มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ ฌาณ | (n) ฌาณ หรือ อธิจิต(supraconscious) เป็นจิตที่เป็นที่สุดของปัญญา คือความรู้ชัดธรรมชาติของมนุษย์ว่านี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา(คือความรู้มรรค 8 การคิดปฏิบัติเพื่อดับทุกข์) เป็นจิตที่อยู่เหนือและสามารถ ควบคุมหรือข่ม ได้ทั้งจิตสำนึก(consious) และจิตใต้สำนึก(subconsious) ซึ่งเป็นความรู้ที่สูดของวิญญาณคือความรู้แจ้งของธรรมชาติของมนุษย์ว่า นี้สุข นี้ทุกข์ นี้มิใช่ทุกข์ มิใช่สุข อธิจิตใช้สำหรับดับกิเลส ซึ่งสามารถทำให้เกิดนิมิตขึ้นมาได้ เพื่อดับกิเลสในเวลาที่เกิดกิเลสขึ้น พระผู้มีพระภาค(พระพุทธเจ้า)ได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ไว้ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์๑๐. วิตักกสัณฐานสูตรว่าด้วย อาการแห่งวิตก การเรียกอธิจิตของตนเอง ถ้าไม่มีพรสวรรค์หรือบารมีที่สะสมมาแต่ปางก่อน จะเรียกไม่ได้ เพราะจิตยังไม่มั่นคงพอ จะต้องเรียนรู้และทำความเพียรที่ทนได้ยาก ฝึกฝน จนเกิดความชำนาญ ซึ่งข้าพเจ้ามีความสามารถที่จะให้คนทั่วไปเรียกอธิจิตของตนเองได้ เช่นให้ผู้ป่วยเรียกอธิจิตของเขาออกมารักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งทางกายและใจของเขาที่เป็นอยู่ โดยสั่งให้จิตของเขาตกอยู่ในภาวะภวังค์ ด้วยการสั่งระงับจิตหยาบที่ทำให้เขาเกิดโรคทั้งทางกายและทางใจ เพื่อเขาจะได้มีจิตที่มั่นคงถึงอธิจิตแล้วสั่งยาหรือภูมิต้านทานในตัวของเขาออกมารักษาโรค ซึ่งได้ผลดีกว่าแพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์ทางเลือกวิธีอื่น นี่คือประโยชน์จากการเรียกหรือฝึกเรียกอธิจิตของตนเอง ซึ่งพระพุทธเจ้าสามารถเรียก Stem cell ในพระวรกายของพระองค์ออกมารักษาโรคได้นานมาแล้วหรือมากกว่า 2554 ปี ส่วนนักวิทยาศาสตร์พึ่งจะมาค้นพบวิธีใช้ Stem cell รักษาบางโรคเมื่อ 50 ปีมานี้เอง การรักษายังมีข้อบ่กพร่องและเงื่อนไขในการรักษาเพื่อจะได้ผลลัพท์จนเป็นที่น่าพอใจของแพทย์อยู่อีกมาก แต่วิธีของพระพุทธองค์ไม่มีเงื่อนไข ถ้าคนป่วยสามารถเรียกอธิจิตของตนเองได้ ข้าพเจ้าได้ใช้อธิจิตรักษา โรคปวดตามอวัยวะและโรคหวัดป่วยของข้าพเจ้าเอง และรักษาโรคปวดและอัมพาลให้กับคนป่วยแล้วหลายราย ซึ่งได้รับผลเป็นที่น่าพอใจของข้าพเจ้าและของคนป่วย |
|
| ราบคาบ | ว. อาการที่ยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข เช่น ยอมแพ้อย่างราบคาบ |
| | Potsdam Proclamation | คือคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดม ออกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 โดยหัวหน้าคณะรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และจีน ลงนามโดยประธานาธิบดีของรัฐบาลจีนคณะชาติ เป็นคำประกาศเมื่อตอนใกล้จะเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง โดยฝ่ายสัมพันธมิตรดังกล่าวกำลังทำสงครามขับเคี่ยวอยู่กับฝ่ายญี่ปุ่น พึงสังเกตว่า สหภาพโซเวียต ในตอนนั้นมิได้มีส่วนร่วมในการออกคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดมแต่อย่างใดโดยแท้จริงแล้ว คำประกาศนี้เท่ากับเป็นการยื่นคำขาดให้ฝ่ายญี่ปุ่นตัดสินใจเลือกเอาว่าจะทำ การสู้รบต่อไป หรือจะยอมจำนนเพื่อยุติสงคราม คำประกาศได้เตือนอย่างหนักแน่นว่า หากญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะสู้รบต่อไป แสนยานุภาพอันมหาศาลของสัมพันธมิตรก็จะมุ่งหน้าโจมตีบดขยี้กองทัพและประเทศ ญี่ปุ่นให้แหลกลาญ แต่หากว่าญี่ปุ่นยอมโดยคำนึงถึงเหตุผล ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้ตั้งเงื่อนไขไว้หลายข้อ สรุปแล้วก็คือ ลัทธิถืออำนาจทหารเป็นใหญ่จะต้องถูกกำจัดให้สูญสิ้นไปจากโลกอำนาจและอิทธิพล ของบรรดาผู้ที่ชักนำให้พลเมืองญี่ปุ่นหลงผิด โดยกระโจนเข้าสู่สงครามเพื่อครองโลกนั้น จะต้องถูกทำลายให้สิ้นซาก รวมทั้งพลังอำนาจในการก่อสงครามของญี่ปุ่นด้วยจุดต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด จะต้องถูกยึดครองไว้จนกระทั่งได้ปฏิบัติตามจุดมุ่งหมายของสัมพันธมิตรเป็นผล สำเร็จแล้ว อำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่นให้จำกัดอยู่เฉพาะภายในเกาะฮอนซู ฮ็อกไกโด กิวชู ชิโกกุ และเกาะเล็กน้อยอื่น ๆ ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด อาชญากรสงครามทุกคนจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาล รวมทั้งที่ทำทารุณโหดร้ายต่อเชลยศึกของสัมพันธมิตร รัฐบาลญี่ปุ่นจะต้องกำจัดสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อการรื้อฟื้น และเสริมสร้างความเชื่อถือในหลักประชาธิปไตยในระหว่างพลเมืองญี่ปุ่น และจัดให้มีเสรีภาพในการพูด การนับถือศาสนา และในการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการด้านอุตสาหกรรมที่จะเกื้อกูลต่อภาวะ เศรษฐกิจของประเทศ และความสามารถที่จะชำระค่าปฏิกรรมสงคราม แต่จะไม่ยอมให้คงไว้ซึ่งกิจการอุตสาหกรรมชนิดที่จะช่วยให้ญี่ปุ่นสร้างสม อาวุธเพื่อทำสงครามขึ้นมาอีก ในทีสุด กำลังทหารสัมพันธมิตรจะถอนตัวออกจากประเทศญี่ปุ่นในทันทีที่จุดประสงค์ต่าง ๆ ได้บรรลุผลเรียบร้อยแล้ว ในตอนท้ายของเงื่อนไข สัมพันธมิตรได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข เสียโดยไว [การทูต] | Work of the United Nations for the Independence of Colonial Peoples | งานขององค์การสหประชาชาติ ในการช่วยให้ชาติอาณานิคมทั้งหลายได้รับความเป็นเอกราช นับตั้งแต่เริ่มตั้งองค์การสหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ.1945 เป็นต้นมา มีชนชาติของดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเอง รวมทั้งดินแดนในภาวะทรัสตีตามส่วนต่าง ๆ ของโลก ได้รับความเป็นเอกราชไปแล้วไม่น้อยกว่า 170 ล้านคน ดินแดนที่แต่ก่อนยังไม่มีฐานะปกครองตนเองราว 50 แห่งได้กลายฐานะเป็นรัฐเอกราช มีอธิปไตยไปแล้ว ขณะนี้ยังเหลือดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเองอีกไม่มาก กำลังจะได้รับฐานะเป็นประเทศเอกราชต่อไปแม้ว่าปัจจัยสำคัญที่สุดซึ่งทำให้ เกิดวิวัฒนาการอันมีความสำคคัญทางประวัติศาสตร์ จะได้แก่ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของประชาชนในดินแดนเมืองขึ้นทั้งหลาย แต่องค์การสหประชาชาติก็ได้แสดงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนชนชาติ ที่ยังมิได้เป็นเอกราช และชาติที่ยังปกครองดินแดนเหล่านั้นอยู่ ให้รีบเร่งที่จะให้ชาชาติในดินแดนเหล่านั้นได้รับฐานะเป็นเอกราชโดยเร็วที่ สุดเท่าที่จะเป็นไปได้การที่องค์การสหประชาชาติมีบทบาทหน้าที่ดังกล่าวเพราะ ถือตามหลักแห่งความเชื่อศรัทธาที่ว่า มนุษย์ไม่ว่าชายหรือหญิง และชาติทั้งหลายไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกัน และได้ยืนยันความตั้งใจอันแน่วแน่ของประเทศสมาชิกที่จะใช้กลไกระหว่างประเทศ ส่งเสริมให้ชนชาติทั้งหลายในโลกได้ประสบความก้าวหน้าทั้งในทางเศรษฐกิจและ สังคมนอกจากนั้น เพื่อเร่งรัดให้ชนชาติที่ยังอยูใต้การปกครองแบบอาณานิคมได้ก้าวหน้าไปสู่ เอกราช สมัชชาของสหประชาชาติ (General Assembly of the United Nations) ก็ได้ออกปฏิญญา (Declaration) เกี่ยวกับการให้ความเป็นเอกราชแก่ประเทศและชนชาติอาณานิคม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 ซึ่งในปฏิญญานั้น ได้ประกาศยืนยันความจำเป็นที่จะให้ลัทธิอาณานิคมไม่ว่าในรูปใด สิ้นสุดลงโดยเร็วและปราศจากเงื่อนไขใด ๆ สมัชชายังได้ประกาศด้วยว่า การที่บังคับชนชาติอื่นให้ตกอยู่ใต้อำนาจการปกครอง แล้วเรียกร้องประโยชน์จากชนชาติเหล่านั้น ถือว่าเป็นการปฏิเสธไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชนขั้นมูลฐาน เป็นการขัดกับกฎบัตรของสหประชาชาติ เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือของโลกสมัชชาสหประชาชาติ ยังได้ประกาศต่อไปว่า จะต้องมีการดำเนินการโดยด่วนที่สุด โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อสงวนใด ๆ ตามเจตนารมณ์ ซึ่งแสดงออกอย่างเสรี โดยไม่จำกัดความแตกต่างในเรื่องเชื้อชาติ หลักความเชื่อถือ หรือผิว เพื่อให้ดินแดนทั้งหลายที่ยังไม่ได้มีการปกครองของตนเองเหล่านั้นได้รับความ เป็นเอกราชและอิสรภาพโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1961 สมัชชาสหประชาชาติก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อตรวจดูและให้มีการปฏิบัติให้เป็นตามคำปฏิญญาของสหประชาชาติ และถึงสิ้นปี ค.ศ. 1962 คณะกรรมการดังกล่าวได้ประชุมกันหลายต่อหลายครั้งทั้งในและนอกสำนักงานใหญ่ ขององค์การสหประชาชาติ แล้วรวบรวมเรื่องราวหลักฐานจากบรรดาตัวแทนของพรรคการเมืองทั้งหลาย จากดินแดนที่ยังไม่ได้รับการปกครองตนเอง แล้วคณะกรรมการได้ตั้งข้อเสนอแนะต่าง ๆ โดยมุ่งจะเร่งรัดให้การปกครองอาณานิคมสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ [การทูต] |
| [ Winston Churchill On Radio ] Yesterday morning, at 2:4 1 a.m., at General Eisenhower's headquarters, | ที่กองบัญชาการนายพลไอเซนฮาวร์ นายพลโจดัลด์ลงนามยอมแพ้ไม่มีเงื่อนไข Schindler's List (1993) | Drink with me. Dad, I'm still underage. | คุณปู่จะไม่ยกบริษัทให้ฉันหากไม่มีเงื่อนไขประกอบ Something About 1% (2003) | I have no other option | ข้าไม่มีเงื่อนไขอื่น Fearless (2006) | Yeah, "unconditional surrender" | ใช่ ยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข Grave of the Fireflys (2005) | Yes, and with a grandmother's unconditional love, | ใช่ กับคุณย่าที่รักเธออย่างไม่มีเงื่อนไข Art Isn't Easy (2007) | So, yes, I know that love is unconditional. | อืม ใช่ ฉันรู้ว่า ความรักไม่มีเงื่อนไข Stardust (2007) | Well, it's not an option. There has to be a bet. | ดี, ไม่มีเงื่อนไข พวกแกจำเป็นต้องเล่น Funny Games (2007) | But God got ahold of your mother and she prayed and loved me unconditionally. | พระเจ้าโอบกอดแม่ของลูกไว้ แม่ได้อธิษฐาน และรักพ่ออย่างไม่มีเงื่อนไข Fireproof (2008) | This card has no conditions attached. | การ์ดใบนี้ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ผูกมัดอยู่ Eiga: Kurosagi (2008) | I'm not qualified to teach John henry those things. | ฉันไม่มีเงื่อนไขที่จะสอน จอร์เฮนรี่ Strange Things Happen at the One Two Point (2008) | Just for the pursuit of unconditional love? | แค่การแสวงหาของ ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข Joy (2008) | It's a fake thing. There's no unconditional love. | มันเป็นเรื่องหลอกๆ ไม่มีความรักที่ไม่มีเงื่อนไข Joy (2008) | They're unconditional. | มันไม่มีเงื่อนไขน่ะสิ Liberty on Ryloth (2009) | Sir, he's in no condition to speak right now. | ครับผม .เขาไม่มีเงื่อนไขที่จะพูด Day 7: 5:00 p.m.-6:00 p.m. (2009) | Elliott and I offer to pay for your treatment no strings attached. | เอลเลียตและฉันยื่นข้อเสนอจ่ายค่ารักษาให้คุณ โดยไม่มีเงื่อนไข Peekaboo (2009) | The judge let me off, no strings attached, all right, so -- | ผู้พิพากษายกฟ้อง, ไม่มีเงื่อนไข, ตกลงนะ งั้น.. Bulletproof (2009) | I hear people say, "that's not how I define marriage." Well, to them I say, "love knows no bounds." | คนพูดกันว่า "นั่นไม่ใช่การสมรส" ฉันจะบอกว่า "ความรักไม่มีเงื่อนไข" Mash-Up (2009) | - She said "no strings attached." | เธอบอกว่า "ไม่มีเงื่อนไขผูกมัด"เชียวนะ Chapter Four 'Hysterical Blindness' (2009) | Unconditionally. | อย่างไม่มีเงื่อนไข Chapter Eight 'Shadowboxing' (2009) | By now, he's completely submissive to her. | ถึงตอนนี้ เขาจำนนต่อเธออย่างไม่มีเงื่อนไข Mosley Lane (2010) | No rules, no destiny, just utter and complete freedom. | ไม่มีกฏเกณฑ์... ไม่มีชะตากรรม แค่ไม่มีเงื่อนไขและอิสรภาพที่สมบูรณ์แบบ The Third Man (2010) | Since you've left, the Giants in the North had surrendered unconditionally. | ตั้งแต่ที่พวกเธอจากไป พวกยักษ์ทางเหนือ ได้ยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข The Chronicles of Narnia: The Voyage of the Dawn Treader (2010) | So if you... still want to give me one... no strings attached, | ดังนั้นคุณ จะยังคงยกไตให้ฉันมั้ย โดยไม่มีเงื่อนไข Flashback (2011) | I, for one, don't have the means to bring up so many kids. | ฉันมีไม่มีเงื่อนไข สร้างเด็กเป็นจำนวนมาก Happy Feet Two (2011) | - # Vum vum vum vum # - # Oh # | - "When I Get You Alone" # บา-ดา-บา-ดา ที่รัก คุณอยู่ไหน # # ไม่มีเงื่อนไข # Silly Love Songs (2011) | I'm genetically inclined to love you unconditionally. | การรักเธอแบบไม่มีเงื่อนไขเป็นกรรมพันธุ์ There Goes the Neighborhood: Part 1 (2011) | And you will do it now, without conditions. | และต้องทำเดี๋ยวนี้โดยไม่มีเงื่อนไข And Then There Were More (2011) | The most important thing to me is that this baby is loved unconditionally. | สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับฉัน คือเด็กคนนี้จะต้องได้รับความรักโดยไม่มีเงื่อนไข Traffic (2011) | I'm sorry to inform you that my love for you is unconditional. | ขอโทษที่ต้องบอกเธอ ว่าความรักที่ฉันมีให้เธอมันไม่มีเงื่อนไข Riding in Town Cars with Boys (2011) | The idea of unconditional love is as quaint as the Tooth Fairy or environmentally friendly dry cleaning. | เรื่องของความรักที่ไม่มีเงื่อนไข มันไม่มีจริงพอกับๆนิทานที่ให้เอาฟันน้ำนมไปไว้ใต้หมอน หรือการซักแห้งที่รักษาสิ่งแวดล้อมนั่นแหละ Riding in Town Cars with Boys (2011) | ? I would run to you no matter what ? | ฉันจะรีบไปหาคุณโดยไม่มีเงื่อนไข Episode #1.7 (2011) | So, I'm here to support them unconditionally. | ดังนั้นชั้นมานี่เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข Nationals (2012) | She just loved him unconditionally. | เธอแค่รักเขา... โดยไม่มีเงื่อนไข Barfi! (2012) | And when that happens, you have to know the trust you would never question is family! | และเมื่อมันเกิดขึ้น เธอจำเป็นต้องรู้ว่า ความเชื่อใจที่ไม่มีเงื่อนไข คือคนในครอบครัว! Abomination (2012) | You know, you had someone who loved you unconditionally, treated you right, and wanted to be with you every day, and then you threw that all away to let Chuck Bass decide when he's ready for you? | คุณรู้รึเปล่าว่ามีคนที่รักคุณ โดยไม่มีเงื่อนไข ปฏิบัติต่อคุณอย่างดี และอยาก อยู่กับคุณทุก ๆ วัน และแล้วคุณก็ทิ้งทุกอย่างไป Gone Maybe Gone (2012) | She was in a bit of a mood, but I still love you unconditionally. | ลูกอารมณ์ไม่ค่อยดี แต่พ่อก็ยังรักลูกแบบไม่มีเงื่อนไข Any Moment (2012) | A mother's love is unconditional. | รักของแม่เป็นรักที่ไม่มีเงื่อนไข The Origins of Monstrosity (2012) | You had someone who loved you unconditionally, and you threw that all away to let Chuck Bass decide when he's ready for you? | คุณมีใครบางคนซึ่งเขารักคุณแบบไม่มีเงื่อนไข แล้วเธอก็โยนพวกเขาทิ้งทั้งหมด เพื่อไปหาชัค แบสในเวลาที่เขาพร้อมสำหรับคุณ Portrait of a Lady Alexander (2012) | Without the attitude. | โดยไม่มีเงื่อนไข O Come, All Ye Faithful (2012) | He cleans up pretty nice, so he can be your fake boyfriend-- no strings, no risk. | เขาดูเหมาะสมมาก เขาสามารถเป็นแฟนปลอมๆของคุณได้ ไม่มีเงื่อนไข Bridesmaid Up! (2012) | Because as brief as they may have been, my dad gave me unconditional love. | เพราะถึงมันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ พ่อก็ให้ความรักที่ไม่มีเงื่อนไขกับผม Magnificent Light (2012) | Yeah, it's nice to have someone's unconditional support. | ใข่ มันเป็นการดีที่จะมีการสนับสนุนอย่างไม่มีเงื่อนไขของใครบางคน Collusion (2013) | Unquenchable. | ไม่มีเงื่อนไข The Blood Is the Life (2013) | I want you to know that I support you unconditionally. | หมออยากให้คุณรู้ว่า หมอช่วยคุณแบบไม่มีเงื่อนไขนะ Liberty (2013) | When one loses a parent at a young age, they miss out on a whole lifetime of unconditional love. | เมื่อคนผู้ซึ่งสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก พวกเขาจะคิดถึงความรักแบบไม่มีเงื่อนไข ตลอดทั้งชีวิต Sin (2013) | I thought it made it clear that leaving was not optional. | ฉันว่ามันน่าจะเคลียร์ละนะโดยการที่จะไปโดยไม่มีเงื่อนไข Midnight City (2015) | Or do you doubt that Ra's would release us both without conditions? | หรือคุณไม่สงสัยที่ ราซ ปล่อยพวกเราออกมา แบบไม่มีเงื่อนไข The Offer (2015) | No conditions. | ไม่มีเงื่อนไข The Offer (2015) |
| โดยไม่มีเงื่อนไข | [dōi mai mī ngeūoenkhai] (x) EN: unconditional FR: inconditionnel ; sans condition | ไม่มีเงื่อนไข | [mai mī ngeūankhai] (adj) EN: unconditional ; absolute FR: inconditionnel ; absolu | เงินกู้โดยไม่มีเงื่อนไข | [ngoenkū dōi mai mī ngeūoenkhai] (n, exp) EN: untied loan |
| absolutely | (adv) อย่างไม่มีเงื่อนไข, See also: อย่างไม่มีข้อจำกัด, Syn. unquestionably, certainly | categorical | (adv) อย่างแท้จริง, See also: อย่างไม่มีเงื่อนไข, Syn. absolute | with no strings attached | (idm) โดยไม่มีเงื่อนไข | without any strings attached | (idm) โดยไม่มีเงื่อนไข | peremptory | (adj) ซึ่งไม่มีโอกาสปฏิเสธ, See also: ซึ่งคาดว่าจะยอมเชื่อฟังโดยไม่มีเงื่อนไข, Syn. final, peremptory, authoritative, Ant. inconclusive | termless | (adj) ซึ่งไม่จำกัดเวลา, See also: ซึ่งไม่มีเงื่อนไข, Syn. eternal, endless, continual | unconditioned | (adj) ไม่มีเงื่อนไข, See also: ไม่บังคับ, ไม่จำกัด, ไม่มีกฎเกณฑ์, Syn. unconditional, without strings, no strings attached, no catch; | unconstrained | (adj) ซึ่งไม่มีเงื่อนไข, See also: ซึ่งไม่มีข้อจำกัด, Syn. absolute, informal, unconditional, uncontrolled | unqualified | (adj) ที่ไม่มีเงื่อนไข, See also: ที่ทำได้อย่างเต็มที่, Syn. unconditional, Ant. conditional |
| always | (ออล' เวย์ซ) adv. ตลอดเวลา, ตลอดไป, เป็นประจำ, โดยไม่มีการยกเว้น, โดยไม่มีเงื่อนไข, ตายตัว, เด็ดขาด, Syn. eternally, perpetually | categorial | (แคททิกอ'เรียล) adj. สมบูรณ์, ไม่มีเงื่อนไข, เด็ดขาด, แน่ชัด, Syn. categoric | termless | (เทอม'ลิส) adj. ไม่มีขอบเขต, ไม่จำกัด, ไม่มีเงื่อนไข, ไม่มีที่สิ้นสุด | unconditioned | (อันคันดิช'เชินดฺ) adj. ไม่มีเงื่อนไข, ไม่จำกัด, สมบูรณ์, เด็ดขาด, โดยธรรมชาติ, สันดานเดิม., See also: unconditionedness n. | utter | (อัท'เทอะ) vt. เปล่งเสียง, ออกเสียง, พูด, กล่าวคำพูด, เล่า, ทำให้รู้กันทั่ว, ทำให้หมุนเวียน, ขับออก, อาเจียน. adj. สมบูรณ์, ทั้งหมด, เด็ดขาด, ไม่มีเงื่อนไข., See also: utterable adj. utterer n. utterness n., Syn. express |
| |
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |