ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ลงโทษ, -ลงโทษ- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ ลงโทษ | (v) punish, See also: penalize, chastise, Syn. ลงทัณฑ์, ลงอาญา, Example: ตำรวจต้องสืบหาผู้ก่อคดีฆาตกรรมโหดคดีมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว | บทลงโทษ | (n) penalty, See also: legal punishment, penal code, Syn. บทกำหนดโทษ, ข้อบัญญัติโทษ, Example: ในมาเลเซียข้าราชการไม่กล้าคอร์รัปชั่นเพราะมีบทลงโทษที่รุนแรง, Count Unit: ข้อ |
|
| บทลงโทษ | น. ข้อบัญญัติโทษทางอาญา. | ลงโทษ | ก. ทำโทษเช่นเฆี่ยน จำขัง ปรับเอาเงิน เป็นต้น. | กฎหมาย | ออกหมายกำหนด เช่น ให้มหาดไทยกลาโหมกฎหมายบอกแก่ตระลาการ ถ้ากฎหมายมิทั่ว จะเอาตัวผู้กฎหมายลงโทษ (พระราชกำหนดเก่า) | กฎหมายอาญา | น. กฎหมายที่กำหนดลักษณะของการกระทำที่ถือว่าเป็นความผิด และกำหนดบทลงโทษทางอาญาสำหรับความผิดนั้น. | กบิล ๒ | วิธีการ เช่น ลงโทษตามกบิลเมือง | กรรม-กรณ์ | (กำมะกอน) น. อาญา, เครื่องสำหรับลงอาญา. ก. ลงโทษ เช่น สามซ้ำควรกรรมกรณ์ นุกิจราชอาชญา (กฤษณา). | กระดูกร้องได้ | น. ผลสะท้อนของฆาตกรรมที่ทำให้จับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ คล้ายกับว่ากระดูกของผู้ตายร้องบอก. | กรุ ๑ | (กฺรุ) น. ห้องที่ทำไว้ใต้ดิน ใต้พระเจดีย์ เป็นต้น สำหรับเก็บพระพุทธรูปและสิ่งมีค่าอื่น ๆ, โดยปริยายหมายถึงกระทรวง ทบวง กรม ที่ข้าราชการในสังกัดถูกเรียกตัวเข้ามาอยู่ประจำ โดยมิได้มีตำแหน่งหน้าที่ใด ๆ เพื่อเป็นการลงโทษหรือก่อนเกษียณอายุราชการ ในความว่า เรียกเก็บเข้ากรุ. | กลืนน้ำลายตัวเอง | ก. พูดไว้อย่างหนึ่งแล้วกลับพูดแย้งคำที่พูดไว้เดิม เช่น เขาบอกว่าจะลงโทษคนที่ทุจริต พอลูกน้องตนเองทุจริตกลับกลืนน้ำลายตัวเองออกมาปกป้องลูกน้อง. | กินแถว | ก. เอาตัวหมากออกจากกระดานตลอดทั้งแถว (ใช้เฉพาะการเล่นหมากแยก). ว. กระทบกระเทือนทุกคนในพวกนั้น, ถูกลงโทษทุกคนในพวกนั้น. | คว่ำบาตร | ก. ไม่ยอมคบค้าสมาคมด้วย, เดิมหมายถึงสังฆกรรมที่พระสงฆ์ประกาศลงโทษคฤหัสถ์ผู้ประทุษร้ายต่อศาสนาด้วยการไม่คบ ไม่รับบิณฑบาต เป็นต้น. | คาดโทษ | ก. หมายไว้ว่าถ้ากระทำผิดอีกจะลงโทษเท่าใด. | คุ้มโทษ | ก. ได้รับความคุ้มครองยกเว้นที่จะไม่ต้องถูกลงโทษ เช่น อหนึ่งผู้ตามโจรได้รบพุ่งฟันแทงมีบาดเจบท่านว่าคุ้มโทษ (สามดวง). | เฆี่ยน | ก. ตีด้วยหวายหรือไม้เรียวเป็นต้นเป็นการลงโทษ | จำ ๒ | ก. ลงโทษด้วยวิธีเอาโซ่ตรวนล่ามไว้ เช่น จำโซ่ จำตรวน, ลงโทษด้วยวิธีขัง เช่น จำคุก. | เชือดไก่ให้ลิงดู | ก. ลงโทษคนหนึ่งหรือคนกลุ่มหนึ่ง เพื่อเป็นตัวอย่างให้คนอื่นหรือคนกลุ่มอื่นเกิดความเกรงกลัวไม่กล้าขัดคำสั่ง หรือไม่กล้าทำความผิด. | ฐาน ๓ | สัน. เพราะ เช่น ถูกลงโทษฐานละเลยหน้าที่. | ด้วย | บ. คำนำหน้านามเพื่อให้รู้ว่านามนั้นเป็นเครื่องใช้หรือเป็นสิ่งที่ใช้เป็นเครื่องกระทำ เช่น ฟันด้วยมีด, เพราะ, เหตุ, เช่น ลงโทษด้วยอารมณ์ ได้ดีด้วยความสามารถ. สัน. เพราะ, เหตุ, เช่น ด้วยปรากฏว่า. | ดื้อด้าน | ว. ดื้อมากแม้จะถูกลงโทษ ติเตียน หรือตำหนิหลายครั้ง ก็ไม่เข็ดหลาบหรือไม่ยอมฟัง. | ต้องโทษ | ก. ถูกตัดสินให้ลงโทษในคดีอาญา. | ตะพุ่นหญ้าช้าง | คนที่ถูกลงโทษให้ทำหน้าที่เช่นนั้น. | ถอดเล็บ | ก. ดึงเล็บมือออก เป็นวิธีลงโทษในสมัยโบราณแบบหนึ่ง. | ถูก ๑ | เป็นกริยาช่วยแสดงว่าประธานของประโยคเป็นผู้ถูกทำ (มักใช้ในข้อความที่ทำให้ผู้ถูกทำเดือดร้อนหรือไม่พอใจ) เช่น ถูกเฆี่ยน ถูกลงโทษ. | ทัณฑกรรม | (ทันดะ-, ทันทะ-) น. การลงโทษ, โทษที่ลงแก่สามเณรที่ประพฤติผิด | ทัณฑวิทยา | (ทันทะ-) น. วิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับวิธีลงโทษผู้กระทำผิดทางอาญา. | ทำโทษ | ก. ลงโทษ. | ที่บังคับ | น. ที่ที่คับแคบและกำหนดไว้เฉพาะ เช่น เขาถูกลงโทษให้อยู่แต่ในที่บังคับ. | เทวทัณฑ์ | น. การลงโทษของเทวดา, เทวดาลงโทษ, เช่น คนถูกฟ้าผ่าตายถือว่าเป็นเทวทัณฑ์. | โทษ, โทษ- | (โทด, โทดสะ-) น. ความไม่ดี, ความชั่ว, เช่น โทษแห่งความเกียจคร้าน, ความผิด เช่น กล่าวโทษ, ผลแห่งความผิดที่ต้องรับ เช่น ถูกลงโทษ, ผลร้าย เช่น ยาเสพติดให้โทษ. | ธรณีสูบ | ก. อาการที่แผ่นดินแยกออกทำให้คนที่ทำบาปกรรมอย่างยิ่งตกลงหายไป แล้วแผ่นดินก็กลับเป็นอย่างเดิม เป็นความเชื่อทางพระพุทธศาสนาว่า ธรรมชาติจะลงโทษคนที่ทำบาปหนักนั้นเอง โดยผู้อื่นไม่ต้องลงโทษ. | นรก | (นะ-) น. แดนหรือภูมิที่เชื่อกันว่าผู้ทำบาปจะต้องไปเกิดและถูกลงโทษ, โดยปริยายหมายถึงแดนที่มีแต่ความทุกข์ทรมาน. | นักโทษ | น. บุคคลซึ่งถูกลงโทษจำคุก. | นักงาน | น. หน้าที่ เช่น อันการสงครามครั้งนี้ ไว้นักงานพี่จะช่วยหัก (รามเกียรติ์ ร. ๑), เจ้าพนักงาน เช่น เหวยนักงานเอ๋ย เร่งรุกเร็วบัดนี้พลัน จงแสดงทุกข์แห่งโอรส ให้ปรากฏโดยคดี ว่าบัดนี้หมู่สีพีลงโทษ โกรธจอมธรรม์ (ม. คำหลวง หิมพานต์). | นิคหกรรม | น. การลงโทษที่สงฆ์ทำแก่ภิกษุที่ควรปราบเพื่อให้เข็ดหลาบ. | บีบขมับ | ก. เอาไม้คาบเข้าที่ขมับทั้ง ๒ ข้าง แล้วผูกรวบรัดหัวท้ายไม้คาบนั้นเข้าด้วยกัน เป็นวิธีลงโทษในสมัยโบราณแบบหนึ่ง. | โบย ๑ | ก. เฆี่ยนด้วยหวายเป็นต้นเป็นการลงโทษ. | ใบแดง | ใบแสดงการลงโทษผู้เล่นฟุตบอลที่กระทำผิดกติกาอย่างรุนแรง โดยไล่ออกจากการแข่งขัน. | ประชาทัณฑ์ | น. การที่ฝูงชนกลุ้มรุมทำร้าย เป็นการลงโทษบุคคลที่ตนเข้าใจหรือนึกว่ามีความผิด โดยไม่ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม. | ประหารชีวิต | ก. ลงโทษฆ่า. | ปรับ ๒ | ลงโทษให้ใช้เงินเพราะทำผิด, ลงโทษให้เป็นแพ้ | ผู้ต้องโทษ | น. ผู้ต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ลงโทษหรือให้กักกัน. | พระ | พระเจ้า, พระเยซู, (ตามที่คริสต์ศาสนิกชนในเมืองไทยใช้อนุโลมเรียก) เช่น พระลงโทษ แม่พระ | ฟ้าไม่กระเทือนสันหลัง | น. อำนาจเบื้องบนหรือผู้ปกครองยังไม่ลงโทษทัณฑ์ ใช้ในสำนวนว่า ถ้าฟ้าไม่กระเทือนสันหลังก็ยังไม่รู้สึก. | ภาคทัณฑ์ | (พากทัน) ก. ตำหนิโทษ, คาดโทษ, ลงโทษเพียงว่ากล่าว, ลงโทษข้าราชการพลเรือนโดยตำหนิโทษเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งเป็นการลงโทษขั้นเบาที่สุด. | ยมบาล | น. เจ้าพนักงานเมืองนรก มีหน้าที่ลงโทษทรมานคนที่ตกนรกตามคำสั่งของพญายม. | รมควันเด็ก | น. วิธีลงโทษเด็กที่ดื้อมาก ๆ อย่างหนึ่ง โดยเอากาบมะพร้าวแห้งเผาไฟให้ควันรมหน้ารมตาเด็กเพื่อให้สำลักควันจะได้เข็ด. | ร้อน ๆ หนาว ๆ | ก. ครั่นเนื้อครั่นตัว, มีอาการคล้ายจะเป็นไข้เพราะเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว, โดยปริยายหมายความว่า มีความเร่าร้อนใจกลัวว่าจะถูกลงโทษหรือถูกตำหนิเป็นต้น, สะบัดร้อนสะบัดหนาว หรือ หนาว ๆ ร้อน ๆ ก็ว่า. | ระสะเก็ด | ว. เรียกอาการลงโทษเฆี่ยนหลังซํ้าแผลเก่าที่ตกสะเก็ดแล้ว ว่า เฆี่ยนระสะเก็ด, โดยปริยายหมายความว่า พูดตำหนิซํ้าแล้วซํ้าอีก. | ราชทัณฑ์ | น. โทษที่กระทำผิดต่อพระมหากษัตริย์, โทษหลวง, เช่น ต้องราชทัณฑ์, เรียกกรมที่มีหน้าที่ลงโทษผู้กระทำผิดตามตัวบทกฎหมายควบคุมอบรมฝึกวิชาชีพให้แก่ผู้กระทำผิด พักการลงโทษและคุมประพฤติ และขอพระราชทานอภัยโทษ ปลดปล่อยและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษ เป็นต้น ว่า กรมราชทัณฑ์. | รู้สำนึก | ก. รู้สึกตัวว่าผิด เช่น ถูกลงโทษอย่างหนักแล้วยังไม่รู้สำนึก. |
| penalty | ๑. การลงโทษ๒. เบี้ยปรับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | penalty | ๑. เบี้ยปรับ (ก. แพ่ง)๒. การลงโทษ (ก. อาญา) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | punishment | การลงโทษ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | punishment, corporal | การลงโทษทางกาย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | reprieve | การชะลอการลงโทษ, การรอการลงโทษ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | reprieve | การชะลอการลงโทษ, การรอการลงโทษ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | retributive justice | ความยุติธรรมในการลงโทษ, การลงโทษเพื่อความยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | sentence | ๑. พิพากษา๒. คำพิพากษาลงโทษ, คำตัดสินลงโทษ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | split sentence | คำพิพากษาที่แยกการลงโทษ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | suspended sentence | คำพิพากษารอการลงโทษ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | summary conviction | การตัดสินลงโทษอย่างรวบรัด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | audi alteram partem (L.) | ๑. ให้ฟังความอีกฝ่ายหนึ่งด้วย๒. จะลงโทษผู้ใดต้องฟังความของผู้นั้นก่อน (ภาษิต) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | accumulative sentences | คำพิพากษาให้เรียงกระทงลงโทษ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | autrefois convict (Fr.) | เคยถูกพิพากษาลงโทษมาแล้ว (ในการกระทำผิดครั้งเดียวกัน) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | justice, retributive | ความยุติธรรมในการลงโทษ, การลงโทษเพื่อความยุติธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | malus | เบี้ยลงโทษ [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | multiple sentences | คำพิพากษาลงโทษเรียงกระทง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | corporal punishment | การลงโทษทางกาย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | corporal punishment | การลงโทษทางกาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | condemnation | ๑. การพิพากษาลงโทษทางอาญา (ป. วิ. อาญา)๒. การบังคับให้บุคคลกระทำหรืองดเว้นกระทำ การตามคำพิพากษา (ป. วิ. แพ่ง)๓. การประณาม, การพิพากษาของศาลทรัพย์เชลย (ก. ระหว่างประเทศ)๔. การเรียกเกณฑ์ทรัพย์, การเวนคืนทรัพย์, การสั่งห้ามใช้อาคาร (ที่ไม่ถูกต้องด้วยสุขลักษณ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | concurrent sentences | คำพิพากษาลงโทษหลายกระทงพร้อมกัน (โดยถือกำหนดโทษที่ยาวที่สุดเป็นเกณฑ์) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | condemnation | ๑. การพิพากษา (ให้ลงโทษหรือให้ริบทรัพย์สิน)๒. การสั่งห้ามใช้ (อาคารหรือยานพาหนะที่มีสภาพไม่ปลอดภัย)๓. การประณาม (ในทางการระหว่างประเทศ)๔. การพิพากษาของศาลทรัพย์เชลย๕. การเวนคืนทรัพย์ [ ดู expropriation ประกอบ ] [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | convict | ๑. ผู้ต้องโทษ, นักโทษ๒. พิพากษาลงโทษ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | conviction | การพิพากษาลงโทษ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | consecutive sentences | คำพิพากษาลงโทษต่อเนื่องกัน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | xylon | การลงโทษใส่ขื่อคา (ของชาวกรีกโบราณ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | death sentence | การลงโทษประหารชีวิต [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | excessive punishment | การลงโทษเกินควร [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | impunity | การไม่ต้องถูกลงโทษ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | infliction of punishment | การลงโทษ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | vindictive damages | ค่าเสียหายที่เพิ่มเพื่อลงโทษ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | third conviction | การตัดสินลงโทษผู้กระทำความผิดติดนิสัย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | nemo bis punitur pro eodem delicto (L.) | ไม่มีผู้ใดจะถูกลงโทษซ้ำในความผิดอันเดียวกัน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | unusual punishment | การลงโทษอย่างผิดธรรมดา, การลงโทษอย่างวิตถาร [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
| Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman, or Degrading Treatment or Punishment (1984) | อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (ค.ศ. 1984) [TU Subject Heading] | Convention on the Prevention and Punishment of the Crime of Genocide (1948) | อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษอาชญากรรมทำลายล้างเผ่าพันธุ์ (ค.ศ. 1948) [TU Subject Heading] | Exemplary damages | ค่าเสียหายเชิงลงโทษ [TU Subject Heading] | Punishment in crime deterrence | การลงโทษเพื่อปกป้องปรามอาชญากรรม [TU Subject Heading] | Retribution | การลงโทษเพื่อความยุติธรรม [TU Subject Heading] | Economic sanction | การลงโทษทางเศรษฐกิจ, Example: มาตรการทางเศรษฐกิจที่ประเทศ หรือกลุ่มประเทศหนึ่งใช้เพื่อกดดันอีกประเทศหนึ่ง ให้เปลี่ยนแปลงนโยบายบางประการ การลงโทษนี้รวมถึงการห้ามค้าขาย (ดู Embargo) และการจำกัดการลงทุนในประเทศนั้น ๆ ด้วย [สิ่งแวดล้อม] | Amnesty International | องค์การนิรโทษกรรมสากล องค์การนี้เริ่มต้นจากเป็นขบวนการเล็ก ๆ ก่อน เพื่อทำหน้าที่ประท้วง (Protest) แต่ภายในเวลาไม่นานนัก ได้ขยายตัวออกเป็นองค์การ เพื่อให้สมกับเป้าหมายและภารกิจที่ต้องปฏิบัติเพิ่มขึ้นมากมาย คติดั้งเดิมของการรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนบรรดาบุคคลที่ต้องถูกคุม ขังอยู่ทั่วโลก ด้วยข้อหาเกี่ยวกับความเชื่อถือทางการเมืองและการศาสนานั้น ได้บังเกิดจากความคิดของบุคคลหนึ่งชื่อปีเตอร์ เบเนนสันปีเตอร์ เบเนนสัน ได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ประจำวันอาทิตย์ของอังกฤษชื่อ Sunday Observer เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1961 โดยให้หัวเรื่องบทความว่า ?นักโทษที่ถูกลืม? (The Forgotten Prisoners) บทความนี้ได้ประทับใจมติมหาชนทั่วโลกทันที และภายในปีเดียว องค์การได้รับเรื่องร้องเรียนในนามของนักโทษกว่า 200 รายองค์การนิรโทษกรรมสากลมีเป้าหมายนโยบายกว้างๆ อยู่ 3 ข้อ คือ ต้องการให้ปล่อยนักโทษผู้มีนโนธรรม (Prisoners of Conscience) ทั้งหมด ให้มีการยุติการทรมานนักโทษไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ รวมทั้งการลงโทษประหารชีวิตและให้มีการพิจารณาพิพากษาคดีนักโทษการเมืองทั้ง หมดอย่างเป็นธรรมและไม่รอช้า องค์การนี้นอกจากจะมีชื่อเสียงว่าเป็นผู้ดำรงความเป็นกลางไม่เข้ากับฝ่ายใด และเป็นที่น่าเชื่อถือไว้วางใจได้อย่างแท้จริงแล้ว ยังเป็นเสมือนศูนย์ข้อมูลและข้อสนเทศที่สำคัญ ซึ่งบรรดาบุคคลสำคัญๆ ทางการเมืองทั่วโลกได้ใช้อ้างอิงอีกด้วยในปัจจุบัน องค์การนิรโทษกรรมมีสมาชิกและผู้สนับสนุนเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านคน จากประเทศต่างๆ กว่า 150 ประเทศ องค์การอยู่ภายใต้การบริหารของคณะกรรมการบริหารจำนวน 9 คน รวมทั้งตัวเลขาธิการอีกผู้หนึ่ง ทำหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อมติเกี่ยวกับนโยบาย และเป็นหัวหน้าของสำนักเลขาธิการขององค์การด้วย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ องค์การมีผู้แทนของตนประจำอยู่กับองค์การสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ. 1978 ได้รับรางวัลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ และในปี ค.ศ. 1977 ก็ได้รับรางวัลสันติภาพโนเบลมาแล้ว [การทูต] | Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman and Degrading Treatment or Punishment | อนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และการปฏิบัติ หรือการลงโทษอื่น ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี [การทูต] | Extradition | การส่งผู้ร้ายข้ามแดน การที่ชาติหนึ่งยอมส่งคนในชาติของตนให้แก่อีกชาติหนึ่ง คือคนในชาติที่ถูกกล่าวหา หรือต้องโทษฐานกระทำความผิดภายนอกเขตแดนของตน และเป็นความผิดที่กระทำขึ้นในเขตอำนาจของอีกชาติหนึ่ง ซึ่งมีความสามารถที่จะตัดสินคดี รวมทั้งลงโทษบุคคลที่ถูกกล่าวหานั้นข้ออ้างว่า ในกรณีที่ชนชาติหนึ่งซึ่งถูกกล่าวหาว่าประกอบอาชญากรรมแล้วหลบหนีไปยังต่าง ประเทศนั้น รัฐของผู้ที่ประกอบอาชญากรรมมีสิทธิที่จะขอให้ต่างประเทศนั้นส่งตัวผู้กระทำ ผิดกลับคืนมา เพื่อส่งตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาลงโทษได้ แต่หลายคนยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ในข้อนี้ มีไม่น้อยที่สนับสนุนหลักการที่ว่า กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองหน้าที่ที่จะต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดน กล่าวคือ นอกจากสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่มีต่อกันแล้ว กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองสิทธิที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กัน อย่างไรก็ดี ตามสนธิสัญญาที่มีต่อกัน ผู้ร้ายที่หนีความยุติธรรมจะถูกส่งไปให้อีกประเทศหนึ่งตามสนธิสัญญานั้น จักกระทำโดยวิถีทางการทูต ส่วนผู้หลบหนีเจ้าหน้าที่เพราะเหตุผลทางการเมือง จะส่งข้ามแดนอย่างผู้ร้ายไม่ได้ และเมื่อหลบหนีไปยังอีกประเทศหนึ่งได้สำเร็จ ประเทศนั้นๆ มักจะให้อาศัยพักพิงในประเทศของตนเป็นในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง [การทูต] | Genocide | การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1946 สมัชชาสหประชาชาติได้ยืนยันเป็นเอกฉันท์ว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือการฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อนนั้นให้ถือเป็นอาชญากรรม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งโลกที่บรรลุความเจริญแล้วประณามอย่างรุนแรงอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกัน และการลงโทษอาชญากรรมเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ สมัชชาสหประชาชาติได้ลงมติรับรองเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 1948 อนุสัญญานี้ได้นิยามคำว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) หมายถึงการประกอบอาชญากรรมบางอย่าง โดยมีเจตนาที่จะทำลายล้างกลุ่มชนชาติ กลุ่มเผ่าพันธุ์ กลุ่มเชื้อชาติ หรือกลุ่มศาสนา ในบางส่วนหรือทั้งหมดก็ตาม การประกอบกรรมซึ่งถือเป็นการฆ่าล้างชาตินั้นได้แก่ การฆ่า การทำให้เกิดความเสียหายอย่างสาหัส ทั้งต่อร่างกายหรือจิตใจ และการบังคับให้มีสภาวะการครองชีพที่เจตนาจะให้ชีวิตร่ายกายถูกทำลาย ไม่ว่าจะเพียงส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดก็ตาม ตลอดจนออกมาตรการกีดกันมิให้มีลูกและโยกย้ายเด็ก ๆ ไม่เพียงแต่การฆ่าล้างชาติอย่างเดียว หากแต่การคบคิดหรือการยุยงให้มีการฆ่าล้างชาติ รวมทั้งความพยายามที่จะฆ่าล้างชาติและสมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมดังกล่าว ย่อมถูกลงโทษได้ตามนัยแห่งอนุสัญญานี้ บรรดาผู้ที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกลงโทษไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้ ปกครอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง หรือเอกชนส่วนบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดของตามกฎหมายก็ตามบรรดาประเทศที่ภาคี อนุสัญญานี้จำเป็นต้องออกกฎหมายของตนเพื่อรองรับ และจะต้องตกลงเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนในกรณีที่บุคคลนั้นๆ มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติ และบุคคลที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกพิจารณาลงโทษในประเทศที่มีการ ประกอบอาชญากรรมดังกล่าวขึ้น หรือโดยศาลระหว่างประเทศที่มีอำนาจครอบคลุมถึงเจตนารมณ์ของสนธิสัญญานี้ เพื่อต้องการป้องกัน และลงโทษอาชญากรรมฆ่าล้างชาติ ไม่ว่าจะประกอบขึ้นในยามสงครามหรือในยามสงบก็ตามอนุสัญญาดังกล่าวได้เริ่มมี ผลบังคับเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1951 เป็นเวลา 90 วันหลังจากที่ 20 ประเทศได้ให้สัตยาบัน หรือให้ภาคยานุวัติตามที่ระบุอยู่ในอนุสัญญา อนุสัญญานี้จะมีผลบังคับเป็นเวลา 10 ปี และมีการต่ออายุสัญญาทุก 5 ปี สำหรับประเทศที่มิได้บอกเลิกสัญญา หากประเทศที่ยังเป็นภาคีอนุสัญญามีจำนวนเหลือไม่ถึง 16 ประเทศ อนุสัญญานี้จะเลิกมีผลบังคับทันที [การทูต] | Hugo Grotius (1583-1645) | บรมครูทางกฎหมายของเนเธอร์แลนด์ เป็นบุคคลแรกที่ได้ประกาศเสรีภาพของทะเล (Freedom of the Seas) ในตำราของท่านชื่อ Mare Liberumนักกฎหมาย รัฐบุรุษ และปรัชญาเมธีด้านมนุษยธรรมของเนเธอร์แลนด์ผู้นี้ ภายหลังเกิดมาได้ไม่กี่ปีก็ส่อให้เห็นว่าเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดอย่างน่า มหัศจรรย์ เขาเริ่มศึกษาวิชากฎหมายตั้งแต่มีอายุได้ 11 ขวบ ณ สถาบันศึกษาชั้นสูงแห่งเลย์เด็นในเนเธอร์แลนด์ และได้รับปริญญาเอกทางกฎหมายจากมหาวิทยาลัย ณ เมืองออร์ลีนส์ ในประเทศฝรั่งเศสเมื่อมีอายุได้เพียง 15 ปี โดยที่เป็นผู้ฝักใฝ่ในการเมือง เขาได้ถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1618 ด้วยข้อหาทางการเมือง แต่ต่อมาใน ค.ศ. 1621 ได้หลบหนีไปยังประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ 1625 เขาได้แต่งตำรากฎหมายซึ่งถือกันว่าเป็นตำราอมตะชื่อว่า Jure Belli ac Pacis (แปลว่า เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยสงครามและสันติภาพ) เป็นงานเขียนที่เหมาะกับสมัย และเขียนอย่างนักวิชาการอันเยี่ยมยอดที่สุดไม่มีใครเหมือนในสมัยนั้น และด้วยความรู้สึกที่รักความยุติธรรมอย่างแรงกล้าด้วยเหตุนี้ ทั่วโลกจึงขนานนาม Hugo Grotius ว่าเป็นบิดาแห่งกฎหมายระหว่างประเทศหรือกฎหมายนานาชาติ (Father of the Law of Nations) [การทูต] | Personal Inviolability of Diplomatic Agents | หมายถึง ตัวบุคคลของตัวแทนทางทูตจะถูกละเมิดมิได้ กล่าวคือ มาตรา 29 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติในเรื่องนี้ไว้ว่า ?ตัวบุคคลของตัวแทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้ ตัวแทนทางการทุตจะไม่ถูกจับกุมหรือกักขังในรูปใด ๆ ให้รัฐผู้รับปฏิบัติต่อตัวแทนทางการทูตด้วยความเคารพตามสมควร และดำเนินการที่เหมาะสมทั้งมวลที่จะป้องกันการประทุษร้ายใด ๆ ต่อตัวบุคคล เสรีภาพ หรือเกียรติของตัวแทนทางการทูต?ตัวบุคคลของตัวแทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้ นั้น ได้ถือเป็นปัจจัยหลักในการที่ให้ผู้แทนทางการทูตได้รับสิทธิและความคุ้มกัน ทั้งมวล ถึงกับมีการพูดกันว่า ผู้ใดประทุษร้ายต่อตัวเอกอัครราชทูต จักถือว่าเป็นการทำร้ายต่อประมุขของประเทศซึ่งผู้แทนทางการทูตผู้นั้นเป็น ตัวแทนอยู่ ทั้งยังถือว่าเป็นการยังผลร้ายต่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชาติทั้ง มวลด้วยตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1964 ชายหนุ่มญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งมีจิตวิปลาส ได้ใช้มีดแทง นายเอ็ดวิน โอไรส์ชาวเออร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศญี่ปุ่น ในเขตนอกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงโตเกียว รัฐมนตรีว่าการกระทวงมหาดไทยญี่ปุ่นได้ลาออกจากตำแหน่งทันทีและรุ่งขึ้นใน วันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1964 นายอิเคดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในสมัยนั้น ได้ทำการขอโทษต่อประชาชนชาวอเมริกันทางวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการดำเนินการในทำนองนี้ และการที่นายกรัฐมนตรีอิเคดะได้ปฏิบัติดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า การที่ตัวบุคคลของผู้แทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้นั้น มีความสำคัญมากเพียงใดตัวแทนทางการทูตจะถูกจับ ถูกฟ้องศาล หรือถูกลงโทษฐานประกอบอาชญากรรมนั้นไม่ได้ เพราะถือว่าผู้แทนทางการทูตมิได้อยู่ในอำนาจศาลของรัฐผู้รับ อย่างไรก็ดี หากผู้แทนทางการทูตกระทำความผิดอย่างโจ่งแจ้ง รัฐผู้รับอาจขอให้รัฐผู้ส่งเรียกตัวกลับไปยังประเทศของเขาได้ในทันที [การทูต] | rule of speciality/specialty | หลักเกณฑ์ว่าด้วยการพิจารณาความผิดเฉพาะเรื่อง หลักเกณฑ์ไม่ให้ลงโทษผู้ร้ายข้ามแดนในความผิดอื่น นอกเหนือจากความผิดที่ขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน [การทูต] | sanction | การคว่ำบาตร (ในกรอบสหประชาชาติ) " หมายถึง มาตรการลงโทษที่คณะมนตรีความมั่นคง ใช้ต่อประเทศสมาชิกที่มีการกระทำที่ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ รวมทั้งเป็นภัยต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศโดยการจำกัด หรือห้ามประเทศสมาชิกอื่น ๆ ติดต่อในด้านต่าง ๆ (เช่น ด้านการค้า การคมนาคมขนส่ง) อย่างเป็นทางการกับประเทศนั้น ๆ เพื่อบีบบังคับให้มีการปฏิบัติตามข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคง มาตรการห้ามการ ติดต่อเหล่านี้ บางครั้งเรียกว่า ปิดล้อม (embargo) เช่น ปิดล้อมด้านอาวุธ ปิดล้อมด้านการค้า เป็นต้น " [การทูต] | Security Council of the United Nations | คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีนี้ประกอบด้วยสมาชิกถาวร (Permanent members) 5 ประเทศ คือ จีน ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต อังกฤษ และสหรัฐฯ และมีสมาชิกไม่ถาวร (Non-permanent members) อีก 10 ประเทศ ซึ่งสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเป็นผู้เลือกตั้ง และให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งประเทศละ 2 ปี สมาชิกประเภทนี้ไม่มีสิทธิรับเลือกตั้งใหม่ในทันที และในการเลือกตั้งจะคำนึงส่วนเกื้อกูลหรือบทบาทของประเทศผู้สมัครที่มีต่อ การธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งที่มีต่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ขององค์การสหประชาชาติด้วย ในการเลือกตั้ง จะคำนึงถึงการแบ่งกลุ่มประเทศสมาชิกดังนี้คือ ก. 5 ประเทศจากแอฟริกาและเอเชียข. 1 ประเทศจากยุโรปตะวันออกค. 2 ประเทศจากละตินอเมริกาง. 2 ประเทศจากยุโรปตะวันตก และประเทศอื่น ๆหน้าที่ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีดังนี้1. ธำรงรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ2. สอบสวนเกี่ยวกับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งระหว่างประเทศ3. เสนอแนะวิธีที่จะใช้กรณีพิพาทเช่นว่านั้น หรือ เงื่อนไขที่ให้มีการตกลงปรองดองกัน4. วางแผนเพื่อสถาปนาระบบการควบคุมกำลังอาวุธ5. ค้นหาและวินิจฉัยว่ามีภัยคุกคามต่อสันติภาพ หรือ เป็นการกระทำที่รุกรานหรือไม่ แล้วเสนอแนะว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร 6. เรียกร้องให้สมาชิกประเทศที่ทำการลงโทษในทางเศรษฐกิจ และใช้มาตรการอื่น ๆ ที่ไม่ถึงขั้นทำสงคราม เพื่อป้องกันมิให้เกิดหรือหยุดยั้งการรุกราน7. ดำเนินการทางทหารตอบโต้ฝ่ายที่รุกราน8. เสนอให้รับประเทศสมาชิกใหม่ รวมทั้งเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ ในการที่จะเข้าเป็นภาคีตามกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ 9. ทำหน้าที่ให้ภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ ในเขตที่ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์10. เสนอแนะให้สมัชชาสหประชาชาติ แต่งตั้งตัวเลขาธิการและร่วมกับสมัชชาในการเลือกตั้งผู้พิพากษาศาลโลก11. ส่งรายงานประจำปีและรายงานพิเศษต่อสมัชชาสหประชาชาติบรรดาประเทศสมาชิกของสห ประชาชาติ ต่างตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อมติใด ๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง ทั้งยังรับรองที่จะจัดกำลังกองทัพของตนให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงหากขอร้อง รวมทั้งความช่วยเหลือและและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ [การทูต] | War Crimes | อาชญากรรมสงคราม ตามกฎบัตรต่อท้ายความตกลงว่าด้วยการพิจารณาลงโทษ อาชญากรสางคามที่สำคัญ ๆ ของฝ่ายอักษะยุโรป (European Axis) การกระทำต่อไปนี้ถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามคือ การละเมิดกฎหมายหรือประเพณีของการสงคราม เช่น การฆ่า การปฏิบัติอันโหดร้าย หรือการขับคนไปทำงานเยี่ยงทาส หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด ซึ่งกระทำต่อราษฎรพลเรือนของดินแดนที่ถูกยึดครอง การฆ่าหรือปฏิบัติอย่างโหดร้ายต่อเชลยศึกหรือบุคคลในท้องทะเล การฆ่าตัวประกัน การปล้นสะดมทรัพย์สินสาธารณะหรือส่วนบุคคล การทำลายล้างตัวเมืองหรือหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่จำเป็นในแง่การทหาร [การทูต] | Work of the United Nations on Human Rights | งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต] | Conviction | ลงโทษ [การแพทย์] | Escape from Punishment | หลีกเลี่ยงการลงโทษ [การแพทย์] |
| Do you know what the penalty is for stealing? | เจ้ารู้มั้ยว่าการขโมยของต้องโดนลงโทษยังไง? Aladdin (1992) | She's making herself ill just to spite us. | หล่อนทำให้ตัวเองป่วย เพื่อลงโทษพวกเรา Wuthering Heights (1992) | I ain't supposed to talk to you. George said he'd give me hell. He told me this. | ฉันไม่ควรจะพูดกับเธอ จอร์จพูดว่า เขาจะลงโทษฉัน เขาบอกมาอย่างนี้ Of Mice and Men (1992) | - His punishment shall not be to die, | - จะลงโทษมันโดยไม่ให้ตาย, - ไม่เหรอ? Hocus Pocus (1993) | We are doomed. | พวกเราจะโดนลงโทษ. Hocus Pocus (1993) | I feel it is my duty to wonder aloud... why you were not charged with treason to the Crown... a charge that carries a penalty of death by hanging... a sentence I would have had no difficulty in passing... in this case. | ฉันรู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ของฉัน สงสัยดัง ... ทำไมคุณไม่คิดค่าบริการ กับกบฏเพื่อ Crown ... ค่าใช้จ่ายที่ดำเนินการลงโทษ ของการเสียชีวิตโดยการแ? In the Name of the Father (1993) | I've petitioned before the court for his compassionate parole. | ฉันได้ petitioned ก่อนศาล สำหรับการพักการลงโทษความเห็นอกเห? In the Name of the Father (1993) | you were not charged with treason to the Crown... a charge that carries a penalty of death by hanging... | คุณไม่ต้องเสียค่า กับกบฏเพื่อ Crown ... ค่าใช้จ่ายที่ดำเนินการลงโทษ ของการเสียชีวิตโดยการแ? In the Name of the Father (1993) | Some of my men are infected with this virus. | ไม่ใช่ลงโทษ Schindler's List (1993) | You didn't pull the trigger and you certainly didn't convict him. | คุณไม่ได้เหนี่ยวไกและคุณแน่นอนไม่ได้ลงโทษเขา The Shawshank Redemption (1994) | Tell Schultz all persecution of the Jews must cease. | บอก ซูลท์ซให้ยกเลิกบทลงโทษชาวยิวก่อน The Great Dictator (1940) | With all the persecution, I still love it here. | ไม่มีบทลงโทษ ฉันรักที่มันสงบสุข The Great Dictator (1940) | Everything is but a pretext for taunts, punishment and humiliation. | ทุกบทลงโทษล้วนรุนแรง และเป็นที่น่าอับอาย Night and Fog (1956) | War is without doubt the noblest of games. | สงครามโดยไม่ต้องสงสัยสูงส่ง ของเกม ปลีกย่อยฉันคิดว่าการลงโทษ ของปืนคาบศิลา How I Won the War (1967) | We can't have wireless silence without a wireless, can we, Spool? | เราไม่สามารถมีความเงียบไร้ สาย โดยไม่ต้องไร้ที่เราสามารถ สปูล? อย่ามาในการลงโทษของปืน คาบศิลา How I Won the War (1967) | Peace, peace, supplant the doom and the gloom. | สันติภาพความสงบสุข แทนที่การลงโทษและความเศร้า โศก Yellow Submarine (1968) | "...will be punished by the loss of a limb | จะถูกลงโทษ by the ความเสียหายของแขน Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | "The slightest religious act by anyone will be punished... | "กฎหมายเคร่งศาสนาเบาที่สุด by anyone จะถูกลงโทษ... "... Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | Your Excellency, enter her name in the Penal Register for a terrible punishment | คำยกย่องผู้มีตำแหน่งชั้นสูงของคุณ . , เข้าไป name in ของเธอ . ลงทะเบียนเกี่ยวกับการลงโทษตามกฎหมาย... Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | You will be punished and deflowered when we decide the time is ripe | คุณจะถูกลงโทษและ flower when ที่เราตัดสินใจเวลาสุก Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | -"Will there--" -"Will there be a judgment day for man?" | - จะมี... - วันที่มนุษย์ถูกลงโทษจากพระเจ้ามั้ย Oh, God! (1977) | The question is, do you fight to change things or to punish? | คำถามมีอยู่ว่าเราต่อสู้ เพื่อเปลี่ยนมันหรือเพื่อลงโทษ Gandhi (1982) | I've found we're all such sinners, we should leave punishment to God. | เราทุกคนเป็นคนบาป และควรให้พระเจ้าเป็นผู้ลงโทษเอง Gandhi (1982) | If you do not behave and follow the rules, I'll be the first one to punish you. | ถ้าเจ้าไม่ทำตามกฏ ข้าจะเป็นคนแรกที่จะลงโทษเจ้าเอง. Return of the Condor Heroes (1983) | You shall be punished to work in the kitchen for ten days. | เจ้าจะต้องถูกลงโทษให้ทำงานในห้องครัวเป็นเวลา 10 วัน. Return of the Condor Heroes (1983) | You've been punishing yourself for years for something you thought you did wrong. | คุณได้รับการลงโทษตัวเอง สำหรับปีที่ผ่านมา สิ่งที่คุณคิดว่าคุณทำผิด 2010: The Year We Make Contact (1984) | We're being punished by the creator. | เรากำลังถูกพระเจ้าลงโทษ Day of the Dead (1985) | Dorothy has punished her by removing her magical powers, and a witch with no magic is a miserable creature indeed. | ดอโรธี ลงโทษเธอโดยการ เอาผงแห่งชีวิตของเธอไป และแม่มดที่ไม่มีเวทย์มนต์ ก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ประหลาด Return to Oz (1985) | everybody, please, stand back! | เขาต้องการอากาศ ถ้าให้ดี ออกไปนอกห้องเลย... เราจะถูกลงโทษอะไรครับ? Spies Like Us (1985) | I will think about their punishment later. | ข้าจะลงโทษพวกเขาทีหลัง Vampire Hunter D (1985) | The next time, my hand flies on its own, for where I come from, there are penalties when a woman lies. | คราวหน้า มือของหม่อมฉันจะสะบัดเองเลยล่ะ เมืองที่หม่อมฉันอาศัย มีบทลงโทษสำหรับหญิงสาวที่โกหก The Princess Bride (1987) | No, I gotta see Captain Hill. He'll square this shit away. | ฉันควรบอกผู้กอง จะได้มีการลงโทษคนผิด Casualties of War (1989) | Together we will punish these creatures. | ร่วมกันเราจะลงโทษเหล่านี้ ... สิ่งมีชีวิต ... Teenage Mutant Ninja Turtles (1990) | the curse will torment you. | เมื่อความแข็งแรงของคุณกลับคำสาปแช่งจะลงโทษคุณ Princess Mononoke (1997) | "You been a bad boy, and I'm gonna punish you. | "ดื้อนักใช่มั้ย / อย่างนี้ต้องลงโทษซะหน่อยแล้ว American History X (1998) | - You know better than that. | นี่ผมโดนลงโทษหรือไง? City of Angels (1998) | Are you punishing me because I want you to stay close to home? | มาลงโทษพ่อเพราะพ่อไม่อยาก ให้ลูกย้ายไปใช่มั้ย? 10 Things I Hate About You (1999) | Aren't you punishing me because Mom left? | แล้วพ่อล่ะ ไม่ได้ลงโทษให้หนูอยู่ เพราะแม่หนีไปหรอ? 10 Things I Hate About You (1999) | A violation of the rules causes a penalty | การละเมิดกฎ ก็ต้องรับการลงโทษ GTO (1999) | And Miki Katsuragi will be disciplined too | และมิกิ คัตซึรากิ ก็จะต้องถูกลงโทษทางวินัยด้วย GTO (1999) | Whatever the reason you should not associate with students or they will be punished | ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรก็ตาม คุณไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับนักเรียนอีก หรืออยากให้พวกเขาต้องถูกลงโทษ GTO (1999) | Greg, I'm afraid your punishment will be four hours in the snakepit. | เกร็ก พ่อคิดว่าจะต้องลงโทษลูกนะ ลงไปอยู่ในบ่องูสัก 4 ชั่วโมง Death Has a Shadow (1999) | Do not be too eager to deal out death and judgment. | อย่าได้กระหายในการลงโทษโดนการฆ่าหรือตัดสินชีวิตใคร The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001) | Therefore, as punishment for your actions, 50 points will be taken. | ดังนั้นเพื่อเป็นการลงโทษพวกเธอ 50 แต้มจะถูกหักออก Harry Potter and the Sorcerer's Stone (2001) | A pity they let the old punishments die. | เสียดายที่เขายกเลิก การลงโทษแบบโบราณ Harry Potter and the Sorcerer's Stone (2001) | You crazy fool, you hit a man about to be executed | ไอ้หน้าโง่ แกตีคนแกจะถูกลงโทษ Bad Guy (2001) | The best punishment for you | มันก็เป็นการลงโทษที่ดีที่สุดสำหรับเธอแล้วล่ะ Platonic Sex (2001) | I thought if I punished them, it'd stop. | ฉันคิดว่า ถ้าฉันลงโทษพวกมันแล้ว มันจะหยุดซะอีก Pilot (2001) | The Jews that do not respect this decree will be severely punished. | ชาวยิวที่ฝ่าฝืนกฎข้อบังคับนี้ จะถูกลงโทษอย่างหนัก The Pianist (2002) | I said I'd arrange appropriate punishment. | ฉันบอกว่า ฉันจะเตรียมการ / สำหรับบทลงโทษที่เหมาะสม A Walk to Remember (2002) |
| บทลงโทษ | [botlongthōt] (n) EN: penalty ; penalty provision ; penal provision ; penal clause FR: sanction [ f ] | ชะลอการลงโทษ | [chalø kān longthōt] (v, exp) EN: reprieve | การลงโทษ | [kān longthōt] (n) EN: sanction ; punishment ; scourge FR: sanction [ f ] | การลงโทษในกฎหมายแพ่ง | [kān longthōt nai kotmāi phaeng] (n, exp) EN: punishment in civil law | การลงโทษประหารชีวิต | [kān longthōt prahān chīwit] (n, exp) EN: capital punishment ; death penalty FR: peine capitale [ f ] | การไม่ต้องถูกลงโทษ | [kān mai tǿng thūk longthōt] (n, exp) EN: impunity | คำตัดสินลงโทษ | [kham tatsin longthōt] (n, exp) EN: sentence | เกี่ยวกับการลงโทษ | [kīokap kān longthōt] (adj) EN: penal | ลงโทษ | [longthōt] (v) EN: punish ; penalize ; chastise FR: punir ; sanctionner ; châtier (litt.) | ไม่ถูกลงโทษ | [mai thūk longthōt] (v, exp) EN: go off scot-free FR: s'en tirer à bon compte | พิพากษาลงโทษ | [phiphāksā longthōt] (v, exp) EN: convict | รอการลงโทษ | [rø kān longthōt] (v, exp) EN: reprieve | ตัดสินลงโทษ | [tatsin longthōt] (v, exp) EN: judge | ถูกลงโทษ | [thūk longthōt] (v, exp) EN: be punished FR: être puni | ถูกลงโทษฐาน... | [thūk longthōt thān …] (v, exp) EN: be punished on the grounds of … |
| amerce | (vt) ลงโทษ, Syn. punish | account for | (phrv) ชดใช้ (เงินหรือการลงโทษ) | bastinado | (n) การลงโทษด้วยการตีเท้า | bastinado | (vt) ลงโทษด้วยการตีเท้า | be for it | (idm) ได้รับการลงโทษ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ได้รับโทษ, Syn. be in for | be for the high jump | (idm) ได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง (คำไม่เป็นทางการ), See also: โดนลงโทษหนัก | be in for it | (idm) ได้รับการลงโทษ, Syn. be for | be in for trouble | (idm) ได้รับการลงโทษ, Syn. be for | bear down on | (phrv) ลงโทษอย่างรุนแรง, See also: ลงโทษอย่างหนัก | bear down upon | (phrv) ลงโทษอย่างรุนแรง, See also: ลงโทษอย่างหนัก | castigate | (vt) ลงโทษ | chasten | (vt) ลงโทษ, See also: ทำโทษ, Syn. chastise, punish | chastise | (vt) ลงโทษ, See also: ทำโทษ, ลงทัณฑ์, Syn. chasten, correct, punish | comeuppance | (n) การลงโทษ | condign | (adj) ที่เหมาะสม (แก่การถูกลงโทษ), Syn. deserved, suitable | corporal punishment | (n) การลงโทษทางร่างกาย | correction | (n) การลงโทษ | crackdown | (n) การลงโทษขั้นรุนแรง | call down on | (phrv) ขอให้พระเจ้าลงโทษ, Syn. invoke on | catch it | (idm) โดนลงโทษ (คำไม่เป็นทางการ), See also: มีปัญหา | condemn to | (phrv) ลงโทษด้วย | cop it | (idm) ถูกลงโทษ | cut off one's nose to spite one's face | (idm) ลงโทษอย่างไม่จำเป็น | deal out | (phrv) ลงโทษ | dish it out | (phrv) ลงโทษ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ดุด่า, บ่นว่า, Syn. hand out | face the music | (idm) ได้รับการลงโทษ (คำไม่เป็นทางการ) | filter through | (phrv) ตัดสินลงโทษ, Syn. dicide against, decide for, find for | fine for | (phrv) ลงโทษปรับ (ทางกฎหมาย) | finish with | (phrv) หยุดลงโทษ | discipline | (n) การลงโทษ, Syn. punishment, correction | discipline | (vt) ลงโทษ, Syn. punish, crucify, Ant. excuse, pardon | do | (vt) ลงโทษ | electric chair | (n) การลงโทษประหารชีวิตด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้า | fix | (vt) ลงโทษ, See also: ทำโทษ, Syn. punish, castigate, Ant. free | fry | (vi) ถูกลงโทษประหารด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้า (คำแสลง) | fry | (vt) ลงโทษประหารด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้า (คำแสลง), Syn. electrocute | get away with | (phrv) ไม่ได้รับการลงโทษ, Syn. get by with | get away with | (phrv) ไม่ได้รับการลงโทษ | get even | (phrv) แก้แค้น, See also: ล้างแค้น, ลงโทษตามความผิดที่กระทำ, Syn. get back, get back at, have back, pay back, revenge on | get it | (phrv) ได้รับการลงโทษ | get off | (phrv) ไม่โดนลงโทษ, See also: รอดจากการลงโทษ, Syn. get away with, get off with | give it hot | (phrv) ลงโทษอย่างรุนแรง (คำไม่เป็นทางการ), See also: ดุด่าอย่างรุนแรง | give to | (phrv) ลงโทษ, See also: ดุด่า | go scot-free | (idm) รอดพ้นจากการลงโทษ | gun for | (phrv) มุ่งโจมตี, See also: ลงโทษ | hand it out | (idm) ลงโทษ, See also: ตำหนิ, ดุด่า, ดุว่า, Syn. dish out | have one's own back | (idm) แก้แค้น, See also: ลงโทษกลับ, Syn. get even | get a slap on the wrist | (idm) โดนลงโทษเล็กน้อย | save someone's skin | (idm) ช่วยให้ปลอดภัยจากการบาดเจ็บ, จากการเสียหน้า, จากการต้องโดนลงโทษ | take one's medicine | (idm) ยอมรับความผิด, See also: ยอมรับการลงโทษ |
| adjudicate | (อะจู' ดิเคท) vt., vi. (ศาล) สั่งตัดสินใจให้, พิจารณาลงโทษ, ชี้ขาด, Syn. adjudge | amerce | (อะเมิร์ส') vt. ลงโทษ, ปรับ. -amercement n. -amerceable adj. | attainder | (อะเทน'เดอะ) n. การสูญเสียสิทธิเนื่องจากถูกลงโทษประหารชีวิต, การยึดทรัพย์ของผู้ที่ศาลลงโทษประหารชีวิต, การเพิกถอนสิทธิ | auto-da-fe | (ออโทคะเฟ') n. การตัดสินคดีของศาสนาโรมันคาธอลิคในยุคกลางที่เผด็จการ มีการลงโทษใช้ไฟเผาพวกต่างศาสนา | capital punishment | n. การลงโทษประหารชีวิต, Syn. execution | chasten | (เช'เซิน) { chastened, chastening, chastens } vt. ตักเตือน, สั่งสอน, ลงโทษ, สกัด, ระงับ, ทำให้บริสุทธิ์, ทำให้เบาบาง, See also: chasteningly adv. chastener n. chastenment n. | conviction | (คันวิค'เชิน) n. การลงโทษ, การตัดสินว่ากระทำผิด, ภาวะที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิด, ความมั่นใจ, ความเชื่อมั่นใจ, Syn. faith, Ant. unbelief | corporal punishment | n. การลงโทษทางกายของผู้กระทำผิด | correct | (คะเรคทฺ') { corrected, correcting, corrects } vt. ทำให้ถูกต้อง, แก้ไข, แก้, ตำหน' (เพื่อแก้ไข) , ลงโทษ (เพื่อแก้ไข) , ตรวจ, แก้, ต่อต้าน adj. ถูกต้อง, ไร้ความผิด, สมควร, เหมาะ, สอดคล้อง, See also: correctable adj. correctible adj. correctness n. ดูcorrect | correction | (คะเรค'เชิน) n. การแก้ไข, การตรวจแก้, สิ่งที่ได้แก้ไข, การลงโทษ, การตำหนิ, Syn. rectification | crackdown | (แครค'คาวน์) n. การลงโทษอย่างรุนแรง, การปราบปรามอย่างรุนแรง, Syn. discipline | criminate | (คริม'มิเนท) vt. ดำเนินการฟ้องร้องว่ากระทำผิดทางอาญา, ตำหนิ, ประณาม, พิสูจน์ว่ามีความผิด, ลงโทษ, See also: criminative adj. ดูcriminate criminatory adj. ดูcriminate criminator n. ดูcriminate | crucifixion | (ครูซะฟิค'เชิน) n. การตรึงกางเขน, การตายของพระเยซูคริสต์โดยถูกตรึงบนกางเขนจนตาย, การลงโทษอย่างรุนแรง | damn | (แดมน์) { damned, damning, damns } v., n. (การ) ประณาม, สาปแช่ง, ตำหนิ, วิจารณ์, ทำลาย., สิ่งที่มีค่าน้อย -Id. (give a damn สนใจ) adj. ถูกลงโทษ, ถูกทำลาย, See also: damner n. ดูdamn, Syn. curse | death sentence | n. การลงโทษประหารชีวิต | discipline | (ดิส'ซะพลิน) n. วินัย, ระเบียบวินัย, การฝึกฝน, การลงโทษ, สาขาวิชา, ศิลปปฎิบัติ, วินัยทางศาสนา vt. ฝึกฝน, ทำให้มีวินัย, ลงโทษ, แก้ไข., See also: discipliner n., Syn. order | fix | (ฟิคซฺ) { fixed, fixing, fixes } vt. ทำให้แน่น, ติด, ติดแน่น, กำหนดแน่นอน, เพ่งมอง, เพ่งความสนใจ, ป้ายความผิด, ซ่อมแซม, จัดให้เรียบร้อย, จัดให้เป็นระเบียบ, เตรียมอาหาร, แก้แค้น, ลงโทษ, จัดการ, เปลี่ยนไนโตรเจนในอากาศให้เป็นสารประกอบที่มีประโยชน์ (เช่นปุ๋ย) , ทำให้ภาพเกาะแน่นโด | inflict | (อินฟลิคทฺ') vt. ลงโทษ, ทำโทษ, ทำให้ได้รับความทุกข์., See also: inflicter, inflictor n. inflictive adj., Syn. exact, impose | infliction | (อินฟลิค'เชิน) n. การลงโทษ, การทำโทษ, การทำให้ได้รับความทุกข์ | life sentence | n. การลงโทษจำคุกตลอดชีวิต, โทษจำคุกตลอดชีวิต | lifer | (ไล'เฟอะ) n. ผู้ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิต | medicine | (เมด'ดิซิน) n. ยา, สารที่ใช้เป็นยา, สิ่งที่ใช้ในการบำบัดโรค, แพทย์ศาสตร์, เวชกรรม, อายุรกรรม, การบำบัดโรคด้วยยา (ไม่รวมศัลยกรรมและสูติกรรม) vt. ให้ยา, เยียวยา -Phr. (to take one's medicine รับการลงโทษ (โดยเฉพาะสำหรับการกระทำความผิดที่ตนกระทำ) . | mulct | (มัคทฺ) n. ค่าปรับ, ค่าสินไหมทดแทน. vt. ลงโทษปรับ, โกงเอามา, Syn. amerce, fine | penal | (เพน'เนิล) adj. เกี่ยวกับการลงโทษตามกฎหมาย, เกี่ยวกับอาญา, เกี่ยวกับการปรับไหม., See also: penality n. | penalise | (เพน'นะไลซ) vt. ลงโทษ, ลงทัณฑ์, ปรับเปรียบเทียบ., Syn. punish | penalize | (เพน'นะไลซ) vt. ลงโทษ, ลงทัณฑ์, ปรับเปรียบเทียบ., Syn. punish | penalty | (เพน'เนิลที) n. การลงโทษ, การลงทัณฑ์การลงโทษทางอาญา, ค่าสินไหมทดแทน, ค่าปรับ, ข้อเสียเปรียบ, อุปสรรค, ผลร้าย, Syn. forfeit | prog | (พรอก) vt., n. (ผู้) ควบคุมการศึกษา, ลงโทษนักศึกษา | punish | (พัน'นิช) vt., vi. ลงโทษ, ทำให้ได้รับโทษ, ทำให้เจ็บปวด, ทารุณ, ใช้สิ้นเปลือง., See also: punisher n., Syn. penalize, injure, hurt | punishment | (พัน'นิชเมินทฺ) n. การทำโทษ, การลงโทษ, การทำให้เจ็บปวด, การทารุณ, การใช้สิ้นเปลือง, Syn. penalty | punitive | (พิว'นิทิฟว) adj. เป็นการลงโทษ, เป็นการทำโทษ., See also: ness n., Syn. punitory | rap | (แรพ) vt., vi., n. (การ) เคาะ, ตี, เคาะหรือตีเป็นจังหวะ, พูดโผงผาง, พูดโพล่ง, ด่าว่า, ตำหนิ, โทษสำหรับการกระทำความผิด, เสียงเคาะ, เสียงตี, การลงโทษ, การคุย, See also: rapper n., Syn. strike, hit | sanction | (แซงคฺ'เชิน) n. การลงโทษ, การอนุญาตเป็นทางการ, สิ่งที่สนับสนุนการกระทำ, บทลงโทษ, การให้สัตยาบัน. vt. ลงโทษ, อนุญาต, อนุมัติ, เห็นด้วย, ยอมให้, ให้สัตยาบัน., See also: sanctionable adj. sanctioner n. | scourge | (สเคิร์จฺ) n. แส้, หวาย, เครื่องมือลงโทษผู้ทำลาย, สิ่งทำลาย, สิ่งที่นำมาซึ่งความหายนะ vt. เฆี่ยน, ลงแส้, โบย, หวด, ทำโทษ, วิจารณ์อย่างรุนแรง, ประณาม, ทำลาย, ขยี้, ระบาด, See also: scourger n. scourgingly adv. | sentence | (เซน'เทินซฺ) n. ประโยค, การตัดสิน, การตัดสินลงโทษ, การพิพากษา, การลงโทษ, คติพจน์, คำคม, สุภาษิต. vt. ตัดสิน, พิพากษา., See also: sentencer n., Syn. judgment, opinion, verdict | severity | (ซีเวีย'ริที) n. ความรุนแรง, ความเข้มงวด, ความกวดขัน, ความเคร่ง, การเอาจริงเอาจัง, ความยากลำบาก, ความแม่นยำ, การลงโทษอย่างรุนแรง, การเหน็บแนม, การเสียดสี | soak | (โซค) vi., n. (การ) จุ่ม, ทำให้โชก, ทำให้ชุ่ม, หมัก, แช่. vt. จุ่ม, ทำให้โชก, ทำให้ชุ่ม, หมัก, แช่, ทำให้เมา, จำนำ, ลงโทษอย่างหนัก, เก็บภาษีมากเกินไป, เก็บเงินมากเกินไป. soaking adj. เปียกชุ่ม, Syn. seep, steep |
| castigate | (vt) ดุว่า, ดัดนิสัย, ลงโทษ, เฆี่ยนตี | chasten | (vt) เฆี่ยนตี, ลงโทษ, สั่งสอน, ตักเตือน | chastise | (vi) เฆี่ยน, ลงโทษ, ตี | chastisement | (n) การลงโทษ, การสั่งสอน, การเฆี่ยนตี | condemn | (vt) กล่าวโทษ, ประณาม, ตำหนิ, ตราหน้า, ด่าว่า, ลงโทษ, ตัดสินความ | condemnation | (n) การกล่าวโทษ, การประณาม, การตำหนิ, การลงโทษ, การตัดสินความ | convict | (vt) ลงโทษ, ตัดสินว่าผิด | conviction | (n) ความมั่นใจ, ความเชื่อมั่น, ความแน่ใจ, การลงโทษ, การตัดสินว่าผิด | discipline | (n) ระเบียบข้อบังคับ, ระเบียบวินัย, การลงโทษ, การฝึกฝน | discipline | (vt) ทำให้มีวินัย, บังคับ, ลงโทษ, ฝึกฝน, ฝึกหัด | doom | (vt) พิพากษา, ตัดสิน, ลงโทษ, ชี้ชะตา | impose | (vt) ลงโทษ, เรียกร้อง, เอาเปรียบ, กำหนด, บังคับ | imposition | (n) การก่อกวน, การลงโทษ, การหลอกลวง, การเอาเปรียบ, การเก็บภาษี | inflict | (vt) นำมาใส่ให้, ก่อความทุกข์, ลงโทษ | penalize | (vt) ลงโทษ, ลงอาญา, ลงทัณฑ์, ปรับไหม | penalty | (n) การลงโทษ, การลงทัณฑ์, อาญา, โทษทัณฑ์, ค่าปรับ | punish | (vt) ลงโทษ, ลงทัณฑ์, ต่อย, ทำทารุณ | punishment | (n) การลงโทษ, การลงทัณฑ์, การต่อย, การทำทารุณ | punitive | (adj) เป็นการลงโทษ, เป็นการลงทัณฑ์ | rap | (n) การตี, การเคาะ, การตำหนิ, การลงโทษ, การด่าว่า | reprehend | (vt) ลงโทษ, ติเตียน, ด่าว่า, ตำหนิ, ประณาม | reprehensible | (adj) เลวทราม, น่าลงโทษ, น่าตำหนิ, น่าประณาม | sanction | (n) การอนุญาต, การอนุมัติ, การรับรอง, การลงโทษ | sanction | (vt) ยอมให้, อนุมัติ, อนุญาต, รับรอง, ลงโทษ | scourge | (vt) ทำลาย, ลงโทษ, เฆี่ยน, โบย | sentence | (n) คำตัดสิน, ประโยค, การพิพากษา, การลงโทษ, คติพจน์ | sentence | (vt) พิพากษา, ตัดสิน, ลงโทษ |
| | 仕置き | [しおき, shioki] (n) การลงโทษ, การสำเร็จโทษ, Syn. 処罰, 処置 |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |