีวิตใด ๆ ออกจากร่างกายด้วย |
| affect | (vt) ทำให้กระทบจิตใจ, See also: ทำให้กระทบความรู้สึก, กินใจ | analysis | (n) จิตวิเคราะห์, See also: การวิเคราะห์ทางจิตใจ, Syn. psychotherapy, depth psychiatry | blank | (n) ความว่างเปล่าของจิตใจ, Syn. emptiness, nothingness | be beneath contempt | (idm) (จิตใจ) ต่ำมาก, See also: จิตใจแย่มาก, ต่ำทราม | cabin fever | (n) สภาพกดดันทางจิตใจที่เกิดจากการอยู่โดดเดี่ยว | capacity | (n) ความสามารถทางร่างกายหรือจิตใจ, Syn. ability, aptitude, capability | charge | (vt) อัดแน่นอยู่ในใจ, See also: อัดแน่น, อัดอยู่ในจิตใจ | check | (n) สิ่งที่เหนี่ยวรั้งจิตใจ | climacteric | (n) ช่วงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสภาพจิตใจ, Syn. crucial period | cogent | (adj) ที่โน้มน้าวจิตใจ, See also: ที่ชักชวน, ที่ชักจูง, Syn. convincing, persuasive | combat fatigue | (n) ความผิดปกติทางจิตใจที่เกิดหลังจากไปสงครามมาเป็นเวลานาน | composure | (n) ความสงบของจิตใจ, Syn. equanimity, tranquillity | crackpot | (n) ผู้ที่มีสภาพจิตใจไม่ปกติ, See also: คนสติไม่สมประกอบ, คนสติไม่ดี | crackup | (n) การล้มเหลวของสภาพจิตใจ, Syn. breakdown | cruelty | (n) ความเจ็บปวดทางร่างกายหรือจิตใจ | crock up | (phrv) ป่วยทางร่างกายหรือจิตใจ, Syn. crack up | crumple up | (phrv) ทำให้พ่ายแพ้ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ทำให้ตกต่ำลง สุขภาพหรือจิตใจ, Syn. curl up | demean oneself | (phrv) ทำให้ด้อยค่าลง (ทางสังคมหรือทางจิตใจ), Syn. descend to | descend to | (phrv) ทำให้ (จิตใจ) ตกต่ำ, Syn. lower oneself, sink to, stoop to | drag down | (phrv) ทำให้ตกต่ำ (ทางสังคมหรือจิตใจ), Syn. pull down | disorder | (n) ความผิดปกติ (ทางร่างกายหรือจิตใจ) | disordered | (adj) ซึ่งผิดปกติ (ทางร่างกายหรือจิตใจ) | enervate | (vt) ทำให้ร่างกายอ่อนแอ, See also: ทำให้จิตใจอ่อนแอ, Syn. enfeeble, exhaust, weaken | equanimity | (n) จิตใจที่สงบแม้ว่าจะอยู่ภายใต้ความตึงเครียด (คำทางการ), Syn. unexcitability | equilibrium | (n) ความสงบของจิตใจ, Syn. calm, equanimity, poise | evil-minded | (adj) ซึ่งมีจิตใจชั่วร้าย, See also: ใจทมิฬ, ใจร้าย, Syn. bad-hearted, malevolent, wicked | exalted | (adj) สูงส่ง, See also: มีจิตใจสูงส่ง, มีจิตใจดี, Syn. grand, noble | excruciating | (adj) เจ็บปวดมาก (ทางร่ายกายหรือจิตใจ), Syn. agonizing, painful, tormenting | exert | (vt) ใช้ความพยายามอย่างมาก (ทางร่างกายหรือจิตใจ) | faculty | (n) ศักยภาพหรือความสามารถในด้านร่างกายและจิตใจ, See also: สติปัญญา | forbearance | (n) ความอดกลั้น, See also: ขันติ, ความอดทน, การบังคับจิตใจ, การข่มใจ, Syn. patience, tolerance, Ant. impatience | go into | (phrv) เริ่มมีสภาพ (อารมณ์, จิตใจ, ร่างกาย), Syn. go off into | go into | (phrv) ไม่รู้สึกตัว (เพราะจิตว่างหรือถูกครอบงำจิตใจ) | glassy | (adj) ซึ่งไร้ชีวิตจิตใจ, See also: ซึมกระทือ, นิ่งเฉย, ราบเรียบ, Syn. lifeless, expressionless, fixed, smooth | good-hearted | (adj) จิตใจดี, See also: ซึ่งมีเมตตา | halfway house | (n) สถานที่พักฟื้นทางจิตใจ | hardihood | (n) จิตใจที่แข็งกล้า, See also: ความเด็ดเดี่ยว, ความแข็งแกร่ง, Syn. audacity, boldness, daring | heart | (n) จิตใจ, See also: ส่วนลึกของจิตใจ, ความรู้สึก | heart and soul | (adv) ทั้งชีวิตจิตใจ, See also: ทั้งชีวิตและจิตใจ, ด้วยร่างกายและวิญญาณ, Syn. completely, devotedly, entirely | highhanded | (adj) ยโสโอหัง, See also: ไม่คิดถึงจิตใจคนอื่น, Syn. arrogant, overbearing | high-handed | (adj) ยโสโอหัง, See also: ไม่คิดถึงจิตใจคนอื่น, Syn. arrogant, overbearing | hurt | (vi) ทำให้เสียใจ, See also: ทำร้าย จิตใจ, ทำร้ายจิตใจ, ทำอันตราย | one-track mind | (idm) จิตใจหมกมุ่นกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง (มักเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์) | regain one's composure | (idm) สงบจิตใจ | incubus | (n) สิ่งที่ครอบงำจิตใจ (โดยเฉพาะทางวรรณคดี), See also: ฝันร้าย, Syn. nightmare | inner man | (n) จิตใจ, See also: วิญญาณ, กระเพาะ, Syn. spirit, soul, heart | intellect | (n) ปัญญา, See also: จิตใจ, ความคิด, Syn. brain, mentality, mind | interior | (adj) ภายในจิตใจ, See also: ภายในความคิด, Syn. inner, mental | introspect | (vt) สำรวจจิตใจหรือความรู้สึกของตัวเอง | kick someone in teeth | (idm) ทำร้ายจิตใจ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ทำให้เสียความรู้สึก |
| affected | (อะเฟค' ทิด) adj. ได้รับผล, ได้รับอิทธิพล, กระทบกระเทือน (จิตใจ) , เสียใจ, สงสาร, แกล้ง, เสแสร้ง, โน้มเอียงไปทาง, Syn. supurious, artificial, Ant. spontaneous, real, moved | anneal | (อะนีล') vt. หลอมให้อ่อนตัว แล้วค่อยทำให้เย็นลง, หลอมหล่อจิตใจให้อดทน ใส่สีโดยวิธีใช้ความร้อน-annealer n., Syn. heat, toughen | bobbish | (บอบ'บิช) adj. มีจิตใจที่เร่าร้อน, ฮึกเหิม | caseharden | vt. แข็งที่เปลือกนอก, ทำให้จิตใจแข็งกล้า | cliff-hanger | n. นวนิยายเป็นตอน ๆ , ที่ตื่นเต้นตรึงจิตใจคนดู, | cogency | n. ความน่าเชื่อ, การโน้มน้าวจิตใจ, See also: cogent adj. ดูcogency | cogent | (โค'เจินทฺ) adj. ซึ่งโน้มน้าวจิตใจ, น่าเชื่อ, ถูกจุด, ตรงประเด็น | deeplaid | adj. เกี่ยวกับจิตใจที่หวาดระแวง, เกี่ยวกับแผนการที่ลึกล้ำ | eloquent | (เอล'ละเควินทฺ) adj. พูดคล่อง, มีคารมคมคาย, มีฝีปาก, ซึ่งโน้มน้าวจิตใจ, See also: eloquentness n. ดูeloquent | evil-minded | adj. ซึ่งมีจิตใจที่ชั่ว, ใจร้าย., See also: evil-mindedness n. ดูevil-minded | feeling | (ฟีล'ลิง) n. ความรู้สึก, ความคิดเห็น, ความรู้สึกสัมผัส, อารมณ์, จิตใจ, ความเห็นใจ, ความสำนึก. adj. ไว (ความรู้สึก) , เห็นใจ, มีอารมณ์., See also: feelingly adv. feelingness n., Syn. sensation | forbear | (ฟอแบร์') v. อดีตกาลของforbid, อดทน, อดกลั้น, หักห้าม, บังคับจิตใจ, ข่มใจ, ละเว้น. -forbearer n. | forcible | (ฟอร์ซฺ'ซิเบิล) adj. ใช้กำลัง, มีกำลัง, มีพลัง, ให้กำลัง, ได้ผล, จูงใจ, โน้มน้าวจิตใจ., See also: forcibility n., forcibly adv., Syn. compulsory | frail | (เฟรล) adj. อ่อนแอ, บอบบาง, แตกง่าย, เปราะ, ชำรุดง่าย, จิตใจอ่อนแอ, ใจง่าย, See also: fraily adv. frailness n., Syn. delicate | frailty | (เฟรล'ที) n. ความอ่อนแอ, ความบอบบาง, ความแตกง่าย, ความเปราะ, ความชำรุดง่าย, ความมีจิตใจอ่อนแอ, ความใจง่าย, ความผิดที่กระทำไปเพราะมีจิตใจที่อ่อนแอ, Syn. debility, infirmity, weakness | frame | (เฟรม) n. กรอบ, โครง, ร่าง, ร่างกาย, โครงสร้าง, องค์ประกอบ, ระบบ, สภาพของจิตใจ, รอบหนึ่ง (การตีเบสบอล) , ยกหนึ่ง ๆ (มวย) vt. ประกอบก่อ, สร้าง, ติดตั้ง, ร่าง, กำหนด, คิด, วางแผน, ประพันธ์, ใส่กรอบ, ใส่วงกบ, ใส่ความ, ใส่ร้าย vi. พยายาม, ให้ความหวัง, พาตัวไป. -framable, frameable ad | free-minded | (ฟรีไม'ดิด) adj. ซึ่งมีจิตใจเป็นอิสระ | geist | (ไกสฺทฺ) n. จิต, จิตใจ, วิญญาณ, Syn. mind | halfway house | สถานที่พักระหว่างทาง, กึ่งทาง, สถานที่พักฟื้นทางจิตใจสำหรับผู้ติดยาเสพติด | harden | vt. ทำให้แข็ง, ทำให้จิตใจด้าน, เสริมกำลัง, ทำให้แข็งแกร่งขึ้น vt. แข็งขึ้น, (จิตใจ) ด้านหรือเหี้ยมขึ้น, มั่งคงขึ้น, Syn. fortify, solidity | hardihood | (ฮาร์'ดิฮูด) n. จิตใจที่แข็งกล้า, ความเด็ดเดี่ยว, กำลังวังชา, อำนาจ, ความกล้าหาญ, Syn. effrontery | harrow | (แฮ'โร) n. คราด vt. คราด (ดิน) . รบกวนอย่างเจ็บปวด, ทรมานจิตใจ, ข่มขืนชำเรา, ทำให้เจ็บช้ำ, แย่ง, ย่ำยี, ปล้นสะดม, See also: harrower n. | heart | (ฮาร์ท) n. หัวใจ, หน้าอก, แก่น, ไส้, จุดสำคัญ, ความกล้าหาญ, ความรู้สึก, ความรัก, ส่วนในสุด, จิตใจ, สุขภาพจิต, สิ่งที่เป็นรูปหัวใจ, (ไพ่) โพแดง vt. ติดที่หัวใจ, สนับสนุน, Syn. love, courage, core, center | heartsease | (ฮาร์ทซฺ'อีซ) n. ความสงบของจิตใจ | heebie-jeebies | (ฮี'บีจี'บซี) n. จิตใจหงุดหงิด | high-minded | adj. ซึ่งมีจิตใจสูง, See also: high-mindedness n., Syn. noble | humanise | (ฮิว'เมินไนซ) vt., vi. ทำให้จิตใจเมตตากรุณา, ทำให้มีลักษณะของมนุษย์, กลายเป็นลักษณะของมนุษย์., See also: humanisation, humanization n. humaniser, humanizer n., Syn. scholar | humanize | (ฮิว'เมินไนซ) vt., vi. ทำให้จิตใจเมตตากรุณา, ทำให้มีลักษณะของมนุษย์, กลายเป็นลักษณะของมนุษย์., See also: humanisation, humanization n. humaniser, humanizer n., Syn. scholar | impressible | (อิมเพรส' ซะเบิล) adj. โน้มน้าวจิตใจได้ง่าย, ประทับใจได้ง่าย., See also: impressibility n. impressibly adv., Syn. impressionable | impressionable | (อิมเพรช' เชินนะเบิล) adj. โน้มน้าวจิตใจได้ง่าย, ประทับใจง่าย., See also: impressionably adv. impressionability | inanimate | (อินแอน' นะมิท) adj. ไม่มีชีวิต, ไม่มีชีวิตจิตใจ, เซื่องซึม, ไม่สดใส., See also: inanimately adv. inanimateness n. | incubus | (อิน' คิวบัส) n., (pl. -bi, -buses) ผีที่เข้ามานอนทับคนที่กำลังหลับ (โดยเฉพาะผีผู้ชายที่เข้าร่วมประเวณีกับผู้หญิงที่กำลังหลับ) , สิ่งที่ครอบงำจิตใจ, ภาระที่หนัก | jazz | (แจซ) n. ดนตรีแจ๊ซ, การเต้นรำหรือระบำแจ๊ซ, ความมีชีวิตชีวา, ชีวิตจิตใจ, การพูดเสแสร้ง, See also: jazzy adj. | lacerate | (แลส'เซอเรท) vt. ฉีกขาด, ทำให้เสียรูปร่าง, ทรมานจิตใจ, ทำให้ทุกข์ใจ., See also: lacerability n. ดูlacerate lacerable adj. ดูlacerate lacerative adj. ดูlacerate, Syn. mangled | laceration | (แลสเซอเร'เชิน) n. การฉีกขาด, การบุบสลาย, การเสียรูปร่าง, การทรมานจิตใจ, การทุกข์ใจ, บาดแผลที่ฉีกขาด, บาดแผลที่บุบบู้บี้ | lively | (ไลว'ลี) adj. มีชีวิตชีวา, มีพลัง, มีชีวิตจิตใจ, ร่าเริง, ฮึกเหิม, เร้าอารมณ์, ชัดเจน, แข็งแรง, สดใส, ได้ผล, เป็นฟอง, กระดอน, เด้ง, กระฉับกระเฉง adv. คล่องแคล่ว, ว่องไว, See also: livelily adv. ดูlively liveliness n. ดูlively -S... | magnanimity | (แมกนะนิม'มิที) n. ความมีใจกว้าง, ความมีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่, ความสูงส่ง, ความไม่เห็นแก่ตัว, ความมีจิตใจสูงส่ง, การกระทำที่มีใจสูงส่ง | magnanimous | (แมกแนน'นิมัส) adj. ใจกว้าง, มีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่, มีจิตใจสูงส่ง, สูงส่ง., See also: magnanimousness n., Syn. noble, generous | mechanical | (มะแคน'นิเคิล) adj. (เกี่ยวกับ) เครื่องจักรเครื่องกล, เกิดจากการเสียดสี, ไม่มีจิตใจ, ไม่เป็นตัวของตัวเอง, อัตโนมัติ, เป็นนิสัย, เป็นกิจวัตร, ซึ่งยึดถือวัตถุนิยม. n. แผ่นกระดาษแข็ง สำหรับปิดงานศิลป์ต่าง ๆ | megrim | (มี'กริม) n. จิตใจที่เศร้า, ความหดหู่ใจ, การเอาแต่ใจ, การตามอำเภอใจ, อาการปวดศีรษะ ข้างเดียว | melancholy | (เมล'เลินคอลลี) n. ภาวะจิตใจหดหู่, ใจคอเหี่ยวแห้ง, อาการครุ่นคิดมาก adj. หดใจหู่ใจ, สลดใจ, ครุ่นคิดหนัก, Syn. gloomy, dismal, gloom | mental | (เมน'เทิล) adj. เกี่ยวกับจิตใจ, สำหรับคนไข้โรคจิต | militarism | (มิลลิทะริซ'ซึม) n. จิตใจเข้มแข็งของการเป็นทหาร, ลัทธินิยมการพร้อมรบ | mind | (ไมน์ดฺ) n. จิต, ใจ, จิตใจ, จริต, ความคิด, ปัญญา, เหตุผล, ข้อคิดเห็น, ความตั้งใจ, สติสัมปชัญญะ, ความจำ -Phr. (bear (keep) in mind จำ) -Phr. (make in one's mind ตัดสินใจ) . -Phr. (out of one's mind บ้า, วิกลจริต) v. ใส่ใจ, สนใจ, ระวัง, เชื่อฟัง, ดูแล, เป็นห่วง, คัดค้าน, สังเกต, จำได้ | moral | (มอ'เริล, โม'เริล) adj. เกี่ยวกับศีลธรรม, เกี่ยวกับจรรยา, เกี่ยวกับความรู้สึกผิดชอบ, บริสุทธิ์, เกี่ยวกับจิตใจ, ขึ้นอยู่กับการสังเกต. n. หลักศีลธรรม, หลักธรรมจริยา, See also: morals n. หลักความประพฤติ, Syn. ethical | motile | (โม'ไทลฺ, -เทิล) adj. ซึ่งสามารถเคลื่อนไหวได้เอง, เคลื่อนที่ได้. n. บุคคลที่มีจิตใจที่คิดไปเองมาก., See also: motility n. | nobility | (โนบิล'ลิที) n. พวกผู้ดี, พวกขุนนาง, ความเป็นผู้ดีหรือขุนนาง, ศักดิ์ตำแหน่งชั้นสูง, ความสูงส่งของจิตใจ, ความมีคุณธรรมสูง, ความสง่างาม | obsession | (อับเซส'เชิน) n. การครอบงำจิตใจ, ความคิดครอบงำ, ภาวะที่ถูกครอบงำ, การทำให้ทุกข์ใจหรือลำบาก., Syn. preoccupation | pecker | (เพค'เคอะ) n. นกที่จิก, เครื่องเจาะรู, เข็มเจาะรู, องคชาต, ความกล้าหาญ, จิตใจที่ฮึกเหิม | penetrating | (เพน'นิเทรทิง) adj. ผ่านทะลุ, หลักแหลม, แหลมคม, โน้มน้าวจิตใจ, Syn. penetrant |
| cogency | (n) การโน้มน้าวจิตใจ, ความน่าเชื่อ | enliven | (vt) ทำให้มีชีวิตจิตใจ, ทำให้สนุกสนาน, ทำให้ร่าเริง, ทำให้คึกคัก | esprit | (n) จิตใจ, สติปัญญา, ปฏิภาณ, ความเฉลียวฉลาด | feeling | (n) ความรู้สึก, อารมณ์, จิตใจ, ความสำนึก, ความคิดเห็น | heart | (n) หัวใจ, จิตใจ, ความรัก, ความรู้สึก, ส่วนสำคัญ, แก่น, ความกล้าหาญ | liveliness | (n) ความมีชีวิตจิตใจ, ความร่าเริง, ความสดใส, ความสนุกสนาน | lively | (adj) มีชีวิตจิตใจ, ร่าเริง, สนุกสนาน, สดใส, กระฉับกระเฉง | mental | (adj) ทางใจ, ในใจ, เกี่ยวกับจิตใจ | mentality | (n) จิตใจ, ความคิด, เชาวน์, ปัญญา | mentally | (adv) ทางจิตใจ, ทางความคิด, ทางใจ, ทางปัญญา | mind | (n) จิตใจ, เชาวน์, ความตั้งใจ, ความคิด, สติปัญญา, ความทรงจำ | psychic | (adj) เกี่ยวกับจิตใจ, เกี่ยวกับผีสาง, เกี่ยวกับวิญญาณ, กายสิทธิ์ | psychical | (adj) เกี่ยวกับจิตใจ, เกี่ยวกับผีสาง, เกี่ยวกับวิญญาณ, กายสิทธิ์ | reanimate | (vt) ทำให้กระปรี้กระเปร่า, ทำให้มีชีวิตจิตใจ, ทำให้คืนชีพ, ฟื้นฟู | sanity | (n) การมีสุขภาพจิตดี, ความปกติทางจิตใจ | soul | (n) จิตใจ, วิญญาณ, คน, บุคคล, แก่นสาร, แบบฉบับ | spirit | (n) ผี, จิตใจ, กำลังใจ, ความกล้า, วิญญาณ, อารมณ์, ความมุ่งมั่น | temperament | (n) นิสัย, ภาวะจิตใจ, อารมณ์, ความหุนหันพลันแล่น | vivify | (vt) ทำให้มีชีวิตจิตใจ, ให้ชีวิตแก่ |
| Carer | (n) ผู้ดูแล, พนักงานดูแล, พี่เลี้ยง บุคคลที่คอยดูแลให้ความช่วยเหลือผู้อื่นโดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย หรือผู้ที่มีความผิดปรกติทางด้านร่างกาย จิตใจ หรือสติปัญญา | cliff-hanger | (n, adj) cliff-hanger (n) นวนิยายเป็นตอน ๆ ที่ตื่นเต้นตรึงจิตใจคนดู หรือ เหตุการณ์ หรือการแข่งขันที่ตื่นเต้นตรึงใจคนดู syn. clifhanger , cliff-hanging, cliffhanging (adj) exciting: you don't know what will happen next. a) Acliffanger is a situation or part of a play or film that is very exciting or frightening because you are left for a long time not knowing what will happen next. b) The election is likely to be a cliff-hanger. c) Cliffhanger ending to keep you in suspense., Syn. exciting | gamer | (n) ผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมคอมพิวเตอร์เป็นชีวิตจิตใจ, คนคลั่งเกม , ผูู้ที่พร้อมจะอุทิศและถวายเวลาให้แก่การเล่นเกมในจอคอมพิวเตอร์ | involuntary action | (n) การทำงานนอกอำนาจจิตใจ | mental suffering | (phrase) การได้รับความทรมานทางจิตใจ, การได้รับความเจ็บปวดทางจิตใจ, การได้รับความทุกข์ทรมานทางจิตใจ | out of mind | สูญเสียจิตใจ เป็นบ้า เสียสติ | service minded | มีจิตใจเต็มใจที่จะช่วย หรือให้บริการ | voluntary action | การทำงานภายใต้อำนาจจิตใจ | กุศล | (n, adj) กุศล ควรจะหมายถึง การกระทำที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับจิตใจให้ดีขึ้น ปรับปรุงจิตใจให้ดีขึ้น มากกว่าทำความดีเฉย ๆ การกระทำใด ๆ หากทำแล้วมีผลต่อสภาวะจิตใจของตนเปลี่ยนไปในทางที่สูงขึ้น จึงเรียกว่ากุศล หากการกระทำดีนั้น ๆ ไม่ได้มีผลเปลี่ยนแปลงจิตใจตนเองเลย ไม่เรียกว่ากุศล แต่เรียกว่า กรรมดี โดยทั่วไป มักจะใช้คู่กันกับคำว่า บุญกุศล แต่คำว่า บุญ กับ กุศล ความหมายต่างกัน (เขียนก็ไม่เหมือนกันแล้วจะให้ความหมายเหมือนกันได้อย่างไร) ตัวอย่าง 1. นาย กอ เป็นคนรวย ชอบที่จะให้ทาน เพราะเขาหวังว่า การให้ทานของเขาจะส่งผลทำให้เขารวย ยิ่ง ๆ ขึ้นไป และอาจจะได้ไปสวรรค์ หลังจากที่เขาตายไป - อันนี้นาย กอ ทำกรรมดี หรือทำบุญ แต่ไม่ได้เกิดกุศลในจิต หรือเกิดขึ้นน้อยมาก เพราะเขาทำทานก็จริง แต่ไม่มีผลทำให้จิตใจของเขาวางลงจากความโลภ หรืออยากเลย 2. นาย ขอ เป็นคนชั้นกลาง เขาเห็นเด็กกำพร้ามากมายเกิดขึ้น เขาจึงรู้สึกอยากที่จะช่วยเหลือเด็กเหล่านั้น จึงประหยัดค่าใช้จ่ายของตัวเองมากขึ้น เพื่อที่จะให้ตัวเองมีเงินเหลือมากขึ้น เพื่อที่จะแบ่งไปบริจาคเด็กเหล่านั้น เพื่อที่เด็กเหล่านั้นจะได้โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดีต่อไป - อันนี้ นาย ขอ ทำทั้งกุศล และบุญ เพราะมีผลที่ทำให้เขาต้องประหยัด อดออมมากขึ้น และการประหยัดอดออมนี้เอง จะทำได้ก็คือต้องปล่อยวางความอยากของตนเอง และทำเพราะในใจเกิดจิตเมตตากรุณา |
| 一心 | [いっしん, isshin] ใจดวงเดียวกัน , จิตใจมุ่งมั่น | 悲壮 | [ひそう, hisou] น่าสลดใจ, ซึ่งกระทบจิตใจ | Kung | [ひそう, Kung] (n) บุรุษหนุ่มรูปงาม, หล่อเหลาเอาการณ์ , หล่อ นิสัยดี จิตใจประเสริฐสุดๆ, See also: S. Jamie | Hidetoe | [ひそう, Hidetoe] (name) เจ้าชายรูปหล่อแห่ง Pramool board เป็นผู้ที่ yong mavin madpackits ให้ความเกรงกลัว และเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนในบอร์ด เกลียดแมนยูเป็นชีวิตจิตใจ เพราะเป็นแฟนหงส์สุดยอมทีมของโลก | 心理 | [しんり, shinri] (n) จิตใจ | 心を和ませる | [こころをなごませる, kokorowonagomaseru] (vt) ทำให้จิตใจอ่อนโยนลง | 闘争心 | [とうそうしん, tousoushin] (exp) จิตใจห้าวหาญ, ใจทระนง |
| 積む | [つむ, tsumu] TH: สั่งสมเพื่อพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น | 心 | [こころ, kokoro] TH: จิตใจ |
| beruhigen | (vt) |beruhigte, hat beruhigt| สงบสติอารมณ์, ระงับจิตใจ | Seele | (n) |die, pl. Seelen| จิตวิญญาน, จิตใจ, See also: Related: Geist | zartbesaitet | (adj) |zarter besaitet, am zartesten besaitet| จิตใจอ่อนไหวและบาดเจ็บง่าย(มนุษย์หรืออารมณ์), Syn. empfindsam |
| traumatize | inflict a trauma upon ได้รับความบอบช้ำทางจิตใจ, Syn. shock |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |