ทางกฎหมาย | (adj) legislative, Syn. ตามกฎหมาย, Example: เราควรพิจารณาการตอบสนองต่อปัญหาเหล่านี้ จากมุมมองในทางเทคนิคการใช้งานและมุมมองทางกฎหมาย | เอกสารทางกฎหมาย | (n) legal document, Thai Definition: เอกสารซึ่งเป็นหลักฐานแสดงสิทธิและความรับผิดชอบระหว่างคู่กรณีสองฝ่าย |
|
| กระทำ ๑ | ทำการใด ๆ ที่เกิดผลในทางกฎหมาย แต่การงดเว้นการกระทำใด ๆ ที่กฎหมายกำหนดให้ต้องกระทำ ก็ถือว่าเป็นการกระทำด้วย เช่น บิดามารดามีหน้าที่ดูแลบุตรซึ่งยังเล็กอยู่ การที่บิดามารดาอยู่เฉยไม่หาอาหารให้ ก็อาจถือว่าเป็นการกระทำได้. | แกงได | น. รอยขีดเขียนซึ่งบุคคลทำไว้เป็นสำคัญแทนการลงลายมือชื่อ ในทางกฎหมายถ้าจะให้มีผลเสมอกับลงลายมือชื่อต้องมีพยานลงลายมือชื่อรับรอง ๒ คน หรือได้ทำต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่. | คดี | เรื่องหรือความที่ฟ้องร้องหรือกล่าวหากันในทางกฎหมาย ซึ่งต้องดำเนินการตามกระบวนวิธีพิจารณาความตามที่กฎหมายกำหนด เช่น คดีแพ่ง คดีอาญา คดีปกครอง. | เจ้าถ้อยหมอความ | น. ผู้ที่ชอบเอากฎหมายมาอ้าง, ผู้มักใช้โวหารพลิกแพลงไปในทางกฎหมาย. | ช่วงทรัพย์ | ก. เอาทรัพย์สินอันหนึ่งเข้าแทนที่ทรัพย์สินอีกอันหนึ่ง ในนัยทางกฎหมายอย่างเดียวกันกับทรัพย์สินอันก่อน. | ช้างเผือก ๑ | น. ช้างในตระกูลชาติพรหมพงศ์ อิศวรพงศ์ พิษณุพงศ์หรืออัคนิพงศ์ ที่มีลักษณะ ๗ สี คือ ขาว เหลือง เขียว แดง ดำ ม่วง เมฆ และมีตา เล็บ ขน เป็นต้น ประกอบด้วยคชลักษณ์ด้วย, (กฎ) ช้างที่มีมงคลลักษณะ ๗ ประการ คือ ตาขาว เพดานปากขาว เล็บขาว ขนขาว พื้นหนังขาวหรือสีคล้ายหม้อใหม่ ขนหางขาว และอัณฑโกศขาวหรือสีคล้ายหม้อใหม่ ในทางกฎหมายและที่กรมช้างใช้เรียกว่า ช้างสำคัญ | นิติการ | น. สายงานที่มีหน้าที่ปฏิบัติงานทางกฎหมาย. | นิตินัย | น. แง่มุมและผลในทางกฎหมาย (ล. de jure), ต่างกับ พฤตินัย คือ แง่มุมในทางความเป็นจริง (ล. de facto). | นิติวิทยาศาสตร์ | น. วิชาที่ว่าด้วยการนำหลักวิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ มาประยุกต์เพื่อแก้ปัญหาทางกฎหมาย และการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีความ. | นิติเวชศาสตร์ | น. วิชาที่ว่าด้วยการใช้หลักทางการแพทย์ช่วยแก้ปัญหาทางกฎหมาย และการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีความ. | นิติสัมพันธ์ | น. ความเกี่ยวพันทางกฎหมาย. | นิติเหตุ | น. เหตุที่เกิดขึ้นซึ่งมีผลในทางกฎหมายอันมิใช่นิติกรรม เช่น การละเมิด, โบราณใช้ว่า นิติการณ์. | นิรโทษกรรม | ในทางกฎหมายอาญา หมายถึง การลบล้างการกระทำความผิดอาญาที่บุคคลได้กระทำมาแล้ว โดยมีกฎหมายกำหนดให้การกระทำนั้นไม่เป็นความผิด และให้ผู้ที่ได้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด. | ลบล้าง | ก. ทำให้หมดไปสิ้นไป เช่น ลบล้างความผิด, ทำให้เป็นโมฆะทางกฎหมาย เช่น ลบล้างหนี้สิน ลบล้างมลทิน. | เล่นแง่ | ก. หาแง่มาขัดขวางไม่ให้เป็นไปอย่างสะดวกเพื่อเอาเปรียบหรือแสดงว่าตนเหนือกว่า เช่น เล่นแง่ในทางกฎหมาย. | อัยการ | องค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยประกอบด้วยคณะกรรมการอัยการ อัยการสูงสุด และพนักงานอัยการอื่น โดยมีสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นหน่วยธุรการ มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาทั้งปวง ดำเนินคดีแพ่งหรือคดีปกครอง และให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย ตรวจร่างสัญญาและเอกสารทางกฎหมายแก่รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย เรียกว่า องค์กรอัยการ, เดิมเรียกว่า กรมอัยการ, ถ้าหมายถึงเจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทนายแผ่นดิน เรียกว่า พนักงานอัยการ หรือ ข้าราชการอัยการ, โบราณเรียกว่า พนักงานรักษาพระอัยการ ยกกระบัตร หรือ ยกบัตร. |
| process, due | กระบวนการทางกฎหมาย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | legal impossibility | ความเป็นไปไม่ได้ในทางกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | legal institution | สถาบันทางกฎหมาย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | legal institution | สถาบันทางกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | legal aid | การช่วยเหลือทางกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | legal fiction | เรื่องสมมุติทางกฎหมาย, นิติสมมติ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | retaining fee | ค่าทนายความ, ค่าปรึกษาทางกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | chaste character | ความไร้เดียงสา (ที่ทำให้ไม่ต้องรับผิดทางกฎหมาย) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | domestic agreement | ข้อตกลงระหว่างคนในครอบครัว (ที่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | due process | กระบวนการทางกฎหมาย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | fiction, legal | เรื่องสมมุติทางกฎหมาย, นิติสมมติ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | institution, legal | สถาบันทางกฎหมาย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | in pais (Fr.) | นอกกระบวนการทางกฎหมาย, นอกศาล [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | impediment to marriage | อุปสรรคทางกฎหมายในการสมรส [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | inadequate remedy at law | ทางแก้ที่ยังไม่เพียงพอทางกฎหมาย, การเยียวยาที่ยังไม่เพียงพอทางกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | impediment | อุปสรรคทางกฎหมาย, ข้อขัดข้องทางกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | institution, legal | สถาบันทางกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
| Communication in law | การสื่อสารทางกฎหมาย [TU Subject Heading] | Law examinations | การสอบทางกฎหมาย [TU Subject Heading] | Legal aid | ความช่วยเหลือทางกฎหมาย [TU Subject Heading] | Legal assistance to juvenile delinquents | ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่เยาวชนที่กระทำผิด [TU Subject Heading] | Legal assistance to refugees | ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้ลี้ภัย [TU Subject Heading] | Legal assistance to the poor | ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่คนยากจน [TU Subject Heading] | Legal assistance to women | ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่สตรี [TU Subject Heading] | Legal composition | การเขียนทางกฎหมาย [TU Subject Heading] | Legal consultants | ที่ปรึกษาทางกฎหมาย [TU Subject Heading] | Legal correspondence | การโต้ตอบทางกฎหมาย [TU Subject Heading] | Legal ethics | จรรยาบรรณทางกฎหมาย [TU Subject Heading] | Legal services | บริการทางกฎหมาย [TU Subject Heading] | Legal status, laws, etc. | สถานภาพทางกฎหมาย [TU Subject Heading] | Process (Law) | กระบวนการทางกฎหมาย [TU Subject Heading] | ASEAN Charter | กฎบัตรอาเซียน เป็นความตกลงระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ที่จะให้สถานะทางกฎหมายหรือนิติฐานะแก่อาเซียน และวางกรอบโครงสร้างองค์กรใหม่เพื่อทำให้อาเซียนเป็นหน่วยงานที่ยึดมั่นมาก ยิ่งขึ้นต่อกติกาและกฏเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ประเทศสมาชิกร่วมกันกำหนดขึ้น อันจะนำมาซึ่งการเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กฎบัตรอาเซียนยังมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนให้อาเซียนเป็นองค์กรที่มีประชาชน เป็นศูนย์กลางของความร่วมมือมากยิ่งขึ้นด้วยการจัดตั้งองค์กรใหม่ๆ เพื่อปกป้องและส่งเสริมผลประโยชน์ของประชาชนอาเซียน เช่น องค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียน เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ได้ร่วมลงนามกฎบัตรฯ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 และเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551 [การทูต] | Bangkok Declaration : Global Dialogue and Dynamic Engagement | ปฏิญญากรุงเทพ : การหารือและการมีส่วนร่วมอย่างมีพลวัตของประชาคมโลก " หนึ่งในสองของเอกสารผลการประชุมอังค์ถัด ครั้งที่ 10 ที่แสดงฉันทามติของประเทศสมาชิกอังค์ถัด 190 ประเทศ เกี่ยวกับผลกระทบของกระแสโลกาภิวัตน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งแสดงเจตนารมณ์ร่วมทางการเมืองของประเทศสมาชิกอังค์ถัดที่จะร่วมมือ กันดำเนินนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศเพื่อทำให้สมาชิกทั้งหมด โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา ได้รับประโยชน์จากกระบวนการโลกาภิวัตน์ในด้านการค้า การเงิน การลงทุน และการถ่ายทอดเทคโนโลยี ได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม อีกทั้งเพื่อให้ประเทศกำลังพัฒนาสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจโลก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบของกระบวนการโลกาภิวัตน์ได้ แม้ปฏิญญากรุงเทพจะไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่ก็เป็นเอกสารที่มีผลผูกพันทางการเมือง เป็นสัญญาประชาคมที่ทุกประเทศสมาชิกอังค์ถัดมีพันธะที่จะต้องปฏิบัติตามแนว นโยบายที่ได้ร่วมกันแถลงไว้ในเอกสารดังกล่าว และเอกสารนี้สามารถใช้เป็นเอกสารอ้างอิงในการเจรจาหารือระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศในเรื่องของการเงิน การค้า การลงทุน และการพัฒนาได้ " [การทูต] | Commonwealth of Nations | การรวมตัวของชาติต่าง ๆ เข้าเป็นสมาคมทางการเมือง ประกอบด้วยประเทศสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย แคนาดา ลังกา ไซปรัส แกมเบีย กาน่า อินเดีย จาไมก้า คีเนีย มาเลเซีย มาลาวี มอลต้า นิวซีเแลนด์ ไนจีเรีย ปากีสถาน ซิเอร่าเลโอน แทนเซียเนีย ทรินิแดด-โทเบโก ยูแกนดา และแซมเบียตามทรรศนะของ Oppenheim ศาสตราจารย์นักกฎหมายระหว่างประเทศในระดับโลก สมาคมทางการเมืองแห่งนี้ก็คือกลุ่มของรัฐที่รวมกันโดยไม่มีพื้นฐานการรวมตัว ทางกฎหมายที่เคร่งครัดแต่อย่างใด หากแต่มีความผูกพันร่วมกันในด้านประวัติศาสตร์ จารีตประเพณี กฎหมาย และมีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างแน่นแฟ้นมากกว่า [การทูต] | Consul | ข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งอย่างถูกต้องและได้รับ มอบหมายให้ไปประจำยังต่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประเทศทั้งในด้าน พาณิชย์ การเดินเรือ คุ้มครองความเป็นอยู่อันดีของพลเมืองของประเทศตน พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่บางอย่างด้านธุรการ หรือวางระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ ตลอดจนด้านการเป็นสักขีพยานการลงนามในเอกสาร เพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทางกฎหมาย (Notary) การให้การตรวจลงตรา รวมทั้งการรับรองเอกสารที่แท้จริง (มิใช่เอกสารปลอม) และจัดการการสัตย์สาบานตนหรืออีกนัยหนึ่ง ภาระหน้าที่ของกงสุลอาจแบ่งออกได้เป็น 5 ประการ ดังต่อไปนี้1 ทำหน้าที่ส่งเสริมผลประโยชน์ในทางพาณิชย์ของประเทศที่ตนเป็นผู้แทนอยู่2 ควบคุมดูแลผลประโยชน์ด้านการเดินเรือ3 คุ้มครองผลประโยชน์ของคนชาติของประเทศที่แต่งตั้งให้ตนไปประจำอยู่4 ทำหน้าที่สักขีพยานในการลงนามในเอกสารเพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทาง กฎหมาย5 ทำหน้าที่ธุรการเบ็ดเตล็ดอื่นๆ หรือระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ เช่น การออกหนังสือเดินทาง การให้การตรวจลงตรา (Visas) การจดทะเบียนคนเกิด คนตาย ฯลฯอนุสัญญากรุงเวียนนา ภาคที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลข้อที่ 5 ได้กำหนดภาระหน้าที่ของฝ่ายกงสุลไว้ดังต่อไปนี้ ก. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่ง และของคนในชาติของรัฐผู้ส่ง ทั้งเอกชนและบรรษัทในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาตข. เพิ่มพูนการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านการพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาการ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกันในทางอื่น ตามบทแห่งอนุสัญญานี้ค. สืบเสาะให้แน่โดยวิถีทางทั้งปวงอันชอบด้วยกฎหมายถึงภาวะและความคลี่คลายใน ทางพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและวิทยาการของรัฐผู้รับ แล้วรายงานผลของการนั้นไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่ง และให้ข้อสนเทศแก่บุคคลที่สนใจง. ออกหนังสือเดินทางและเอกสารการเดินทางให้แก่คนในชาติของรัฐผู้ส่ง ตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือออกเอกสารที่เหมาะสมให้แก่บุคคลที่ประสงค์จะเดินทางไปยังรัฐผู้ส่งจ. ช่วยเหลือคนในชาติของรัฐผู้ส่งทั้งเอกชนและบรรษัทฉ. ทำหน้าที่นิติกรและนายทะเบียนราษฎร์ และในฐานะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ปฏิบัติการหน้าที่บางประการอันมีสภาพทางธุรการ หากว่าการหน้าที่นั้นไม่ขัดกับกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับช. พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของผู้เยาว์ และบุคคลไร้ความสามารถ ซึ่งเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง ภายในขีดจำกัดที่ได้ตั้งบังคับไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ โดยเฉพาะในกรณีที่จำเป็นต้องมีความปกครองหรือภาวะทรัสตีใดๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลเหล่านั้นฌ. แทนคนชาติของรัฐผู้ส่ง หรือจัดให้มีการแทนอย่างเหมาะสมในองค์กรตุลาการ และต่อเจ้าหน้าที่ที่อื่นของรัฐผู้รับ เพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้ได้มา ซึ่งมาตรการชั่วคราวสำหรับการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของคนในชาติเหล่านี้ ไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ ในกรณีที่คนในชาติเหล่านี้ไม่สามารถเข้าทำการป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของ ตนในเวลาอันเหมาะสมได้ เพราะเหตุของการไม่อยู่หรือเหตุอื่นใด ทั้งนี้ ให้อยู่ภายในข้อบังคับแห่งทางปฏิบัติ และวิธีดำเนินการซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับญ. ส่งเอกสารทางศาล หรือเอกสารที่มิใช่ทางศาล หรือปฏิบัติตาม หนังสือของศาลของรัฐผู้ส่งที่ขอให้สืบประเด็น หรือตามการมอบหมายให้สืบพยานให้แก่ศาลของรัฐผู้ส่งนั้น ตามความตกลงระหว่างประเทศที่ใช้บังคับอยู่ หรือเมื่อไม่มีความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่านั้น โดยทำนองอื่นใดที่ต้องด้วยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับด. ใช้สิทธิควบคุมดูแลและตรวจพินิจตามที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของ รัฐผู้ส่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับเรือที่มีสัญชาติของของรัฐผู้ส่ง หรืออากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐนั้น รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับลูกเรือของเรือและอากาศยานดังกล่าวต. ให้ความช่วยเหลือแก่เรือและอากาศยานที่ระบุไว้ในอนุวรรค (ด) ของข้อนี้ รวมทั้งลูกเรือของเรือและอากาศยานนั้น บันทึกถ้อยคำเกี่ยวกับการเดินทางของเรือ ตรวจดูและประทับตรากระดาษเอกสารของเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใด ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในระหว่างนายเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใดๆ ที่ได้เกิดขั้นในระหว่างนายเรือ เจ้าพนักงาน และกะลาสี ตราบเท่าที่การนี้อาจได้อนุมัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง ทั้งนี้ จะต้องไม่เป็นการเสื่อมเสียแก่อำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับถ. ปฏิบัติการหน้าที่อื่นใดที่รัฐผู้ส่งมอบหมายแก่สถานีทำการทางกงสุล ซึ่งมิได้ต้องห้ามโดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ หรือซึ่งไม่มีการแสดงข้อคัดค้านโดยรัฐผู้รับ หรือซึ่งมีอ้างถึงไว้ในความตกลงระหว่างประเทศ ที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับ [การทูต] | Declaration | คำประกาศ หรือ ปฏิญญา ตามความเห็นของผู้ทรงคุณความรู้ทางกฎหมายระหว่างประเทศ ส่วนมากได้ให้ความเห็นว่า คำนี้มีความหมายต่างกันอยู่สามประการ คือประการแรก ใช้เป็นชื่อเรียกข้อกำหนดต่าง ๆ ของสนธิสัญญา กล่าวคือ ตามสนธิสัญญานี้ ภาคีคู่สัญญารับที่จะปฏิบัติตามแนวทางบางประการในอนาคตประการที่สอง เป็นคำประกาศถ่ายเดียว (Unilateral Declaration) ซึ่งก่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่แก่รัฐอื่นๆ เช่น คำประกาศสงครามประการสุดท้าย หมายถึง การกระทำซึ่งรัฐหนึ่งหรือหลายรัฐได้ติดต่อแจ้งไปยังรัฐอื่น ๆ ซึ่งเป็นการอธิบายหรือให้เหตุผลสนับสนุนพฤติกรรมของฝ่ายตนในอดีต หรืออธิบายทรรศนะและเจตจำนงเกี่ยวกับเรื่องบางเรื่อง คำประกาศสำหรับความหมายสองประการหลังไม่ถือว่ามีลักษณะเป็นสนธิสัญญาอนึ่ง ในกรณีคำประกาศถ่ายเดียว (Unilateral Declaration) นั้น บางทีรัฐหนึ่งต้องการเสนอนโยบายหรือหนทางปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งของตน โดยประกาศนโยบายหรือหนทางปฏิบัตินั้นไปให้รัฐอื่นๆ ทราบกันไว้ อาทิเช่น ลัทธิมอนโร (Monroe Doctrine) ซึ่งสหรัฐอเมริกาได้ประกาศออกไปในรูปคำประกาศถ่ายเดียว เป็นต้น [การทูต] | Exemption from Customs Duties and Inspection of Diplomatic Mission?s Articles | การยกเว้นจากอากรศุลกากร และการตรวจสิ่งของเครื่องใช้ของคณะผู้แทนทางการทูต การยกเว้นดังกล่าวนี้ไม่ถือว่าเป็นสิทธิ แต่เป็นเรื่องของการแสดงอัธยาศัยไมตรีระหว่งประเทศที่ให้ต่อกันมากกว่า กฎหมายระหว่างประเทศก็มิได้กำหนดพันธะที่จะต้องให้การยกเว้นจากอากรศุลกากร อย่างไรก็ดี รัฐส่วนมากได้แสดงอัธยาศัยไมตรีโดยให้ผู้แทนทางการทูตได้รับการยกเว้นอากร ศุลกากรแก่สินค้าและเครื่องใช้ที่นำเข้ามาใช้ในส่วนตัวเองอนุสัญญากรุง เวียนนาได้ระบุไว้ในมาตรที่ 36 ว่า1. รัฐผู้รับจะอนุญาตให้นำเข้าและอำนวยให้มีการยกเว้นจากอากรศุลกากร ภาษี ตลอดจนค่าภาระที่เกี่ยวข้องทั้งมวล นอกจากค่าภาระในการเก็บรักษา การขนส่งและบริการ ให้ทำนองเดียวกันตามกฎหมายหรือข้อบังคับ ซึ่งรัฐผู้รับอาจกำหนดไว้แก่ก. สิ่งของสำหรับใช้ในทางการของคณะผู้แทนข. สิ่งของสำหรับใช้ส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต หรือคนในครอบครัวของตัวแทนทางการทูต ซึ่งประกอบเป็นส่วนครัวเรือนของตัวแทนทางการทูต รวมทั้งสิ่งของที่แสดงเจตนาสำหรับการตั้งถิ่นฐานของตัวแทนทางการทูตด้วย2. หีบห่อส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต ให้ได้รับยกเว้นจากการตรวจตรา นอกจากมีมูลเหตุอันร้ายแรงที่ทำให้สันนิษฐานได้ว่า หีบห่อส่วนตัวนั้นบรรจุสิ่งของซึ่งไม่อยู่ในข่ายแห่งการยกเว้นที่ได้ระบุไว้ ในวรรค 1 ของข้อนี้ หรือสิ่งของซึ่งการนำเข้าหรือส่งออกนั้นต้องห้ามทางกฎหมาย หรือถูกควบคุมตามข้อบังคับว่าด้วยการกักตรวจโรคของรัฐผู้รับ การตรวจตราเช่นว่านี้ให้กระทำต่อหน้าตัวแทนทางการทูต หรือต่อหน้าผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจของตัวแทนทางการทูตเท่านั้น [การทูต] | Freedom of Communication | เสรีภาพในการติดต่อและสื่อสาร ถือเป็นสิทธิทางกฎหมาย (ไม่ใช่เพียงเอกสิทธิ์เท่านั้น) ที่สำคัญอันหนึ่งของนักการทูตย่อมจะเห็นได้ชัดว่า คณะทูต จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างพึงพอใจ นอกจากจะมีอิสระอย่างสมบูรณ์ในการที่จะมีหนังสือหรือวิถีทางอื่นๆ เพื่อติดต่อกับรัฐบาลของตน หรือจะส่งและรับจดหมาย หรือหนังสือต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ถือสารพิเศษ หรือโดยถุงทางการทูต (Diplomatic pouch) สำหรับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติไว้ในข้อ 27 ดังนี้?1. ให้รัฐผู้รับอนุญาตและคุ้มครองการสื่อสารโดยเสรีในส่วนของคณะผู้แทน เพื่อความมุ่งประสงค์ในทางการทั้งมวลเพื่อการติดต่อกับรัฐบาล และกับคณะผู้แทนและสถานกงสุลอื่นของรัฐผู้ส่ง ไม่ว่าตั้งอยู่ ณ ที่ใด คณะผู้แทนอาจใช้วิถีทางที่เหมาะสมทั้งมวลได้ รวมทั้งผู้ถือสารทางการทูต และสารเป็นรหัสหรือประมวล อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนอาจติดตั้งและใช้เครื่องส่งวิทยุได้ด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ เท่านั้น 2. หนังสือโต้ตอบทางการของคณะผู้แทนจะถูกละเมิดมิได้ หนังสือโต้ตอบทางการ หมายถึง หนังสือโต้ตอบทั้งมวลที่เกี่ยวกับคณะผู้แทนและภารกิจหน้าที่ของคณะผู้แทน 3. ถุงทางการทูต (Diplomatic Pouch) จะไม่ถูกเปิดหรือถูกกักไว้ 4. หีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางการทูต จะต้องมีเครื่องหมายภายนอกที่เห็นได้ชัดเจน สามารถแสดงลักษณะของถุงทางการทูต ซึ่งอาจบรรจุเพียงเอกสารหรือสิ่งของทางการทูตที่เจตนาเพื่อใช้ในทางการเท่า นั้น 5. ผู้ถือสารทางการทูต (Diplomatic courrier) จะได้รับเอกสารทางการแสดงสถานภาพของตน และจำนวนหีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางทูตนั้น ให้ได้รับความคุ้มครองจากรัฐผู้รับ ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ของตน ให้ผู้ถือสารทางการทูตได้อุปโภคความละเมิดมิได้ ส่วนบุคคลจะต้องไม่ถูกจับกุมหรือกักขังในรูปใด 6. รัฐผู้ส่งหรือคณะผู้แทนอาจแต่งตั้งผู้ถือสารทางการทูตเฉพาะกรณีได้ ในกรณีที่ว่านี้ให้นำบทแห่งวรรค 5 ของข้อนี้มาใช้ด้วย เว้นแต่ว่าความคุ้มกันที่กล่าวไว้ในวรรคนั้นให้ยุติไม่ใช้ เมื่อผู้ถือสารนี้ได้ส่งถุงทางการทูตในหน้าที่ของตนให้แก่ผู้รับแล้ว 7. ถุงทางการทูตอาจจะมอบหมายไว้แก่ผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งได้มีพิกัดจะลง ณ ท่าเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาตแล้วได้ ให้ผู้บังคับบัญชาของเครื่องบินพาณิชย์รับเอกสารทางการแสดงจำนวนหีบห่อซึ่ง รวมเป็นถุง แต่ไม่ใช่ถือว่าผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์เป็นผู้ถือสารทางทูต คณะผู้แทนอาจส่งบุคคลหนึ่งในคณะผู้แทนไปรับมอบถุงทางการทูตได้โดยตรง และโดยเสรีจากผู้บังคับการของเครื่องบิน? [การทูต] | Hugo Grotius (1583-1645) | บรมครูทางกฎหมายของเนเธอร์แลนด์ เป็นบุคคลแรกที่ได้ประกาศเสรีภาพของทะเล (Freedom of the Seas) ในตำราของท่านชื่อ Mare Liberumนักกฎหมาย รัฐบุรุษ และปรัชญาเมธีด้านมนุษยธรรมของเนเธอร์แลนด์ผู้นี้ ภายหลังเกิดมาได้ไม่กี่ปีก็ส่อให้เห็นว่าเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดอย่างน่า มหัศจรรย์ เขาเริ่มศึกษาวิชากฎหมายตั้งแต่มีอายุได้ 11 ขวบ ณ สถาบันศึกษาชั้นสูงแห่งเลย์เด็นในเนเธอร์แลนด์ และได้รับปริญญาเอกทางกฎหมายจากมหาวิทยาลัย ณ เมืองออร์ลีนส์ ในประเทศฝรั่งเศสเมื่อมีอายุได้เพียง 15 ปี โดยที่เป็นผู้ฝักใฝ่ในการเมือง เขาได้ถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1618 ด้วยข้อหาทางการเมือง แต่ต่อมาใน ค.ศ. 1621 ได้หลบหนีไปยังประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ 1625 เขาได้แต่งตำรากฎหมายซึ่งถือกันว่าเป็นตำราอมตะชื่อว่า Jure Belli ac Pacis (แปลว่า เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยสงครามและสันติภาพ) เป็นงานเขียนที่เหมาะกับสมัย และเขียนอย่างนักวิชาการอันเยี่ยมยอดที่สุดไม่มีใครเหมือนในสมัยนั้น และด้วยความรู้สึกที่รักความยุติธรรมอย่างแรงกล้าด้วยเหตุนี้ ทั่วโลกจึงขนานนาม Hugo Grotius ว่าเป็นบิดาแห่งกฎหมายระหว่างประเทศหรือกฎหมายนานาชาติ (Father of the Law of Nations) [การทูต] | International Covenant on Civil and Political Rights | กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง เป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศภายใต้กรอบสหประชาชาติหลักด้านสิทธิมนุษยชน 1 ใน 2 ฉบับ ซึ่งแปรข้อบทในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนให้มีพันธะผูกพันทางกฎหมายแก่ ประเทศภาคี สหประชาชาติรับรองเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2509 มีผลใช้บังคับเมื่อปี พ.ศ. 2519 ไทยเข้าเป็นภาคีโดยการภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2539 และมีผลบังคับใช้กับไทยเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2540 [การทูต] | International Covenant on Economic, Social and Cultural Rights | กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม " เป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศภายใต้กรอบสหประชาชาติหลักด้านสิทธิมนุษยชน 1 ใน 2 ฉบับ ซึ่งแปรข้อบทในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนให้มีพันธะผูกพันทางกฎหมายแก่ ประเทศภาคี สหประชาชาติรับรองเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2509 มีผลใช้บังคับเมื่อปี พ.ศ. 2519 ไทยเข้าเป็นภาคีโดยการภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2542 และมีผลบังคับใช้กับไทยเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 " [การทูต] | International Court of Justice | ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1945 ตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ กฎข้อบังคับ (Statute) ของศาลโลกนั้นได้ผนวกอยู่ท้ายกฎบัตรของสหประชาชาติ และถือเป็นส่วนสำคัญอย่างแยกจากกันมิได้ของกฎบัตร ศาลนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นองค์กรแห่งศาลหรือแห่งตุลาการสำคัญที่สุดขององค์การสหประชาชาติ ประเทศใดที่เข้าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลก ย่อมมีสิทธิที่จะส่งคดีใดก็ตามไปให้ศาลโลกพิจารณาได้ ภายใต้เงื่อนไขที่คณะมนตรีความมั่นคงได้จัดวางไว้ นอกจากนั้น คณะมนตรีความมั่นคงก็อาจจะส่งกรณีพิพาททางกฎหมายไปให้ศาลพิจารณาได้ทั้ง สมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงสามารถขอคำปรึกษาหรือความเห็นจากศาลเกี่ยวกับ ปัญหาข้อกฎหมายใดๆ และองค์กรอื่น ๆ ของสหประชาชาติ อันรวมถึงองค์การชำนัญพิเศษ ก็สามารถขอคำปรึกษา หรือความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางกฎหมายใดๆ ที่อยู่ภายในกรอบของงานที่ปฏิบัติอยู่ แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับอนุมัติเห็นชอบจากสมัชชาสหประชาชาติก่อน สมัชชาเคยมอบอำนาจเช่นนี้แก่คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะมนตรีภาวะทรัสตี คณะกรรมาธิการระหว่างกาล (Interim Committee) ของสมัชชา รวมทั้งองค์กรระหว่างรัฐบาลบางแห่งด้วยรัฐทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของสหประชา ชาติถือว่าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกไปในตัว ส่วนประเทศใดที่มิใช่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็อาจเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกได้ ตามเงื่อนไขที่สมัชชาสหประชาชาติเป็นผู้กำหนดเป็นราย ๆ ไป ตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง ศาลโลกมีอำนาจที่จะพิจารณาปัญหาทั้งหลายที่รัฐสมาชิกขอให้พิจารณา รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ทั้งหลายที่ระบุอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ และตามสนธิสัญญาหรืออนุสัญญาที่ใช้บังคับอยู่ รัฐสมาชิกย่อมยอมผูกพันตนล่วงหน้าได้ที่จะยอมรับอำนาจศาลในกรณีพิเศษต่าง ๆ โดยจะต้องลงนามในสนธิสัญญา หรืออนุสัญญาซึ่งยอมให้ส่งเรื่องไปที่ศาลได้ หรือออกประกาศเป็นพิเศษว่าจะปฏิบัติเช่นนั้น ในคำประกาศเช่นนั้นจะต้องระบุว่ายอมรับอำนาจบังคับของศาลโลก และอาจจะยกเว้นคดีบางประเภทมิให้อยู่ในอำนาจของศาลได้ ในการวินิจฉัยลงมติ ศาลโลกจะอาศัยแหล่งที่มาของกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้ คือ- สัญญาหรืออนุสัญญาระห่างประเทศซึ่งวางกฎข้อบังคับที่รัฐคู่กรณียอมรับ- ขนบธรรมเนียมระหว่างประเทศซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปตามที่ กฎหมายรับรองศาลโลกอาจจะตัดสินชี้ขาดว่าสิ่งใดยุติธรรมและดี โดยรัฐภาคีที่เกี่ยวข้องตกลงเห็นชอบด้วยคณะมนตรีความมั่นคงอาจจะรับการขอ ร้องจากรัฐภาคีหนึ่งใดในกรณีพิพาท ให้กำหนดมาตรการที่จะใช้เพื่อให้คำตัดสินของศาลมีผลบังคับ ถ้าคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใต้อำนาจศาลศาลโลก ประกอบด้วยผู้พิพากษารวม 15 ท่าน ซึ่งถือกันว่าเป็น ?สมาชิก? ของศาล และได้รับเลือกตั้งจากสมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ผู้พิพากษาเหล่านี้จะมีอำนาจออกเสียงลงคะแนนอย่างอิสระเสรีหลักเกณฑ์การคัด เลือกผู้พิพากษาศาลโลกจะถือตามคุณสมบัติขอผู้พิพากษานั้น ๆ มิใช่ถือตามสัญชาติของบุคคลดังกล่าว อย่างไรก็ดี จะมีการระมัดระวังด้วยว่า กฎหมายที่นำมาใช้ในศาลจะต้องมาจากระบบกฎหมายที่สำคัญ ๆ ของโลก ในศาลโลกจะมีผู้พิพากษาที่เป็นชาติเดียวกันมากกว่าหนึ่งคนไม่ได้ ผู้พิพากษาทั้งหลายจะมีสิทธิ์ดำรงอยู่ในตำแหน่งได้ เป็นเวลา 9 ปี มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งซ้ำได้ และระหว่างที่ดำรงอยู่ในตำแหน่ง จะต้องไม่ประกอบอาชีพการงานอื่นใดทั้งสิ้น [การทูต] | International Finance Corporation | คือบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1956 และเริ่มมีฐานะเป็นองค์การชำนัญพิเศษที่มีสัมพันธ์กับองค์การสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1957 แม้บรรษัทจะดำเนินงานใกล้ชิดกับธนาคารโลก แต่ก็มีฐานะเป็นสิ่งที่มีตัวตนทางกฎหมายแยกต่างหาก และมีกองทุนที่แตกต่างจากกองทุนของธนาคารโลกด้วยวัตถุประสงค์ของบรรษัทคือ ส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ โดยสนับสนุนให้การผลิตของวิสาหกิจของเอกชนในประเทศสมาชิกเจริญเติบโตยิ่ง ขึ้น การที่จะกระทำตามวัตถุประสงค์นี้ได้ บรรษัทจะนำเงินไปลงทุนในวิสาหกิจด้านการผลิตฝ่ายเอกชน โดยดำเนินงานร่วมกับเอกชนผู้ลงทุน ทำหน้าที่เป็นสำนักหักบัญชี (Clearing House) คล้ายกับเป็นแหล่งรวมโอกาสต่าง ๆ ของการลงทุนฝ่ายเอกชนทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ รวมทั้งฝ่ายจัดการที่มีประสบการณ์ชำนาญ นอกจากนั้น ยังช่วยกระตุ้นการลงทุนด้านการผลิตของเอกชนทั้งภายในและต่างประเทศด้วย บรรษัทยังได้รับอนุญาตให้ทำการกู้ยืมเงินโดยใช้วิธีขายพันธบัตรของตนเอง รวมทั้งตั๋วสัญญาการใช้เงินบรรษัทการเงินระหว่างประเทศดำเนินงานโดยองค์กร ต่าง ๆ ของตน คืออำนาจทั้งหมดของบรรษัทจะขึ้นอยู่กับคณะผู้ว่าการ (Board of Govemors) ประกอบด้วยผู้ว่าการและผู้ว่าการสำรอง (Altemates) จากธนาคารโลกซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศต่าง ๆ อันเป็นสมาชิกของบรรษัทด้วย คณะผู้ว่าการจะคอยควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของบรรษัทให้ถูกต้อง ตัวประธานธนาคารโลก จะทำหน้าที่เป็นประธานคณะผู้ว่าการของบรรษัทโดยตำแหน่งด้วย บรรษัทมีสำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตันดีซี [การทูต] | Niccolo Machiavelli (1469-1527) | คือรัฐบุรุษและปรัชญาเมธีทางการเมืองของสาธารณรัฐ ฟลอเรนส์ (Florence) ระหว่างรับราชการ ท่านดำรงตำแหน่งฝ่ายธุรการหลายตำแหน่งซึ่งไม่สู้มีความสำคัญเท่าใด แต่สิ่งที่ท่านสนใจมากที่สุดได้แก่ศิลปะของการเมือง หนังสือสำคัญ ๆ ที่ท่านประพันธ์ขึ้นไว้คือ The Prince เล่มหนึ่ง อีกเล่มหนึ่งชื่อ The Art of War และอีกเล่มหนึ่งคือ Discourses on the First Ten Books of Livyมีนักเขียนหลายคนวิพากษ์ Machiavelli ที่แสดงความเห็นสนับสนุนว่า รัฐบาลใดก็ตมที่ต้องการรักษาอำนาจการปกครองตนให้เข้มแข็งไว้ ย่อมจะใช้วิถีทางใด ๆ ก็ได้ ถึงแม้หนทางเช่นนั้นจะผิดกฎหมายหรือไร้ศีลธรรมก็ตาม และก็มีนักเขียนอีกหลายคนสนับสนุนท่าน โดยชี้ให้เห็นว่า ท่านเป็นแต่เพียงตีแผ่ให้เห็นพฤติกรรมที่แท้จริงของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในยุคสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่มากกว่าอย่างอื่น อาทิเช่น ในหนังสือ The Prince ของท่านตอนหนึ่งอ้างว่า การต่อสู้นั้นมีอยู่สองวิธี วิธีแรกเป็นการต่อสู้โดยวิถีทางกฎหมาย อีกวิธีหนึ่งคือการต่อสู้โดยใช้กำลัง (Force) วิธีแรกนั้นเป็นวิธีที่มนุษย์พึงใช้ ส่วนวิธีที่สองเป็นวิธีเยี่ยงสัตว์ป่า แต่การใช้วิธีแรกมักจะไม่ค่อยได้ผลเสมอไป เพราะไม่เพียงพอ ก็ย่อมจะหันเข้าใช้วิธีที่สองได้ ฉะนั้น ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้น ซึ่ง Machiavelli เรียกว่า Prince จึงจำเป็นต้องรู้ดีว่าจะใช้ทั้งวิธีที่มนุษย์จะพึงใช้ และวิธีเยี่ยงสัตว์ป่าอย่างไร ด้วยเหตุนี้ ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้นไม่จำเป็นต้องมีสัจธรรม หากการกระทำนั้น ๆ จะทำความเสียหายแก่ผลประโยชน์ของประเทศ ท่านเห็นว่า หากมนุษย์ทุกคนเป็นคนดี กฎเช่นนี้ก็เป็นกฎที่ไม่ถูกต้อง แต่โดยที่มนุษย์ไม่ใช่คนดีทั้งหมด ในเมื่อเขาไม่ยอมให้ความศรัทธาความไว้วางใจในตัวท่าน ก็ไม่มีอะไรที่จะมาห้ามมิให้ท่านเลิกศรัทธากับเขาเหล่านั้นได้ [การทูต] | Sanctions | การบังคับตามกฎระหว่างประเทศ หมายถึงการที่หลาย ๆ ชาติได้ลงมติใช้มาตรการบังคับหรือจูงใจพร้อม ๆกันเพื่อบังคับให้ชาติหนึ่งที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ทำการยับยั้ง (Desist) หรือยินยอมให้มีการชี้ขาดตัดสิน (Adjudication) หรือกล่าวอย่างสั้น ๆ แซ็งชั่นก็คือ หนทางที่บังคับพันธกรณีทางกฎหมายให้เป็นไปตามกฎหมายเรื่องแซ็งชั่นนี้ กฎบัตรสหประชาชาติได้กล่าวไว้ในบทที่ 7 ข้อ 41 และ 42 มีข้อความดังนี้ ?ข้อ 41 คณะมนตรีความมั่นคงอาจวินิจฉัยว่า จะต้องใช้มาตรการอันใดอันไม่มีการใช้กำลังอาวุธ เพื่อยังผลให้เกิดแก่คำวินิจฉัยของคณะมนตรี และอาจเรียกร้องให้สมาชิกแห่งสหประชาชาติใช้มาตรการเช่นว่านั้น มาตรการเหล่านี้อาจรวมถึงการตัดสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และการคมนาคมทางรถไฟ ทางทะเล ทางอากาศ ทางไปรษณีย์โทรเลข ทางวิทยุ และวิถีทางคมนาคมอย่างอื่นโดยสิ้นเชิงหรือแต่บางส่วน และการตัดความสัมพันธ์ทางการทูต ข้อ 42 หากคณะมนตรีความมั่นคงพิจารณาเห็นว่ามาตรการที่บัญญัติไว้ในข้อ 41 น่าจะไม่เพียงพอ หรือได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เพียงพอ คณะมนตรีก็อาจดำเนินการใช้กำลังทางอากาศ ทางทะเล หรือทางพื้นดินเช่นที่เห็นจำเป็น เพื่อธำรงไว้ หรือสถาปนากลับคืนมาซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ การดำเนินการเช่นว่านี้ อาจรวมถึงการแสดงแสนยานุภาพ การปิดล้อม และการปฏิบัติอย่างอื่นโดยกำลังทางอากาศ ทางทะเล หรือทางพื้นดินของบรรดาสมาชิกแห่งสหประชาชาติ [การทูต] | จุดวาบไฟ | จุดวาบไฟ, อุณหภูมิต่ำสุดน้ำมันที่ทำให้เกิดไอน้ำมันเป็นปริมาณมากพอ เมื่อสัมผัสเปลวไปก็จะทำให้ลุกไหม้ทันที จุดวาบไฟไม่มีผลต่อคุณภาพหรือการใช้งานโดยตรง หากเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายเพื่อความปลอดภัยจากการเกิดอัคคีภัย การเก็บรักษาและขนถ่าย เพราะถ้าเกินอุณหภูมิจุดนี้ไปแล้วจะเป็นจุดติดไฟ [ปิโตรเลี่ยม] | Legal mortgage | หลักทรัพย์ทางกฎหมาย [การบัญชี] | Forensic Toxicology | พิษของสารเกี่ยวกับทางกฎหมาย, นิติพิษวิทยา [การแพทย์] | Legislative Measure | มาตรการทางกฎหมาย [การแพทย์] |
| You've got a legal obligation to protect a potential victim. | คุณมีข้อตกลงทางกฎหมายที่จะปกป้อง เหยื่อที่มีศักยภาพ Basic Instinct (1992) | Wait a minute! There might be a legal precedent. | เดี๋ยวก่อน อาจเคยมีตัวอย่างทางกฎหมาย Blazing Saddles (1974) | I feel comfortable using legal jargon in everyday life. | ฉันยังสามารถใช้ภาษาทางกฎหมายในชีวิตประจำวันได้ Legally Blonde (2001) | No state can deprive any person of life liberty or property without due process of law. | ซึ่งเขียนไว้ว่า "รัฐย่อมไม่อาจเพิกถอนสิทธิของบุคคลใดจากชีวิต "อิสรภาพหรือทรัพย์สินโดยไม่มีกระบวนการทางกฎหมายที่เหมาะสม" The Corporation (2003) | In fact the corporation is legally bound to put its bottom line ahead of everything else even the public good. | อันที่จริง บรรษัทมีข้อผูกพันทางกฎหมาย ที่ต้องยึดถือธาตุแท้ของตนเหนือสิ่งใด แม้แต่ผลประโยชน์ของส่วนรวม The Corporation (2003) | In fact a judicial decision. | ความจริงก็คือ มันเป็นข้อวินิจฉัยทางกฎหมาย The Corporation (2003) | A corporation is simply an artificial legal structure but the people who are engaged in it whether the stockholder whether the executives in it whether the employees they all have moral responsibilities. | บรรษัทเป็นแค่โครงสร้างทางกฎหมายที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่คนที่มีความเกี่ยวพันกับบรรษัทต่างหาก ไม่ว่าผู้ถือหุ้น The Corporation (2003) | So what wanted to do is to look at the very roots of the legal form that created this beast and wanted to think who can hold them accountable. | สิ่งที่เราต้องทำก็คือ เจาะลึกลงไปถึงรากเหง้า ของรูปแบบทางกฎหมายที่สร้างสัตว์ร้ายตัวนี้ขึ้นมา และคิดดูว่าใครสามารถกดดันให้บรรษัทรับผิดได้ The Corporation (2003) | I'm sorry. You don't have to apologize to me, but just have to treat your wife right. | ฉันก็แค่เรียกที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัทมา Something About 1% (2003) | I'm gonna introduce you to the board of directors, my friend. | - ทางกฎหมายว่าไง จอห์น I Heart Huckabees (2004) | Just ll it "tuna tornado." There you go. | นั่นไงล่ะ แก้ปัญหาทางกฎหมายแล้ว I Heart Huckabees (2004) | It's for legal reasons. | มันเป็นเหตุผลทางกฎหมาย Mr. Monk and the Game Show (2004) | You are aware this is not a court of law. | คุณทราบมั้ยนี่ไม่ใช่ศาลทางกฎหมาย The Astronaut Farmer (2006) | There's a legal complication. | มันเกิดความซับซ้อนทางกฎหมาย Left Turn Ahead (2007) | Any attempt to contact the FBI or other law enforcement agencies, or Cuddy, will be met with the... | หรือหน่วยงานทางกฎหมายอื่นๆ หรือ.. คัดดี้ Alone (2007) | - For legal purposes. | - เป็นเจตนาทางกฎหมาย Epic Movie (2007) | Look, the only point you need to make... is that he's disappeared without any kind of judicial reviews. | ท่านแค่ต้องชี้ประเด็น ถึงเรื่องที่เขาหายตัวไป_BAR_ โดยไม่มีการดำเนินการทางกฎหมาย Rendition (2007) | Anyway, we're no longer legally related... tell them I can't sign the documents. | ยังไงก็เถอะ เราไม่ได้เกี่ยวกันทางกฎหมายอยู่แล้ว บอกเขาว่าฉันจะไม่เซ้นเอกสารอะไรทั้งนั้น Departures (2008) | Vargo's commanding officer is refusing to see us without legal representation. | ผู้บังคับบัญชาของวารโก้ปฎิเสธไม่ให้ความร่วมมือทางกฎหมายกับทางเรา. Last Man Standing (2008) | Your legal ties with your family would be severed. | ทางกฎหมายก็คือทำให้ความสัมพันธ์ของครอบครัว กับคุณจบลง Bonfire of the Vanity (2008) | The queen is to be tried to test the validity of our marriage. | พระราชินีจะถูกสอบ เพื่อตรวจสอบ ความถูกต้องทางกฎหมายของการแต่งงานของเรา The Other Boleyn Girl (2008) | People want access to societal order more than lawful order. | คนต้องการสิทธิ์ในการเข้าเป็นระเบียบ ในสังคม มากกว่าระเบียทางกฎหมาย Episode #1.8 (2008) | I work for a company that's, like, hired... by lawyers to hand out legal documents. | ฉันทำงานให้บริษัทที่ถูกว่าจ้าง โดยทนายให้ส่งเอกสารทางกฎหมาย Pineapple Express (2008) | So you're taking legal action? | แล้วคุณกำลังเดินเรื่องทางกฎหมายอยู่? Hey! Mr. Pibb! (2009) | Starts in litigation working antitrust but quickly gets bumped up to associate general counsel. | เริ่มจากฟ้องร้องต่อต้านการผูกขาด แต่อยู่ดีๆ ก็เลื่อนตำแหน่งเป็นรองที่ปรึกษาทางกฎหมาย A Pretty Girl in a Leotard (2009) | We prepare the newly-unemployed for the emotional and physical hurdles of job hunting, while minimising legal blowback. | เรามาเตรียมความพร้อมบุคคลที่ถูกเลิกจ้าง ให้พวกเขามีอารมณ์และสุขภาพดีสำหรับการหางานใหม่ ในขณะที่ลดผลกระทบทางกฎหมายให้น้อยที่สุด Up in the Air (2009) | Fast track to Los Lunas. | กระบวนการทางกฎหมายในโลสลูนาสมีผลทันที Mandala (2009) | That's my legal opinion. | นั่นคือความเห็นทางกฎหมายของผม 4 Days Out (2009) | Expert or no expert, without any actual forensic equipment or facilities, is it possible to know for certain what really happened? | ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้เชี่ยวชาญใดๆ โดยอุปกรณ์ทางกฎหมายใดๆที่เกิดขึ้นจริงหรืออำนวยความสะดวก มันสามารถรู้บาง Justice (2009) | I was told to assess whether you'd be the best agent with whom to entrust some very sensitive information. | ผมได้รับคำสั่งจากที่ปรึกษาทางกฎหมาย ถึงแม้คุณจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่เก่ง แต่นี่เป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อนมาก The Bond in the Boot (2009) | Is it the disparagement laws? | เป็นการดูหมิ่นทางกฎหมายหรือไง Bad Seed (2009) | So, you're basically saying that disparagement laws are more important than people's lives. | ถ้าอย่างนั้นคุณกำลังจะบอกว่า การดูหมิ่นทางกฎหมายสำคัญกว่าชีวิตของคน Bad Seed (2009) | Dr. Brennan, with all due respect, you have no legal grounds to keep him. | ดร.เบรนเนนด้วยความเคารพ เราไม่มีพันธะทางกฎหมาย ที่จะเก็บร่างเขาเอาไว้ A Night at the Bones Museum (2009) | Despite these statewide efforts, the suspect has eluded law enforcement. | แม้ว่านี้เป็นความพยายามขยายวงกว้าง ผู้ต้องสงสัยเป็นผู้หลบหนี การดำเนินคดีทางกฎหมาย Haunted (2009) | He should be considered armed and extremely dangerous. | ขณะที่ผู้มีอำนาจทางกฎหมาย เป็นสิ่งตรงกันข้าม ไม่มีเจตนา Reckoner (2009) | no one's gonna drive 100 miles for diapers or for a public notary for legal paperwork. | หรือเพื่อจดทะเบียนรับรองทางกฎหมาย ถ้าเด็กอยู่ในระบบ พวกเขาจะพาเราไปถึงตัวเขาได้ Cradle to Grave (2009) | i disagree with your analysis. | ฮอดจ์ คุณจริงจังไปรึเปล่า มันไม่ใช่บทวิเคราะห์ทางกฎหมายนะ Cradle to Grave (2009) | Sir, you may question him in regard to his autopsy report, | ขอค้านครับ นั่นเป็นคำถามทางกฎหมาย คุณหมอคะคุณถามได้เฉพาะคำถาม ที่เกี่ยวกับรายงานชันสูตรศพ... You Don't Know Jack (2010) | By law, you must sign to acknowledge receipt. | ในทางกฎหมาย คุณต้องเซ็นต์รับทราบเอกสารด้วย The Bang Bang Club (2010) | the courts are always at your disposal. Is there anything else I can do for you? | ...คุณใช้กระบวนการทางกฎหมายได้นี่ มีอะไรให้ช่วยอีกไหม The Social Network (2010) | Mr. Saverin, have you ever done anything that might be considered legitimate grounds for termination? | คุณ ซาเวริน คุณเคยทำอะไร ที่พิจารณาได้ว่าเป็นการยุติ ทางกฎหมายบ้างไหม The Social Network (2010) | Law enforcement still has no leads, leaving everyone to wonder, which of the world's villains is responsible for this heinous crime? | แต่ยังคงไม่มีผลบังคับใช้ในทางกฎหมาย ทุกคนต่างพากันสงสัย \ วายร้ายของโลก เป็นผู้รับผิดชอบต่ออาชญากรรมชั่วร้ายนี้หรือไม่ Despicable Me (2010) | The vis major. It's a Latin term. | เหตุสุดวิสัย เป็นศัพท์ทางกฎหมาย In This Home on Ice (2010) | Leave the legitimate stories to the real journalists, okay? | ทิ้งประเด็นข่าวทางกฎหมายนั้น แล้วไปทำำหน้าที่นักข่าวจริงๆ เสียที โอเค? The Edge (2010) | And have no medical or legal counsel present, | และไม่มีรายงานทางการแพทย์ หรือตัวแทนทางกฎหมาย The Uncanny Valley (2010) | It's practically the law, right? | มันมีผลทางกฎหมายใช่มั้ย? The Bones on the Blue Line (2010) | Well, they had to wait for the judge, and you can't bend the law to help your friends. | อืมม พวกเขาจำเป็นต้องรอคอย คำสั่งศาลก่อน แล้วเราไม่อาจไปขัดขวางกระบวนการ ทางกฎหมายเพื่อช่วยเพื่อนได้ The Witch in the Wardrobe (2010) | There's no legal basis for us to remove your husband from the house. | ไม่มีความผิดทางทางกฎหมายเบื้องต้น ที่เราจะสามารถนำตัวสามีของคุณ ออกจากบ้านได้ I.F.T. (2010) | How many jurisdictional boundaries have you transgressed over the years? | มีขอบเขตอำนาจทางกฎหมาย สักเท่าไรแล้วล่ะ ที่คุณละเมิดเข้าไป ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา? The Bones That Weren't (2010) | I'm here as the council, not the law. | ชั้นทำหน้าที่คนของสมาคม ไม่ใช่หน้าที่ทางกฎหมาย Kill or Be Killed (2010) |
| | forensics | (adj) เกี่ยวข้องกับทางศาลหรือกระบวนการทางกฎหมาย |
| advocate | (n) ทนาย, See also: ผู้แทนในทางกฎหมาย | acquit of | (phrv) ประกาศว่าไม่มีความผิด (ทางกฎหมาย) | allow for | (phrv) ีจ่ายให้ (มักเป็นทางกฎหมาย เกี่ยวกับการให้เงิน), See also: ยกให้, มอบให้ | arbitrate between | (phrv) ตัดสินชี้ขาดระหว่าง (ทางกฎหมาย), See also: ตัดสิน, เป็นผู้ตัดสินระหว่าง | arbitrate for | (phrv) ตัดสินชี้ขาดเรื่อง (ทางกฎหมาย), See also: ตัดสิน, เป็นผู้ตัดสินเรื่อง, Syn. sue for | arbitrate in | (phrv) ตัดสินชี้ขาดเรื่อง (ทางกฎหมาย), See also: ตัดสิน, เป็นผู้ตัดสินเรื่อง, Syn. adjudicate in | arbitrate on | (phrv) ตัดสินชี้ขาดเรื่อง (ทางกฎหมาย), See also: ตัดสิน, เป็นผู้ตัดสินเรื่อง, Syn. adjudicate on | bailiff | (n) เจ้าพนักงานที่ยึดทรัพย์สิน (ของลูกหนี้) (ทางกฎหมาย), Syn. dispossessor, sheriff | be of sound mind | (idm) สามารถตัดสินได้ (ทางกฎหมาย), See also: มีความสมบูรณ์, มีสติสัมปชัญญะ | be of unsound mind | (idm) ไม่สามารถตัดสินได้ (ทางกฎหมาย), See also: ไม่มีสามารถควบคุมตนเองได้ | bind over | (phrv) ให้สัญญาว่าจะปฏิบัติตาม (ทางกฎหมาย), See also: สัญญาที่จะปฏิบัติตาม | convey to | (phrv) โอนให้กับ (ทางกฎหมาย), See also: ถ่ายให้กับ | decide for | (phrv) ตัดสินสนับสนุน (ทางกฎหมาย), See also: สนับสนุน, Syn. find for, Ant. decide against, find against | file for | (phrv) ยื่นเอกสารเพื่อ (ทางกฎหมาย) | fine for | (phrv) ลงโทษปรับ (ทางกฎหมาย) | defaulter | (n) ผู้ไม่มาขึ้นศาล (ทางกฎหมาย), Syn. obsentee | delict | (n) ความผิดที่กระทำต่อผู้อื่น (ทางกฎหมาย), Syn. misdeed, offense, quilty act | delinquency | (n) การกระทำผิดกฎหมาย (โดยเฉพาะกับเด็ก) (ทางกฎหมายอาญา), Syn. criminality, illegality, wrongdoing, Ant. care, observance | depend | (vi) อยู่ระหว่างการพิจารณา (ทางกฎหมาย) | derelict | (adj) ซึ่งละทิ้งหน้าที่ (ทางกฎหมาย), Syn. dutiful, reliable | derelict | (n) ผู้ละทิ้งหน้าที่ (ทางกฎหมาย) | easement | (n) สิทธิในการใช้ทรัพย์สินของผู้อื่น (ทางกฎหมาย), See also: ี | incorporate with | (phrv) รวมกันเป็นบริษัท (ทางกฎหมายธุรกิจ), See also: รวมกิจการ | impartible | (adj) ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ (ทางกฎหมาย), See also: ที่แบ่งแยกไม่ได้, Syn. indivisible | impeach | (vt) ฟ้องร้อง (ทางกฎหมาย), Syn. charge | impound | (n) ยึดไว้ (ทางกฎหมาย), See also: ยึดไว้เป็นของกลาง, Syn. confiscate, seize | in perpetuum | (adv) ตลอดไป (ทางกฎหมาย), See also: ตลอดกาล, Syn. forever | innocence | (n) ความบริสุทธิ์ (ทางกฎหมาย), Syn. guiltlessness, purity, Ant. guilt | interdict | (n) คำสั่งห้ามของศาล (ทางกฎหมาย), Syn. ban, forbiddance, prohibition, Ant. approval, allowance | interdict | (vt) ห้าม (ทางกฎหมาย), Syn. ban, forbid, prohibit, Ant. permit, allow, authorize | loiter with | (phrv) เดินเตร่เพื่อรอประกอบอาชญากรรม (ทางกฎหมาย) | maker | (n) ผู้เซ็นเอกสาร (ทางกฎหมาย), See also: ผู้เซ็นชื่อกำกับในตั๋วสัญญาใช้เงิน | malefactor | (n) ผู้กระทำความผิด (ทางกฎหมาย), See also: ผู้ทำผิดกฎหมาย, ผู้กระทำผิด, Syn. criminal, crook, wrongdoer | mayhem | (n) การประทุษร้าย (ทางกฎหมาย), See also: การทำร้ายร่างกายผู้อื่น, Syn. maiming, mutilating | minority | (n) ความเป็นผู้เยาว์ (ทางกฎหมาย), Syn. childhood, immaturity | misdemeanant | (n) ผู้ทำความผิด (ทางกฎหมาย), See also: ผู้กระทำผิดอาญาประเภทลหุโทษ | nonfeasance | (n) การเพิกเฉย (ทางกฎหมาย), See also: การละเลย, การละเว้นไม่ยอมปฏิบัติตาม, ความล้มเหลว, Syn. failure, lack, omission | observe | (vt) ยินยอมทำตาม (ทางกฎหมายหรือประเพณี), Syn. comply, obey, Ant. disobey | official receiver | (n) พนักงานพิทักษ์ทรัพย์สิน (ทางกฎหมาย), Syn. receiver | petit | (adj) เล็กน้อย (ปัจจุบันมักใช้ในทางกฎหมาย), See also: ไม่สำคัญ, Syn. petty | presents | (n) เอกสารทางกฎหมาย | proceedings | (n) วิธีการทางกฎหมาย, See also: การดำเนินการตามกฎหมาย | put in | (phrv) แก้ต่างให้ (ทางกฎหมาย) | recover | (vi) ชนะคดี (ทางกฎหมาย) | regulate | (vt) วางระเบียบ (ทางกฎหมาย), See also: กำหนด, บัญญัติ | remand | (vt) ส่งกลับไปคุมขังระหว่างรอการพิจารณาคดี (ทางกฎหมาย), Syn. incarcerate, send to prison | remand | (vt) ส่งกลับไปยังศาลที่ต่ำกว่าเพื่อพิจารณา (ทางกฎหมาย) | remit | (vt) ส่งกลับศาลชั้นต่ำกว่าเพื่อพิจารณาคดี (ทางกฎหมาย) | satisfy | (vt) ชดเชย (ทางกฎหมาย), See also: ชำระหนี้, Syn. repay, disburse | seize | (vt) อนุญาตให้เข้ายึดครอง (ทางกฎหมาย), See also: เข้าครอบครอง, ยึดสถานการณ์, ครองสถานการณ์, Syn. take possession of |
| divorce | (ดิวอร์ส') n. การหย่าร้าง, การแตกแยก, การแตกความสามัคคี.vt. หย่า, แยก vi. ขอหย่า (ทางกฎหมาย) ., See also: divorceable adj. ดูdivorce divorcer n.ดูdivorce divorcive adj. ดูdivorce | force | (ฟอร์ส) n. กำลัง, แรง, พลัง, อำนาจ, อิทธิพล, ผลบังคับทางกฎหมาย, พลังจิต, กองกำลัง, กองทัพ, กลุ่ม, คณะบุคคล -Phr. (in force ซึ่งปฏิบัติการอยู่, มีผล) . vt. บังคับ, ผลักดัน, บีบบังคับ, รุน, ดัน, ยัด, เร่ง. vi. บากบั่น, บุกเบิก, ไปด้วยกำลัง., See also: able adj. force | law | (ลอ) { lawed, lawing, laws } n. กฎหมาย, กฎ, กฎข้อบังคับ, คำสั่ง, วิชากฎหมาย, ความรู้ทางกฎหมาย, อาชีพกฎหมาย, หลักความประพฤติ, กฎทางคณิตศาสตร์ -Phr (the Law บัญญัติสิบประการของโมเซส, คำสั่งสอนในพระคัมภีร์ไบเบิล) . vi., vt. ดำเนินคดี, ฟ้องร้อง | lynch | (ลินชฺ) vt. แขวนคอหรือประหารชีวิตโดยศาลเตี้ยจากกลุ่มคนที่ไม่มีอำนาจ ทางกฎหมาย., See also: lyncher n. ดูlynch | proceeding | (พระซี'ดิง) n. การดำเนินการ, ขั้นตอน, วิธีการ, ขบวนการ, แนวทาง, , See also: proceedings กิจกรรมที่ดำเนินต่อเนื่องในระยะหนึ่ง, การปฏิบัติตามกฎหมาย, วิธีการทางกฎหมาย | variance | (แว'ริเอินซฺ) n. การเปลี่ยนแปลง, ลักษณะที่เปลี่ยนแปลง, การผันแปร, ลักษณะที่ผันแปร, (สถิติ) จำนวนกำลังสองของคำเปลี่ยนแปลงมาตรฐาน (standard deviation) , ดีกรีของความอิสระของระบบหนึ่ง, ความแตกต่างระหว่างสองขั้นตอนทางกฎหมาย, การอนุญาตเป็นทางการให้กระทำสิ่งใดที่ต้องห้าม | void | (วอยดฺ) adj. โมฆะ, ไม่มีผลทางกฎหมาย, ไม่มีประโยชน์, ไม่ได้ผล, ขาดแคลน, ว่างเปล่า, ว่าง. n. ช่องว่าง, ที่ว่าง, ตำแหน่งว่าง. vt. ทำให้ไม่ได้ผล, ทำให้ว่างเปล่า, เพิกถอน, ทำให้ว่าง, ถ่าย, ระบาย, จากไป., See also: voider n. voidness n. คำที่มีความหมายเหมือนกั |
| forensic | (adj) ทางวาทศิลป์, ทางกฎหมาย, เกี่ยวกับการเล่นสำนวนโวหาร |
| 法的拘束力 | [ほうてきこうそくりょく, houtekikousokuryoku] ข้อผูกมัดทางกฎหมาย | 法網 | [ほうもう, houmou] (n) ตาข่ายทางกฎหมาย |
| 申告 | [しんこく, shinkoku] TH: การยื่นความจำนงเพื่อกระทำการทางกฎหมายกับสถานที่ราชการ EN: report | 法的 | [ほうてき, houteki] TH: ในทางกฎหมาย |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |