|
| จำกัดความรับผิดชอบ | น. บริษัทจำกัดซึ่งจำกัดความรับผิดของผู้ถือหุ้นไว้ไม่เกินจำนวนเงินที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่ารวมของหุ้นที่ตนถือ. | กองมรดก | น. ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย รวมทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ เว้นแต่ตามกฎหมายหรือโดยสภาพแล้วเป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้. | การประกันภัยต่อ | น. การที่ผู้รับประกันภัยเอาการเสี่ยงภัยทั้งหมดหรือบางส่วนของความรับผิดตามสัญญาประกันภัยที่ตนรับไว้ ไปเอาประกันภัยไว้กับผู้รับประกันภัยอีกรายหนึ่งหรือหลายราย ซึ่งเรียกว่า ผู้รับประกันภัยต่อ. | ขอบข่าย | น. ขอบเขตงานหรือความรู้ที่อยู่ในความรับผิดชอบ. | เนตรนารี | น. เด็กหญิงที่ได้รับการฝึกให้เป็นผู้นำในทางความประพฤติ, สมาชิกแห่งองค์การที่มีวัตถุประสงค์ในการฝึกหัดอบรมบ่มนิสัยเด็กหญิงให้เป็นพลเมืองดีตามจารีตประเพณี มีอุดมคติ และความรับผิดชอบตัวเองและต่อผู้อื่นเป็นต้น. | แบก | ก. วางของที่มีนํ้าหนักบนบ่าหรือบนหลัง เช่น แบกกระสอบข้าวสาร แบกปืน, โดยปริยายหมายความว่า รับภาระหนัก, มีความรับผิดชอบมาก, เช่น แบกค่าใช้จ่ายในบ้านคนเดียว แบกงานไว้มาก. | ปัดสวะ | (-สะหฺวะ) ก. ทำอย่างขอไปที, ผลักให้พ้นหน้าที่ความรับผิดชอบของตนไป. | ภาร, ภาร-, ภาระ ๑ | หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เช่น พ่อแม่มีภาระในการเลี้ยงดูลูก ครูมีภาระในการอบรมสั่งสอนศิษย์, ความรับผิดชอบ เช่น พ่อแม่ตายหมด พี่ต้องรับภาระส่งเสียเลี้ยงดูน้อง. | มรดก | ทรัพย์สินทุกชนิดตลอดทั้งสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดต่าง ๆ ของผู้ตาย เว้นแต่ตามกฎหมายหรือโดยสภาพแล้ว เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตาย เรียกรวม ๆ ว่า กองมรดก. | โยนกลอง | ก. ปัดภาระหรือความรับผิดชอบไปให้คนอื่น. | ลูกผู้ชาย | น. เรียกผู้ชายที่มีความยุติธรรม ความซื่อสัตย์ เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว กล้าหาญ และมีความรับผิดชอบ เป็นต้น. | ลูกเสือ | น. สมาชิกแห่งองค์การที่มีวัตถุประสงค์ในการฝึกหัดอบรมบ่มนิสัยเด็กชายให้เป็นพลเมืองดีตามจารีตประเพณี มีอุดมคติและความรับผิดชอบตัวเองและต่อผู้อื่นเป็นต้น. | เละเทะ | มีความประพฤติเหลวไหลไม่มีความรับผิดชอบ เช่น คนกินเหล้าเมายาเป็นคนเละเทะ เชื่อถือไม่ได้, มีความประพฤติเป็นที่น่ารังเกียจ (มักใช้ในทางชู้สาว) เช่น ผู้หญิงคนนั้นทำตัวเละเทะ. | ศักดินา | น. อำนาจหรือสิทธิที่พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานให้แก่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินตามศักดิ์ของแต่ละคน เดิมเป็นการถือครองที่ดินคิดเป็นจำนวนไร่ ต่อมาถือเป็นการกำหนดสถานะ สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของคนในสังคม เช่น มหาอุปราช มีศักดินา ๑๐๐๐๐๐ เจ้าพระยาจักรี มีศักดินา ๑๐๐๐๐ ภิกษุรู้ธรรม เสมอนา ๖๐๐ ไพร่มีครัว มีศักดินา ๒๐ ยาจก วณิพก ทาส ลูกทาส มีศักดินา ๕ (สามดวง) | หน้าที่ | น. กิจที่จะต้องทำด้วยความรับผิดชอบ. | หนี้เกลื่อนกลืนกัน | น. หนี้ซึ่งระงับไปเพราะเหตุที่สิทธิและความรับผิดในหนี้นั้นตกอยู่แก่บุคคลคนเดียวกัน. | ห่วงคล้องคอ | น. ความรับผิดชอบที่ผูกพันอยู่. | ห้างหุ้นส่วนจำกัด | น. ห้างหุ้นส่วนประเภทหนึ่ง ซึ่งมีผู้เป็นหุ้นส่วน ๒ จำพวก คือ (๑) ผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งจำกัดความรับผิดเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตนรับจะลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนนั้น และ (๒) ผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งต้องรับผิดในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนโดยไม่มีจำกัดจำนวน. | หุ้นสามัญ | น. หุ้นธรรมดาของบริษัทจำกัด ซึ่งแบ่งทุนออกเป็นหุ้นมีมูลค่าหุ้นละเท่า ๆ กันและผู้ถือหุ้นมีความรับผิดเพียงไม่เกินจำนวนหุ้นที่ตนส่งใช้ไม่ครบมูลค่าของหุ้นที่ตนถือ. |
| | Statement of responsibility | การแจ้งความรับผิดชอบ [เทคโนโลยีการศึกษา] | Statement of responsibility | การแจ้งความรับผิดชอบ [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] | Administrative responsibility | ความรับผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ [TU Subject Heading] | Convention on limitation of liability for Maritime Claims (1976) | อนุสัญญาว่าด้วยการจำกัดความรับผิดสำหรับสิทธิเรียกร้องทางทะเล (ค.ศ. 1976) [TU Subject Heading] | Criminal liability | ความรับผิดทางอาญา [TU Subject Heading] | Criminal liability (International law) | ความรับผิดทางอาญา (กฎหมายระหว่างประเทศ) [TU Subject Heading] | Criminal liability of juristic persons | ความรับผิดทางอาญาของนิติบุคคล [TU Subject Heading] | Culpa in contrahendo | ความรับผิดก่อนสัญญา [TU Subject Heading] | Delegation of authority | การแบ่งแยกความรับผิดชอบ [TU Subject Heading] | Employers' liability | ความรับผิดของนายจ้าง [TU Subject Heading] | Environmental responsibility | ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม [TU Subject Heading] | Government liability | ความรับผิดของราชการ [TU Subject Heading] | Government liability (International law) | ความรับผิดของราชการ (กฎหมายระหว่างประเทศ) [TU Subject Heading] | Hold harmles agrements | ข้อตกลงยกเว้นความรับผิด [TU Subject Heading] | Indemnity against liability | ความรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน [TU Subject Heading] | Insurance, Liability | ประกันภัยความรับผิด [TU Subject Heading] | Insurance, Polution liability | ประกันภัยความรับผิดจากมลพิษ [TU Subject Heading] | Liability (Law) | ความรับผิด (กฎหมาย) [TU Subject Heading] | Liability for aircraft accidents | ความรับผิดสำหรับอุบัติเหตุทางอากาศ [TU Subject Heading] | Liability for animals | ความรับผิดเกิดจากสัตว์ [TU Subject Heading] | Liability for environmental damages | ความรับผิดสำหรับความเสียหายของสิ่งแวดล้อม [TU Subject Heading] | Liability for hazardous substance pollution damages | ความรับผิดสำหรับความเสียหายจากมลพิษของสารอันตราย [TU Subject Heading] | Liability for marine accidents | ความรับผิดสำหรับอุบัติเหตุทางทะเล [TU Subject Heading] | Liability for oil pollution damages | ความรับผิดสำหรับความเสียหายจากมลพิษของน้ำมัน [TU Subject Heading] | Liability for railroad accidents | ความรับผิดสำหรับอุบัติเหตุทางรถไฟ [TU Subject Heading] | Liability for traffic accidents | ความรับผิดสำหรับอุบัติเหตุทางถนน [TU Subject Heading] | Ministerial responsibility | ความรับผิดชอบของรัฐมนตรี [TU Subject Heading] | Products liability | ความรับผิดของผู้ผลิต [TU Subject Heading] | Respondeat superior | ความรับผิดทางละเมิดของบุคคลที่อยู่ในความดูแล [TU Subject Heading] | Responsibility | ความรับผิดชอบ [TU Subject Heading] | Responsibility in children | ความรับผิดชอบในเด็ก [TU Subject Heading] | Social responsibility of business | ความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจ [TU Subject Heading] | Tort liability of banks | ความรับผิดฐานละเมิดของธนาคาร [TU Subject Heading] | Tort liability of corporations | ความรับผิดฐานละเมิดขององค์การ [TU Subject Heading] | Conference on Disamament | การประชุมว่าด้วยการลดอาวุธ จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2522 เพื่อเป็นเวทีเจรจาการลดอาวุธระหว่างประเทศ มีขอบเขตความรับผิดชอบเกี่ยวกับประเด็นด้านการลดอาวุธทุกด้าน และมีหน้าที่ รายงานต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติทุกปี ปัจจุบันมีสมาชิก 65 ประเทศ(ไทยมิได้เป็นสมาชิก) โดยที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จในการเจรจาจัดทำความตกลงระหว่างประเทศ ด้านการลดอาวุธหลายฉบับ ที่สำคัญได้แก่ สนธิสัญญาไม่แพร่อาวุธนิวเคลียร์ อนุสัญญาห้ามเคมี อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ และสนธิสัญญาห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ [การทูต] | Responsibility to protect | หลักการความรับผิดชอบในการคุ้มครอง เป็นหลักการที่ได้รับการรับรองในการประชุมระดับผู้นำ เพื่อทบทวนผลของปฏิญญาสหัสวรรษ(High Level Panel Meeting - HLPM) เมื่อวันที่ 14-16 กันยายน พ.ศ. 2548 ณ นครนิวยอร์ก ที่เกี่ยวข้องกับการแทรกแซงทางมนุษยธรรม ( humanitarian interference/intervention of humanity)เพื่อคุ้มครองประชาชนจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การฆ่าล้างชนชาติ โดยจะถือเป็นความรับผิดชอบและที่จะต้องดำเนินการร่วมกันโดยประชาคมระหว่าง ประเทศ อย่างไรก็ตาม หลักการเรื่องนี้มีนัยเกี่ยวข้องกับกฏหมายระหว่างประเทศ อธิปไตย ของรัฐ ความอ่อนไหวทางการเมือง และความชอบธรรมในการปฏิบัติ จึงยังไม่มีการนิยามแนวความคิด R2P รวมถึงขอบเขตของ R2P ที่ชัดเจน [การทูต] | Regional Organizations | คือองค์การส่วนภูมิภาค ในเรื่องนี้ ข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติไว้ว่า ?ไม่มีข้อความใดในกฎบัตรฉบับปัจจุบัน อันจักริดรอนสิทธิประจำตัวในการป้องกันตนเองโดยลำพังหรือโดยร่วมกัน หากการโจมตีโดยกำลังอาวุธบังเกิดแก่สมาชิกของสหประชาชาติ จนกว่าคณะมนตรีความมั่นคงจะได้ดำเนินมาตรการที่จำเป็น เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ มาตรการที่สมาชิกได้ดำเนินไปในการใช้สิทธิป้องกันตนเองนี้ จักต้องรายงานให้คณะมนตรีความมั่นคงทราบโดยทันที และจักไม่กระทบกระเทือนอำนาจและความรับผิดชอบของคณะมนตรีความมั่นคงภายใต้กฎ บัตรฉบับปัจจุบันแต่ทางหนึ่งทางใด ในอันที่จักดำเนินการเช่นที่เห็นจำเป็น เพื่อธำรงไว้หรือสถาปนากลับคืนมา ซึ่งสันติภาพความมั่นคงระหว่างประเทศ?จะเห็นได้ว่า ประเทศต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเดียวกันมักจะทำข้อตกลงกันในส่วนภูมิภาค โดยอาศัยสนธิสัญญา และโดยที่อาศัยอยู่ในเขตภูมิศาสตร์ใกล้เคียงกัน ( Geographical Propinquity ) หรือมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด และมีวัตถุประสงค์ที่จะอำนวยความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเมืององค์การส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่งที่พอจะหยิบยก มาเป็นตัวอย่างได้ คือ องค์การสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEATO) ซึ่งบัดนี้ได้ยุบเลิกไปแล้วเพราะหมดความจำเป็น องค์การรัฐอเมริกัน (Organization of American States-OAS) องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ (NATO) องค์การร่วมมือระหว่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา (ANZUS) เป็นต้น องค์การภูมิภาคเหล่านี้ตั้งขึ้นโดยอาศัยข้อ 51 ของกฎบัตร สหประชาชาติ ซึ่งกล่าวถึงสิทธิของประเทศสมาชิกที่จะทำการป้องกันตนเองโดนลำพังหรือโดย ร่วมกัน หากถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธ [การทูต] | Secretariat of the United Nations | คือสำนักเลขาธิการสหประชาชาติ ประกอบด้วยตัวเลขาธิการ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยสมัชชาตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตามที่องค์การต้องการหน้าที่สำคัญของเลขาธิการสหประชา ชาติ คือ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารขององค์การ นำเรื่องใดก็ตามเสนอต่อคณะมนตรีความมั่นคง ซี่งตามทรรศนะของเลขาธิการเห็นว่าเป็นภัยคุกคามสันติภาพและความมั่นคง ระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่ทำรายงานประจำปี และรายงานเพิ่มเติมใด ๆ ที่จำเป็นเสนอต่อสมัชชาสหประชาชาติ เกี่ยวกับงานขององค์การ สหประชาชาติคณะเจ้าหน้าที่ที่ทำงานช่วยเหลือเลขาธิการนั้น ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระหว่างประเทศ ประกอบด้วยชนชาติต่าง ๆ ในการเกณฑ์เจ้าหน้าที่เหล่านี้เข้าทำงานกับสหประชาชาติ จะคัดแต่ผู้ที่มีประสิทธิภาพ ความสามารถ และความซื่อสัตย์ในระดับสูงสุด และคำนึงถึงเขตภูมิศาสตร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในการทำงานตามหน้าที่ ทั้งตัวเลขาธิการและคณะเจ้าหน้าที่ผู้ร่วมงาน จะต้องไม่แสวงหรือรับคำสั่งจากรัฐบาลใด ๆ หรือจากผู้มีอำนาจหน้าที่อื่นใดที่อยู่นอกเหนือองค์การสหประชาชาติ ขณะเดียวกัน สมาชิกของสหประชาชาติได้ตกลงยอมรับนับถือความรับผิดชอบที่มีลักษณะระหว่าง ประเทศของสำนักเลขาธิการ และจักไม่แสวงใช้อิทธิพลใด ๆ ต่อสำนักเลขาธิการ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบเหล่านั้น [การทูต] | United Nations University | มหาวิทยาลัยสหประชาชาติ จัดตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1973 ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นสถาบันอิสระที่บริหารปกครองตนเองภายในโครงร่างของสหประชาชาติ เรียกได้ว่าเป็นสถาบันการศึกษาที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือ ระหว่างประเทศในเชิงวิชาการ ในอันที่จะมีส่วนช่วยเหลือเกื้อกูลต่อการแก้ปัญหาเร่งด่วนต่าง ๆ ของโลก มหาวิทยาลัยนี้มีลักษณะไม่เหมือนกับมหาวิทยาลัยอื่นทั่ว ๆ ไป ทั้งในด้านโครางสร้างและแบบอย่างการดำเนินงาน กล่าวคือ ไม่มีนิสิตนักศึกษาของตนเอง ไม่มีคณะในมหาวิทยาลัย และไม่มีบริเวณมหาวิทยาลัย (campus) ดำเนินงานภายในเครือข่ายของสถาบันวิจัยและวิชาการต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งศูนย์ฝึกและศูนย์วิจัยของตนเอง ทั้งยังรวมไปถึงผู้คงแก่เรียนเป็นรายบุคคลด้วย ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันหาทางแก้ปัญหาต่าง ๆ ของโลกเป็นจุดสำคัญเรื่องที่มหาวิทยาลัยสหประชาชาติกำลังกังวลและสนใจอยู่ใน ขณะนี้ คือ เรื่องเกี่ยวกับค่านิยมของมนุษย์ทั่วโลก รวมทั้งความรับผิดชอบทั้งหลายที่มนุษย์ทั่วโลกจะพึงมี เรื่องทิศทางใหม่ ๆ ในภาวะเศรษฐกิจที่กลังปรากฏอยู่ในโลก รวมทั้งเรื่องความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และวิทยาการทางเทคโนโลยีเรื่องพลัง ที่ทำให้เกิดความผันแปรระหว่างพลเมืองของโลก ตลอดจนเรื่องสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ยังมุ่งหมายที่จะช่วยเพิ่มพูนศักยภาพในการวิจัย และการฝึกในประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลายด้วย และภายในมหาวิทยาลัยเองก็กำลังสนใจด้านวิจัยและการฝึกฝนในบางเรื่องโดยเฉพาะ [การทูต] | Work of the United Nations on Human Rights | งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต] | Responsibility accounting | การบัญชีตามความรับผิดชอบ [การบัญชี] | Authority | อำนาจความรับผิดชอบ, อำนาจ, ผู้มีอำนาจ [การแพทย์] | ความผิดปกติทางจิต | ความผิดปกติทางจิต, อาการที่แสดงออกที่ผิดแปลก ทำให้การปรับตัวหรือสัมพันธภาพหรือความรับผิดชอบหรือชีวิตประจำวันที่เคยมี เสียไป หรือแตกต่างจากคนทั่วไปอย่างผิดปกติ ซึ่งสามารถแสดงออกหลายด้านไล่เรียงตั้งแต่สิ่งที่สังเกตยากที่สุด คือ ความคิด ความรู้สึก การรับรู้ อารมณ์ หรือพฤติกรรม [สุขภาพจิต] | Corporate Social Responsibility | ความรับผิดชอบทางสังคมของธุรกิจ, Example: ความรับผิดชอบทางสังคมของธุรกิจ [ธุรกิจ] | Job Description | พิจารณาบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ, การทำรายละเอียดของงาน [การแพทย์] |
| การมอบหมายความรับผิดชอบ | [kān møpmāi khwām rapphitchøp] (n, exp) EN: delegation of responsibility | การยกเว้นความรับผิด | [kān yokwen khwām rapphit] (n, exp) EN: exclusion of liability ; exemption from liability | ความรับผิด | [khwām rapphit] (n) EN: liability ; accountability | ความรับผิดชอบ | [khwām rapphitchøp] (n) EN: responsibility ; obligation ; answerability ; accountability FR: responsabilité [ f ] | ความรับผิดชอบร่วมกัน | [khwām rapphitchøp ruam kan] (n, exp) EN: collective responsibility FR: responsabilité collective [ f ] | ความรับผิดชอบทางแพ่ง | [khwām rapphitchøp thāng phaeng] (n, exp) EN: civil liability | ความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ | [khwām rapphitchøp tø phalittaphan] (n, exp) EN: product liability | ความรับผิดชอบต่อสังคม | [khwām rapphitchøp tø sangkhom] (n, exp) EN: social responsibility ; Corporate Social Responsibility (CSR) FR: responsabilité sociale des entreprises (RSE) [ f ] | ความรับผิดในการกระทำของผู้อื่น | [khwām rapphit nai kān kratham khøng phū eūn] (n, exp) EN: vicarious liability | ความรับผิดร่วมกัน | [khwām rapphitruam kan] (n, exp) EN: joint liability | ความรับผิดทางอาญา | [khwām rapphit thāng āyā] (n, exp) EN: criminal responsibility | ความรับผิดทางอาญาที่เบาลง | [khwām rapphit thāng āyā thī bao long] (n, exp) EN: diminished criminal responsibility | ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก | [khwām rapphit tø bukkhon phāinøk] (n, exp) EN: third party responsibility | เลี่ยงความรับผิดชอบ | [līeng khwām rapphitchøp] (v, exp) EN: avoid responsibility ; evade one's responsibility ; shirk one's responsibility FR: échapper à ses responsabilités ; fuir ses responsabilités | มีความรับผิดชอบ | [mī khwām rapphitchøp] (adj) EN: responsible |
| in charge | (adj) ที่อยู่ในความรับผิดชอบในหน้าที่ | hypengyophobia | (n) โรคกลัวความรับผิดชอบ, Syn. fear of responsibility | buckpassing | (n, adj) การปัดความรับผิดชอบ, ที่ปัดความรับผิดชอบ เช่น The most important one is the non-trust and buckpassing bureaucracy., The managers are active when there's benefit and buckpassing when things go bad., See also: avoiding |
| at someone's doorstep | (idm) ในความดูแลของ, See also: ในความรับผิดชอบของ | buck | (vt) ส่งต่อไปยัง (เพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ) | be in someone's hands | (idm) อยู่ในความรับผิดชอบของ, See also: เป็นความรับผิดชอบของ, Syn. be out of | be on someone's head | (idm) รับผิดชอบ, See also: เป็นความรับผิดชอบของ | be out of one's hands | (idm) ไม่อยู่ในความรับผิดชอบ, Ant. be in someone's hands | bunk off | (phrv) หนีจาก (ความรับผิดชอบ, ครอบครัว, โรงเรียนฯลฯ) | charge | (n) ภาระ, See also: ความรับผิดชอบ, Syn. burden | commitment | (n) ความรับผิดชอบ, Syn. responsibility, engagement | confide | (vt) ให้ความไว้วางใจ, See also: มอบความรับผิดชอบให้, Syn. entrust, charge, consign | consign | (vt) ให้อยู่ในความรับผิดชอบของ, See also: ให้อยู่ในความดูแลของ, Syn. entrust | cop-out | (n) การละทิ้งความรับผิดชอบ (คำสแลง) | cop out | (phrv) เลี่ยงความรับผิดชอบในเรื่อง (คำไม่เป็นทางการ), Syn. opt in, opt out | devolve on | (phrv) มอบให้ (อำนาจ, หน้าที่, ความรับผิดชอบฯลฯ) | devolve upon | (phrv) มอบให้ (อำนาจ, หน้าที่, ความรับผิดชอบฯลฯ) | fall on | (phrv) ตกมาถึง, See also: มาถึง, เป็นความรับผิดชอบของ | fall to someone's lot | (phrv) กลายเป็นความรับผิดชอบในการทำบางสิ่ง | fall to someone's share | (phrv) กลายเป็นความรับผิดชอบในการทำบางสิ่ง | fall upon | (phrv) ตกมาถึง, See also: มาถึง, เป็นความรับผิดชอบของ | devolution | (n) การกระจายความรับผิดชอบ, See also: การมอบหมายหน้าที่, Syn. delegation | devolve | (vt) ถ่ายโอนอำนาจไปยังคนที่มีอำนาจน้อยกว่า, See also: ถ่ายโอนความรับผิดชอบไปยังคนที่มีความรับผิดชอบน้อยกว่า, Syn. commit, entrust, offer a post | disclaimer | (n) ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ, Syn. denial, rejection, contradiction, Ant. avowal, affirmation | dodger | (n) คนที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมในการหลีกเลี่ยงหน้าที่หรือความรับผิดชอบ, Syn. traunt, absentee, defaulter, avoider | duty | (n) ความรับผิดชอบ, See also: หน้าที่รับผิดชอบ, หน้าที่, Syn. matter, affair, chore, charge | entrust | (vt) มอบความรับผิดชอบให้, Syn. commit, consign | get off | (phrv) ปัดความรับผิดชอบ | get out of | (phrv) หนี (หน้าที่), See also: ปัดความรับผิดชอบ, Syn. get off, let off | get out of | (phrv) หนี (หน้าที่), See also: ปัดความรับผิดชอบ, Syn. get off, let off | impose on | (phrv) กำหนด (ภาษีหรือความรับผิดชอบ) ให้กับ, See also: เรียกเก็บ, เก็บ, กำหนดให้มี, Syn. impose upon, place on, put on | impose upon | (phrv) กำหนด (ภาษีหรือความรับผิดชอบ) ให้กับ, See also: เรียกเก็บ, เก็บ, กำหนดให้มี, Syn. impose on, place on, put on | in the care of | (idm) อยู่ในความดูแลของ, See also: อยู่ในความรับผิดชอบของ | in the charge of | (idm) อยู่ในความดูแลของ, See also: อยู่ในความรับผิดชอบของ | in the line of duty | (idm) ตามหน้าที่, See also: เป็นหน้าที่, อยู่ในความรับผิดชอบ | on someone's doorstep | (idm) ในความรับผิดชอบของบางคน, Syn. at someone's doorstep, Ant. at someone's doorstep | on someone's shoulders | (idm) ในความรับผิดชอบ | pass the buck | (idm) ตำหนิหรือโทษคนอื่น, See also: ปัดความรับผิดชอบให้ผู้อื่น | incumbent | (adj) ซึ่งมีหน้าที่, See also: ซึ่งปฏิบัติหน้าที่, ซึ่งมีความรับผิดชอบ, Syn. obligatory | intrust | (vt) ไว้วางใจ, See also: มอบความรับผิดชอบให้, Syn. assign, commit, confide | irresponsible | (adj) ขาดความรับผิดชอบ, Syn. unreliable, careless, Ant. responsible | let someone off the hook | (idm) ปล่อยให้เป็นอิสระจาก (ความยุ่งยาก, ความรับผิดชอบ, การตัดสินใจ), Syn. be off, be on, get off | lie with | (phrv) เป็นความรับผิดชอบของ, See also: อยู่ในความดูแลของ, Syn. rest with | job | (n) ความรับผิดชอบ, See also: หน้าที่, Syn. duty, responsibility | liable | (adj) ซึ่งรับผิดชอบตามกฎหมาย, See also: เป็นความรับผิดชอบ | load | (n) ภาระ, See also: หน้าที่, ความรับผิดชอบ, Syn. weight, encumbrance | mantle | (n) บทบาทหน้าที่, See also: ตำแหน่งหน้าที่, ความรับผิดชอบ | obligation | (n) หน้าที่, See also: ภาระหน้าที่, ความรับผิดชอบ, Syn. duty, responsibility | onus | (n) หน้าที่, See also: ความรับผิดชอบ, Syn. burden, load, task, Ant. irresponsibility, freedom | outgoing | (adj) ที่พ้นจากงานหรือความรับผิดชอบ, Ant. incoming | pigeon | (n) เรื่องหรือสิ่งที่อยู่ในความรับผิดชอบของคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ | pilot | (vt) รับผิดชอบ, See also: อยู่ในความรับผิดชอบ | quit | (adj) เป็นอิสระ (จากข้อผูกมัด, ความรับผิดชอบ, โทษ), See also: พ้นโทษ, Syn. free |
| blame | (เบลม) { blamed, blaming, blames } vt. กล่าวโทษ, ตำหนิ, ประณาม, นินทา, กล่าวร้าย, โยนความผิดให้ -Phr. (be to blame ควรถูกตำหนิ, ควรรับผิดชอบ) n. การตำหนิ, ความรับผิดชอบ, ภาระ, See also: blamer n. blameful adj. ดูblame blameless adj. ดูblame -Conf. put | discharge | (ดิสชาร์จ') vi., vt., n. (การ) ปล่อย, เอาลง, ขับออก, ทำให้พ้นหน้าที่ความรับผิดชอบหรืออื่น ๆ , ปลดจากประจำการ, ปลดจากงาน, ปล่อยกระแสไฟฟ้า, หนังสือหลักฐานการปลดจากภาระหน้าที่, การชำระสะสาง, See also: discharger n. ดูdischarge, Syn. unl | entrust | (เอนทรัสทฺ') { entrusted, entrusting, entrusts } vt. มอบความรับผิดชอบ, มอบความไว้วางใจ., See also: entrustment n. ดูentrust, Syn. intrust | fainaigue | (ฟะเนก') vi. หลบหนีงานหรือความรับผิดชอบ, หลบหนี, โกง. vt. โกง, หลอก, ลวง -fainaiguer n. | irresponsible | (เออริสพอน'ซะเบิล) adj. ไม่รับผิดชอบ, ขาดความรับผิดชอบ., See also: irresponsibility, irresponsibleness n. irresponsibly adv., Syn. irresolute | legality | (ลิแกล'ลิที) n. ความถูกต้องตามกฎหมาย, การปฏิบัติตามกฎหมาย, หน้าที่หรือความรับผิดชอบด้วยกฎหมาย | liability | (ไลอะบิล'ลิที) n. หนี้, หนี้เงิน, หนี้สิน, ความรับผิดชอบ, ภาระหน้าที่, ด้านลูกหนี้ของบัญชี, ข้อเสียเปรียบ, ความโน้มเอียง, Syn. accountability | onus | (โอ'นิส) n. ความรับผิดชอบ, ภาระ | responsibility | (ริสพอนซะบิล'ลิที) n. ความรับผิดชอบ, ภาระ, ภาระหน้าที่, สิ่งที่รับผิดชอบ, สิ่งที่เป็นภาระหน้าที่, Syn. accountability | shirk | (เชิร์ค) vt. หนีงาน, หนีภาระหน้าที่, หนีความรับผิดชอบ., Syn. soldier, malinger | shirker | (เชิร์ค'เคอะ) n. ผู้หนีงาน, ผู้หนีความรับผิดชอบ, Syn. idler, slacker, quitter | trust | (ทรัสทฺ) n. ความเชื่อถือ, ความไว้วางใจ, ความมั่นใจ, ความหวัง, สิ่งที่ไว้ใจได้, บุคคลที่ไว้ใจได้, บริษัทใหญ่ที่รวมบริษัทเล็ก ๆ เข้าไว้, ความรับผิดชอบ, การฝากฝัง, ความพิทักษ์, ความอุปถัมภ์, การปกครอง, สินเชื่อ, -Phr. (in trust อยู่ในความพิทักษ์ของคนอื่น) adj. เกี่ยวกับสินเชื่อ | vagabond | (แวก'กะบอนดฺ) adj. พเนจร, ร่อนเร่, จรจัด, ไร้ค่า, ขี้เกียจ. n. คนพเนจร, คนร่อนเร่, คนจรจัด, คนที่ไม่มีความรับผิดชอบ., See also: vagabondish adj., Syn. tramp, vagrant |
| charge | (n) หน้าที่, ความรับผิดชอบ, ภาระ, ค่าธรรมเนียม, มูลค่า, การฟ้องร้อง | duty | (n) หน้าที่, ภาระหน้าที่, อากร, ภาษี, ความรับผิดชอบ | entrust | (vt) ไว้ใจ, มอบหมาย, มอบความรับผิดชอบ | irresponsible | (adj) ขาดความรับผิดชอบ | liability | (n) ความเป็นไปได้, ความรับผิดชอบ, ข้อบกพร่อง, หนี้, พันธกรรม, ความโน้มเอียง | responsibility | (n) ภาระหน้าที่, ความรับผิดชอบ | trust | (n) ความไว้ใจ, การให้เชื่อ, ความเชื่อถือ, ความรับผิดชอบ, สินเชื่อ, ของฝาก |
| | 引責辞任 | [いんせきじにん, insekijinin] (n) การแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออก | 義務 | [ぎむ, gimu] (n) หน้าที่, ความรับผิดชอบ | 責任 | [せきにん, sekinin] (n) หน้าที่, ความรับผิดชอบ |
| 免責 | [めんせき, menseki] ยกเว้นความรับผิด | 無責任 | [むせきにん, musekinin] (n, adj) ไม่มีความรับผิดชอบ | 責任感 | [せきにんかん, sekininkan] (n) มีความรับผิดชอบ | 移管 | [いかん, ikan] (n) การโอนหน้าที่หรือความรับผิดชอบให้หน่วยงานอื่นทำ |
| Verantwortung | (n) |die, pl. Verantwortungen| ความรับผิดชอบ เช่น Für mein Leben trage ich selbst die Verantwortung. ฉันรับผิดชอบชีวิตของฉันด้วยตัวฉันเอง |
| Chaaim | [ชา ไอม์] (slang) ขาดความรับผิดชอบ, See also: unzuverlässig, unvorsichtig, A. verantwortlich, Syn. unverantwortlich |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |