ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ศักดิ, -ศักดิ- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ ตวน | [ตวน] (n) เจ้า เป็นฐานันดรศักดิ์เจ้านายมลายู เชื้อพระวงศ์มลายู หรือ เจ้าประเทศราชมลายู | ต่วน | [ต่วน] (n) เจ้า เป็นฐานันดรศักดิ์เจ้านายมลายู เชื้อพระวงศ์มลายู หรือ เจ้าประเทศราชมลายู | ต่วนกู | [ต่วน-กู] ต่วนกู เป็นฐานันดรศักดิ์ของมลายูและเป็นชั้นยศสูงสุด หมายถึงพระเจ้าแผ่นดิน สุลต่าน ตลอดจนองค์ประมุขสูงสุดหรือองค์ประมุขแห่งรัฐ |
| พันธุ์ศักดิ์ | [The power of the family] (n, vt, modal, verb, aux, verb, adv, prep, pron, phrase, slang, colloq, abbrev, uniq) ผู้มีพลังอำนาจของวงค์ตระกูล The power of the family | มีศักดิ์และสิทธิ์แห่งปริญญานี้ทุกประการ | (phrase) with all the rights, privileges and honors appertaining thereto |
|
| | ศักดิ | (n) power, See also: might, authority, Syn. กำลัง, อำนาจ, ศักดิ์, Example: ทุกคนต้องแย่งกันทำมาหากิน เพื่อที่จะมีหน้ามีตา มียศ มีศักดิ | ศักดิ | (n) ability, See also: capability, Syn. ความสามารถ, ศักดิ์ | ศักดิ | (n) status, See also: rank, Syn. ฐานะ, ตำแหน่ง, ศักดิ์, Example: เขามีศักดิเป็นอาของฉัน | ศักดิ | (n) spear, See also: lance, javelin, Syn. หอก, หลาว, ศักดิ์ | ศักดิ์ | (n) mightiness, See also: vigor, force, Syn. ศักดา, อำนาจ, พลัง, กำลัง | ศักดิ์ | (n) prestige, See also: power | ศักดิ์ | (n) ability, See also: skill, capability, potential, Syn. ความสามารถ, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | ศักดิ์ | (n) power, See also: mighty, authority, Syn. อำนาจ, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | ศักดิ์ | (n) rank, See also: status, prestige, Syn. ฐานะ, สถานภาพ, Example: ในกรุงเทพฯ ทุกคนต้องแย่งกันทำมาหากิน แย่งกันมีหน้ามีตา มียศ มีศักดิ์, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | ศักดินา | (n) dignity, See also: distinction | ศักดินา | (n) status in terms of land, counted in rai, See also: right to the possession of farmland, Example: ข้าราชการชั้นขุนนาง คือ ข้าราชการที่ถือศักดินาตั้งแต่ 400 ไร่ขึ้นไป, Thai Definition: อำนาจปกครองที่นา ซึ่งเป็นเครื่องแสดงขั้นสูงต่ำของพลเมืองสมัยก่อน | ยศศักดิ์ | (n) rank, See also: title, status, prestige, splendour, station, position, distinction, nobility, class, caste, Syn. ยศถาบรรดาศักดิ์, บรรดาศักดิ์, Example: ท่านได้รับการแต่งตั้งเลื่อนยศศักดิ์เป็นเจ้าพระยา, Notes: (บาลีและสันสกฤต) | ศักดิ์ศรี | (n) honour, See also: honor, glory, fame, renown, Syn. เกียรติ, เกียรติยศ, เกียรติศักดิ์ | ศักดิ์ศรี | (n) prestige, Syn. เกียรติศักดิ์, เกียรติยศ, Example: ศักดิ์ศรีของทหารเป็นที่น่าเชื่อถือของคนทั่วไป, Notes: (สันสกฤต) | สมณศักดิ์ | (n) priest of rank, Syn. ยศ, ตำแหน่ง | สมณศักดิ์ | (n) priest's ranks, See also: priest's title, Example: พระมหากษัตริย์ทรงมีสิทธิ์ที่จะแต่งตั้งพระมหาเถระ ให้มีสมณศักดิ์ตามคุณวุฒิและคุณธรรม, Count Unit: ชั้น, Thai Definition: ยศพระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานมีหลายชั้น แต่ละชั้นมีพัดยศเป็นเครื่องกำหนด | สูงศักดิ์ | (adj) noble, See also: high rank, lofty, Syn. สูงส่ง, Ant. ต่ำต้อย, Example: ระหว่างที่อยู่ในลอนดอน เขาได้พบสตรีสูงศักดิ์คนหนึ่งกำลังเดินเล่นในสวนสาธารณะ, Thai Definition: มีเกียรติ, มีเชื้อสายผู้ดี, มีสกุลรุนชาติ | ทะนงศักดิ์ | (v) be proud, See also: be self-confident, be lordly, Syn. ทระนงศักดิ์, หยิ่งในศักดิ์ศรี, Thai Definition: ถือดีในอำนาจของตัว | เชลยศักดิ์ | (adj) private, See also: unofficial, unregistered, Example: เขาใช้นักสืบเชลยศักดิ์สืบเรื่องนี้, Thai Definition: อยู่นอกทำเนียบนอกทะเบียน อยู่นอกทำเนียบนอกทะเบียน | มีศักดิ์ศรี | (v) have prestige, See also: have dignity, Syn. มีเกียรติ, Example: มนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน, Thai Definition: มีเกียรติตามฐานะของแต่ละบุคคล | สมศักดิ์ศรี | (v) deserve one's dignity, See also: be suitable for one's rank, be worthy of one's dignity, Syn. สมศักดิ์, Example: เขาคิดว่านี่เป็นงานต่ำ ไม่สมศักดิ์ศรีลูกผู้ดีอย่างเขา, Thai Definition: สมควรแก่เกียรติยศชื่อเสียง | กิตติมศักดิ์ | (adj) honorary, See also: glorious, honorable, Example: ในปีนี้ทางมหาวิทยาลัยมอบปริญญาดุษฎีกิตติมศักดิ์แก่นายชวน หลีกภัย, Thai Definition: ยกย่องเพื่อเป็นเกียรติยศ | ผู้สูงศักดิ์ | (n) nobleman, See also: one of high birth, Ant. ผู้ต่ำต้อย, Example: พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ทรงให้สมญาริเชอลิเยอว่าผู้สูงศักดิ์, Thai Definition: ผู้มียศศักดิ์สูง | ศักดิ์สิทธิ์ | (adj) holy, Syn. น่าศรัทธา, น่าเลื่อมใส, น่านับถือ | ศักดิ์สิทธิ์ | (adj) sacred, See also: holy, consecrated, Syn. ขลัง, Example: สุเหร่านั้นเป็นสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมในอินเดีย สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 16 | ฐานันดรศักดิ์ | (n) rank of nobility, See also: title, Syn. ยศ, บรรดาศักดิ์, Example: หม่อมเจ้าพันธุ์สวลีได้ลาออกจากฐานันดรศักดิ์ เมื่อทำการสมรสกับผู้มิได้มีศักดิ์เป็นเจ้า, Thai Definition: ลำดับในการกำหนดชั้นบุคคล | เกียรติศักดิ์ | (n) honor, See also: prestige, glory, Syn. เกียรติ, Example: องค์พระมหากษัตริย์ทรงต้องการใช้ความรักชาติ ความชื่นชม และการตื่นตัวในเกียรติศักดิ์ของไทยของประชาชน เพื่อแก้ปัญหาการเมือง, Thai Definition: ฐานะอันมีเกียรติ | เสียศักดิ์ศรี | (v) lose one's honour, See also: be disgraced, be dishonoured, Example: ประธานาธิบดีโซเวียตยอมเสียศักดิ์ศรีเดินทางไปเยือนอดีตประเทศศัตรู เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ, Thai Definition: สูญเสียเกียรติศักดิ์, สูญเสียเกียรติ | ถือยศถือศักดิ์ | (v) stand on one's dignity, See also: be pompous, esteem personal rank, put on bureaucratic airs, Syn. ถือยศ, Example: ถึงเขาจะมีเชื้อสายเจ้า แต่เขาก็ไม่ถือยศถือศักดิ์เลย | สิ่งศักดิ์สิทธิ์ | (n) holy thing | สิ่งศักดิ์สิทธิ์ | (n) sacred item, See also: holy object, Example: ยามมีทุกข์หลายคนจะนึกถึงวัด นึกถึงคุณพระคุณเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อหาทางปลดเปลื้องทุกข์ และหาวิธีการสู่ความสุขสงบทางใจ, Thai Definition: ของเคารพซึ่งเชื่อว่าสามารถจะบันดาลผลต่างๆ ได้ | สิ่งศักดิ์สิทธิ์ | (n) sacred item, See also: holy object, Example: ยามมีทุกข์หลายคนจะนึกถึงวัด นึกถึงคุณพระคุณเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อหาทางปลดเปลื้องทุกข์ และหาวิธีการสู่ความสุขสงบทางใจ, Thai Definition: ของเคารพซึ่งเชื่อว่าสามารถจะบันดาลผลต่างๆ ได้ | หยิ่งในศักดิ์ศรี | (v) be proud of (one's achievement), Syn. ถือตัว, Example: คนเราต่างก็มีสิทธิ์หยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเอง, Thai Definition: ไว้ตัว, ไม่ยอมลดตัว เพราะหยิ่งในเกียรติของตน | บุญหนักศักดิ์ใหญ่ | (adj) powerful, Example: ถ้าเป็นพวกมีเงินหรือพวกบุญหนักศักดิ์ใหญ่ลูกหลานก็อาจจะฟังได้เพราะเกรงใจในสมบัติ, Thai Definition: ที่มีฐานันดรศักดิ์สูงและอำนาจวาสนายิ่งใหญ่ | ปริญญากิตติมศักดิ์ | (n) honorary degree, Example: ปีนี้ทางมหาวิทยาลัยได้มอบปริญญากิตติมศักดิ์แก่ศิษย์เก่าที่ทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมือง, Thai Definition: ปริญญาที่ประสาทแก่ผู้ทรงวิทยาคุณ หรือผู้มีเกียรติตามที่เห็นสมควร | สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ | (n) holy place, See also: sacred place |
| กรมศักดิ์ | (กฺรมมะสัก) น. ชื่อกฎหมายลักษณะหนึ่ง ซึ่งกำหนดระวางโทษปรับตามศักดินา อายุของฝ่ายที่ชนะคดีหรือฝ่ายที่แพ้คดี และความร้ายแรงหนักเบาของความผิดที่กระทำ. (สามดวง), พรมศักดิ หรือ พรหมศักดิ ก็ว่า. | กิตติมศักดิ์ | (-ติมะ-) ว. ยกย่องเพื่อเป็นเกียรติยศ เช่น ปริญญากิตติมศักดิ์ สมาชิกกิตติมศักดิ์. | กิตติมศักดิ์ | ดู กิตติ. | เกียรติศักดิ์ | (เกียดติสัก) น. เกียรติ, เกียรติตามฐานะของแต่ละบุคคล. | เชลยศักดิ์ | น. ผู้ที่อยู่นอกทำเนียบนอกทะเบียน เช่น หมอเชลยศักดิ์ นักสืบเชลยศักดิ์. | ฐานานุศักดิ์ | ว. ตามควรแก่เกียรติศักดิ์. | ฐานานุศักดิ์ | น. ศักดิ์ใหญ่และศักดิ์น้อย, ถ้าศักดิ์นาสูงกว่า ๔๐๐ ขึ้นไป เรียกว่า สูงนา หรือ ศักดิ์ใหญ่ ถ้าศักดิ์นาต่ำกว่า ๔๐๐ เรียกว่า ต่ำนา หรือ ศักดิ์น้อย | ฐานานุศักดิ์ | ศักดิ์ที่พระราชาคณะมีอำนาจตั้งฐานานุกรมได้. | ฐานานุศักดิ์ | ดู ฐาน ๒, ฐาน-, ฐานะ. | ถือยศ, ถือยศถือศักดิ์ | ก. ไว้ยศ, ถือตัวว่ามียศมีศักดิ์. | ถือศักดินา | ก. มีศักดิ์โดยถือเอานาเป็นหลักในการกำหนดอำนาจและปรับไหม. | ทะนงศักดิ์ | ก. ถือดีในอำนาจของตัว. | บรรดาศักดิ์ | (บันดา-) น. ฐานันดรศักดิ์ที่พระราชทานแก่ข้าราชการหรือบุคคลทั่วไป แบ่งออกเป็น เจ้าพระยา พระยา พระ หลวง ขุน หมื่น พัน และทนาย โดยมีราชทินนามต่อท้าย เช่น เจ้าพระยายมราช พระยาพลเทพ. | บุญหนักศักดิ์ใหญ่ | ว. มีฐานันดรศักดิ์สูงและอำนาจวาสนายิ่งใหญ่ (มักใช้ในความประชด) เช่น ถึงเป็นพี่น้องกัน แต่ฉันก็ไม่กล้าไปรบกวนเขา เพราะเขาบุญหนักศักดิ์ใหญ่เหลือเกิน. | ใฝ่สูงจนเกินศักดิ์, ใฝ่สูงให้เกินศักดิ์ | ก. หวังสิ่งที่เกินฐานะของตน (มักใช้ในความปฏิเสธ) เช่น อย่าใฝ่สูงจนเกินศักดิ์ อย่าใฝ่สูงให้เกินศักดิ์. | มเหศักดิ์ | น. เจ้าผีซึ่งเดิมเป็นเจ้าเมืองในถิ่นนั้น. | ศักดิ-, ศักดิ์ | น. อำนาจ, ความสามารถ, เช่น มีศักดิ์สูง ถือศักดิ์ | ศักดิ-, ศักดิ์ | กำลัง | ศักดิ-, ศักดิ์ | ฐานะ เช่น มีศักดิ์และสิทธิแห่งปริญญานี้ทุกประการ | ศักดิ-, ศักดิ์ | หอก, หลาว. | ศักดินา | น. อำนาจหรือสิทธิที่พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานให้แก่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินตามศักดิ์ของแต่ละคน เดิมเป็นการถือครองที่ดินคิดเป็นจำนวนไร่ ต่อมาถือเป็นการกำหนดสถานะ สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของคนในสังคม เช่น มหาอุปราช มีศักดินา ๑๐๐๐๐๐ เจ้าพระยาจักรี มีศักดินา ๑๐๐๐๐ ภิกษุรู้ธรรม เสมอนา ๖๐๐ ไพร่มีครัว มีศักดินา ๒๐ ยาจก วณิพก ทาส ลูกทาส มีศักดินา ๕ (สามดวง) | ศักดินา | คำประชดเรียกชนชั้นสูงหรือผู้ดีมีเงินว่าพวกศักดินา. | ศักดิ์ศรี | น. เกียรติศักดิ์ เช่น ประพฤติตนไม่สมศักดิ์ศรี. | ศักดิ์สิทธิ์ | ว. ที่เชื่อถือว่ามีอำนาจอาจบันดาลให้สำเร็จได้ดังประสงค์, ขลัง, เช่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์. | สมณศักดิ์ | น. ยศพระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานมีหลายชั้น แต่ละชั้นมีพัดยศเป็นเครื่องกำหนด. | สิ่งศักดิ์สิทธิ์ | น. สิ่งหรือภาวะที่เชื่อว่ามีอำนาจเหนือธรรมชาติ สามารถบันดาลให้เป็นไปหรือให้สำเร็จได้ดังปรารถนา เช่น ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลให้เขาหายจากโรคร้าย. | สูงศักดิ์ | ว. มียศศักดิ์หรือตระกูลสูง เช่น เจ้านายเป็นบุคคลที่สูงศักดิ์ เขาสืบเชื้อสายมาจากขุนนางผู้สูงศักดิ์. | อินทรศักดิ์ | (อินทฺระ-) น. พระอินทราณี, ชายาพระอินทร์. | กรม ๓ | (กฺรม) น. หมู่เหล่าอันเป็นที่รวมกำลังไพร่พลของแผ่นดินตามลักษณะปกครองสมัยโบราณ เพื่อประโยชน์ในราชการและเวลาเกิดศึกสงคราม จะได้เรียกระดมคนได้ทันท่วงที บรรดาชายฉกรรจ์ต้องเข้าอยู่ในกรมหรือในหมู่เหล่าใดเหล่าหนึ่ง เรียกว่า สังกัดกรม มีหัวหน้าควบคุมเป็นเจ้ากรม ปลัดกรม ตามลำดับ ซึ่งเมื่อพระเจ้าแผ่นดินทรงตั้งให้เจ้านายปกครองเป็นองค์ ๆ เรียกว่าตั้งกรม แล้ว เจ้านายพระองค์นั้นก็ ทรงกรม เป็น เจ้าต่างกรม เพราะมีกรมขึ้นต่างหากออกไปเป็นกรมหนึ่ง มีอำนาจตั้งเจ้ากรม ปลัดกรม เป็น หมื่น ขุน หลวง พระ พระยา ได้ และเรียกชื่อกรมนั้น ๆ ตามบรรดาศักดิ์เจ้ากรมว่า กรมหมื่น กรมขุน กรมหมื่น กรมขุน กรมหลวง กรมหลวงกรมพระ และกรมพระยา หรือ เมื่อจะทรงกรมสูงขึ้นกว่าเดิม ก็โปรดให้ เลื่อนกรม ขึ้น โดยเจ้ากรมมีบรรดาศักดิ์เลื่อนขึ้น เช่นจากหมื่นเป็นขุน, มาในปัจจุบันชื่อกรมเหล่านี้มีความหมายกลายเป็นพระอิสริยยศและพระนามเจ้านายเท่านั้น. | กรมการนอกทำเนียบ | น. กรมการเมืองพวกหนึ่ง เป็นตำแหน่งกิตติมศักดิ์ ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ผู้ว่าราชการเมืองในการบริหารราชการในเมืองนั้น ๆ แต่งตั้งจากบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิหรือคหบดีในเมืองนั้น ๆ โดยไม่จำกัดจำนวน และถือว่าเป็นกรมการชั้นผู้ใหญ่, กรมการพิเศษ ก็ว่า. | กรมการพิเศษ | น. กรมการเมืองพวกหนึ่ง เป็นตำแหน่งกิตติมศักดิ์ ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ผู้ว่าราชการเมืองในการบริหารราชการในเมืองนั้น ๆ แต่งตั้งจากบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิหรือคหบดีในเมืองนั้น ๆ โดยไม่จำกัดจำนวน และถือว่าเป็นกรมการชั้นผู้ใหญ่, กรมการนอกทำเนียบ ก็ว่า. | กระทง ๑ | ฐานปรับตามกรมศักดิในกฎหมายเก่า. | กลาย | (กฺลาย) ก. เปลี่ยนไป, แปรปรวนไป, เช่น หน้าหนาวกลายเป็นหน้าร้อน, เป็นอื่นไป, แปลงไป, เช่น ศรกลายเป็นทิพย์กระยาหาร เปรี้ยวหวานตกลงตรงหน้า (รามเกียรติ์ ร. ๒), (โบ; กลอน) ใช้ในความว่า กราย ก็มี เช่น ไปกลายบ๋านชองตนกดี (จารึกสยาม), จักเจริญสวัสดิภาพศักดิศรี ศัตรูไพรี บห่อนจะใกล้กลายตน (โชค–โบราณ). | เกล้ากระผม | ส. คำใช้แทนตัวผู้พูด เพศชาย พูดกับผู้ใหญ่ด้วยความเคารพมากหรือกับพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์, พูดสั้น ๆ ว่า เกล้า หรือเขียนย่อว่า เกล้าฯ, เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑. | แก้บน | ก. เซ่นสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามที่ตนได้บนบานไว้, ใช้บน ก็ว่า. | ขลัง | (ขฺลัง) ว. มีกำลังหรืออำนาจที่อาจบันดาลให้เป็นไปได้, มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่า อาจบันดาลให้สำเร็จได้ดังประสงค์. | ขลัง | (ขฺลัง) น. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น ในนั้นปูอิฐวางขลัง (สิบสองเดือน). | ของ | สิ่งที่มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่าอาจบันดาลให้สำเร็จได้ดังประสงค์, ของขลัง ก็ว่า. | ของขลัง | น. สิ่งที่มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่าอาจบันดาลให้สำเร็จได้ดังประสงค์, ของ ก็ว่า. | ของสูง | น. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น ของชิ้นนี้เป็นของสูง ต้องเก็บบูชาไว้ให้ดี, ผู้สูงศักดิ์ เช่น แม้ท่านจะไม่ถือพระองค์ แต่ท่านก็เป็นของสูง อย่าอาจเอื้อม. | ขันสาคร | น. ขันขนาดใหญ่ทำด้วยโลหะผสม ได้แก่ สัมฤทธิ์ ทองเหลือง ตัวขันเป็นทรงลูกมะนาวตัด ก้นขันมีเชิง ข้างขันทำเป็นรูปหน้าสิงโตปากคาบห่วงซึ่งใช้เป็นหูหิ้วข้างละหู ใช้บรรจุน้ำสำหรับทำน้ำมนต์ หรือสำหรับผู้มีบรรดาศักดิ์ใช้อาบ. | ขุน ๑ | น. ผู้เป็นใหญ่, หัวหน้า, บรรดาศักดิ์ข้าราชการรองจากหลวงลงมา เช่น ขุนวิจิตรมาตรา | ขุนนาง | น. ลูกขุน, ข้าราชการฝ่ายทหารและพลเรือน แบ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มีศักดินาตั้งแต่ ๔๐๐ ขึ้นไป และข้าราชการชั้นผู้น้อยมีศักดินาต่ำกว่า ๔๐๐. | ขุนหมื่น | น. ข้าราชการผู้น้อยชั้นประทวนซึ่งเสนาบดีแต่งตั้งให้เป็นขุนบ้างเป็นหมื่นบ้าง มีศักดินาต่ำกว่า ๔๐๐. | ขุนหลวง | น. คำเรียกพระเจ้าแผ่นดิน เช่น ขุนหลวงพะงั่ว ขุนหลวงหาวัด ขุนหลวงตาก ภายหลังใช้เป็นบรรดาศักดิ์ของขุนนางด้วย เช่น ขุนหลวงพระไกรศรี. | คอหยัก ๆ สักแต่ว่าคน | น. คนที่ประพฤติตัวไม่สมศักดิ์ศรีของความเป็นคน. | คาถา ๒, คาถาอาคม | น. คำเสกที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์. | คำนำหน้าชื่อ | น. คำที่ใช้นำหน้าชื่อบุคคลเพื่อแสดงสถานภาพ ตำแหน่งทางวิชาการ ยศ บรรดาศักดิ์ หรือฐานันดรศักดิ์, คำนำหน้านาม ก็เรียก. | คำนำหน้านาม | น. คำที่ใช้นำหน้าชื่อบุคคลเพื่อแสดงสถานภาพ ตำแหน่งทางวิชาการ ยศ บรรดาศักดิ์ หรือฐานันดรศักดิ์, คำนำหน้าชื่อ ก็เรียก. | จ่า ๑ | ยศทหารและตำรวจชั้นประทวน เช่น จ่าตรี จ่าสิบตำรวจ, บรรดาศักดิ์ในราชสำนัก เช่น จ่าแผลงฤทธิรอนราญ จ่าเร่งงานรัดรุด, ตำแหน่งหัวหน้าธุรการบางอย่าง เช่น จ่าศาล |
| sacred books | คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | Alliance, Holy | พันธไมตรีอันศักดิ์สิทธิ์ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | entitlement | ๑. การให้สิทธิ์, การมีสิทธิ์๒. การตั้งฐานันดรศักดิ์, การตั้งบรรดาศักดิ์ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | title | ๑. ฐานันดรศักดิ์, บรรดาศักดิ์๒. ชื่อกฎหมาย, ชื่อเรื่อง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | holy | ศักดิ์สิทธิ์ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | Holy Alliance | พันธไมตรีอันศักดิ์สิทธิ์ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| พระเมรุ | เป็นเมรุที่ใช้สำหรับราชวงศ์ที่ทรงฐานานุศักดิ์ เมื่อตายใช้ราชาศัพท์ว่า ทิวงคต หรือสิ้นพระชนม์โดยที่ภายในพระเมรุไม่มีพระเมรุทอง [ศัพท์พระราชพิธี] | พระโกศ | ที่ใส่พระบรมศพ และพระศพเจ้านาย ของพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศ์ กับโกศที่พระราชทานสำหรับศพข้าราชการผู้มีบรรดาศักดิ์สูง ตามคตินิยมของพราหมณ์ที่เชื่อว่า ต้องตั้งพระศพในท่ายืน, นั่ง, คุกเข่า หรือกอดเข่าประสานมือ เพื่อส่งพระศพและพระวิญญาณเสด็จกลับสู่สรวงสวรรค์ พระโกศสามารถแบ่งตามวัตถุประสงค์การใช้งานได้ ๒ ประเภท ๑. พระโกศสำหรับทรงพระบรมศพหรือพระศพ ๒. พระโกศพระบรมอัฐิหรือพระอัฐิ, Example: <p><img src="http://stks.or.th/thaiglossary/sites/default/files/re-IM-2009-01.JPG" alt="พระโกศ"> <p>ที่ใส่พระบรมศพ และพระศพเจ้านาย ของพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศ์ [ศัพท์พระราชพิธี] | พระวอสีวิกากาญจน์ | เป็นพระราชยานประทับราบสำหรับเจ้านายฝ่ายในและพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ นอกจากใช้เสด็จพระราชดำเนินในงานพระราชพิธีแล้ว ยังใช้ในงานพระบรมศพสมเด็จพระบรมราชินีด้วย คือ เชิญพระราชสรีรางคารจากพระเมรุมาศท้องสนามหลวงกลับเ้ข้าพระบรมมหาราชวัง [ศัพท์พระราชพิธี] | พระกลด | [ กฺลด ] น. ร่มขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ขอบร่มมีระบาย คันยาวกว่าก้านร่ม ใช้ถือกั้นเจ้านาย หรือพระภิกษุที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์, ราชาศัพท์ว่า พระกลด, เรียกร่มขนาดใหญ่มีด้าม สำหรับพระธุดงค์โดยเฉพาะ, เรียกดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ที่มีแสงสีรุ้งเป็นวงกลมล้อมรอบว่า ดวงอาทิตย์ทรงกลด ดวงจันทร์ทรงกลด. (ข. กฺลส). [ศัพท์พระราชพิธี] | Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman, or Degrading Treatment or Punishment (1984) | อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (ค.ศ. 1984) [TU Subject Heading] | Dignity | ศักดิ์ศรี [TU Subject Heading] | Dignity in literature | ศักดิ์ศรีในวรรณกรรม [TU Subject Heading] | Feudalism | ศักดินา [TU Subject Heading] | Holy water | น้ำศักดิ์สิทธิ์ [TU Subject Heading] | Titles of honor and nobility ; Titles | นามแสดงศักดิ์ [TU Subject Heading] | Translating | การแปล, ใช้เป็นหัวเรื่องย่อยตามหลังชื่อเรื่องแบบฉบับของงานเขียนอันศักดิ์สิทธิ์ ชื่อเฉพาะของภาษา กลุ่มภาษาและหัวเรื่องตามเนื้อหา [TU Subject Heading] | Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman and Degrading Treatment or Punishment | อนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และการปฏิบัติ หรือการลงโทษอื่น ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี [การทูต] | Classes of Consuls | เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุล แบ่งออกเป็นสองประเภท คือ กงสุลอาชีพ (Consules de Carriere) กับกงสุลกิตติมศักดิ์ (Honorary Consuls) กงสุลอาชีพเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง และจะประจำทำงานเต็มเวลาในที่ทำการทางกงสุล ส่วนกงสุลกิตติมศักดิ์นั้นไม่มีฐานะเป็นกงสุลอาชีพ โดยมากเป็นนักธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งจะประจำทำงานเพียงส่วนหนึ่งของวัน (ไม่ใช่เต็มวัน) ในสถานที่ทำการทางกงสุลของตน และอาจจะเป็นคนชาติของรัฐที่เขาเป็นตัวแทนอยู่ หรือไม่เป็นคนชาติของรัฐนั้นก็ได้ ความแตกต่างอื่นๆ ระหว่างกงสุลอาชีพกับกงสุลกิตติมศักดิ์ มีดังนี้1. กงสุลอาชีพจะได้รับเงินเดือนประจำ แต่กงสุลกิตติมศักดิ์ไม่มีเงินเดือน2. กงสุลอาชีพมีตำแหน่งหน้าที่ถาวร ส่วนกงสุลกิตติมศักดิ์มีตำแหน่งว่าจ้างเพียงชั่วคราว 3. ส่วนมากกงสุลอาชีพจะต้องเป็นผู้ได้รับการฝึกอบรมหรือมีประสบการณ์มาก่อน ส่วนกงสุลกิตติมศักดิ์ไม่ต้องเป็นเช่นนั้น4. กงสุลอาชีพมีสิทธิได้รับความคุ้มกัน (immunities) และการยกเว้นต่าง ๆ มากกว่ากงสุลกิตติมศักดิ์สำหรับบุคคลที่เป็นหัวหน้าในที่ทำการทางกงสุลนั้น มีตำแหน่งตามลำดับชั้น คือ1) กงสุลใหญ่ (Consuls-general)2) กงสุล (Consuls)3) รองกงสุล (Vice-consuls) [การทูต] | Conference of Honorary Consuls-General of Thailand | การประชุมกงสุลกิตติมศักดิ์ไทย [การทูต] | Consular Office | บุคคลรวมทั้งหัวหน้าของที่ทำการทางกงสุล ซี่งได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานในฐานะกงสุลโดยได้รับ ภาระหน้าที่ทางกงสุล เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลมีอยู่ 2 ประเภทคือ 1. เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลอาชีพ (Career Consular Office)2. เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลกิตติมศักดิ์ (Honorary Consular Office) [การทูต] | Honorary Consul | กงสุลกิตติมศักดิ์ " ได้แก่ บุคคลในท้องถิ่นผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งและมอบหมายให้ดูแล ส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศและคนชาติในพื้นที่ในเขตอาณา และดำเนินการตรวจลงตราหนังสือเดินทางแก่บุคคลที่จะเดินทางเข้าประเทศที่ กงสุลกิตติมศักดิ์เป็นผู้แทน การแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวต้องได้รับความเห็นชอบจากประเทศผู้รับ และต้องยื่นสัญญาบัตร และได้รับอนุมัติบัตรเช่นเดียวกับผู้แทนฝ่ายกงสุลอาชีพ (career consular officer) ทั้งนี้ กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์จะได้รับมอบหมายให้ดูแลเขตอาณาที่ครอบคลุมพื้นที่ กว้างกว่าและสำคัญกว่า ในส่วนของไทย กงสุลกิตติมศักดิ์แตกต่างจากกงสุลอาชีพใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ (1) กงสุลกิตติมศักดิ์ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศที่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม หรือเป็นผู้นำที่มีความสัมพันธ์พิเศษกับไทย (2) กงสุลกิตติมศักดิ์ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งสำนักงาน ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์หรือสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ทั้งหมด (3) กงสุลกิตติมศักดิ์ได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางกงสุลน้อยกว่ากงสุลอาชีพ ในการปฏิบัติงานของกงสุลกิตติมศักดิ์ของไทยจะมีคู่มือกงสุลกิตติมศักดิ์ เป็นระเบียบกฎเกณฑ์และข้อมูลสำหรับการปฏิบัติงาน " [การทูต] | New World Order | ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต] | Order of Precedence | หมายถึง ลำดับอาวุโสทางการทูต โดยถือยศหรือตำแหน่งเป็นบรรทัดฐาน โดยเฉพาะในโอกาสที่ไปร่วมพิธีต่าง ๆ ตลอดจนการเลี้ยงอาหารอย่างเป็นทางการ นักการทูตทั่วโลกต่างถือลำดับอาวุโสเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิถีพิถันกันไม่ น้อย เพราะในฐานะที่เป็นตัวแทนของประเทศ หากมีการจัดลำดับอาวุโสไม่ถูกต้อง เขาผู้นั้นซึ่งคำนึงถึงศักดิ์ศรีในฐานะตัวแทนของประเทศย่อมต้องรู้สึกว่า นอกจากจะไม่ได้รับความถูกต้องแล้ว ยังเป็นการดูแคลนประเทศของตนด้วยในสมัยก่อน ผู้ที่ทำหน้าที่ชี้ขาดในเรื่องลำดับอาวุโสของบรรดาประมุขของรัฐทั้งหลาย คือสมเด็จพระสันตะปาปา ต่อมาในการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาเมื่อปี ค.ศ. 1815 ที่ประชุมได้ตกลงกันให้ถือวันที่เดินทางมาถึงประเทศผู้รับ และได้แจ้งให้ทราบเป็นทางการว่าเป็นเรื่องลำดับอาวุโส ผู้ที่มาถึงก่อนย่อมมีอาวุโสกว่าผู้ทีมาทีหลัง อย่างไรก็ดี มาในทุกวันนี้มีหลายประเทศถือหลักว่า ผู้แทนทางการทูตที่ยื่นสารตราตั้งก่อนจะมีอาวุโสกว่าผู้ยื่นสารตราตั้งที หลัง และในกรณีที่เกิดความเห็นไม่ลงรอยกันระหว่างบุคคลในคณะทูตเรื่องลำดับอาวุโส ประเทศเจ้าภาพหรือประเทศผู้รับจะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดอนุสัญญากรุงเวียนนาว่า ด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติเกี่ยวกับลำดับอาวุโสของผู้แทนทางการ ทูตไว้ดังนี้ ?ข้อ 16 1. ให้หัวหน้าคณะผู้แทนมีลำดับอาวุโสในแต่ละชั้นของตนตามลำดับวันและเวลาที่ เข้ารับการหน้าที่ของตนในรัฐผู้รับ เมื่อตนได้ยื่นสารตราตั้ง หรือเมื่อได้บอกกล่าวการมาถึงของตนและได้เสนอสำเนาที่ถูกต้องของสารตราตั้ง ต่อกระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงตามแนวปฏิบัติที่มีอยู่ในรัฐผู้รับ ซึ่งจะต้องใช้ในทำนองอันเป็นเอกรูป 2. การเปลี่ยนแปลงในสารตราตั้งของหัวหน้าคณะผู้แทน ซึ่งไม่เกี่ยวพันกับการเปลี่ยนแปลงชั้นใด ๆ จะไม่กระทบกระเทือนลำดับอาวุโสของหัวหน้าคณะผู้แทน 3. ข้อนี้ไม่เป็นที่เสื่อมเสียแก่ทางปฏิบัติใด ซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับ ในเรื่องลำดับอาวุโสของผู้แทนของโฮลี่ซี ข้อ 17 ลำดับอาวุโสของสมาชิกคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายทูตของคณะผู้แทนนั้น ให้หัวหน้าคณะผู้แทนเป็นผู้บอกกล่าวแก่กระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน? [การทูต] | Personal Diplomacy | คือการเจรจากันโดยตรงระหว่างรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงต่างประเทศด้วยกัน ส่วนการเจรจากันโดยตรงระหว่างประมุขของรัฐ หรือหัวหน้าของรัฐบาล แต่เดิมก็จัดอยู่ในประเภทการมทูตส่วนบุคคล แต่มาในปัจจุบันนี้ มักนิยมเรียกกันว่าเป็นทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) แยกออกต่างหากจากการทูตส่วนบุคคลมีผู้สังเกตการณ์หลายคนเตือนว่า ในกรณีที่เกิดเรื่องหรือปัญหาที่ยังคาราคาซังอยู่นั้น ไม่ควรหันเข้าใช้วิธีส่งผู้แทนพิเศษจากนครหลวงไปแก้ปัญหา ควรให้เอกอัครราชทูตเป็นผู้ดำเนินการมากกว่า เพราะประการแรก การกระทำเช่นนั้นยังผลเสียหายต่อศักดิ์ศรีของตัวเอกอัครราชทูตเอง ทั้งยังกระทบกระเทือนต่อการที่เขาจะปฏิบัติงานให้ประสบผลอย่างเต็มที่ ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้นในภายหน้าด้วย อีกประการหนึ่ง จะพึงคาดหมายได้อย่างไรว่า ตัวผู้แทนพิเศษที่ส่งไปนั้นจะมีความรอบรู้เกี่ยวกับภูมิหลังของปัญหา รวมทั้งตัวบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเท่ากับตัวเอกอัครราชทูตเอง ซึ่งได้ประจำทำงานอยู่ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ณ ที่นั่น แม้แต่ แฮโรลด์ นิโคลสัน ก็ไม่เห็นด้วย และได้เตือนว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศหนึ่งไปเยือนและพบปะกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอีกประเทศหนึ่งบ่อย ๆ นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำและไม่ควรสนับสนุน เพราะการกระทำเช่นนี้ นอกจากจะทำให้ประชาชนคาดหมายไปต่าง ๆ นานาแล้ว ยังจะทำให้เกิดเข้าใจผิด และเกิดความสับสนขึ้นมาได้แม้แต่ผู้รอบรู้ในเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติทางการ ทูตบางคนก็ยังแคลงใจว่า การทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) จะได้ประโยชน์และให้ผลจริง ๆ หรือไม่ นอกจากเฉพาะในกรณียกเว้นจริง ๆ เท่านั้น บ้างเห็นว่า การพบปะเจรจาแบบสุดยอดมักจะกลายสภาพเป็นการโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์มากกว่า ที่จะเป็นการเจรจากันอย่างแท้จริง เพราะมีอันตรายอยู่ว่า ผู้ร่วมเจรจามักจะแสดงความคิดเห็นตามความรู้สึกมากกว่าตามข้อเท็จจริง เพราะมัวแต่เป็นห่วงและคำนึงถึงประชามติในประเทศของตนมากเกินไปนอกจากนี้ ผู้เจรจาไม่อยู่ในฐานะที่จะให้ข้อลดหย่อนหรือทำการประนีประนอม ( ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งหากจะให้เจรจาบังเกิดผล) เพราะกลัวเสียหน้าหากกระทำเช่นนั้น ตามปกติ ถ้าให้นักการทูตเป็นผู้เจรจา เขาจะมีโอกาสมากกว่าที่จะใช้วิธีหลบหลีกอันชาญฉลาดในการเจรจาต่อรอง เพื่อให้เป็นผลตามที่มุ่งประสงค์ [การทูต] | Placement | หมายถึง วิธีจัดที่นั่งโต๊ะในการเลี้ยงอาหารสำหรับนักการทูต โดยคำนึงถึงลำดับอาวุโส เพื่อป้องกันมิให้เกิดความรู้สึกขุ่นเคืองหรือหัวเสีย เรื่องการจัดที่นั่งในการเลี้ยงอาหารโดยคำนึงถึงลำดับอาวุโสนี้ นักการทูตส่วนใหญ่ไม่ว่าที่ไหน มักจะถือว่ามีความสำคัญไม่น้อย เพราะถือเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีในฐานะที่เป็นตัวแทนของประเทศ ฝ่ายที่รับผิดชอบโดยตรงต่อการจัดที่นั่งเช่นนี้ได้แก่ กรมพิธีการทูตของกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนลำดับของอาวุโสก็ถือตามวันเวลาที่นักการทูตแต่ละคนได้เข้าประจำตำแหน่ง ที่ในประเทศผู้รับ กล่าวคือ ผู้ที่เข้าประจำตำแหน่งก่อนก็คือผู้ทีมีอาวุโสกว่าผู้ที่มาประจำตำแหน่ง หน้าที่ทีหลัง [การทูต] | Work of the United Nations on Human Rights | งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต] |
| Maybe there is some glory in saving a president, but just anybody? | ช่วยชีวิตประธานาธิบดีอาจมีศักดิ์ศรี แต่ถ้าคนเดินดิน? The Bodyguard (1992) | You have also taught us by His holy apostle St. paul... | ท่านยังได้สั่งสอนเราผ่านทาง พระอัครสาวกนักบุญพอลผู้ศักดิ์สิทธ์ Wuthering Heights (1992) | Mother of God, pray for us sinners... now and at the hour of our death. | พระแม่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ โปรดช่วยเราผู้ผิดบาป The Lawnmower Man (1992) | - I see pride! | - ฉันเห็นศักดิ์ศรี! Cool Runnings (1993) | I see pride. I see power! | ฉันเห็นศักดิ์ศรี ฉันเห็นพลัง! Cool Runnings (1993) | - Pride! - Pride! | - ศักดิ์ศรี! Cool Runnings (1993) | Right. | - ศักดิ์ศรี Cool Runnings (1993) | - I see pride! | - ฉันเห็นศักดิ์ศรี! Cool Runnings (1993) | Pride. Power. Pride. | ศักดิ์ศรี พลัง ศักดิ์ศรี Cool Runnings (1993) | When that East German fellow go out and push my teammate, and blood fire, we have to fight back. | ไอ้พวกเยอรมัน มันหาเรื่อง และผลักเพื่อนร่วมทีมฉัน เพื่อศักดิ์ศรี เราต้องสู้ Cool Runnings (1993) | Pride. Power. | ศักดิ์ศรี พลัง... Cool Runnings (1993) | On All Hallows Eve when the moon is round, a virgin will summon us from under the ground. | ก่อนวันอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อพระจันทร์เต็มดวง, ผู้บริสุทธิ์จะปลุกพวกเราให้ฟื้น จากใต้พื้นดิน Hocus Pocus (1993) | It's hallowed ground. | มันเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์. Hocus Pocus (1993) | Hallowed ground! | พื้นศักดิ์สิทธิ์! Hocus Pocus (1993) | Hallowed ground! | พื้นศักดิ์สิทธิ์! Hocus Pocus (1993) | If you have any dignity, leave right away. | ถ้าแกมีศักดิ์ศรีสักนิดก็ไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ The Joy Luck Club (1993) | But touching' his wife's feet and sticking your tongue in the holiest of holies... ain't the same fuckin' ballpark; it ain't the same league; it ain't the same fuckin' sport. | แต่ touchin 'ฟุตของภรรยาของเขาและติดลิ้นของคุณในที่ศักดิ์สิทธิ์ของที่ขาด ... ไม่ fuckin 'หมวดหมู่เดียวกัน มันไม่ได้อยู่ในลีกเดียวกัน มันเป็นไปไม่ fuckin เดียวกัน 'กีฬา Pulp Fiction (1994) | The Long Ear mana Proved its power. | เทพเจ้ารักษาสัญญา พลังศักดิ์สิทธิ์ของพวกหูยาว... Rapa Nui (1994) | I ask only that it be at the hands of Don Francisco... so it may be said I died in glory from a worthy opponent. | ผมขอแค่เพียงให้เป็นน้ำมือ ของ ดอน ฟรานซิสโก้ ถึงจะเรียกได้ว่าตายอย่างสมศักดิ์ศรี Don Juan DeMarco (1994) | "swallowed up the old sanctuary... | ได้กลืนกินสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่นั้นไป In the Mouth of Madness (1994) | "Some believe the old sanctuary still exists somewhere... | บางคนเชื่อว่ายังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อยู่ที่ไหนสักแห่ง In the Mouth of Madness (1994) | [ English - US - SDH ] | บทบรรยายไทย ธนัชชา ศักดิ์สยามกุล พิมพ์ไทยเวอร์ชั่นนี้ mamadidiho The One Where Monica Gets a Roommate (1994) | [ English - US - SDH ] | บทบรรยายไทย ธนัชชา ศักดิ์สยามกุล พิมพ์ไทยเวอร์ชั่นนี้ mamadidiho The One with George Stephanopoulos (1994) | [ English - US - SDH ] | บทบรรยายไทย ธนัชชา ศักดิ์สยามกุล พิมพ์ไทยเวอร์ชั่นนี้ mamadidiho The One with the East German Laundry Detergent (1994) | [ English - US - SDH ] | บทบรรยายไทย ธนัชชา ศักดิ์สยามกุล พิมพ์ไทยเวอร์ชั่นนี้ mamadidiho The One with the Sonogram at the End (1994) | Since their sacred animal has vanished they believe that there is a curse fallen on their village. | จนกระทั่งสัตว์ศักดิ์สิทธิ์หายตัวไป... ...พวกเขาเชื่อว่าหมู่บ้านถูกคำสาป Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | And the sacred animal was offered as dowry for the marriage. | และสัตว์ศักดิ์สิทธิ์จะถูกเสนอ เป็นสินสอดในงานวิวาห์ Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | It is imperative that we recover the sacred animal. | งั้นเหรอ เราจะเป็นจะต้องค้นหาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์นั่นให้พบ Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | Now they live in fear since their sacred bat has vanished. | ตอนนี้พวกเขาอยู่อย่างหวาดกลัว ตั้งแต่ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์หายไป Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | They find all forms of life sacred. | พวกเขาถือว่าทุกชีวิตมีความศักดิ์สิทธิ์ Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | And that his sacred bat is as good as found. | แล้วก้อเรื่อง... ...ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์... ...รับรองได้คืนแน่ Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | The chief says that the sacred hut is over there. | เขาบอกว่ากระท่อมศักดิ์สิทธิ์อยู่นั่น Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | That is sacred ground. I'm sorry, but only the Wachati are allowed there. | นั่นเป็นพื้นดินศักดิ์สิทธิ์ มีแต่ชาววาชาติเท่านั้นที่เหยียบได้ Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | The chief says that unless the sacred bat is returned before the marriage of the princess, the Wachati tribe will meet their death. | หัวหน้าเผ่าบอกว่าถ้าค้างคาวศักดิ์สิทธิ์ไม่ถูกนำกลับมา... ...ก่อนพิธีวิวาห์ของเจ้าหญิง เผ่าวาชาติจะต้องพบกับความตาย Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | They are a sanctuary for the reproductive organs. | เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการกำเนิดชีวิต Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | Didn't you want to visit the sacred caves? | คุณอยากไปสำรวจถ้ำศักดิ์สิทธิ์มั้ย Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | The sacred bat must be in a hut. | ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์ต้องอยู่ในกระท่อมแน่ Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | Guano! Hello! | ผมมาหาค้างคาวศักดิ์สิทธิ์ มันอยู่ไหน Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | The switch is on the wall beside you! Go for it! | คุณเวนทูร่าเพิ่งถูกจับฐานขโมย ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าวาชาติไป Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | Under the pretext of hygiene, nudity strips the inmates of all pride in one stroke. | อ้างด้วยมาตรการปลอดเชื้อ นักโทษถูกเปลือยกาย โดยไม่มีศักดิ์ศรีใดใดเหลือเอาไว้เลย Night and Fog (1956) | Higher up yet: The SS, the untouchables, to be addressed from ten feet away. | สูงไปกว่านั้น ก็พวกผู้คุม SS ผู้สูงศักดิ์ ที่อยู่ห่างไปเพียง 10 ฟุต Night and Fog (1956) | These are the bosses of the camp, the elite. | ที่เป็นผู้สูงศักดิ์ มีอำนาจในแคมป์ Night and Fog (1956) | On the brown walls, there was a picture in color of the Sacred Heart of Jesus... ... and another of the Virgin of Cobre. | บนผนังสีน้ำตาลมีภาพ สีของศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู และอีกอย่างหนึ่งของพระแม่ แห่งโคนรื The Old Man and the Sea (1958) | He who wins is privileged to wear the sacred ring from sun to moon, from moon to sun. | ที่จะสวมใส่แหวนศักดิ์สิทธิ์ จากดวงอาทิตย์ไปยังดวงจันทร์จาก ดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์ และในตอนท้ายของวันที่มีความสุข Help! (1965) | There must be somewhere in England where one can find sanctuary to think. | จะต้องมีที่ไหนสักแห่งใน ประเทศ อังกฤษ ที่หนึ่งสามารถหาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ นานพอที่จะหลบหนี Help! (1965) | These classes, unlike like the classes who led the army when I was a lad, never had their people to consider. | เรียนชนชั้นสูงและศักดินา ที่นำกองทัพเมื่อฉันยังเป็นเด็ก หนุ่มที่ ไม่เคยมีคนของพวกเขาที่ จะต้องพิจารณา How I Won the War (1967) | It is therefore our holy duty to put our feet upon it, to enter it, to put the marks of our guns and our wheels and our flags upon it! | เพราะฉะนั้นจึงเป็นภาระอันศักดิ์สิทธิ์ ที่เราจะขจัดความกลัว ที่มีมานาน Beneath the Planet of the Apes (1970) | The Bomb is a holy weapon of peace. | หัวรบเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์เเห่งสันติภาพ Beneath the Planet of the Apes (1970) | Holy weapon of peace! | อาวุธศักดิ์สิทธิ์เเห่งสันติรึ อาวุธศักดิ์สิทธิ์เเห่งสันติภาพ Beneath the Planet of the Apes (1970) | The spirit of the Lawgiver lives. | พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ยังอยู่ Beneath the Planet of the Apes (1970) |
| เชลยศักดิ์ | [chaloēisak] (adj) EN: private ; unregistered ; unofficial ; independent FR: privé ; non officiel ; non déclaré | การถือยศถือศักดิ์ | [kān theūyottheūsak] (n) EN: standing on ones dignity | เกียรติศักดิ์ | [kīattisak] (n) EN: dignity ; prestige ; honour ; honor (Am.) ; reputation ; distinction | เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง | [Kīattisak Sēnāmeūang] (n, prop) EN: Kiatisak Senamuang FR: Kiatisak Senamuang | เกียรติศักดิ์ | [kīettisak] (n) EN: honour = honor (Am.) | กิตติมศักดิ์ | [kittimasak] (adj) EN: honorary FR: honoraire | มีศักดิ์ศรี | [mī saksī] (adj) EN: dignified ; honorable | ปริญญากิตติมศักดิ์ | [parinyā kittimasak] (n, exp) EN: honorary degree | พระศักดิ์สิทธิ์ | [phrasaksit] (n) EN: monk believed to have spiritual power ; amulet believed to have spiritual power | ระบบศักดินา | [rabop sakdinā] (n, exp) EN: feudalism | ราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ | [rātchabandit kittimassak] (n, exp) EN: Honorary Member FR: membre honoraire de l'Institut Royal (de Thaïlande) [ m ] | ศักดิ์ | [sak] (n) EN: power ; mighty ; authority ; prestige FR: pouvoir [ m ] ; autorité [ f ] | ศักดิ์ | [sak] (n) EN: rank ; status ; position FR: rang [ m ] ; statut [ m ] | ศักดินา | [sakdinā] (n) EN: dignity expressed in area of land entitlement ; status in terms of land ; right to the possession of farmland | ศักดินา | [sakdinā] (n) EN: dignity ; distinction | ศักดินา | [sakdinā] (n) EN: feudal | ศักดิ์ศรี | [saksī] (n) EN: honour ; honor (Am.) ; glory ; fame ; renown ; dignity ; prestige FR: prestige [ m ] ; dignité [ f ] | ศักดิ์สิทธิ์ | [saksit] (adj) EN: sacred ; holy ; hallowed ;revered ; sacrosanct ; numinous FR: sacré ; saint | สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ | [sathānthī saksit] (n, exp) EN: holy place | สมศักดิ์ | [Somsak] (n, prop) EN: Somsak FR: Somsak | ฐานันดรศักดิ์ | [thānandøn sak] (n, exp) EN: rank of nobility | ถือยศถือศักดิ์ | [theūyottheūsak] (v) EN: stand on one' s dignity | ยศศักดิ์ | [yot sak] (n, exp) EN: rank ; title ; status ; prestige ; splendour ; station ; position ; distinction ; nobility ; class ; caste ; dignity | ยุคศักดินา | [yuk sakdinā] (n, exp) EN: age of feudalism |
| honorary | (adj) ซึ่งแสดงถึงเกียรติยศ, เป็นเกียรติ, เป็นเกียรติยศ, เกี่ยวกับกิตติมศักดิ์ | advent calendar | (n) ปฏิทินชนิดหนึ่งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลศักดิ์สิทธิ์ของการมาจุติของพระเยซู เริ่มเฉลิมกันในเดือนธันวาคม ซึ่งผู้ใหญ่มักให้เป็นของขวัญแก่เด็กๆ ปฏิทินนี้ประกอบด้วยแผ่นกระดาษสองแผ่นซ้อนทับกัน มีช่องที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อให้เป็นประตูเปิดได้จากกระดาษชั้นบน ประตูเหล่านี้มีตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 24 ธันวาคม ก่อนถึงวันคริสต์มาส ซึ่งแต่ละช่องจะบอกเล่าถึงเรื่องราวของการประสูติของพระเยซู และอาจมีขนม ของขวัญชิ้นเล็กๆซ่อนอยู่ด้วยก็ได้ |
| appellation | (n) ชื่อ, See also: นาม, ยศ, ศักดิ์, ตำแหน่ง, นามาภิไธย, นามสมญา, Syn. designation | begum | (n) คำเรียกอย่างให้เกียรติหญิงมุสลิมสูงศักดิ์หรือแต่งงานแล้ว | blaspheme | (vi) พูดดูหมิ่นศาสนาหรือสิ่งศักดิ์สิทธ์, Syn. defile, desecrate, profane, Ant. honor, revere | bless | (vt) ทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์, Syn. sanctify, hallow | blessed | (adj) ศักดิ์สิทธิ์, See also: น่าบูชา, Syn. holy, saintly | count | (n) ตำแหน่งของขุนนางอังกฤษเทียบเท่ากับเอิร์ล, See also: บรรดาศักดิ์ทางยุโรป | deign | (vt) ถ่อมตัวลงมา, See also: ลดตัวลงมา, ยอมลดเกียรติ / ศักดิ์ศรีลงมา, Syn. condescend, vouchsafe, stoop | deign | (vi) ถ่อมตัวลงมา, See also: ลดตัวลงมา, ยอมลดเกียรติ / ศักดิ์ศรีลงมา, Syn. condescend, vouchsafe, stoop | desecrate | (vt) ดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์, See also: ทำลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์, Syn. defile, profane, Ant. honor, revere | desecration | (n) การดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์, See also: การทำลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์, Syn. sacrilege, profanation | designation | (n) ชื่อ, See also: ศักดิ์, นาม, ยศ, ชื่อเรียก, ชื่อตำแหน่ง, สมญานาม, Syn. name, label, tag | divine | (adj) ศักดิ์สิทธิ์, See also: ลึกลับ, Syn. sacred, blessed, godly, holy, Ant. defiled, desecrated | dowager | (n) ภรรยาหม้ายของสามีสูงศักดิ์ที่ล่วงลับไปแล้ว, Syn. widow, dame, matron | dowager | (n) หญิงสูงศักดิ์, See also: หญิงที่ได้รับความเคารพนับถือ | enshrine | (vt) วางไว้บนหิ้งบูชา, See also: วางไว้บนที่บูชา, ตั้งไว้ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ | feoff | (n) ที่ดินซึ่งได้รับตามระบบศักดินา, Syn. fief, feud | feudal | (adj) เกี่ยวกับระบบศักดินา | feudalism | (n) ระบบศักดินา, See also: ระบบเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 5 ถึง ศตวรรษที่ 15 | feudality | (n) ความเป็นศักดินา | feudalize | (vt) ทำให้เป็นระบบศักดินา | fief | (n) ที่ดินที่มอบให้ในระบบศักดินา | Ganges | (n) แม่น้ำคงคา (แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ของฮินดู), See also: แม่คงคา | gentlewomen | (n) หญิงมีชาติตระกูลสูง, See also: หญิงสูงศักดิ์, หญิงผู้ดี, Syn. noblewoman | hallow | (vt) ทำให้ศักดิ์สิทธิ์, Syn. consecrate, sanctify, Ant. desecrate, profane | hallowed | (adj) ศักดิ์สิทธิ์, See also: เป็นที่เคารพนับถือ, เป็นที่สักการบูชา, Syn. sacred, sacrosanct | holiness | (n) ความศักดิ์สิทธิ์, Syn. sacredness, sacrosanctity, sanctity | holy | (adj) ซึ่งศักดิ์สิทธิ์, Syn. sacred, sacrosanct | honor | (n) เกียรติ, See also: เกียรติยศ, เกียรติศักดิ์, Syn. honorableness, integrity, uprightness, Ant. dishonor, immorality | honorary | (adj) ซึ่งให้เพื่อเป็นเกียรติ, See also: โดยกิตติมศักดิ์, โดยเกียรติยศ | honorary degree | (n) ปริญญากิตติมศักดิ์ | honour | (n) เกียรติยศ, See also: ยศศักดิ์, เกียรติ, เกียรติศักดิ์, Syn. honorableness, integrity, uprightness, Ant. dishonor, immorality | odour of sanctity | (idm) บรรยากาศที่อบอวลด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือพระเจ้ามากเกินไป | sacred cow | (idm) สิ่งหวงห้าม, See also: สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ควรหลบหลู่, สิ่งที่ไม่ควรพูดถึงในแง่ไม่ดี | upper crust | (idm) สังคมระดับสูง (คำไม่เป็นทางการ), See also: ชนชั้นสูง, พวกสูงศักดิ์, พวกศักดินา | jihad | (n) สงครามศักดิ์สิทธิ์, See also: สงครามศาสนาที่ถือเป็นหน้าที่ของชาวมุสลิม | knight | (vt) แต่งตั้งอัศวิน, See also: พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็นขุนนาง | lord | (n) ท่านลอร์ด (ใช้เรียกขุนนางที่มีบรรดาศักดิ์ระดับสูง) | lord | (n) บรรดาศักดิ์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในอังกฤษ | lord | (n) บรรดาศักดิ์อย่างเป็นทางการของพระในคริสตศาสนา | luster | (n) ความรุ่งโรจน์, See also: ความเลืองชื่อลือนาม, บารมี, เกียรติศักดิ์, Syn. excellence, glory, spendor | milad | (n) ผู้หญิงสูงศักดิ์, Syn. miladi | miladi | (n) ผู้หญิงสูงศักดิ์, Syn. milad | morganatic | (adj) เกี่ยวกับการแต่งงานของชายที่สูงศักดิ์กับหญิงฐานะต่ำกว่า, Syn. plural | morganatically | (adv) โดยการแต่งงานของชายที่สูงศักดิ์กับหญิงต่ำต้อยกว่า | nimbus | (n) วงแหวนเรืองแสงรอบศีรษะของนักบุญหรือผู้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์, See also: ทรงกลด, รัศมี, Syn. aura, glory, halo | nobility | (n) ความสูงส่ง, See also: ความสง่างาม, ความสูงศักดิ์, Syn. aristocracy, greatness, Ant. smallness | noble | (adj) ชั้นสูง, See also: มีตระกูล, สูงศักดิ์, Syn. solid, upstanding, worthy, Ant. dishonorable, lowborn | noble | (n) คนชั้นสูง, See also: คนสูงส่ง, คนสูงศักดิ์, Syn. magnanimousness, grandeur | noblewoman | (n) คุณหญิง, See also: ผู้ดี, หญิงสูงศักดิ์, Syn. aristocrat, countess, empress | oracular | (adj) ศักดิ์สิทธิ์ |
| adytum | (แอด' ดิทัม) n., (pl. -ta) สถานศักดิ์สิทธิ์สำหรับพระบูชาเท่านั่น, ห้องลับ | agnomen | (แอกโน' เมน) n., (pl. -nomina) ฐานันดรศักดิ์ของชาวโรมัน, ชื่อเล่น -agnominal adj. (nickname) | amour-propre | (อะมัวพรอ' พระ) n., fr. ความรักตัวเอง, ความหยิ่งในศักดิ์ศรี | apis | (เอ'พิส) n. วัวศักดิ์สิทธิ์ของอียิปต์., Syn. Hapi, Hap | appanage | (แอพ'พะเนจ) n. ที่ดินหรือรายได้รับตามระบบศักดินาแก่สมาชิกราชวงศ์กษัตริย์, ทรัพย์สินที่ครอบครองตามกฎหมาย | appellation | (แอพพะเล'เชิน) n. ชื่อ, ยศ, ศักดิ์, นาม, การตั้งชื่อ, Syn. title, name | appellative | (อะเพล'ละทิฟว) n. สามานยนาม, นาม, ยศศักดิ์, ฉายา. -adj. เกี่ยวกับสามานยนาม, เกี่ยว กับนามหรือฉายา, Syn. designative | baronage | (บาร์'ระนิจฺ) n. บรรดาศักดิ์บารอน, ขุนนางจำพวกที่มียศชั้นบารอนทั้งหมด | beneath | (บินีธ') adj., prep. ข้างใต้, ต่ำกว่า, ภายใต้, เลวกว่า, ไม่เหมาะ, ไม่สมควร, เสื่อมเสีย, เสียศักดิ์ศร', Syn. below | bless | (เบลส) { blessed/blest, blessed/blest, blessing, blesses } vt. อวยพร, ให้ศีลให้พร, ให้เจริญ, ให้มีความสุข, สรรเสริญ, ให้ศักดิ์สิทธิ์, ขีดกากบาทบนหน้าอกตัวเอง, อธิษฐานให้พระเจ้าให้พรแก่, ประสาทพร, คุ้มครอง, ปกป้อง, สาปแช่ง, See also: blesser n. คำที่มีความหมาย | blessed | (เบลส'ซิด, เบลสทฺ) adj. มีโชค, มีความสุข, ศักดิ์สิทธิ์, น่าบูชา, อัปรีย์, สาปแช่ง, See also: blessedness n., Syn. hallowed, Ant. sad | blessing | (เบลส'ซิง) n. การให้พร, การทำให้ศักดิ์สิทธิ์, ผลประโยชน์, ความกรุณา, ของขวัญ, สิ่งทำให้โชคดีหรือมีความสุข, การสรรเสริญบารมี, การบูชา, การเห็นด้วย, Syn. grace, benediction | blest | (เบลส'ซิด, เบลสทฺ) adj. มีโชค, มีความสุข, ศักดิ์สิทธิ์, น่าบูชา, อัปรีย์, สาปแช่ง, See also: blessedness n., Syn. hallowed, Ant. sad | bourbonism | (บัวมะนิส'ซึม) n. ระบบศักดินาอย่างเด็ดขาด, ระบบอนุรักษ์นิยมอย่างมาก, See also: bourbonist n. | bushido | (บุ'ชิโด) n. หลักเกณฑ์หรือสิทธิของนักสู้ซามูไรที่ยืนหยัดในความรักภักดีและถือเกียรติศักดิ์เหนือชีวิต | canonise | (แคน'นะไนซ) { canonized, canonised, canonizeingcanonising, canonizes, canonises } vt. ประกาศให้เป็นนักบุญ (saint) , ยกย่องว่าประเสริฐ, ถือว่าศักดิ์สิทธิ์, ถือว่าถูกต้องแท้จริง, จัดอยู่ในบทหนังสือฉบับแท้ของพระคัมภีร์ไบเบิล., See also: canonisation n. ดูcanoniz | canonize | (แคน'นะไนซ) { canonized, canonised, canonizeingcanonising, canonizes, canonises } vt. ประกาศให้เป็นนักบุญ (saint) , ยกย่องว่าประเสริฐ, ถือว่าศักดิ์สิทธิ์, ถือว่าถูกต้องแท้จริง, จัดอยู่ในบทหนังสือฉบับแท้ของพระคัมภีร์ไบเบิล., See also: canonisation n. ดูcanoniz | character | (แค'ริคเทอะ) n. ตัวอักษร, อักขระ, อุปนิสัย, คุณสมบัติ, ลักษณะพิเศษ, หลักความประพฤติ, ความรักหรือหยิ่งในศักดิ์ศรี, ชื่อเสียงที่ดี, เกียรติคุณ, ฐานะตัวในเรื่อง, บทบาทในละครหรือภาพยนตร์, สัญลักษณ์, See also: characterisation, characterization n. | churl | (เชิร์ล) n. ชาวชนบท, คนหยาบคาย, คนอารมณ์ร้าย, คนขี้เหนียว, เสรีชนชั้นต่ำในสมัยศักดินา, ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ | cist | (ซิสท) n. กล่องหรือหีบใส่ของศักดิ์สิทธิ์ | consecrate | (คอน'ซิเครท) vt., n. (การ) ทำให้ศักดิ์สิทธิ์, อุทิศให้, อุทิศตัว., See also: consecratedness n. ดูconsecrat consecrator n. ดูconsecrat, Syn. bless, hallow | consecration | (คอนซิเคร'เชิน) n. การทำให้ศักดิ์สิทธิ์, การอุทิศตัวและบูชาพระเจ้า | cow | (คาว) n. วัวตัวเมีย, แม่วัว, สัตว์ตัวเมียจำพวก Bos, สัตว์ตัวเมียขนาดใหญ่ (เช่นช้าง ปลาวาฬ แรด แม่น้ำ) , หญิงอ้วนพุงพลุ้ย -Phr. (a sacred cow วัวในอินเดีย (ถือเป็นสัตว์ที่ศักดิ์สิทธิ์) , บุคคลที่ศักดิ์สิทธิ์ที่หาอาจล่วงละเมิดได้.) -Phr. (till the cows come home นาน | dame | (เดม) n. คุณนาย, คุณหญิง, มาดาม, สตรี, ผู้สูงศักดิ์, ผู้หญิง, แม่บ้าน, นาง | deific | (ดีอิฟ'ฟิค) adj. ทำให้ศักดิ์สิทธิ์, ทำให้เป็นพระเจ้าหรือเทวดา | deonsecrate | (ดีคอน'ซีเครท) vt. ทำให้ไม่ศักดิ์สิทธิ์, See also: deconsecration n. การทำให้ไม่ศักดิ์สิทธิ์ | diadem | (ได'อะเดม) n., vt. (ใส่) มงกุฎ, รัดเกล้า, พระราชอำนาจ, พระฐานันดรศักดิ์., Syn. crown | dignitary | (ดิก'นิทารี) n. บุคคลที่ตำแหน่งสูง, ผู้มีฐานันดรศักดิ์., See also: dignitarial adj. -pl. dignitaries | dignity | (ดิก'นิที) n. ความมีเกียรติ, ฐานันดรศักดิ์, ความสูงศักดิ์, ตำแหน่งสูง, ความคุ้มค่า, ผู้มีตำแหน่งสูง -S.loftiness | disgrace | (ดิสเกรส') n. การเสียหน้า, ความเสื่อมเสีย, การถอดถอนยศฐาบรรดาศักดิ์, ความอัปยศอดสู vt. ทำให้เสียหน้า, ทำให้ขายหน้า, ทำให้เสื่อมเสีย., See also: disgracer n., Syn. shame, dishonour, Ant. honour, credit | divine | (ดิไววนฺ') adj. เกี่ยวกับพระเจ้า, ศักดิ์สิทธิ์, เคร่งศาสนา, เกี่ยวกับเทววิทยาดีเลิศ, ยอดเยี่ยม, เหนือมนุษย์, เป็นพรสวรรค์n. นักศาสนศาสตร์, ผู้ศึกษาเกี่ยวกับศาสนา, พระ, See also: the Divine พระเจ้า, เทพเจ้า, จิตวิญญาณ vi., vt. ทำนาย, คาดการณ์, พยากรณ์. divin | divinity | (ดิวิน'นิที) n. ความศักดิ์สิทธิ์, ความเป็นเทพเจ้า, พระเจ้า, เทพเจ้า, สิ่งที่มีลักษณะเป็นพระเจ้า, | dowager | (เดา'อะเจอะ) n.หญิงที่ได้รับทรัพย์สินจากสามีที่ตาย, หญิงสูงอายุที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ | eclat | (เอคลา') n. เกียรติศักดิ์, ชื่อเสียง, ความเอิกเกริก, ความชื่นชมยินดี, Syn. fame | elevation | (เอลลิเว'เชิน) n. การยกให้สูงขึ้น, สิ่งปลูกสร้างที่สูงเด่น, ที่สูง, ความสูงส่ง, ความสูงศักดิ์, ความภูมิฐาน, Syn. height | estate | (อีสเทท') n. หลักทรัพย์ที่ดินและสิ่งก่อสร้างที่ติดดินผืนใหญ่, ที่ดิน, ทรัพย์สิน, ฐานันดร, กลุ่มการเมือง, กลุ่มสังคม, -Phr. (the fourth estate ฐานันดรที่4 (นักหนังสือพิมพ์)) -Phr. (the Three Estates ฐานันดรทั้ง 3 ในยุคศักดินายุโรปได้แก่พระ ขุนนางและสามัญชน) | fame | (เฟม) n. ชื่อเสียง, กิตติศัพท์, เกียรติยศ, เกียรติคุณ, ศักดิ์ศรี, ข่าวลือ, การเล่าลือ. vt. ทำให้มีชี่อเสียง, เลื่องลือ. | feod | (ฟิวดฺ) n. ที่ดินที่ได้รับ (ตามระบบศักดินา) | feoff | (เฟฟ, ฟืฟ) vt. มอบที่ดิน (ศักดินา) ให้แก่, ให้ค่าธรรมเนียม. -feoffor, feofer n. | feudal | (ฟิว'เดิล) adj. (เกี่ยวกับ) ทิ่ดินศักดินา, ทรัพย์สินที่เป็นมรดกตกทอด, ระบบศักดินา, ยุคกลาง (Middle Age) , เกี่ยวกับการอาฆาตพยาบาทที่ต่อเนื่องกันเป็นเวลายาวนาน, เกี่ยวกับการทะเลาะวิวาท | feudalism | (ฟิว'เดิลลิสซึม) n. ระบบศักดินา, วิธีการทางศักดินา, ลัทธิศักดินา. -feudalist n., See also: feudalistic adj. | feudist | (ฟิว' ดิสทฺ) n. ผู้ทะเลาะวิวาท, ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับกฎหมายระบบศักดินา | fief | (ฟีฟ) n. ที่ดินศักดินา | gavel | (แดฟ'เวิล) n. ค้อนไม้ใหญ่, ตะลุมพุก, ค่าเช่านาศักดินา, บรรณาการศักดินา | genealogy | n. การลำดับศักดิ์ของวงค์ตระกูล | grandeur | (แกรน'เจอะ) n. ความสูงศักดิ์, ความสง่างาม, ความผึ่งผาย, ความยิ่งใหญ่, ความน่ากลัว. n. สิ่งที่ใหญ่โต, สิ่งที่สูงศักดิ์, Syn. magnificence, glory, pomp | halidom | n. สถานที่ศักดิ์สิทธิ์, ปูชนียสถาน. | hallow | (แฮ'โล) vt. ทำให้ศักดิ์สิทธิ์, สักการบูชา, ดูhallo, Syn. consecrate | hallowed | (แฮล'โลด์) adj. ศักดิ์สิทธิ์, เป็นที่เคารพนับถือ, เป็นที่สักการบูชา, See also: hallowedness n., Syn. consecrated | hiero- | Pref. "ศักดิ์สิทธิ์" |
| abase | (vt) ลดต่ำ, ถ่อมตัว, น้อม, เสื่อมศักดิ์ | abasement | (n) การลดตัว, การถ่อมตัว, การน้อม, การเสื่อมศักดิ์ | consecrate | (vt) ทำให้ศักดิ์สิทธิ์, ถวาย, อุทิศ, ฉลอง | consecration | (n) การทำให้ศักดิ์สิทธิ์, การถวาย, การอุทิศ | coronet | (n) มงกุฎเล็ก, ยศ, บรรดาศักดิ์, รัดเกล้า | dame | (n) สตรีสูงศักดิ์, คุณผู้หญิง, คุณนาย, คุณท้าว, นาง, แม่บ้าน | desecrate | (vt) ทำให้เสื่อมความศักดิ์สิทธิ์, ทำลายศาสนา, ดูหมิ่นศาสนา | desecration | (n) การทำให้เสื่อมความศักดิ์สิทธิ์, การทำลายศาสนา, การดูหมิ่นศาสนา | dignitary | (n) ผู้ทรงเกียรติ, ผู้สูงศักดิ์, ผู้มีฐานันดรศักดิ์ | dignity | (n) ความสง่างาม, ความสูงศักดิ์, ฐานันดรศักดิ์, ความมีเกียรติ | divine | (adj) เกี่ยวกับพระเจ้า, เกี่ยวกับเทพเจ้า, ศักดิ์สิทธิ์ | divinity | (n) ศาสนศาสตร์, พระเจ้า, เทพเจ้า, เทววิทยา, ความศักดิ์สิทธิ์ | dowager | (n) สตรีหม้ายสูงศักดิ์ | ennoble | (vt) ทำให้สูงศักดิ์, ทำให้มีศีลธรรม, ทำให้สูงส่ง | fame | (n) กิตติศัพท์, ชื่อเสียง, เกียรติศักดิ์, ศักดิ์ศรี | feudal | (adj) เกี่ยวกับระบบศักดินา | feudalism | (n) การปกครองระบบศักดินา | gentlewoman | (n) สุภาพสตรี, หญิงสูงศักดิ์ | glorification | (n) เกียรติศักดิ์, ชื่อเสียง, การสรรเสริญ, การสดุดี | hallow | (vt) ทำให้ศักดิ์สิทธิ์, สักการะบูชา, บูชา | holiness | (n) ความศักดิ์สิทธิ์ | holy | (adj) ศักดิ์สิทธิ์, ใจบุญ, เป็นที่เคารพบูชา, เป็นที่สักการะบูชา | honorary | (adj) กิตติมศักดิ์, ให้เป็นพิเศษ, เป็นเกียรติ | honour | (n) เกียรติยศ, เกียรติศักดิ์, ชื่อเสียง, เหรียญตรา, เกียรตินิยม | honourable | (adj) น่าเคารพนับถือ, มีศักดิ์ศรี, มีหน้ามีตา, น่ายกย่อง | knightly | (adj) แบบขุนนาง, แบบอัศวิน, สูงส่ง, สูงศักดิ์, กล้าหาญ | lordly | (adj) สง่างาม, หยิ่ง, เลิศ, ใหญ่โต, สูงศักดิ์, สูงส่ง | noble | (n) พวกผู้ดี, คนสูงศักดิ์, คนชั้นสูง | nobleman | (n) ขุนนาง, พวกผู้ดี, คนสูงศักดิ์, คนชั้นสูง | nobleness | (n) ความสง่างาม, ความเป็นผู้ดี, ความสูงศักดิ์ | nobly | (adv) อย่างสง่างาม, อย่างสูงศักดิ์, ดีเลิศ, มีคุณธรรมสูง | oracular | (adj) เป็นการพยากรณ์, เป็นการทำนาย, เป็นปริศนา, ศักดิ์สิทธิ์ | overlord | (n) เจ้าเหนือหัว, เจ้าศักดินา, ผู้มีอิทธิพล | patrician | (n) ขุนนาง, ผู้สูงศักดิ์, ผู้ดี | prestige | (n) ชื่อเสียง, อิทธิพล, ศักดิ์ศรี, บารมี, รัศมี, เกียรติยศ | profanation | (n) การดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์, การทำลายความบริสุทธิ์ | profane | (vt) ทำลายความบริสุทธิ์, ดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ | profanity | (n) ความหยาบคาย, การดูหมิ่น, การทำลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ | sacramental | (adj) ศักดิ์สิทธิ์, เกี่ยวกับศีล | sacred | (adj) เป็นที่สักการะ, ศักดิ์สิทธิ์, เป็นที่เคารพบูชา | sacrilege | (n) การล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ | sacrilegious | (adj) ซึ่งล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ | sainted | (adj) คล้ายนักบุญ, เป็นนักบุญ, ศักดิ์สิทธิ์, มีใจสะอาด | sanctification | (n) การล้างบาป, การทำให้ศักดิ์สิทธิ์ | sanctify | (vt) ล้างบาป, ทำให้ศักดิ์สิทธิ์ | sanctimonious | (adj) แสดงให้เห็นว่าศักดิ์สิทธิ์ | sanctity | (n) ความมีศีลธรรม, ความศักดิ์สิทธิ์, ความน่าเคารพบูชา | sanctuary | (n) ปูชนียสถาน, สถานที่ศักดิ์สิทธิ์, โบสถ์, วิหาร, ที่ลี้ภัย | SELF-self-respect | (n) การหยิ่งในศักดิ์ศรีตัวเอง, ความนับถือตัวเอง | sepulchre | (n) สุสาน, หลุมศพ, ที่ตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ |
| Assumption College Sriracha | [-] (name) โรงเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่เลขที่ 29 หมู่ 10 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 20110 โทรศัพท์ 038-311055-6 | feudalistic | (adv) เกี่ยวกับลิทธิศักดินา | having rights and privilege to be | มีศักดิ์และสิทธิ์เป็น | His Eminence | (pron) พระคุณเจ้า เป็นคำสรรพนามสำหรับเรียกพระสงฆ์มีสมณศักดิ์ในศาสนาคริสต์ | His Grand Eminence | (jargon) พระคุณเจ้าสูงสุด เป็นคำสรรพนามสำหรับเรียกพระสงฆ์มีสมณศักดิ์ชั้นพิเศษในศาสนาคริสต์ | Honorary citizen | พลเมืองกิตติมศักดิ์ | Salinda | [สะ-ลิน-ดา] สาวงามผู้สูงศักดิ์และกล้าหาญ, ความสวยงามน่ารักบริสุทธิ์ผู้เป็นของขวัญจากพระเจ้า | Sovereign Prince | (n) องค์อธิปัตย์ เป็นเจ้าชายซึ่งมีอำนาจปกครองราชรัฐในขอบขัณฑสีมาของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ |
| 威厳 | [いげん, igen] (n) ความสง่างาม, ความสูงศักดิ์, ฐานันดรศักดิ์, ความมีเกียรติ |
| 自尊心 | [じそんしん, jisonshin] ความหยิ่งในศักดิ์ศรี |
| 高僧 | [こうそう, kousou] TH: พระที่มีสมณศักดิ์สูง EN: virtuous priest |
| Adventskalender | (n) |der, pl. Adventskalender| ปฏิทินชนิดหนึ่งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลศักดิ์สิทธิ์ของการมาจุติของพระเยซู เริ่มเฉลิมกันในเดือนธันวาคม ซึ่งผู้ใหญ่มักให้เป็นของขวัญแก่เด็กๆ ปฏิทินนี้ประกอบด้วยแผ่นกระดาษสองแผ่นซ้อนทับกัน มีช่องที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อให้เป็นประตูเปิดได้จากกระดาษชั้นบน ประตูเหล่านี้มีตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 24 ธันวาคม ก่อนถึงวันคริสต์มาส ซึ่งแต่ละช่องจะบอกเล่าถึงเรื่องราวของการประสูติของพระเยซู และอาจมีขนม ของขวัญชิ้นเล็กๆซ่อนอยู่ด้วยก็ได้ |
| Landesherr | ลันเดสแฮร์ เป็นตำแหน่งเจ้าศักดินาในยุคกลาง มีอำนาจเฉกเช่นเจ้าแผ่นดินเหนือดินแดนหนึ่ง ดินแดนนั้นอาจมีสถานะเป็นรัฐอิสระ หรือรัฐบริวารของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ | Markgraf | "มาร์คกราฟ" เป็นบรรดาศักดิ์เยอรมัน เทียบเท่ากับบรรดาศักดิ์ "มาร์ควิส" ของอังกฤษ, See also: Marquess, Marquis, Landgraf, Syn. Margrave | Reichskreis | [ไรช์สไคร์ส] (n) เครือราชรัฐของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ |
| calendrier de l'Avent | (n) |m| ปฏิทินชนิดหนึ่งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลศักดิ์สิทธิ์ของการมาจุติของพระเยซู เริ่มเฉลิมกันในเดือนธันวาคม ซึ่งผู้ใหญ่มักให้เป็นของขวัญแก่เด็กๆ ปฏิทินนี้ประกอบด้วยแผ่นกระดาษสองแผ่นซ้อนทับกัน มีช่องที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อให้เป็นประตูเปิดได้จากกระดาษชั้นบน ประตูเหล่านี้มีตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 24 ธันวาคม ก่อนถึงวันคริสต์มาส ซึ่งแต่ละช่องจะบอกเล่าถึงเรื่องราวของการประสูติของพระเยซู และอาจมีขนม ของขวัญชิ้นเล็กๆซ่อนอยู่ด้วยก็ได้ |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |